ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 167 การต่อสู้ทางวาจา (1)

เย่เชียนนั้นไม่ได้โง่พอที่จะคิดว่า การที่ฉินเทียนมาที่นี่ในวันนี้นั้นมาเพื่อที่จะสานสัมพันธ์กับเขา หรือจะมาชื่นชมเขาอย่างแท้จริง เย่เชียนรู้ดีว่าคนอย่างฉินเทียนที่เป็นถึงผู้นำสูงสุดของหงเหมินกรุ๊ปนั้นจะไม่ตัดสินใจเรื่องแบบนี้โดยอาศัยเพียงจิตวิญญาณและสัญชาตญาณเท่านั้น ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วฉินเทียนต้องการอะไรหรือมีจุดประสงค์แบบไหน แต่เขาก็เชื่อว่ามันคงจะไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของเย่เชียนกับฉินหยูผู้เป็นลูกสาวของเขาอย่างแน่นอน

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากครับ” เย่เชียนพูด

ฉินเทียนยิ้มอย่างอ่อนโยนและหันไปมองฉินหยู จ้าวหยาและหูวเค่อ จากนั้นก็พูดว่า “พวกหนูไม่อยากไปพักผ่อนกันหรือยังไง ?” เห็นได้ชัดว่าฉินเทียนกำลังหมายความว่าให้พวกเธอไปจากตรงนี้ เพื่อที่เขาจะได้คุยกับเย่เชียนเป็นการส่วนตัว หูวเค่อและจ้าวหยาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดว่า “ลุงฉิน… งั้นพวกเราขอตัวขึ้นไปชั้นบนก่อนนะคะ”

“ตามสบาย” ฉินเทียนพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นก็มองไปที่ฉินหยูอย่างคลุมเครือแล้วจึงพูดว่า “หืม ? ลูกกลัวว่าพ่อจะกลั่นแกล้งพ่อหนุ่มคนนี้งั้นหรือ ? ไม่ต้องกังวล เราแค่จะคุยกันเท่านั้นเอง”

ฉินหยูจ้องมองเย่เชียนอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเธอก็ตัดสินใจเดินขึ้นไปชั้นบน สีหน้าของฉินหยูก่อนที่เธอจะขึ้นไปนั้นดูคลุมเครืออย่างมาก ทำให้เย่เชียนรู้สึกสับสนและว้าวุ่นเล็กน้อยราวกับว่าเธอกำลังบอกให้เย่เชียนทำตัวดี ๆ และอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าไว้ อย่าโอ้อวดหรือหยิ่งผยองมากเกินไปให้เหมือนอย่างลูกเขยที่ดีนั่งคุยกับพ่อตา

เมื่อเห็นฉินหยูเดินขึ้นไปชั้นบนแล้ว ฉินเทียนก็หันหน้ามาหาเย่เชียนแล้วหัวเราะเบา ๆ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วพูดว่า “เฮ้อ… เด็กน้อยหนอเด็กน้อย! กำลังจะมีครอบครัวเป็นของตัวเองอีกครอบครัวแล้วสินะ” ขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น เขาก็เหลือบมองเย่เชียนและยิ้มให้เขาอย่างครุมเครือ

เย่เชียนชะงักไปชั่วขณะและฝืนยิ้มอย่างหมดหนทาง ฉินเทียนคนนี้นั้นอ่านยากมาก ในตอนแรกเขาทำตัวโอ่อ่าและแข็งแกร่งอย่างมากราวกับว่าเขาต้องการใช้พลังและอำนาจที่เขามีเพื่อกดดันเย่เชียน ทว่าในตอนนี้เขากลับดูมีอารมณ์สุนทรีย์และมีความสุข บางทีเขาอาจจะเป็นผู้ใหญ่คนนึงที่อบอุ่นก็เป็นได้

เย่เชียนคิดว่าฉินเทียนนั้นไม่ได้คาดหวังให้เย่เชียนตอบอะไรกลับไป เย่เชียนจึงเพียงยิ้มเล็กน้อยและนิ่งเงียบไป

ฉินเทียนหยิบกล่องซิการ์ออกมาจากกระเป๋าและยื่นให้เย่เชียนพร้อมกับถามว่า “หลานชายเย่… สูบบุหรี่มั้ย ?”

เย่เชียนยื่นมือไปหยิบซิการ์ออกมาจากกล่องพร้อมกับพูดว่า “ปกติแล้วผมจะสูบแค่บุหรี่ ผมไม่เคยสูบซิการ์เลยครับ… แต่ผมจะลองดูครับ” เย่เชียนพูดขณะที่เขาคีบซิการ์ใส่ปาก

“มันเป็นเรื่องดีที่วัยรุ่นจะลองทำสิ่งใหม่ ๆ ดูบ้าง” ฉินเทียนพูดขณะที่เขาจุดซิการ์ เมื่อจุดเสร็จเขาก็วางไฟแช็กลงบนโต๊ะ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มีความตั้งใจที่จะจุดซิการ์ให้เย่เชียน อีกทั้งไม่ได้ยื่นไฟแช็กให้แก่เขาด้วย เขาเพียงพูดว่า “แต่มันก็มีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องชั่งใจเอาไว้ก่อน… และหาข้อดีข้อเสียและจุดแข็งจุดอ่อนของมันเสียเพื่อที่จะได้ไม่เดือดร้อนภายหลัง”

แน่นอนว่าเย่เชียนเองก็ไม่ได้คาดหวังให้ฉินเทียนจุดไฟให้เขา เพราะฉินเทียนเป็นถึงผู้นำสูงสุดของหงเหมินกรุ๊ป ทั้งตำแหน่งและศักดิ์ศรีของเขานั้นอยู่ในจุดที่สูงมาก ดังนั้นเย่เชียนจึงคิดว่าเขานั้นไม่สมควรที่จะให้ฉินเทียนจุดซิการ์ให้

เย่เชียนเอื้อมมือไปหยิบไฟแช็กบนโต๊ะขึ้นมาดูและพูดว่า “จิวองชี่… ถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ยี่สิบและเป็นแบรนด์ที่บ่งบอกถึงคุณลักษณะและนิสัยและอารมณ์ของบุคคลได้อย่างแท้จริง มันเหมาะกับลุงฉินจริง ๆ ครับ” เย่เชียนพูดขณะที่เขาจุดซิการ์ที่เขาใช้ปากคาบเอาไว้อยู่

เมื่อจุดเสร็จเย่เชียนก็วางไฟแช็กลงบนโต๊ะดังเดิม เขาสูบซิการ์อย่างช้า ๆ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ข้อได้เปรียบที่สุดของคนรุ่นหนุ่มสาวก็คือความเยาว์วัย เพราะงั้นพวกเขาจึงมีเวลาเหลือเฟือและก็ไม่ต้องกังวลไปกับความล้มเหลว พวกเขาสามารถที่จะกล้าลองทุกสิ่งทุกอย่างจนกว่าจะสำเร็จ ถ้าหากพวกเขายังคงคอยชั่งน้ำหนักหาข้อดีและข้อเสียอยู่ แต่กลับไม่ได้ลงมือทำล่ะก็ สุดท้ายแล้วคนหนุ่มสาวเหล่านั้นก็จะสูญเสียแรงผลักดันและเป้าหมายของพวกเขาไป รวมไปถึงเจตจำนงแห่งไฟในตัวของพวกเขาอีกด้วย”

ฉินเทียนค่อย ๆ เอนหลังลงบนโซฟาและพูดว่า “แต่ถ้าเจตจำนงเหล่านั้นมันเต็มไปด้วยความเลือดร้อนและทำสุ่มสี่สุ่มห้า หรือพยายามในสิ่งที่ไม่ควรพยายาม นั่นมันก็คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย… ฉันว่าหนุ่มสาวสมัยนี้ไม่ค่อยมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่กันมากนัก”

เย่เชียนยิ้มและถามขึ้นว่า “ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลุงฉินในวัยเด็กคืออะไรงั้นหรือครับ ?”

ฉินเทียนตกตะลึงไปชั่วครู่ เขาเข้าใจความหมายของเย่เชียนเป็นอย่างดี เขาสะบัดเถ้าซิกการ์ในมือจากนั้นก็พูดว่า “คนทุกคนล้วนมีความฝันที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา… ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันก็แค่ต้องการมีเสื้อผ้าและสิ่งของเครื่องใช้ใหม่ ๆ เอาไว้ใช้ในปีถัด ๆ ไป… ฉันโตขึ้นหน่อย ฉันก็อยากที่จะตั้งใจเรียนให้ดีและสอบให้ผ่าน ได้เข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ จากนั้นก็หางานดี ๆ สักอย่างทำ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะบรรลุความฝันเหล่านี้ได้ แต่ตราบใดที่เราเติมเต็มความฝันของเราได้ มันก็จะเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับอนาคตของเรา แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว”

เย่เชียนยิ้มอย่างยินดีและพูดว่า “ถ้างั้นความฝันของลุงฉินก็เป็นจริงแล้วสินะครับ”

“หลายชายเย่จะพูดแบบนั้นก็ได้… แต่หลานรู้มั้ยว่าความเป็นจริงแล้วมันไม่มีอะไรที่สำเร็จได้หรอก เพราะถึงยังไงฉันก็มีความฝันและเป้าหมายใหม่ ๆ อยู่เสมอ มนุษย์นั้นมีความโลภและไม่มีวันพอใจในสิ่งที่ตนมี เมื่อพิชิตสิ่งหนึ่งได้แล้วก็ต้องพิชิตอีกสิ่งหนึ่งให้ได้อีก” ฉินเทียนพูดอย่างเรียบง่าย

“แล้วลุงฉินรู้สึกเสียใจกับความฝันที่หายไปแล้วหรือไม่ได้ทำบ้างหรือเปล่าครับ ?” เย่เชียนยังคงถามต่อไป

“แน่นอนสิ!” ฉินเทียนพูดต่อ “บางครั้งการสูญเสียบางสิ่ง เพื่อให้ได้บางสิ่งนั้นมันก็อาจจะดีกว่า”

เย่เชียนยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดต่อไปว่า “แต่ถ้าลุงฉินพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้บรรลุความฝันเหล่านั้นทั้งหมด ไม่ต้องชั่งน้ำหนักข้อดีหรือข้อเสียอะไรใด ๆ ถึงแม้ว่าลุงฉินจะไม่สามารถบรรลุสิ่งเหล่านั้นได้ก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าลุงฉินจะไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ได้ลองทำมัน”

“ถึงจะไม่เสียใจ แต่ผลลัพธ์มันก็ยังเหมือนเดิมอยู่ดี เพราะความปรารถนามันไม่ได้บรรลุและสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดที่ทำไป มันก็จะเสียเปล่า ในเมื่อทำไปแล้วก็ไม่สำเร็จและไม่มีผลอะไร แล้วทำไมเราถึงต้องไล่ตามความฝันนั้นด้วยล่ะ สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเพียงการเสียเวลาและความพยายามโดยเปล่าประโยชน์” ฉินเทียนพูด

“ผมขอโทษนะครับที่ถามอย่างกะทันหันและหยาบคาย… ลุงฉินและป้าฉินแต่งงานกันด้วยความรักหรือพ่อแม่ของคุณหมั้นหมายให้งั้นหรือครับ ?” เย่เชียนถาม

ฉินเทียนตกตะลึงอย่างมากและไม่สามารถเข้าใจความหมายของเย่เชียนได้เลย ตั้งแต่เริ่มเย่เชียนมีเพียงการแสดงออกที่สงบและเงียบงัน อีกทั้งสายตาของเย่เชียนก็ไม่เคยหยุดมองตรงมาที่เขาเลย เพียงแค่ความสงบสุขุมเยือกเย็นเหล่านี้ของเย่เชียนก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ฉินเทียนประทับใจในตัวของเขา เพราะในปัจจุบันมีคนหนุ่มสาวเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถแสดงท่าทางเช่นนั้นได้ต่อหน้าฉินเทียน ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานของผู้มีอิทธิพลหรือคนดังในสังคม ทุกคนต่างก็ไม่กล้าที่จะแสดงออกแบบนี้เมื่อเผชิญหน้ากับเขา

“เราแต่งงานกันด้วยความรัก!” แม้ว่าฉินเทียนจะไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของเย่เชียนก็ตาม แต่เขาก็ยังตอบด้วยความเต็มใจและจริงใจ

“แล้วตอนนี้ลุงฉินมีความสุขมั้ยครับ ?” เย่เชียนถามต่อ

“แน่นอนสิ!” ฉินเทียนตอบโดยไม่ลังเล

“ถ้าให้เทียบกับชีวิตโสดและมีอิสระแล้วเป็นยังไงบ้างครับ ?” เย่เชียนยังคงถามต่อ

“ความรับผิดชอบมากขึ้น… ความลุ่มหลงในสิ่งต่าง ๆ น้อยลง” ฉินเทียนตอบ

“แล้วถ้าลุงฉินเลือกได้อีกครั้ง… ลุงฉินจะเลือกไม่แต่งงานเลยหรือแต่งงานในบั้นปลายชีวิต หรือแบบที่คุณเป็นอยู่ในตอนนี้ครับ ?” เย่เชียนยังคงถามต่อไป

“คำถามสมมุตินี้ฉันไม่ขอตอบละกัน” ฉินเทียนพูด

เย่เชียนยิ้มเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงสูบซิการ์อีกสองครั้ง จากนั้นก็ค่อย ๆ พ่นควันออกมาเบา ๆ

หลังจากที่เงียบกันไปครู่หนึ่ง เย่เชียนก็พูดขึ้นมาว่า “ความเป็นจริงนั้นมันชัดเจนมากสำหรับเราทั้งคู่ เพราะมีหลายครั้งที่การเดินทางและการผจญโลกนั้นย่อมดีกว่าผลลัพธ์ และผมก็เชื่อว่าเมื่อผมแก่ตัวลงแล้ว สิ่งที่ผมจำได้จะไม่ใช่ผลลัพธ์ แต่เป็นการเดินทางบนโลกใบนี้และความพยายามในการไขว่คว้าเป้าหมาย แล้วถ้าหากผมต้องคอยชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียในทุก ๆ สิ่งตลอดไปล่ะก็ สิ่งนั้นมันก็จะทำให้การเดินทางของชีวิตสูญเสียความมหัศจรรย์ทั้งหมดไป… ลุงฉินคิดว่ายังไงบ้างครับ ?”

ยอดนักรบจอมราชัน

ยอดนักรบจอมราชัน

อ่านนิยาย ยอดนักรบจอมราชัน
Status: Ongoing
เรื่องย่อ เขาคือผู้ปกครองที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้างและหน่วยรบพิเศษ เขาคือผู้น่าเกรงขามที่สามารถทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศถึงกับสั่นคลอน! เพื่อพวกพ้องของเขาแล้วเขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อครอบครัวของเขา..เขาก็ไม่ลังเลที่จะหลั่งเลือด! เขานั้นดุจดั่งมังกรที่ทยานขึ้นเหนือสรวงสวรรค์.. พลังของเขานั้นทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ไม่ว่าสถานการณ์จะเสียเปรียบและย้ำแย่เพียงใดก็ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นสายลมหรือผืนน้ำก็ตาม… ————————————– ————————————– ..โปรย.. ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งจุดสูงสุดของเหล่าทหารรับจ้าง..ผู้ที่หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อจะใช้ชีวิตที่แสนธรรมดา..แต่โชคชะตากลับนำพามาเจอแต่เรื่องวุ่นวาย..ชายที่มีนามว่า ‘เย่เชียน’ ถูกขนานนามว่า ‘ราชันหมาป่า’ แต่กลับต้องมาปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะปกป้องหญิงสาวจากองกรค์นักฆ่านานาชาติ…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset