ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ – ตอนที่ 1604 ประมุขพรรคไล่ตามวายุ (4) / ตอนที่ 1605 ยอดฝีมือเผ่ามังกร (1)

ตอนที่ 1604 ประมุขพรรคไล่ตามวายุ (4)

“ก็ได้ ข้ายอมรับตำแหน่ง” อวิ๋นลั่วเฟิงยักไหล่ “จะว่าไปเจ้ามาที่เมืองสัตว์อสูรแล้วก่อตั้งพรรคไล่ตามวายุได้อย่างไร”

“เป็นเรื่องยาวทีเดียว หลังจากที่เจ้าจากไปตอนนั้น ข้าก็บังเอิญได้รับโอกาสที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงในชีวิตเปลี่ยนเป็นพลัง บังเอิญว่าทางเชื่อมมิติเปิดออกแล้วข้าก็มาถึงเมืองสัตว์อสูร โชคไม่ดีที่สถานที่นี้ซับซ้อนเกินไป ข้าก็เลยออกไปจากที่นี่ไม่ได้”

หนานกงอวิ๋นอี้ถอนหายใจเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต

“จริงสิ ท่านรองประมุข ไม่ใช่ว่าครั้งนี้ท่านออกไปตามหาใครบางคนหรอกหรือ เป็นอย่างไรบ้าง ท่านหาคนคนนั้นเจอหรือไม่” ซงมู่ถาม

“ข้าหานางไม่เจอ ข้าไม่รู้ว่านางอยู่ที่ไหน…” หนานกงอวิ๋นอี้สิ้นหวัง

“ท่านรองประมุข บอกชื่อแม่นางที่ท่านตามหามาเถอะ ไม่แน่พวกเราอาจจะช่วยท่านหาได้…”

ทันใดนั้นสมาชิกพรรคไล่ตามวายุทุกคนก็หันไปมองหนานกงอวิ๋นอี้

อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มเยาะ “หนานกง ดูเหมือนว่าระหว่างที่เจ้าอยู่ที่เมืองสัตว์อสูรเจ้าจะไม่ได้มาแค่พรรคไล่ตามวายุอย่างเดียวนะ…”

“เรื่องนี้…” ความเขินอายคืบคลานสู่ใบหน้าของหนานกงอวิ๋นอี้ “ข้ายังไม่รู้จักชื่อนาง ก็แค่ข้าบังเอิญไปเห็นตอนนางอาบน้ำแล้ว ข้าก็เลยถูกนางไล่ล่าอยู่ช่วงหนึ่ง”

“ดูเหมือนว่าเจ้ากลายเป็นคนมีนิสัยชอบความเจ็บปวดไปแล้ว เหตุใดเมื่อก่อนข้าถึงไม่รู้กันนะ” อวิ๋นลั่วเฟิงลูบคางเบาๆ แล้วรอยยิ้มบนใบหน้านางก็ยิ่งกดลึกขึ้น “แต่ว่าเจ้าสามารถอธิบายภาพลักษณ์ของเด็กสาวคนนั้นได้นะ ข้าจะให้เผ่าวิหคเพลิงช่วยเจ้าตามหานาง”

“ชุดสีแดง” หนานกงอวิ๋นอี้เงยหน้ามองอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วตอบอย่างจริงจัง “นางสวมชุดสีแดง นางงดงามและมีเสน่ห์มาก นางมีผมยาวมากที่สวยเหมือนน้ำตก”

ใบหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิงมืดครึ้ม

ชุดสีแดง? งดงาม? ผมยาวมาก? นี่ก็ไม่ต่างกับไม่บอกอะไรไม่ใช่หรือ

หนานกงอวิ๋นอี้กำลังจมอยู่ในความทรงจำ “แต่ว่านางขี้โมโหมาก แล้วก็ค่อนข้างอารมณ์รุนแรง ตอนที่นางไล่ล่าข้า ข้าบังเอิญไปสัมผัสถูกบั้นท้ายนางเข้า นางก็เลยเกือบจะหั่นข้าออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยความโกรธ โชคดีที่ข้าวิ่งหนีเร็ว ไม่อย่างนั้นเจ้าคงไม่ได้เจอข้าอีกต่อไปแล้ว”

ซงมู่และคนอื่นๆ ตะลึง

เขาสัมผัสบั้นท้ายของใครบางคนงั้นหรือ ท่านต้องมีบุญมากแน่ที่แม่นางผู้นั้นไม่ได้สังหารท่านทันที…

“อะไรอีก” อวิ๋นลั่วเฟิงถามต่อ

“ไม่มีแล้ว ข้าจำได้แค่นี้” หนานกงอวิ๋นอี้ส่ายน้าแล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างอ้อนวอน “อวิ๋นลั่วเฟิง นึกถึงสายสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องหลายปีของเรา ช่วยข้าทีเถอะ”

อวิ๋นลั่วเฟิงกุมขมับแล้วหันไปหาอวิ๋นเซียวอย่างต้องการความคิดเห็น “เจ้าว่าอย่างไร”

อวิ๋นเซียวมองเฟิงเย่ว์อย่างเย็นชาทำให้เขาเกือบจะคุกเข่าลงที่พื้นด้วยความกลัว เฟิงเย่ว์อยากจะร้องไห้ขณะตอบ “นายท่าน นายหญิง พวกเราจะทำทุกอย่างเพื่อหานางให้เจอ! พวกเราต้องหาผู้หญิงของพี่ชายนายหญิงได้แน่นอน”

หนานกงอวิ๋นอี้รีบแก้ “ยะ อย่าเรียกว่าผู้หญิงของข้า! ถ้าสตรีบ้าคลั่งผู้นั้นได้ยิน นางต้องสังหารข้าแน่”

“ถ้าเจ้ากลัวนาง ทำไมเจ้าถึงต้องการตามหานางล่ะ” อวิ๋นลั่วเฟิงถามอย่างร่างเริงพร้อมรอยยิ้มมีความสุข

ใบหน้าของหนานกงอวิ๋นอี้กระตุกแล้วเต็มไปด้วยความเขินอาย “อืม…สตรีบ้าคลั่งผู้นั้นไล่ล่าข้ามานานแต่จู่ๆ นางก็หยุดไป ดังนั้นข้าก็เลยไม่ค่อยชิน”

ความจริงแล้วตามนิสัยของสตรีผู้นั้น นางไม่มีทางไว้ชีวิตเขา ดังนั้นหนานกงอวิ๋นอี้จึงสงสัยว่านางกำลังตกอยู่ในอันตราย จึงพรรคออกไปเพื่อตามหานาง…

…………………………………..

ตอนที่ 1605 ยอดฝีมือเผ่ามังกร (1)

“หนานกง พวกเราทั้งคู่ต่างกำลังตามหาคน งั้นทำไมพวกเราไม่เดินทางด้วยกันล่ะ”

“ก็เข้าท่าดี” หนานกงอวิ๋นอี้หัวเราะเบาๆ “อีกอย่างสตรีบ้าคลั่งผู้นั้นก็ยังต้องการไล่ล่าข้าอยู่ ถ้ามีเจ้าอยู่ข้างๆ เจ้าจะได้ปกป้องข้าได้”

โชคร้ายที่เขาพูดเร็วเกินไป เมื่อเขาเจอผู้หญิงคนนั้น เขาก็จะเข้าใจเองว่าอวิ๋นลั่วเฟิงไม่มีทางช่วยเขาแน่นอน… …

นครสัตว์อสูร

ภายในสวนลับที่สงบเงียบ มีเด็กสาวที่สวมชุดกระโปรงยาวสีเหลืองอ่อนเกิดเป็นภาพดุจเทพเซียนและงดงามเหนือจินตนาการ ผิวพรรณของนางเรียบเนียนเหมือนผงแป้งละเอียด นางสมบูรณ์แบบจนทำให้คนต่างรู้สึกอิจฉา

องค์หญิงใหญ่กัดฟันแน่นจนเกือบจะกลายเป็นผงด้วยความเกลียดชัง นางกำหมัดแน่นจนเล็บของนางจิกเขาไปในเนื้อของตัวเอง สายตาริษยาของนางจ้องเด็กสาวที่ผิวเรียบเนียนโดยไม่ละสายตา

ภายในนครสัตว์อสูร นางเป็นคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งน้องสาวที่อัปลักษณ์ของนางจะรักษาใบหน้าของนางได้ แล้วแบบนี้นางจะไม่รู้สึกเกลียดชังได้อย่างไร

ทันใดนั้นอีลี่ก็สัมผัสได้ถึงองค์หญิงใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ นางหลุบตาลง ขนตายาวของนางทำให้เกิดเงาที่เปลือกตา ทำให้ผู้คนรู้สึกใจอ่อน สีหน้าของนางเฉยชาและเย่อหยิ่งคล้ายกับดอกเบญจมาศที่บานสะพรั่งจนเกิดกลิ่นหอมอ่อนหวานฟุ้งกระจายไปทั่ว

“เสด็จพี่หญิง ท่านต้องการอะไรหรือไม่เพคะ”

เมื่อถูกพบตัว องค์หญิงใหญ่ก็ยืนขึ้นแล้วมองอีลี่อย่างเหยียดหยาม “น้องสาว ข้ามาที่นี่เพื่อบอกอะไรบางอย่างกับเจ้า… เจ้าคงได้ยินข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ของเมืองแล้ว เผ่าสัตว์อสูรจำนวนมากออกไปจับหูหลีและคนอื่นๆ นายสนมของเจ้าถูกเผ่าสัตว์อสูรฉีกออกเป็นชิ้นๆ นานแล้ว”

อีลี่ส่งเสียงขึ้นจมูก “ถ้าหูหลีตายจริงๆ ท่านคงไม่มีสีหน้าไม่พอใจอย่างนี้ หม่อนฉันเดาว่าสัตว์อสูรพวกนั้นคงทำไม่สำเร็จ หม่อมฉันพูดถูกหรือไม่เพคะ”

“ฮ่าๆ!” องค์หญิงใหญ่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง รอยยิ้มของนางเป็นประกายเดือดดาลและเจตนาสังหาร

ตอนแรกนางคิดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงและพรรคพวกต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สัตว์อสูรพวกนั้นกลับทำพลาด!

“ใช่แล้ว เผ่าอสูรทำผลาดจริงๆ แต่ว่าข้าก็ได้รับข่าวอย่างอื่นมาเหมือนกัน…” องค์หญิงใหญ่ยิ้มเยาะ “น้องสาวข้า บางทีเจ้าอาจจะไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของสนมชายของเจ้ากับมนุษย์ผู้หญิงที่ชื่อหวงอิงอิง”

“ข้าจะบอกเจ้าตอนนี้เลยแล้วกัน” องค์หญิงใหญ่สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเขาหมั้นกันแบบลับๆ แล้ว ที่หูหลีมาเป็นสนมชายของเจ้าก็เพื่อหลอกใช้เจ้าเท่านั้น เจ้าช่างน่าสงสารจริงๆ”

หัวใจของอีลี่บีบแน่น มือที่อยู่ด้านข้างนางเองก็กำแน่นโดยไม่รู้ตัว “ท่านคิดว่าหม่อมฉันจะเชื่อท่านหรือ”

องค์หญิงใหญ่หัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ “ถ้าหูหลีมีเจ้าอยู่ในใจ ทำไมเขาถึงไม่จากไปกับเจ้า แต่เลือกที่จะทิ้งเจ้าไว้ที่นี่แทนล่ะ นั่นก็เพราะเขามีภรรยาอยู่แล้ว แล้วเขาก็อยู่กับเจ้าเพื่อใช้เจ้าเท่านั้น! มนุษย์น่ะเป็นพวกชั่วร้ายอยู่วันยังค่ำ แต่เจ้าก็ยังเชื่อพวกมันโดยไม่สงสัยเลย”

อีลี่หายใจเร็วขึ้น แล้วใบหน้าของนางก็ซีดเผือด นางกัดปากอย่างแรงแต่ไม่ได้พูดอะไร

หูหลีมีภรรยาแล้วงั้นหรือ ไม่! เป็นไปไม่ได้! เขาไม่เคยบอกว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว…

เมื่อเห็นว่าคำพูดของนางได้ผล ดวงตาขององค์หญิงใหญ่ก็เป็นประกายเยาะเย้ย นางหันหลังเดินออกไปจากสวนช้าๆ

จนกระทั่งองค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว อีลี่ถึงตัวสั่นระริกจนเกือบจะทรุดลงไปกับพื้น

นางหัวเราะอย่างขมขื่นในใจแล้วพูดเยาะเย้ยตัวเองว่า “หูหลีหาประโยชน์จากข้ามาตั้งแต่แรก แต่ข้าก็ยอมให้เขาใช้ข้าเพื่อให้เขาอยู่กับข้า ในเมื่อเป็นแบบนั้นแล้วข้าจะหวังอะไรได้อีก”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset