ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ – ตอนที่ 1358-1359

ตอนที่ 1358 ที่อยู่ของอวิ๋นเซียว (3)  

 

 

เหตุใดเด็กสาวน่ารักแบบนี้ถึงได้เขมือบอาหารเข้าไปมากขนาดนั้นได้ กระเพาะเล็กๆ ของนางจะจุอาหารปริมาณขนาดนี้ได้อย่างไร 

 

 

“กินช้าๆ ระวังจะสำลัก” เสี่ยวโม่ขมวดคิ้วไม่ลืมที่จะเอ่ยเตือนหลินรั่วไป๋ 

 

 

หลังอาหารทุกจานบนโต๊ะถูกจัดการจนเกลี้ยงหลินรั่วไป๋ก็ยังไม่อิ่ม นางลูบท้องตัวเองแล้วหันไปส่งสายตาน่าสงสารให้อวิ๋นลั่วเฟิง 

 

 

“อาจารย์ ข้ายังไม่อิ่มเลยเจ้าค่ะ” 

 

 

เสี่ยวโม่ขมวดคิ้วจนหน้าผากย่นแล้วมองหลินรั่วไป๋ด้วยสายตาไม่เชื่อ “ยังไม่พออีกหรือ เงินของนายหญิงไม่ได้มีไว้ให้เจ้ามาใช้อย่างเปล่าประโยชน์แบบนี้!” 

 

 

ถ้าเป็นตอนก่อนหน้านี้ที่หลิวรั่วไป๋ยังมีความทรงจำอยู่ นางต้องโต้ตอบเขากลับมาทันทีที่เขาพูดจบแต่ตอนนี้นางทำแค่ยื่นปากอย่างไม่พอใจขณะที่ส่งสายตาขอร้องอย่างน่าสงสารทำให้คนอื่นรู้สึกผิดต่อเท่านั้น 

 

 

ที่โต๊ะหนึ่งในเหลามีผู้คุ้มกันสองสามคนนั่งอยู่เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของหลินรั่วไป๋ก็อดไมได้ที่จะหันไปมองนาง 

 

 

“เด็กสาวคนนี้ดูดีใช้ได้เลยนะ ถ้าพวกเราพาตัวนางกลับไปให้นายน้อย ไม่แน่เขาอาจจะเลื่อนขั้นให้พวกเราก็ได้” 

 

 

ช่วงนี้หลิงเฉินซึมเศร้าแล้วปล่อยให้วันเวลาผ่านไปอย่างไร้ค่ามานานแล้ว ตอนนี้พวกเขาเห็นเด็กสาวน่ารักคนนี้พวกเขาจะไม่สนใจนางได้อย่างไร ที่สำคัญนายน้อยของพวกเขาชอบเด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์แบบนี้ที่สุด 

 

 

นั่นเพราะว่าเซี่ยชูก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ 

 

 

“แต่ว่าข้าคิดว่าสตรีชุดขาวงดงามกว่า หายากนะที่จะเจอสตรีหน้าตางดงามไร้ที่ติแบบนาง” 

 

 

“ไม่ใช่แค่หายาก แต่ข้าคิดว่าน่าจะไม่มีสตรีคนใดมีความงามดังสวรรค์ขนาดนี้! โชคร้ายที่นางอุ้มเด็กน้อยไว้ที่อก ดูเหมือนว่าจะเป็นบุตรนางด้วย หากนางมีบุตรก็คงไม่บริสุทธิ์แล้ว สตรีแบบนี้ไม่เหมาะสมกับนายน้อย!” 

 

 

ผู้คุ้มกันอีกคนถอนหายใจอย่างเสียใจ “ข้าสงสัยว่าใครกันมีบุญขนาดได้แต่งงานกับสาวงามขนาดนี้! จะดีสักแค่ไหนถ้าเรานำสาวงามคนนี้ไปให้นายน้อยได้ จะมีบุรุษคนใดที่เทียบกับนายน้อยของเราได้เล่า” 

 

 

ผู้คุ้มกันเมืองอุดรกลุ่มนี้ไม่ได้ตามหลิงเฉินไปที่จวนเจ้าเมืองบูรพาเพราะตำแหน่งพวกเขาก็ค่อนข้างต่ำรวมถึงไม่ตามหลิงลี่มาที่จวนเจ้าเมืองหลังจากหลิงลี่มาถึงเมืองบูรพาดังนั้นพวกเขาก็มาจบที่การทำบางอย่างพวกเขาจะเสียใจไปทั้งชีวิต 

 

 

“อาจารย์” หลินรั่วไป๋พูดอย่างเขินอาย “ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าเดินผ่านถนน ข้าได้กลิ่นน่าอร่อยมาก ให้ข้า…” 

 

 

“ไม่!” เสี่ยวโม่ไม่รอให้หลินรั่วไป๋พูดจบก็พูดแทรกขึ้นมาแทนอวิ๋นลั่วเฟิง 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองเสี่ยวโม่ “เจ้าควรตามนางไป ข้ามีบางอย่างที่ต้องทำ” 

 

 

“ก็ได้” เสี่ยวโม่ทำได้แค่ก้มหน้าด้วยสีหน้าท้อแท้ใจอย่างหมดหนทาง 

 

 

“หั่วหั่ว ไปกันเถอะ” เมื่อนางออกคำสั่งเสร็จอวิ๋นลั่วเฟิงก็ยืนขึ้นแล้วเดินออกจากเหลา 

 

 

นางไม่ได้เจอหูหลีมานานแล้ว ไม่รู้สถานการณ์ของเขากับอู่เลย นางต้องการใช้โอกาสนี้ตรวจสอบเขาสักหน่อย… 

 

 

“นี่!” เมื่อเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงเดินออกไป เสี่ยวโม่ก็หันไปหาหลินรั่วไป๋แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง “เจ้าอยากจะไปที่ไหน ข้าไปกับเจ้าเอง” 

 

 

หลินรั่วไป๋กะพริบตาแล้วกวาดตามองเด็กหนุ่มข้างนางขึ้นลงด้วยสายตาสงสัยก่อนยิ้มกว้างแล้วยื่นมือออกไปจับใบหน้าเสี่ยวโม่ นางฉวยโอกาสที่เขาตะลึงยื่นหน้าเขาไปหอมแก้มเขา 

 

 

“พี่ชาย ท่านหล่อมาก ข้าชอบท่าน” 

 

 

ตูม!  

 

 

เสี่ยวโม่เหมือนโดนฟ้าผ่าจนร่างแข็งทื่อ เขาแทบไม่เชื่อว่าหญิงบ้าอย่างหลินรั่วไป๋จะกล้าจูบเขา… 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1359 ที่อยู่ของอวิ๋นเซียว (4)  

 

 

พระเจ้า เขาเสียจูบแรกไปแล้ว! แต่ว่าหลังจากที่เขาได้สติคืนอย่างยากลำบาก เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเด็กสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขาหายไปแล้ว… 

 

 

หลินรั่วไป๋เดินผ่านถนนที่วุ่นวายไปได้แค่สองซอย นางก็ถูกผู้คุ้มกันสองสามคนขวางทางเอาไว้ นางกะพริบตาปริบๆ แล้วมองคนข้างหน้านางด้วยความสับสน 

 

 

“เจ้ามาขวางทางข้าทำไม” 

 

 

“ฮ่าๆ” ผู้คุ้มกันที่อาวุโสสุดหัวเราะเล็กน้อยแล้วกดยิ้มลึก “คุณหนู พวกเราคิดว่าเจ้าน่ารักมากเลยต้องการเลี้ยงอาหารเจ้าสักมื้อ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะไปกับพวกเราหรือเปล่า” 

 

 

ดวงตาของหลินรั่วไป๋เป็นประกายแล้วเผยรอยยิ้มกว้างเต็มใบหน้าจนฟันเขี้ยวของนางสะท้อนแสงอาทิตย์ยิ่งทำให้นางยิ่งน่าเอ็นดู 

 

 

“แน่นอน!” 

 

 

ผู้คุ้มกันสองสามคนมองหน้ากัน คนตะกละอย่างหลินรั่วไป๋ล่อลวงง่ายมาก 

 

 

“พวกเราไปกันเถอะคุณหนูน้อย ตราบใดที่เจ้ารับใช้นายน้อยดี เจ้าอยากจะกินอะไรก็ได้ ไม่เหมือนนายหญิงที่ยากจนของเจ้าที่ไม่ยอมให้เจ้ากินอิ่ม” 

 

 

อยู่ๆ หลินรั่วไป๋ก็หยุดแล้วพองแก้มด้วยความโกรธขณะที่จ้องหน้าผู้คุ้มกันที่ว่าร้ายอวิ๋นลั่วเฟิง “เจ้าไม่ได้บอนุญาตให้ปากเสียใส่อาจารย์ของข้า! ขอโทษเดี๋ยวนี้!” 

 

 

ผู้คุ้มกันชะงัก “เจ้าขอให้ข้าขอโทษงั้นหรือ” 

 

 

“ถูกต้อง! เจ้าว่าร้ายอาจารย์ข้า ดังนั้นเจ้าต้องขอโทษ ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่ตามเจ้าไป!” 

 

 

อาหารอร่อยๆ จะสำคัญกว่าอาจารย์ของนางได้อย่างไร เพื่ออาจารย์แล้ว นางจะยอมไม่กินก็ได้ 

 

 

“ตอนนี้เจ้าควรขอโทษ” ผู้คุ้มกันอาวุโสแทงแขนใส่เขาแล้วพูด “เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างปัญหา” 

 

 

ที่สำคัญที่นี่คือเมืองบูรพาแล้วพวกเขาก็ไม่สามารถใช้กำลังลากตัวคุณหนูคนนี้ไปได้ ถ้านางไม่ยอมตามพวกเขาไปเองพวกเขาก็พาตัวนางไปไม่ได้ 

 

 

ผู้คุ้มกันที่ว่าร้ายอวิ๋นลั่วเฟิงก็กลั้นความโกรธแล้วพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “ขอโทษ!” 

 

 

หลังจากที่ไปจวนเจ้าเมืองอุดรแล้วเขาค่อยแก้แค้นก็ยังไม่สาย! 

 

 

“คุณหนู พวกเราไปกันได้หรือยัง อ้อ ใช่ ข้ายังไม่รู้ชื่อเจ้าเลย” 

 

 

“อาจารย์บอกว่าข้าชื่อหลินรั่วไป๋” 

 

 

“โอ้? แล้วอาจารย์เจ้าชื่ออะไร” 

 

 

“อวิ๋นลั่วเฟิง” 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิง? 

 

 

ผู้คุ้มกันมองหน้ากันเหมือนว่าพวกเขาจะคุ้นๆ ว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน… 

 

 

 

 

 

ตอนนั้นเอง ไกลออกไปเมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงก็สังเกตเห็นหูหลีและเด็กชายตัวน้อยที่กำลังนั่งเหม่ออยู่แถวประตูหน้าบ้านไม้หลังเล็กๆ ดวงตานางก็เป็นประกายบางอย่าง 

 

 

ทันใดนั้นหูหลีก็เงยหน้าขึ้น เห็นอวิ๋นลั่วเฟิงปรากฏตัวข้างหน้าเขา ดวงตาเขาก็เป็นประกายแล้วรีบลุกขึ้นเดินมาหานาง แต่ตอนที่เขากำลังจะยื่นแขนออกไปเพื่อกอดนาง เสี่ยวซู่ก็เงยหน้ามองเขาแล้วหัวเราะคิกคัก ทันทีที่เสียงหัวเราะคิกคักดังออกมา เถาวัลย์จำนวนมากก็งอกขึ้นพันตัวหูหลีเอาไว้ 

 

 

“อวิ๋นลั่วเฟิง ข้าคิดถึงเจ้ามาก เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนที่เจ้าไม่อยู่ข้าเบื่อแค่ไหนที่ต้องเจอหน้าเด็กคนนี้ทุกวัน” สีหน้าของหูหลีเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเหมือนว่าอวิ๋นลั่วเฟิงได้ทำเรื่องเลวร้ายที่ทำให้สวรรค์โกรธเคือง! 

 

 

“ข้ามาที่นี่เพื่อบอกเจ้าว่าพวกเราอยู่ที่นี่อีกสองวันก็จะออกจากเมืองบูรพาแล้ว” 

 

 

“เจ้าพูดจริงหรือ” ดวงตาของหูหลีเป็นประกาย “เยี่ยมไปเลย! หลายวันที่อยู่ที่เมืองบูรพา ข้ากลัวมาก ข้ากลัวว่าข้าจะกลายเป็นกระสอบทรายให้สตรีบ้าคลั่งอย่างหงหลวน! เจ้ารู้ไหมว่าในสำนักศึกษามีคนมากแค่ไหนที่ถูกนางทำร้าย เพราะแบบนี้ศิษย์ทุกคนในสำนักศึกษาเลยกลัวที่จะพบเจอนาง” 

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

Author:
อวิ๋นลั่วเฟิง นักเรียนแพทย์หัวกะทิได้ย้อนอดีตกลับไปอยู่ในร่างของคุณหนูใหญ่สุดสำรวย สตรีผู้มีชื่อฉาวคาวกระฉ่อนว่าเป็นเพียงสวะของสกุล ซ้ำร้ายยังหน้าหนาไปฉุดหนุ่มรูปงามทั้งที่ตนมีคู่หมั้นเป็นถึงองค์รัชทายาท เรื่องน่าอับอายนี้เป็นเหตุให้นางโดนถอนหมั้นจนตัดสินใจปลิดชีวิตตนไปด้วยความเจ็บปวด ครั้นเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง คุณหนูใหญ่แห่งสกุลอวิ๋นก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ฉายาคุณหนูสวะนั้นหรือเป็นเพียงคำลวง แพทย์หญิงอัจฉริยะต่างหากที่เป็นของจริง! ไหนจะมี ‘ชายปริศนา’ ที่โผล่มาบอกให้นาง ‘รับผิดชอบ’ เขา ทั้งยังคอยติดตามอยู่ข้างกายไม่ห่างพร้อมประกาศว่า “ใครหน้าไหนที่จะมาทำร้ายสตรีของข้าก็ดาหน้ากันเข้ามา แต่จงจำไว้ว่ามันจะไม่มีวันได้มีชีวิตกลับไป!” เช่นนี้แล้วอวิ๋นลั่วเฟิงจะรับมือกับเรื่องราวเหล่านี้อย่างไรดีเล่า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset