ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล – ตอนที่ 194 คำสารภาพรักท่ามกลางหิมะแรก (3) / ตอนที่ 195 คำสารภาพรักท่ามกลางหิมะแรก (4)

ตอนที่ 194 คำสารภาพรักท่ามกลางหิมะแรก (3)   

 

 

อันซย่าซย่างงไปหมด “เขาเป็นประธานนักเรียนไม่ใช่เหรอ หยุดเรียนตั้งสัปดาห์ไม่กระทบกับหน้าที่เขาเหรอ”  

 

 

“มันต้องกระทบแน่นอน แต่เขาก็ทำเพื่อเธอเชียวนะ! ไม่หวั่นไหวบ้างหรือไง” ซูเสี่ยวมั่วกะพริบตาใส่เธอ อันซย่าซย่าส่ายหน้า  

 

 

เธอไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกับเซียวเหยี่ยน ดังนั้นสิ่งที่เขาทำจึงดูไร้สาระสำหรับเธอ  

 

 

ซูเสี่ยวมั่วเบะปากแล้วเธอก็บ่นงึมงำ “เธอนี่เล่นตัวจริงๆ เลย การมาชอบเธอนี่งเป็นกรรมของเซียวเหยี่ยน…”  

 

 

อันซย่าซย่าไม่ทันได้ยินแต่ก็มองเพื่อนสาวด้วยความสงสัย “มั่วมั่ว ทำไมฉันถึงมีความรู้สึกว่าเธอออกตัวแรงแทนเซียวเหยี่ยนนักล่ะ”  

 

 

“แหะๆ … เขาสัญญาว่าถ้าฉันช่วยให้เขาได้คบกับเธอ เขาจะเลี้ยงข้าวมันไก่ทอดฉันทั้งเทอมเลยน่ะสิ” ซูเสี่ยวมั่วหัวเราะคิกคัก แต่แล้วก็รีบปิดปากตัวเองทันที  

 

 

ตายละ เธอเผลอหลุดปาก!  

 

 

มัวแต่ยุ่งอยู่กับการฉลองน่ะสิ…  

 

 

อันซย่าซย่าเบิกตาโต “นี่เธอขายฉันแลกกับข้าวมันไก่ทอดเนี่ยนะ”  

 

 

“ว้า ฉันดูเป็นคนแบบนั้นสำหรับเธอเหรอ”  

 

 

“เธอไม่ได้ ‘ดู’ เป็นแบบนั้นหรอก แต่เธอ ‘เป็น’ แบบนั้นเลยต่างหาก!”  

 

 

เมื่อถูกจับได้ ซูเสี่ยวมั่วก็ยิ้มเขินๆ ก่อนจะพูดต่อ “ตกลงปลงใจกับเขาไปเถอะน่า เพื่อเห็นแก่ข้าวมันไก่ทอดของฉัน”  

 

 

เธอขยิบตาใส่อันซย่าซย่า ซึ่งทำให้เธอยกหมอนอิงขึ้นอีกครั้ง ซูเสี่ยวมั่วคว้ากระเป๋านักเรียนของเธอแล้วก็รีบวิ่งไปที่ประตู จากนั้นก็โบกมือให้เธอ “ไปละ บาย เลิฟยูววว”  

 

 

“ไปลงนรกเลย!” อันซย่าซย่าชูนิ้วแทนคำตอบ  

 

 

หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และเห็นว่ามีคำขอเป็นเพื่อนในแอปคิวคิวจริงๆ นั่นแหละ  

 

 

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ตัดสินใจรับเซียวเหยี่ยนเป็นเพื่อนเพื่อที่เธอจะได้อธิบายกับเขาให้ชัดเจน  

 

 

เธอไม่ได้ชอบเขาในแบบนั้นเลยจริงๆ เธอควรจะรีบบอกเขาเสียแต่เนิ่นๆ แทนที่จะยืดเยื้อไปเรื่อยอย่างไม่มีจุดหมายและทำให้เขาเสียเวลา  

 

 

เธอกดปุ่ม “ยอมรับ” และไม่นานนักก็มีข้อความจากเซียวเหยี่ยน  

 

 

[เหยี่ยนหมื่นปี] :  ซย่าซย่าเหรอ  

 

 

[แตงโมกินหน้าร้อน] : _ (:з」∠) _  ใช่  

 

 

[เหยี่ยนหมื่นปี] :  ฉันได้ยินว่าเธอเล่นเกม “สายลมและหมู่เมฆ” ด้วย พวกเรามาเล่นด้วยกันดีไหม  

 

 

อันซย่าซย่ากำลังพิมพ์ข้อความยาวเป็นย่อหน้า เพื่อที่จะบอกเขาว่าอย่ามาชอบเธอเลย แต่แล้วก็รู้สึกเขินอายเมื่อเห็นข้อความของเซียวเหยี่ยน  

 

 

เขายังไม่ได้บอกเลยว่าชอบเธอ ดังนั้นมันคงไม่น่าจะเหมาะเท่าไหร่ที่จะส่งข้อความแบบนั้นกลับไป…  

 

 

เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี จากนั้นก็เพิ่งนึกได้ว่าไม่ได้เล่น “สายลมและหมู่เมฆ” มาสักพักแล้วจึงเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์และจัดการล็อกอินเข้าเกม  

 

 

คราวที่แล้วเธอเคยใช้แอกเคานต์ของอันอี้เป่ยเมื่อตอนที่ท้าแข่งกับฉีเหยียนซี รูปอวตารของเธอคือผู้รักษา ซึ่งเป็นผู้เล่นระดับสูงสุดและมีเครื่องมือเจ๋งๆ อยู่พอดู  

 

 

เซียวเหยี่ยนบังเอิญเข้ามาเล่นในเครื่องเซิร์ฟเวอร์เดียวกับเธอ ดูเหมือนเขาจะไม่ได้เล่นเกมบ่อย เพราะรูปอวตารของเขายังคงอยู่ที่ระดับค่อนข้างต่ำต้อย  

 

 

เขาส่งข้อความมาหาเธอ ดูท่าทางเขินอาย “ฉันควรจะจ่ายเงินเพิ่มระดับสักหน่อยดีไหมนะ…”  

 

 

“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะพานายผ่านด่านต่างๆ เองแล้วเดี๋ยวนายก็จะไต่ระดับขึ้นสูงสุดในอีกไม่กี่วัน” แล้วอันซย่าซย่าก็กดเพิ่มอวตารของเซียวเหยี่ยนเป็นเพื่อนรวมทีมหลังจากส่งข้อความบอก จากนั้นก็เล่นด่านคุกใต้ดินภูเขานกกระทาจนผ่านไปได้ด้วยกัน  

 

 

เซียวเหยี่ยนนั่งงงงวยอยู่หน้าคอมพิวเตอร์—นี่ไม่ใช่แบบที่เขาคิดเอาไว้เลย!  

 

 

แต่ว่า… อันซย่าซย่าก็น่ารักมากจริงๆ  

 

 

เมื่อเห็นอวตารรูปผู้รักษาของเธอบนหน้าจอ เขาก็ยิ้มอย่างพอใจ  

 

 

ไม่กี่วันถัดมา อันซย่าซย่าก็ช่วยเซียวเหยี่ยนอย่างขมีขมันให้ไต่ขึ้นไปยังระดับสูงสุด ทั้งสองคนพูดคุยกันในเกมบ่อยๆ ดังนั้นจึงกลายเป็นคุ้นเคยสนิทสนมกันมากขึ้น  

 

 

หลังจากผ่านด่านสุดท้ายแล้ว เซียวเหยี่ยนก็รวบรวมความกล้า และเอ่ยถาม “ซย่าซย่า พรุ่งนี้เธอพอจะมีเวลาว่างไหม ฉันอยากจะคุยกับเธอ”  

 

 

อันซย่าซย่าตอบ “เอ่อ…ฉันก็ต้องคุยกับนายเหมือนกัน”  

 

 

เซียวเหยี่ยนดีใจมาก อันซย่าซย่าก็ชอบเขาเหมือนกันใช่ไหมนะ  

 

 

“ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้ไปเจอกันที่ด้านหน้าสวนสนุกนะ แล้วเจอกัน!”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 195 คำสารภาพรักท่ามกลางหิมะแรก (4)   

 

 

อันซย่าซย่าตื่นแต่เช้าตรู่ มานั่งรอที่โต๊ะอาหารหลังจากอาบน้ำแต่งตัวแล้ว  

 

 

เธอได้รับสายตาประหลาดใจจากทุกคนบนโต๊ะอาหารในทันที  

 

 

เพราะข่าวอื้อฉาว อันซย่าซย่าจึงไม่ได้ไปโรงเรียนมาเป็นเวลาสองสามวันแล้ว และใช้ชีวิตอย่างไม่เป็นเวลาสักเท่าไหร่ ปกติแล้วเธอไม่เคยตื่นก่อนสิบโมงเช้าเลย  

 

 

ต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน!  

 

 

“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีชีวิตอยู่จนได้เห็นเจ้าหมูน้อยของเราขยันขนาดนี้ แหม ยิ่งเจ้าหมูน้อยยิ่งอ้วนขึ้นเร็วเท่าไหร่ เรายังส่งมันไปโรงฆ่าสัตว์ได้เร็วขึ้นเท่านั้น ช่างน่ายินดีจริงๆ” อันอี้เป่ยซดข้าวต้มอย่างไม่รีบร้อนระหว่างที่พูดจาประชดประชันใส่เธอ  

 

 

อันซย่าซย่ากัดฟันกรอด “ถ้าหนูเป็นเจ้าหมูน้อย พี่ก็เป็นพี่ชายเจ้าหมูน้อย—เจ้าหมูยักษ์!”  

 

 

ทั้งสองปะทะคารมอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง แล้วอันซย่าซย่าก็กระแทกตะเกียบวางลงอย่างโกรธๆ “อิ่มแล้ว หนูมีธุระ”  

 

 

“จะออกไปข้างนอกหรือ” ป๊ะป๋าอันถามอย่างอ่อนโยน  

 

 

“ค่ะ หนูมีนัด”  

 

 

“ผู้ชายหรือผู้หญิง” โล่ของอันอี้เป่ยตั้งขึ้นในทันที แต่แล้วเขาก็กลับหัวเราะออกมา “พนันเลยว่าผู้หญิงแน่ ซูเสี่ยวมั่วใช่ไหม จะมีผู้ชายที่ไหนมาชอบเธอ”  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อและฉือหยวนเฟิงสะดุ้งเล็กน้อยกับคำพูดนั้น  

 

 

อันซย่าซย่าแก้มป่อง “ผู้ชายค่ะ! แล้วก็หล่อมากๆ ด้วย!”  

 

 

“เหรอ งั้นเธอก็ไม่อยากได้ค่าขนมแล้วสินะ” อันอี้เป่ยหรี่ตาอย่างข่มขู่ เธอยอมแพ้ในทันที “ก็ได้ เขาเป็นแค่เพื่อนเท่านั้นเอง อย่าหักเงินค่าขนมหนูอีกเลยนะ ไม่งั้นหนูจะไม่เหลืออะไรกินแล้ว…”  

 

 

อันอี้เป่ยสดชื่นขึ้นเล็กน้อยกับคำตอบ  

 

 

อันซย่าซย่าออกจากบ้านพร้อมกับเป้สะพายไหล่และฮัมเพลงไปด้วย  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อวางชามข้าวลง ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นสามด้วยใบหน้าเย็นชา  

 

 

ป่าป๊าอันงุนงงเป็นที่สุด แทบไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กพวกนี้ เพราะเขาไม่ได้ดูข่าวจึงไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น  

 

 

เหอจยาอวี๋และฉือหยวนเฟิงมองหน้ากันไปมาก่อนจะขอตัวขึ้นข้างบนเช่นกัน  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อกำลังยืนอยู่ข้างหน้าต่าง กำลังมองดูอันซย่าซย่ากระโดดไปทางป้ายรถเมล์อย่างร่าเริง  

 

 

กล้าดียังไงถึงได้พูดถึงการไปเดตกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าเขา! ยัยจิ๋วนี่นับวันชักจะเอาใหญ่แล้วนะ!  

 

 

“ถ้ามันทำให้นายเป็นห่วงนักละก็ ตามเธอไปสิ” เหอจยาอวี๋หยอก  

 

 

“ทำไมต้องไป เขาอยากจะไปเจอคนอื่นก็เชิญตามสบาย อยากเห็นเหมือนกันถ้าถูกพวกค้ามนุษย์มาจับตัวไป!” เซิ่งอี่เจ๋อตอบอย่างดื้อรั้น แต่อย่างไรก็ตาม ฉือหยวนเฟิงดูท่าทางเศร้าๆ ขณะพูด “ถ้าพี่ไม่ตาม ผมตามเอง ผมไม่อยากให้ซย่าซย่าไปเดตกับคนอื่น…”  

 

 

แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ขยับ เซิ่งอี่เจ๋อก็คว้าหลังคอเสื้อเขาเอาไว้  

 

 

“หยุดแล้วรออยู่นี่แหละ นายรังแต่จะสร้างปัญหา”  

 

 

“โอ้…” ฉือหยวนเฟิงมักจะเกรงเซิ่งอี่เจ๋อมาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงยอมเชื่อฟังอย่างเสียไม่ได้  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อสวมหมวกเบสบอลและผ้าปิดปาก จากนั้นก็เดินลงบันไดไปด้วยท่าทีเฉยเมย  

 

 

ฉือหยวเฟิงยืนพิงกรอบหน้าต่างพลางมองออกไป เป็นอย่างที่คาดไว้ เซิ่งอี่เจ๋อปรากฏตัวขึ้นเบื้องหลังอันซย่าซย่าหลังจากนั้นไม่นาน แล้วก็เริ่มสะกดรอยตามเธอ  

 

 

“เจ้าคนปากอย่างใจอย่างนั้นชอบพูดว่าไม่แต่ในใจบอกใช่” เหอจยาอวี๋ตั้งข้อสังเกต ส่วนฉือหยวนเฟิงนั้นกลับกัน น้ำเสียงดูมีเลศนัย “จริงๆ เลยนะ พี่อี่เจ๋อที่กำลังสะกดรอยตามอยู่เนี่ย ดูน่าสมเพชจังเลย ฮ่าๆๆๆ”  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อแอบจามพลางนิ่วหน้า มีคนกำลังนินทาเขาลับหลังหรือเปล่า  

 

 

หลังจากอันซย่าซย่าขึ้นรถประจำทางแล้ว เขาก็เรียกแท็กซี่แล้วสั่งให้ตามไปอย่างไม่รีบร้อน  

 

 

ในที่สุดรถแท็กซี่ก็หยุดลงที่ด้านหน้าสวนสนุก  

 

 

ใบหน้าชายหนุ่มเคร่งเครียด เธอมาเจอใครที่นี่กันนะ!  

 

 

นี่มันเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการเดตไม่ใช่รึไง!  

 

 

ให้ตาย เกิดอะไรขึ้นกับคำว่า “แค่เพื่อน” !  

 

 

เธอคงไม่ได้ถูกหลอกให้มาหรอกนะ  

 

 

เมื่อคิดดูอีกที แบบนั้นน่าจะเป็นไปได้ที่สุด…  

 

 

อยู่ๆ เซิ่งอี่เจ๋อก็รู้สึกแรงกล้าว่าเขาจะต้องมีภารกิจเสียแล้ว  

 

 

ชายหนุ่มหลุบปีกหมวกลง เขาตามเธอไปอย่างไม่สบอารมณ์  

 

 

เอาละ เริ่มภารกิจช่วยเหลืออันซย่าซย่าจอมบื้อกันเลย!  

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

อันซย่าซย่า แอนตี้แฟนของกลุ่มไอดอลวงสตาร์รี่ไนต์ชอบหาเรื่องมาฉะด่าว่าร้าย เซิ่งอี่เจ๋อ นักร้องนำของวงไม่เว้นวัน นี่จะนับว่าเป็นงานอดิเรกสุดโปรดของเธอเลยก็ว่าได้ ทว่าเหมือนโชคชะตาเล่นตลก พอเธอเข้าเรียนมัธยมวันแรก สามหนุ่มวงสตาร์รี่ไนต์ก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเธอเสียได้ ซ้ำร้ายยังมาเช่าบ้านเธออยู่อีก! ถ้าเธอไม่เผลอไปเฉี่ยวชนรถคันหรูราคาแพงของเซิ่งอี่เจ๋อเข้าจนเป็นหนี้หัวโตก็คงจะมีข้อแม้มาไล่เขาออกจากบ้านได้ สุดท้ายก็ได้แต่ยอมจำนน แถมยังตกปากรับคำเป็นผู้ช่วยศิลปินจำเป็น ทำงานใช้หนี้ทั้งที่เธอยังอยู่แค่มัธยมปลายแท้ๆ จะว่าไปแล้ว เจ้าหน้าหล่อนั่นดูท่าทางจะสนใจเธอเป็นพิเศษด้วยสิ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset