ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 118 พลซุ่มยิง…เดอะสไนเปอร์

“ฉันต้องการอะไรน่ะเหรอ… ? อย่ามาถามอะไรโง่ ๆ ดีกว่าหน่า… แกก็รู้อยู่แล้วหนิว่าฉันต้องการอะไร!” อู่หยางเทียนหมิงพูดอย่างเย็นชา

เย่เชียนก็ตอบเขากลับอย่างเย็นชาเช่นกันว่า “ฉันอยากได้ยินเสียงของจ้าวหยาก่อน…”

“เอ้านี่ยัยขี้โวยวาย…! คู่หมั้นของเธออยากคุยด้วย” อู่หยางเทียนหมิงพูด เขาส่งโทรศัพท์ให้จ้าวหยา

“เย่เชียน! นายอย่ามานะ พวกมันจะฆ่านาย!” จ้าวหยาพูดยังไม่ทันจบ อู่หยางเทียนหมิงก็ดึงโทรศัพท์ไปจากเธอ เขาหัวเราะอย่างสะใจแล้วพูดว่า “ฉันยังไม่ได้สัมผัสหรือแตะต้องอะไรเธอเลย… แต่ถ้าแกมาช้า ฉันก็ไม่รับประกันหรอกนะว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นน่ะ! ฮ่า ๆ ๆ ”

เย่เชียนรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมากในคำพูดของจ้าวหยา เขาไม่คาดคิดเลยว่า จ้าวหยา สาวน้อยที่คอยเอาแต่ใจและดื้อรั้นคนนั้นจะพูดแบบนี้กับเขา มันทำให้หัวใจของเย่เชียนแทบจะแตกสลาย ก่อนหน้านี้เย่เชียนต้องการช่วยจ้าวหยาเพราะความรู้สึกผิด แต่ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่แค่นั้นแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ที่เขาจะต้องทำมันให้สำเร็จลุล่วง

“คายมันออกมา… แกอยากจะให้ฉันทำอะไร ?!” เย่เชียนพูดอย่างเยือกเย็นและพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้

“มาที่โรงงานเคมีร้างในเขตชานเมืองทางตอนเหนือ… และจำเอาไว้ว่าอย่าโทรหาพวกตำรวจ ไม่งั้นฉันจะฆ่ายัยผู้หญิงขี้โวยวายนี่ซะ อ้อ… แกมีเวลาแค่ 20 นาทีเท่านั้นนะ ถ้าแกมาช้าล่ะก็…”

ตู๊ด… ตู๊ดดดด… ตู๊ดดดดดดด…

สายถูดตัดไปพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้ายของอู่หยางเทียนหมิง

เย่เชียนไม่ชักช้าให้ต้องเสียเวลาอีกต่อไป เพราะจากที่นี่ไปยังชานเมือง เขาต้องใช้เวลาตั้ง 30 นาทีกว่าจะไปถึง เมื่อเย่เชียนเดินไปถึงถนนใหญ่ เขาก็ยื่นแขนออกไปเพื่อหยุดรถส่วนตัวคันหนึ่งที่ขับผ่านมา

รถเสียงกระหึ่มไปทั่วคันนี้ได้จอดลงตรงหน้าของเย่เชียน จากนั้นเขาก็บังคับให้คนขับรถออกมาแล้วเข้าไปนั่งแทนที่ตำแหน่งคนขับ แล้วเขาก็เหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็ว

เจ้าของรถเป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบกว่า ๆ เขาจ้องมองไปที่เย่เชียนที่กำลังขับรถของตัวเองจากไปอย่างว่างเปล่า เขาใช้เวลาตระหนักอยู่นานกว่าจะฟื้นสติคืนมาได้ แต่ทว่าเขากลับไม่ตื่นตระหนกตกใจหรือโกรธแค้นแม้แต่น้อย เขาเพียงยิ้มอย่างอภิรมย์และพึมพำว่า “พ่อหนุ่มน้อยเอ๋ย… นี่ถึงกับกล้าเอารถของฉันไปเชียวหรือ ? ฮ่า ๆ ๆ คนนี้สินะพ่อหนุ่มเย่เชียนที่เฟิงเอ๋อร์เคยพูดถึงน่ะ แหม… หยูเอ๋อร์เอ๊ย… วิสัยทัศน์ของเธอนี่ช่างไม่เหมือนผู้หญิงคนไหนเลยจริง ๆ นะ”

แน่นอนว่าเย่เชียนไม่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เพราะตอนนี้เขาเป็นกังวลเรื่องของจ้าวหยามากที่สุด อีกอย่าง เขาก็เหยียบคันเร่งจนมิดทำให้รถพุ่งทะยานไปไกลจากจุดที่เขายึดรถมาได้แล้วด้วย

อู่หยางเทียนหมิงเป็นคนบ้าคลั่งมาก เขาสามารถทำอะไรเมื่อไหร่ก็ได้ทุกเมื่อ ทำให้เย่เชียนไม่กล้าที่จะเสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียว ถ้าอู่หยางเทียนหมิงทำอะไรกับจ้าวหยาจริง ๆ ล่ะก็ มันก็จะไม่มีอะไรเหลือเลยแม้แต่น้อยสำหรับเขา นอกจากความเสียใจและหัวใจที่แตกสลาย

เย่เชียนไม่ใช่คนโง่ เขาไม่รู้ว่าอู่หยางเทียนหมิงนั้นมีคนที่อยู่กับเขาอีกกี่คน ดังนั้นหากเขาไปที่นั่นด้วยตัวเองเพียงคนเดียวด้วยม้าศึกตัวเดียวและหอกด้ามเดียว มันก็คงไม่เพียงพอแน่ ๆ มันไม่ใช่ว่าเขาจะกลัวตายหรือะไร เพียงแต่เขากลัวว่าจ้าวหยาจะเป็นอะไรไปเสียก่อนมากกว่า

อย่างไรก็ตาม กลุ่มเขี้ยวหมาป่านั้นมีประสบการณ์การช่วยเหลือตัวประกันมามากมาย ดังนั้นเย่เชียนจึงโทรศัพท์หาม่อหลงอย่างรวดเร็ว

“ม่อหลง… เดี๋ยวผมจะให้เบอร์โทรคุณเบอร์นึง รีบจดไว้เร็ว…” จากนั้นเขาก็ท่องหมายเลขให้ม่อหลงอย่างไว แล้วเขาก็พูดต่อไปว่า “เดี๋ยวคุณโทรหาเขาโดยบอกเขาว่าคุณเป็นเพื่อนของผมนะ แล้วรีบเตรียมอาวุธประจำตำแหน่งของพวกคุณไปที่ชานเมืองทางตอนเหนือ พิกัดโรงงานเคมีร้างทันที เพื่อนของผมเขาก็เป็นพลซุ่มยิงเหมือนกันกับคุณนี่แหละ นี่เป็นสถานการณ์เร่งด่วน! เราจะสิ้นสุดการติดต่อกันเพียงเท่านี้ และเมื่อพวกคุณไปถึงที่นั่นแล้ว พวกคุณก็จะรู้ว่าต้องทำอะไร เข้าใจตามนี้นะ”

ตอนนี้เย่เชียนกำลังขับรถด้วยความเร็ว 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความประมาทมันอาจนำไปสู่ความพังพินาศได้ เย่เชียนไม่อยากรถคว่ำและจบชีวิตของเขาลงเพียงตรงนั้น ดังนั้นหลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็รีบวางสายไปในทันที

……

หลังจากที่รับสายของเย่เชียนแล้ว ม่อหลงก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขารีบโทรหาฟูจุนเฉิงทันที ในขณะเดียวกัน เขาก็ให้แจ็คช่วยเตรียมปืนสไนเปอร์ให้เขาด้วย เพราะว่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าทุกคนนั้นรู้วิธีใช้และข้อมูลของปืนสไนเปอร์ทั้งหมดเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ม่อหลงนั้น เป็นอันดับหนึ่งของการใช้อาวุธชนิดนี้ เย่เชียนเองก็บอกม่อหลงเกี่ยวกับฟูจุนเฉิงแล้ว เขาจึงรู้ว่าฟูจุนเฉิงเป็นพลซุ่มยิงจากกองทัพเขี้ยวหมาป่าของจีน ดังนั้นฝีมือด้านการซุ่มยิงของฟูจุนเฉิงก็คงไม่ธรรมดาเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเย่เชียนก็คงจะไม่บอกให้ม่อหลงติดต่อกับฟูจุนเฉิงเพื่อขอความช่วยเหลือเป็นแน่

ทางด้านของแจ็ค ผู้ซึ่งกำลังเตรียมการสำหรับสำนักงานและบริษัทรักษาความปลอดภัยกองกำลังพิเศษป้องกันตนเอง และแม้ว่าทุก ๆ เรื่องและแผนกต่าง ๆ จะได้รับการอนุมัติแล้ว รวมถึงใบอนุญาตทางธุรกิจก็ได้รับการอนุมัติแล้วเช่นกัน แต่ข้อกำหนดในการสรรหาบุคลากรของแจ็คนั้นมีมาตรฐานที่สูงมาก มากเสียจนตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่มีความสามารถที่เหมาะสมที่จะได้รับการว่าจ้างเลยสักคนเดียว

นอกจากนี้ เขาก็ยังทำตามคำแนะนำของเย่เชียนในการพัฒนาเขี้ยวหมาป่าสาขาจีนอีกด้วย และพวกเขาก็ไม่สามารถทำตัวสบาย ๆ ผ่อนคลายไปกับวิถีชีวิตของพวกเขาได้ อย่างไรก็ตาม ฝีมือการซุ่มยิงของแจ็คนั้นไม่ได้แย่เลย แต่เพียงเพราะเย่เชียนต้องการตำแหน่งพลซุ่มยิงที่แท้จริง ดังนั้นเย่เชียนจึงเลือกฟูจุนเฉิง ไม่ได้เลือก แจ็คหมาป่าหิมะ

เมื่อฟูจุนเฉิงได้รับสายโทรศัพท์จากม่อหลง ตอนนั้นเขาอยู่ที่บ้านกับภรรยาและลูก ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งสองคนจะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันอย่างเป็นทางการ แต่ทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันราวกับว่าเป็นสามีภรรยากันไปแล้วจริง ๆ แม้แต่เด็กคนนั้นก็ยังเรียกฟูจุนเฉิงว่า ‘ป๊ะป๋า’ เลย

แม้ว่าในตอนแรกฟูจุนเฉิงจะเข้าไปดูแลแม่หม้ายและลูกของเธอด้วยความรู้สึกผิดที่เขาพลาดยิงตัวประกันผิดและฆ่าสามีของเธอไป แต่เมื่อวันเวลาผ่านพ้นไป ฟูจุนเฉิงเองก็ได้ตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ไปจริง ๆ เสียแล้ว

ปัจจุบันฟูจุนเฉิงได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแผนกรักษาความปลอดภัยของบริษัทเทียนหยากรุ๊ป ซึ่งงานนี้ก็ไม่เหมือนงานเฝ้าประตูเหมือนสมัยก่อนอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขารับหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้กับแขกคนสำคัญของบริษัทแทน โดยได้รับค่าว่าจ้างและสวัสดิการต่าง ๆ มากมาย ทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเขาในตอนนี้กำลังดีขึ้นอย่างมาก แต่แน่นอนว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน อาจพูดได้ว่าตอนนี้นั้นฟูจุนเฉิงพอใจกับอาชีพการงานและครอบครัวของเขามากเลยทีเดียว

หลังจากที่ฟูจุนเฉิงได้รับโทรศัพท์จากม่อหลงแล้ว เขาก็ไม่ลังเลใด ๆ เพียงแค่ถามตำแหน่งที่เขาต้องไปจากม่อหลงและรายละเอียดอีกนิดหน่อย จากนั้นเขาก็วางสาย

“เพื่อนร่วมงานของผมต้องการพบผมนิดหน่อยน่ะ… แต่เดี๋ยวผมจะรีบกลับมานะ ถ้าคุณง่วง… คุณก็นอนไปก่อนได้เลยไม่ต้องรอผม” ท่าทางของฟูจุนเฉิงสงบนิ่ง เขาพูดกับภรรยาของเขาอย่างอบอุ่นและอ่อนโยนมาก

ภรรยาของเขาก็เข้าใจเป็นอย่างดี เธอพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็พูดว่า “ระวังรถราด้วยนะ…”

ฟูจุนเฉิงพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูออกไป ลูกผู้ชายตัวจริงนั้นต้องแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าและก็ต้องมีความอ่อนโยนด้วยในบางที ซึ่งฟูจุนเฉิงก็เป็นคนแบบนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ มิฉะนั้นเย่เชียนก็คงจะไม่มาขอความช่วยเหลือจากเขาเป็นแน่ เขาจึงต้องรักษาท่าทางการแสดงออกที่สงบ เพื่อที่จะไม่ทำให้ภรรยาของเขาต้องเป็นกังวล

เป็นเพราะเขารู้สึกว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันค่อนข้างจะร้ายแรง ฟูจุนเฉิงจึงบอกให้คนขับแท็กซี่รีบขับให้เร็วขึ้น เมื่อเขามาถึงจุดนัดพบกับม่อหลงแล้ว ฟูจุนเฉิงก็ลงจากรถและกวาดสายตามองไปรอบ ๆ พื้นที่ เขาเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ใต้เสาไฟข้างถนนและข้าง ๆ ชายคนนั้นก็มีรถแลนด์โรเวอร์จอดอยู่

ฟูจุนเฉิงเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปถามว่า “คุณคือ… ม่อหลงใช่มั้ย ?”

“คุณคือฟูจุนเฉิง…?” ม่อหลงพยักหน้าแล้วถามกลับ เมื่อเขาเห็นฟูจุนเฉิงพยักหน้าให้ เขาก็พูดว่า “ไป… งั้นเราเข้าไปคุยกันในรถกันเถอะ” หลังจากพูดแล้วเขาก็เข้าไปในรถ

“ของอยู่ที่เบาะหลัง… ลองดูซิว่ามันเข้ามือคุณหรือเปล่า ?” ม่อหลงพูด

ฟูจุนเฉิงหันกลับไปมองที่เบาะหลังและเห็นปืนสไนเปอร์สองกระบอกวางอยู่บนเบาะ รวมทั้งแว่นไนท์วิชั่นสำหรับมองตอนกลางคืนอีกสองคู่ กระสุนและอุปกรณ์สำหรับพลซุ่มยิงอื่น ๆ อีกหลายอย่าง หลังจากจ้องมองอย่างงุนงงเล็กน้อย ฟูจุนเฉิงก็หยิบปืนสไนเปอร์ไรเฟิลขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวัง

ยอดนักรบจอมราชัน

ยอดนักรบจอมราชัน

อ่านนิยาย ยอดนักรบจอมราชัน
Status: Ongoing
เรื่องย่อ เขาคือผู้ปกครองที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้างและหน่วยรบพิเศษ เขาคือผู้น่าเกรงขามที่สามารถทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศถึงกับสั่นคลอน! เพื่อพวกพ้องของเขาแล้วเขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อครอบครัวของเขา..เขาก็ไม่ลังเลที่จะหลั่งเลือด! เขานั้นดุจดั่งมังกรที่ทยานขึ้นเหนือสรวงสวรรค์.. พลังของเขานั้นทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ไม่ว่าสถานการณ์จะเสียเปรียบและย้ำแย่เพียงใดก็ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นสายลมหรือผืนน้ำก็ตาม… ————————————– ————————————– ..โปรย.. ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งจุดสูงสุดของเหล่าทหารรับจ้าง..ผู้ที่หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อจะใช้ชีวิตที่แสนธรรมดา..แต่โชคชะตากลับนำพามาเจอแต่เรื่องวุ่นวาย..ชายที่มีนามว่า ‘เย่เชียน’ ถูกขนานนามว่า ‘ราชันหมาป่า’ แต่กลับต้องมาปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะปกป้องหญิงสาวจากองกรค์นักฆ่านานาชาติ…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset