ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ – ตอนที่ 1510 พู่หยกสองอัน (2) / ตอนที่ 1511 พู่หยกทั้งสอง (3)

ตอนที่ 1510 พู่หยกสองอัน (2)

“จริงหรือ!”

กลุ่มคนอ้าปากค้าง หากเป็นเรื่องจริง ถ้าอย่างนั้นตระกูลจวินก็เจอปัญหาใหญ่แล้ว!

ทุกคนรู้ว่าผู้อาวุโสจวินออกจากตระกูลจวินไปเพื่อตามหาลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองมาหลายปี แล้วเขาจะยอมทิ้งหลานสาวได้อย่างไรเมื่อเขารู้ว่านางอยู่ที่ไหน ส่วนพรรคอัสนีมรกตที่จับเด็กสาวได้ ตระกูลจวินต้องยอมแพ้ให้พวกเขาแน่!

“ท่านหัวหน้า ข่าวนี้เชื่อถือได้ใช่หรือไม่ พวกเราไม่อยากถูกคนของตระกูลจวินสังหาร” ใครบางคนอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

“เชื่อถือได้แน่นอน ไม่นานมานี้มีข่าวลือว่าหลานสาวของผู้อาวุโสจวินยังมีชีวิตอยู่ แล้วบางคนก็เห็นเด็กสาวถือพู่หยกของผู้อาวุโสจวิน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเด็กสาวคนนี้เป็นหลานสาวของเขา”

ชายหน้าเหมือนลิงหยุดแล้วพูดต่อ “แล้วพรรคอัสนีมรกตก็เจอเด็กสาวที่ถือพู่หยกที่สลักคำว่า ‘จวิน’ เอาไว้เมื่อไม่นานมานี้ สตรีผู้นี้บอกคนอื่นว่านางเป็นหลานสาวที่หายไปของตระกูลจวิน”

เมื่อได้ยินแบบนี้ คนอื่นๆ ก็มีความมั่นใจและมีความหวังในการเดินทางครั้งนี้ ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็เห็นกิ่งไม้ตรงหน้าเขาขยับ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขาตะโกนขึ้นมา “นั่นใคร” คนอื่นๆ จึงรีบหันหน้าไปมองที่ต้นไม้ใหญ่ทันที…

หญิงสาวคนหนึ่งค่อยๆ นั่งบนกิ่งไม้ อาภรณ์สีขาวของนางปลิวไปตามลม นางนั่งพิงต้นไม้แล้วเหลือบหางตามามองกลุ่มคนด้านล่าง “เจ้ารบกวนการพักผ่อนของข้า…”

กลุ่มคนต่างตะลึงในความงามของนางแล้วพากันจ้องสตรีงามล่มเมืองตรงหน้าโดยไม่ละสายตา พวกเขาไม่เคยเห็นใครที่สวยขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะน้ำเสียงที่เฉื่อยชาแต่ร้ายกาจนั่น เมื่อได้ยินเสียงของนาง พวกเขาก็รู้สึกเหมือนหัวใจคันบยุบยิบราวกับมีมือมาลูบหัวใจเขาเบาๆ

“เจ้าตรงนั้น” ชายหน้าเหมือนลิงกลับมามีสติแล้วขมวดคิ้ว “ข้าขอโทษที่รบกวนเจ้า แต่เจ้าได้ยินบทสนทนาของพวกเราแล้ว ดังนั้นเจ้าต้องตัดลิ้นและแขนทั้งสองข้างออก ไม่อย่างนั้นพวกเราจะไม่ปล่อยเจ้าไป”

สตรีผู้นี้ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาแล้ว ถ้าพวกเขาไม่บังคับให้นางทำแบบนี้ก็จะกลายเป็นปัญหา ถ้านางปล่อยข่าวเรื่องตระกูลจวินออกไป

อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้วแล้วก้มมองกลุ่มคนข้างล่างก่อนจะยิ้มบาง

