ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ – ตอนที่ 1602 ประมุขพรรคไล่ตามวายุ (2) / ตอนที่ 1603 ประมุขพรรคไล่ตามวายุ (3)

ตอนที่ 1602 ประมุขพรรคไล่ตามวายุ (2)

“แม่นางอวิ๋น” ซงมู่พูดขึ้น “เผ่าสัตว์อสูรมาที่นี่รวมถึงเผ่าใหญ่ๆ ในเมืองสัตว์อสูรและเผ่าวิหคเพลิงด้วย ถ้าเจ้ายังหาคนที่ตามหาไม่เจอ ข้าก็แนะนำให้เจ้าไปที่หุบเขามังกร”

“หุบเขามังกรงั้นหรือ”

“ใช่แล้ว หนึ่งในเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือเผ่ามังกรที่อาศัยอยู่ที่หุบเขามังกร”

อวิ๋นลั่วเฟิงคิดสักพัก ไม่นานนางก็เงยหน้าขึ้นแล้วหรี่ตา “ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเราก็ไปที่เผ่ามังกรกันเถอะ”

“นายหญิง” เฟิงเย่ว์ที่เพิ่งเข้ามาก็ได้ยินคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิง เขารีบพูดเสนอตัวทันที “ท่านต้องการความช่วยเหลือจากเผ่าวิหคเพลิงหรือไม่ขอรับ”

เผ่าวิหคเพลิงและเผ่ามังกรเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองสัตว์อสูร ดังนั้นถ้าได้เผ่าวิหคเพลิงช่วย พวกเขาก็จะตามหาหงหลวนง่ายขึ้น

แต่ว่า…

“ส่งคนไปหาอยู่ของหงหลวนก่อน ข้าและอวิ๋นเซียวจะไปที่เผ่ามังกรด้วยตัวเอง”

ไม่ต้องสนใจว่าเผ่ามังกรจะลักพาตัวหงหลวนไปจริงหรือไม่ ถ้าหงหลวนอยู่ในมือของเผ่ามังกรจริงๆ แล้วเกิดพวกเขาต้องต่อสู้กับเผ่ามังกรเข้าก็อาจจะทำให้หงหลวนตกอยู่ในอันตรายได้ ดังนั้นการไปเผ่ามังกรด้วยตัวเองจึงเป็นทางเลือกเดียว!

“ยิ่งไปกว่านั้นข้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าข้ากำลังตามหาหงหลวน และไม่อยากให้รู้ว่าข้ามีความสัมพันธ์กับเผ่าวิหคเพลิงด้วย นี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าหงหลวนจะปลอดภัย!”

“ขอรับ นายหญิง!” เฟิงเย่ว์ประสานมือเคารพแล้วรีบออกคำสั่งให้ปิดข้อมูลทันที

สัตว์อสูวิญญาณหลายตัวมาที่นี่แล้วก็ไม่ง่ายที่จะปิดปากพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งเมื่อเผชิญหน้ากับเผ่าวิหคเพลิง!

“ท่านรองประมุขกลับมาแล้ว!” ตอนนั้นเอง เสียงประหลาดใจก็ดังขึ้นจากประตู

กลุ่มคนที่ตอนแรกนั่งอยู่ก็ลุกขึ้นยืนทันทีด้วยความตื่นเต้น

“ท่านรองประมุขกลับมาแล้วหรือ” เขากลับมาแล้วจริงๆ… …

เมื่อชายหนุ่มในชุดปักดิ้นทองเดินเข้ามาในจวนที่ถูกต้นไม้บดบัง เขาก็ถึงกับต้องชะงัก

เขาเห็นวิหคเพลิงหลายตัวบินวนอยู่ในอากาศและด้านล่างของวิหคเพลิงพวกนั้นก็มีผู้นำเผ่าสัตว์อสูรหลายเผ่าคุกเข่าอยู่ที่พื้นโดยเอามือพาดไว้ด้านหลังศีรษะ ไม่กล้าขยับตัวแม้แต่นิดเดียว

เขาสับสนแล้วเกาศีรษะด้วยความไม่เข้าใจ

“นี่มัน…สถานการณ์อะไรกัน”

“ท่านรองประมุข!”

ทันใดนั้นร่างคุ้นเคยก็พุ่งออกจากบ้านแล้วมาหยุดตรงหน้าเขา

“ท่านรองประมุข ในที่สุดท่านก็กลับมา”

ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าท่านรองประมุขมองพรรคพวกที่ตื่นเต้นอย่างงุนงง เขาเกาหลังศีรษะก่อนเอ่ยถาม “ใครบอกข้าได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีสัตว์อสูรจำนวนมากที่นี่ แล้วยังมีวิหคเพลิงอีก แต่วิหคเพลิงพวกนั้นไม่ได้โจมตีเจ้างั้นหรือ”

“ท่านรองประมุข ครั้งนี้พวกเราได้พบผู้มีพระคุณ ตอนแรกพรรคไล่ตามวายุต้องเจอกับความพ่ายแพ้อย่างแสนสาหัส แต่ใครจะคิดว่าผู้มีพระคุณสองคนจะปรากฏตัวขึ้น แม้แต่เผ่าวิหคเพลิงก็เป็นผู้ติดตามของพวกเขา พวกเขาช่วยพวกเราไว้ ทำให้ต่อไปนี้พวกเราไม่ต้องกลัวว่าจะถูกสัตว์อสูรวิญญาณไล่ล่าแล้วขอรับ”

คนพวกนี้ตื่นเต้นและอธิบายเรื่องน่าประทับใจเมื่อวานด้วยสีหน้าเทิดทูนและศรัทธา

ชายหนุ่มกะพริบตาแล้วเงยหน้าขึ้น เขาเห็นหญิงสาวในชุดสีขาวเดินออกมา แล้วสมองของเขาว่างเปล่า

อวิ๋นลั่วเฟิงชะงักแล้วจ้องชายหนุ่มในชุดปักดิ้นทองตรงหน้านางโดยไม่ละสายตา ก่อนรอยยิ้มร้ายกาจจะปรากฏขึ้นบนใบหน้านาง

…………………………………..

ตอนที่ 1603 ประมุขพรรคไล่ตามวายุ (3)

“ตอนที่เสี่ยวเหยียนบอกว่าพรรคนี้ชื่อว่าไล่ตามวายุและมีรองประมุขสกุลหนานกง ข้าก็สงสัยอยู่บ้าง…” นางหยุดไปครู่หนึ่ง “ข้าไม่คิดว่าจะเป็นเจ้าจริงๆ หนานกง ไม่เจอกันนานนะ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

พรรคไล่ตามวายุ กลุ่มไล่ตามสายลม [1] ทำไมนางถึงเพิ่งมาแน่ใจตอนนี้กันนะ

หนานกงอวิ๋นอี้หัวเราะเสียงดังแล้วเดินไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงช้าๆ เขาอยากจะยื่นแขนออกไปคล้องคอนางเหมือนปกติ แต่ก่อนที่มือเขาจะสัมผัสถูกตัวอวิ๋นลั่วเฟิงก็มีมือทรงพลังและแข็งแรงมาหยุดเขาไว้ก่อน

“อวิ๋นลั่วเฟิง เจ้าไม่คิดจะแนะนำข้าให้รู้จักหน่อยหรือ” หนานกงอวิ๋นอี้ถามก่อนชักมือกลับด้วยความกระอักกระอ่วนแล้วใช้มือลูบจมูกแทน

อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “คนรักข้า อวิ๋นเซียว”

“คิกๆ เมื่อก่อนข้าโน้มน้าวเจ้าอยู่หลายปีแต่ก็ไม่สำเร็จ ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีผู้ชายที่เอาชนะใจเจ้าได้จริงๆ…” หนานกงอวิ๋นอี้พูดโดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้าดำมืดของอวิ๋นเซียวเลยแม้แต่น้อย

“เจ้าโน้มน้าวข้างั้นหรือ ทำไมข้าไม่เห็นรู้” อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้ว ใบหน้าปรากฏความรื่นเริง

สมัยที่นางเจอหนานกงอวิ๋นอี้ที่มหาวิทยาลัยหวาเซี่ย เขามาสารภาพรักกับนางแบบไม่เกรงกลัวแล้วยังแสดงท่าทีต้องการรบเร้านาง ดังนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงจึงตีเขาจนเขาลุกออกเตียงไม่ได้อยู่หลายเดือน

แต่การแลกหมัดครั้งนั้นก็ทำให้พวกเขากลายเป็นเพื่อนสนิทกัน

ควมจริงแล้วตอนแรกหนานกงอวิ๋นอี้ก็แค่ตะลึงในความงามของอวิ๋นลั่วเฟิงและไม่ได้ชอบนางจริงๆ ถึงอย่างไรผู้ชายที่เห็นหญิงสาวงดงามโดดเด่นก็ต้องอยากจีบนางบ้าง

หลังจากนั้นเขาก็รู้ว่าเรื่องระหว่างเขากับอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงทำลายความตั้งใจของตัวเองจนสิ้นซากแล้วเปลี่ยนไปตกหลุมรักหญิงงามของคณะในมหาวิทยาลัยหวาเซี่ย…

เมื่อมาที่โลกแปลกๆ ใบนี้แล้วเจอกับโอวหย่าที่คล้ายกับคนงามของคณะ ความตั้งใจของเขาก็ลุกโชนขึ้นมาอีก ถ้าอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ช่วยให้เขาได้สติ เขาก็คงจะไม่ประสบความสำเร็จแบบนี้

ถึงอย่างไรอวิ๋นลั่วเฟิงก็เป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขา

ทว่าความรักนั้นไม่ใช่ความรักแบบคนรัก เพราะอีกฝ่ายเป็นเพื่อนสนิทของเขาและเป็นคนที่เขาต้องการใช้ทั้งชีวิตเพื่อปกป้องนาง!

“อวิ๋นลั่วเฟิง ดูเหมือนว่าคนเปิดเผยแบบเจ้าจะความจำสั้นจริงๆ เมื่อก่อนข้าก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากสารภาพรักกับเจ้า แต่กลับจบลงที่ไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้เพราะเจ้าตีข้า เจ้าลืมแล้วงั้นหรือ” สายตาของหนานกงอวิ๋นอี้เต็มไปด้วยความไม่พอใจแล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิงเหมือนเขาเป็นภรรยาที่มีชีวิตขมขื่น

ใบหน้าของอวิ๋นเซียวมืดครึ้มขึ้นอีก เขากระชากตัวอวิ๋นลั่วเฟิงเข้ามากอดแล้วพูดตรงๆ ว่า “เจ้าแข็งแกร่งไม่พอ นางชอบคนแข็งแกร่ง”

“คิกๆ” หนานกงอวิ๋นอี้พูดอย่างขบขันว่า “อวิ๋นลั่วเฟิง ผู้ชายของเจ้านี่เป็นไหน้ำส้มจริงๆ”

อวิ๋นเซียวยังทำสีหน้าเฉยชา “บนโลกนี้คนเดียวที่ทำให้ดื่มน้ำส้มได้ก็คือนาง”

หรือก็คือ ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไร ข้าก็ไม่หึง ข้าเชื่อแค่นาง!

“ท่านรองประมุข พวกท่านรู้จักกันหรือ” ซงมู่ถามอย่างงุนงง เขาและคนอื่นสับสน

หนานกงอวิ๋นอี้ยิ้ม “ใช่แล้ว นางคือประมุขที่ข้าพูดถึง”

ตูม!

พวกเขารู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า อวิ๋นลั่วเฟิงคือประมุขของพวกเขางั้นหรือ สวรรค์ พวกเขากำลังฝันอยู่หรือเปล่า ถ้าอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นประมุขก็หมายความว่าพรรคไล่ตามวายุจะถูกดูแลเหมือนเผ่าวิหคหรือ

ใบหน้าของทุกคนแดงจัดด้วยความตื่นเต้นขณะที่สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่อวิ๋นลั่วเฟิง…

อวิ๋นลั่วเฟิงถอยหลัง “ข้าไม่รับตำแหน่งประมุขพรรค”

“อวิ๋นลั่วเฟิง ความสัมพันธ์ของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นข้าหรือเจ้าที่ได้เป็นประมุข ล้วนแล้วแต่ไม่ต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้น พรรคไล่ตามวายุก็ก่อตั้งขึ้นเพราะเจ้าตั้งแต่แรก เจ้าคงไม่ใจร้ายแล้วปฏิเสธข้าใช่หรือไม่” หนานกงอวิ๋นอี้ยิ้มแล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยสายตาน่าสงสารเหมือนต้องการบังคับให้นางรับตำแหน่งประมุขพรรคไล่ตามวายุเสียให้ได้… สายลมและเฟิงจากชื่อของอวิ๋นลั่วเฟิงออกเสียงเหมือนกันและใช้ตัวอักษรคล้ายกัน ดังนั้นพรรคไล่ตามวายุก็คือพรรคไล่ตามอวิ๋นลั่วเฟิง ฮ่าๆๆ หรือก็คือหมายถึงคำแสลงที่แปลว่า ‘อิจฉา’

——

Comment

Options

not work with dark mode
Reset