“ก่อนจะทำแบบนั้น ข้ามีเรื่องอยากจะถามเจ้าก่อน” นางยิ้ม “ข้อแรก เจ้าบอกว่ามีสตรีที่ถือพู่หยกของตระกูลจวินแล้วบอกว่านางเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสจวินใช่หรือไม่”

ชายหน้าเหมือนลิงยิ้มเยาะ “ดูเหมือนว่าเจ้าก็จะได้ยินไปเยอะเหมือนกันนี่”

“เจ้าเคยเห็นพู่หยกหรือไม่”

“แน่นอนว่าไม่เคย! เจ้าพูดเรื่องไร้สาระจบหรือยัง ถ้าจบก็ทำตามที่ข้าบอกซะ”

เมื่อเห็นใบหน้าหมดความอดทนของเขา อวิ๋นลั่วเฟิงก็ยิ้มอีกครั้ง “ตกลง คำถามที่สอง เจ้าอยากให้ข้าทำอะไร”

“นี่มันไม่ไร้สาระไปหน่อยหรือ หนึ่ง ให้เจ้าใช้มีดตัดลิ้น จากนั้นก็ตัดแขนทั้งสองข้าง เช่นนั้นแล้วเจ้าก็จะพูดหรือใช้มือเขียนอะไรไม่ได้ แล้วข้าก็จะได้ไม่ต้องห่วงว่าจะเจ้าปล่อยข่าวเรื่องตระกูลจวินออกไป”

“เข้าใจแล้ว” หญิงสาวพยักหน้าเบาๆ “ในเมื่อเจ้าขอ ข้าก็จะทำให้!”

เมื่อได้ยินแบบนั้นชายคนนี้ก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ สตรีผู้นี้รู้เรื่องดีเหมือนกัน บางทีเขาอาจจะไว้ชีวิตนาง

ฉัวะ!

ชายหนุ่มเงยหน้าก็เห็นสตรีชุดขาวที่อยู่ยืนต้นไม้หายไปแล้ว วินาทีถัดมา กระบี่ก็ตัดผ่านข้อมือของเขาจนต้องส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด

…………………………………..

ตอนที่ 1511 พู่หยกทั้งสอง (3)  

ฉัวะ!

ขณะที่เขาอ้าปากกระบี่ก็พุ่งเข้าในปากแล้วตัดลิ้นของเขาทิ้ง

“อ้า…”

ชายหนุ่มยกมือขึ้นปิดปากแล้วมองสตรีชุดขาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยความกลัว สตรีผู้นี้ยืนอย่างมั่นคง ชุดสีขาวราวหิมะของนางยังคงสะอาดไร้รอยเปื้อน แต่ว่าในสายตาของคนเหล่านี้ นางไม่ต่างจากปีศาจร้าย

“เจ้าบอกว่าเจ้าอยากให้ข้าตัดลิ้นและแขนเจ้า” อวิ๋นลั่วเฟิงยักไหล่แล้วหัวเราะเบาๆ อย่างชั่วร้าย “ดังนั้นข้าก็เลยทำตามที่เจ้าบอก เจ้าพอใจหรือยัง”

ชายหนุ่มถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าของเขาซีดเหมือนศพ ตัวของเขาสั่นเทาแต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา…

อวิ๋นลั่วเฟิงเงยหน้าแล้วกวาดสายตามองคนอื่นๆ คนพวกนี้ตะลึงจนตัวสั่นเพราะสายตาของนาง

“มีผู้มีอำนาจใดบ้างที่กำลังมุ่งหน้าไปโจมตีตระกูลจวิน” เสียงของอวิ๋นลั่วเฟิงเย็นชาแต่ทำให้ทุกคนตัวสั่นด้วยควมกลัว

“มีทั้งหมดสิบเอ็ดกลุ่ม” ขายหนุ่มชุดดำตอบ “รวมถึงสี่กลุ่มที่พวกเราบอกไปเมื่อกี้ด้วย พวกเขาเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลในแคว้น ซึ่งทั้งหมดเคยมีปัญหากับตระกูลจวินแต่ไม่กล้าแก้แค้นเพราะเกรงกลัวผู้อาวุโสจวิน พวกเขาไม่ได้ลงมือจนกระทั่งพรรคอัสนีมรกตจับตัวสตรีที่สงสัยว่าเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสจวินได้…”

เขาใช้คำว่า ‘สงสัย’ เพราะหญิงสาวคนนี้เป็นหลานสาวของผู้อาวุโสจริงหรือไม่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบ หลังจากชายหนุ่มพูดจบ เขาก็เห็นว่าหญิงสาวชุดขาวที่ถามเขาเสียงเย็นชาเมื่อครู่หายไปแล้ว…

ใครคนหนึ่งถามขึ้นมาเสียงดัง “พวกเราจะไปตระกูลจวินกันหรือไม่”

“ไปตายซะ!”

ชายที่พูดคำนี้ต้องเป็นคนหยาบคายแน่

“เจ้าไม่เห็นหรือว่าหัวหน้าเกือบถูกสังหาร การไปตระกูลจวินก็เหมือนรนหาที่ตาย! ถ้าพวกเราเจอสตรีเสียสติแบบเมื่อกี้อีก พวกเราจะถูกสังหารกันหมด!” ชายหนุ่มมองกลุ่มคนตรงหน้าแล้วพูดต่อ “ถ้าตระกูลกำลังจะถูกทำลายลง ต่อให้พวกเราไปที่นั่น พวกเราก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับเหตุการณ์นี้ แต่ถ้าพวกเขาทำไม่สำเร็จ พวกเราจะตายกันหมด”

ทุกคนเห็นด้วยกับความคิดเขา ดังนั้นจึงไม่สนใจชายหน้าเหมือนลิงที่กรีดร้องอยู่แล้วเดินกลับ…

เสียงของเสี่ยวโม่ก็ดังขึ้นภายในจิตของอวิ๋นลั่วเฟิง “นายหญิง จากที่คนพวกนั้นบอก พวกเราก็มั่นใจได้ว่าคนที่ถือพู่หยกเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสจวินจริงๆ เหมือนที่เจ้าเมืองบูรพาบอก”

อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้บอกเรื่องตัวตนของนางกับผู้อาวุโสจวินก่อนเพราะว่านางไม่แน่ใจว่าพู่หยกเป็นของตระกูลจริงหรือไม่ ถ้าเกิดพู่หยกไม่ได้เป็นของท่านปู่จวินแต่เป็นของคนอื่นจะทำอย่างไร

อย่างไรก็ตามนางได้ยินว่าผู้อาวุโสจวินมีน้องชายที่พยายามจะสังหารเขาเพื่ออำนาจ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังลอบวางแผนกับอดีตเจ้าเมืองวิญญาณแล้วทำลายครอบครัวของผู้อาวุโสจวิน นางกลัวว่าจวินเฟิ่งหลิงจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสจวินแต่เป็นศัตรูเขาแทน ดังนั้นนางจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ถึงแม้ว่าหงหลิงจะบอกนางว่าพู่หยกสำคัญมาก เขาก็บอกแค่ว่านางอาจจะรู้เรื่องราวถ้านางไปที่ตระกูลจวิน เขาไม่ได้บอกว่าพู่หยกนั้นเป็นของผู้อาวุโสจวิน…

สิ่งเดียวที่นางมั่นใจก็คือพู่หยกนี้เป็นของจวินเฟิ่งหลิงตั้งแต่เกิด

“ถ้าพู่หยกของข้าเป็นของผู้อาวุโสจวิน แล้วอันที่ผู้หญิงอีกคนถือคืออะไร” อวิ๋นลั่วเฟิงมองพู่หยกในมือแล้วกำมันไว้แน่น นางขมวดคิ้วแล้วครุ่นคิด

Related

Comment

Options

not work with dark mode
Reset