ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 163

ปรมาจารย์ทอง!

ร่างของวิญญาณฆาตกรค่อยๆแตกสลายหายไป ไม้เลื้อยที่พัวพันรอบเขาวงกตก็เหี่ยวเฉาและร่วงโรยตกลงบนพื้นจนหมด

จิวโมไป๋เก็บกระบี่เลือนเร้นในแหวนมิติเก็บของ คลื่นพลังวิญญาณอันรุนแรงพุ่งเข้าสู่ทะเลจิตวิญญาณของเขา จนเมฆทองอ่อนสั่นไหวอย่างรุนแรง

จิวโมไป๋นั่งสมาธิท่องเคล็ดบ่มเพาะจิตวิญญาณหัวใจพิสุทธิ์

ดอกบัวหัวใจพิสุทธิ์ที่ลอยอย่างสงบ หมุนวนอย่างช้าๆ พลังงานสีขาวแผ่กระจายออกไปทั่วทะเลจิตวิญญาณ ทำให้การสั่นไหวหยุดลง

เศษชิ้นส่วนวิญญาณฆาตกร หลอมร่วมกับเมฆสีทองอ่อน สีทองของเมฆชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

พลังวิญญาณของจิวโมไป๋เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จิตสัมผัสขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาจิตสัมผัสก็ขยายออกไปถึง 2 กิโลเมตรก่อนจะหยุดลง

จิวโมไป๋พ้นลมหายใจออกอย่างช้าๆ แล้วลืมตาขึ้น นัยน์ตาสีน้ำตาลเปลี่ยนเป็นสีทองคำแวววาว ก่อนจะกลับมาเป็นสีน้ำตาล

ปรมาจารย์ทองคำ!

จิวโมไป๋ยกมือขึ้นมากำหมัดแน่น วงแหวนอักขระทองคำสีเข้มเป็นประกายสดใสงดงาม โชคของเขานั้นดีมาก ที่สามารถเลื่อนระดับปรมาจารย์ 2 ขั้น ภายในวันเดียว

เขาไม่แปลกใจที่สามารถเลื่อนระดับปรมาจารย์ได้ง่าย การบ่มเพาะจิตวิญญาณในเส้นทางปรมาจารย์ จะพูดว่าง่ายมันก็ง่ายจะพูดว่ายากมันก็ยาก

โดยพื้นฐานปรมารจารย์จะค่อยๆสะสมระดับการณ์บ่มเพาะจิตวิญญาณ ไม่ต่างจากการบ่มเพาะพลัง

แต่ที่แตกต่างคือ การบ่มเพาะพลังจะมีเคล็ดบ่มเพาะพลังที่สมบูรณ์พร้อมอยู่แล้ว ไม่ต้องทำความเข้าใจหรือตีความเคล็ดบ่มเพาะพลัง ทำให้สามารถบ่มเพาะไปข้างหน้าได้เรื่อยๆแต่เป็นเส้นตรง และยังมีร่างกายที่ต้องค่อยๆสร้างรากฐานไปทีละขั้น ถ้าพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจะทำให้รากฐานอ่อนแอ ในอนาคตจะยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆในการบ่มเพาะพลัง

ทำให้ผู้บ่มเพาะพลังไม่สามารถพัฒนาอย่างก้าวกระโดดได้ เพราะมันจะให้ผลร้ายมากกว่าผลดี

แต่สำหรับคนที่มีรากฐานของร่างกาย ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว จะรีบเร่งบ่มเพาะพลังก็ไม่ผิด

สำหรับการบ่มเพาะจิตวิญญาณ จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับ การตีความและความเข้าใจในเคล็ดบ่มเพาะจิตวิญญาณ คนที่ไม่เข้าใจ ถึงจะพบโชควาสนามากมายเพียงใด ก็ไม่สามารถพัฒนาเพิ่มขึ้นได้ แต่คนที่สามารถเข้าใจเคล็ดบ่มเพาะจิตวิญญาณและมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะจิตวิญญาณ แค่ได้รับโอกาสเล็กน้อย ระดับการบ่มเพาะจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ไม่น่าตกใจ

และการสะสมจิตวิญญาณ มันอยู่ภายในทะเลจิตวิญญาณ มันไม่มีอุปสรรคเหมือนร่างกายของมนุษย์ ที่ค่อยขวางรั้งไม่ให้ผู้บ่มเพาะพลังพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว

ทำให้ผู้บ่มเพาะจิตวิญญาณสามารถพัฒนาอย่างได้เร็วแค่ไหนก็ได้ มันไม่สร้างผลกระทบร้ายแรงให้กับผู้บ่มเพาะ

แต่ถ้าเร่งพัฒนาการบ่มเพาะพลังจิตวิญญาณด้วยวิธีรุนแรง จิตวิญญาณอาจเสียหาย จะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว อาจต้องพักฟื้นเป็นเดือนหรืออาจจะเป็นปี

ในอดีตระดับการบ่มเพาะจิตวิญญาณของจิวโมไป๋ สูงมากอยู่แล้ว เมื่อได้รับการเกิดใหม่ จิตวิญญาณของเขา แค่รอโอกาสในการพัฒนาอย่างรวดเร็วเท่านั้น

ภายในทะเลจิตวิญญาณ ผลึกอาณาเขตวิญญาณ บ้านของวิญญาณแฝดขยายใหญ่ขึ้น กลายเป็นบ้าน 4 ชั้น

จิวโมไป๋เพ่งสมาธิไปที่ตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้น เขาสัมผัสได้ถึงกรรมชั่ว ที่ถูกกักขังอยู่ในตำหนักยุทธ มันลอยอยู่ข้างผนัง ไม่สามารถออกมาได้ เหมือนมีพลังบางอย่างกักขังมันเอาไว้ และเขาสังเกตเห็นว่า กรรมชั่วไม่กล้าเข้าใกล้กระบี่เลือนเร้น

จิวโมไป๋ทดลองใช้กระบี่เลือนเร้นทำลายกรรมชั่ว ที่ลอยอยู่ใกล้ๆ ระกับการบ่มเพาะพลังกระบี่เลือนเร้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

เหมือนที่เขาคิดไม่มีผิด จิวโมไป๋ คำนวณกรรมชั่วที่สะสม ถ้าเขาทำลายกรรมชั่วทั้งหมด ในตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้น เขาจะสามารถพัฒนาจากขั้นที่ 2 กลาง ทะลวงผ่านไปขั้นที่ 3 เส้นเอ็นต้นได้ทันที แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ เพราะเขาอยากจะรู้ว่า ถ้าเขาสะสมกรรมชั่วไว้มากพอ และทำลายมันในครั้งเดียว เขาจะสามารถทะลุขั้นสร้างฐานสูงสุดได้หรือไม่

ถ้าทำได้ เคล็ดบ่มเพาะพลังกระบี่เลือนเร้น จะกลายเป็นเคล็ดบ่มเพาะพลังระดับตำนานอย่างแท้จริง

ในมิติระดับล่างและกลาง การทะลุขั้นสร้างฐาน สูงสุด ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำ

มิติระดับสูงแม้จะมีผู้ทะลุขั้นสร้างฐานสูงสุด แต่ก็มีน้อยมากอยู่ดี ส่วนใหญ่จะเป็นอัจฉริยะที่ตระกูลที่ปกครองมิติเลี้ยงดู หรือศิษย์ใกล้ชิดของปรมาจารย์สำนักใหญ่

และการทะลุขั้นสร้างฐานสูงสุด 1 ครั้ง นั้นว่ายากแล้ว ขั้นต่อๆมายิ่งยากขึ้นไปอีก

ถ้าเคล็ดบ่มเพาะพลังกระบี่เลือนเร้น ทำการชำระล้างกรรมชั่วที่สะสม แล้วสามารถที่จะทะลุขั้นสร้างฐานสูงสุดได้จริงๆ หมายความว่า การทะลุขั้นสร้างฐานต่อไป ก็สามารถทำได้อีก

จิวโมไป๋เคยคิดที่จะทะลุผ่านขั้นสูงสุดแค่ 1 ครั้ง เพราะเขาได้ตรวจสอบทรัพยากรของโลกในตอนนี้แล้ว เขาก็พบว่าสมุนไพรวิเศษล้ำค่าหรือวัตถุโบราณยังไม่ปรากฏขึ้น หรืออาจจะปรากฏขึ้นแล้ว แต่เขาไม่รู้ เหมือนเห็ดเพลิงเผาไหม้ ที่เขาไม่เคยได้ข่าว อยู่ๆก็ปรากฏขึ้นในมือของกลุ่มแมงป่อง

การที่เขาจะรวบรวมทรัพยากร เพื่อทะลุขั้นสร้างฐานสูงสุดในครั้งที่ 2 เป็นเรื่องยากมาก การที่เขาทะลุขั้นสร้างฐานสูงสุดครั้งที่ 1 ผิวหนัง ถือว่าเป็นโชคในคราวเคราะห์เสียด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้ถ้าเคล็ดกระบี่เลือนเร้น สามารถทำให้เขาทะลุขั้นสูงสุดได้จริงๆ ความฝันที่จะทะลุขั้นสูงสุด 9 ครั้งจะไม่ได้เป็นแค่ฝันอีกต่อไป

จิวโมไป๋หยุดระดับการบ่มเพาะตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้นไว้ขั้นที่ 2 กลาง เพราะกลัวว่าอาจเกิดอะไรผิดพลาด ทำให้เผลอทะลวงผ่านไปขั้นที่ 3

จิวโมไป๋ลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องลับใต้ต้นไม้ใหญ่

ทางด้านมู่คังอยู่ๆสมองของเขาก็รูปสึกปวดแปลบ เขาทรุดตัวล้มลง ฉินซื่อหลัน รีบเข้ามาจับมู่คัง ทำให้มู่คังไม่ล้มหน้าทิ้มลงบนพื้น

มู่คังนิ่งไปครู่หนึ่ง เมื่อความเจ็บปวดหายไป เขาพบว่าสติของเขาอยู่ที่ทะเลสีทองแดงเลือนราง

ที่นี่มัน? มู่คังมองไปยังเมฆสีทองแดงเบื้องหน้า ด้วยความสับสนงุนงง ก่อนจะลืมตาตื่นขึ้น เมื่อร่างของเขาถูกฉินซื่อหลันเขย่าอย่างแรง

มู่ตังลืมตาเขามองไปรอบๆ ก็พบว่าประสาทสัมผัสทั้ง 5 เฉียบคมขึ้น เขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ในระยะ 200 เมตร การได้ยินของเขา สามารถได้ยินเสียงหัวใจเต้นของฉินซื่อหลันที่อยู่ข้างๆ

เกิดอะไรขึ้น?

มู่คังค่อยๆลุกขึ้นยืน จากการพยุงของฉินซื่อหลัน โดยไม่รู้ตัวนัยน์ตาของเขาเป็นประกายสีทองแดงก่อนจะหายไปในเสี้ยววินาที

จิวโมไป๋เข้าไปในห้องลับใต้ต้นไม้ เขาก็พบแผ่นป้ายไม้แตกหักกระจายอยู่ในทั่วห้อง

ป้ายไม้ที่แตก คือชื่อของคนที่ถูกวิญญาณฆาตกรสังหาร เมื่อตอนที่วิญญาณฆาตกรยังมีชีวิตอยู่ ก่อนที่วิญญาณฆาตกรจะฆ่าตัวตายในภายหลัง

ในอดีตหลังจากที่เขากำจัดวิญญาณฆาตกร เขาก็สืบหาข่าวเกี่ยวกับสาเหตุ ที่สวนสนุกต้องปิดตัวลง แต่ก็ไม่พบเบาะแส เหมือนถูกลบหายไปในอากาศ จนกระทั้งถึงตอนที่เขา เข้าไปเป็นสมาชิดหน่วยลับ เขาก็พบข่าวของสวนสนุกร้าง ที่รัฐบาลพยายามปกปิด

เหตุการณ์ฆาตกรรมสวนสนุก เป็นเหตุฆาตกรรมที่รุนแรง เพราะอยู่ในช่วงเวลาหลังจากที่ประเทศใช้ระบบ Nuwa เพื่อบังคับใช้กฏหมายของประเทศได้ไม่นาน

ก่อนเกิดเหตุ ได้มีการหายตัวไปของผู้เล่นในสวนสนุก ซึ่งตามข้อบังคับ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องส่งตำรวจไปค้นหาคนหาย แต่ใครจะคิดว่า เพียง 4 วัน ฆาตกรจะฆ่าเหยื่อทั้งหมดและฆ่าตัวตายตาม

ทำให้ในเหตุการณ์นั้นฝ่ายรัฐบาล รู้สึกเสียหน้าอย่างมาก พวกเขาบอกปัดความรับผิดชอบให้กับระบบNuwa ที่ไม่ยอมแจ้งพวกเขาในทันที เมื่อเกิดการสังหารขึ้นครั้งแรก ทำให้พวกเขาไปที่เกิดเหตุสายไป

แต่Nuwa เป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ชั้นยอด มันทำตามกฏข้อบังคับทุกตัวอักษร การทำงานของมันถูกต้องที่สุด มันกล่าวโทษรัฐบาล ที่ทำงานล่าช้าเอง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

เหตุการณ์ฆาตกรรมสวนสนุก กลายเป็นหัวข้อถกเถียงกันอย่างยาวนาน สุดท้ายมันก็กลายเป็นคดีที่ไม่มีการรายงาน หริอประกาศข่าว

Nuwa เห็นถึงปัญหาของหน่วยงานของรัฐบาล ที่ต้องผ่านขั้นตอนหลายขั้นตอน ก่อนที่จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ Nuwa จึงสร้างหน่วยลับ ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องตกเป็นเหยื่อ ในคดีร้ายแรงและการก่อการร้ายโดยเฉพาะ…

ในตอนนั้นจิวโมไป๋ค้นหาข้อมูลอยู่นาน เขาก็พบเหตุการณ์ที่แท้จริงของสวนสนุก

ฆาตกรคือ บุตรชายเจ้าของสวนสนุก เขาได้แอบลักพาตัว คนที่มาเที่ยวสวนสนุกกว่า 61 คน มาคุมขังไว้ในห้องใต้ดิน ใต้ต้นไม้ในเขาวงกต

เมื่อมีการหายตัวไปของคนจำนวนมาก ตำรวจได้ออกสืบหาเกี่ยวกับการหายตัวไปก็ไม่พอ สุดท้ายสวนสนุกก็ต้องปิดตัวลงชั่วคราว เพื่อค้นหาคนที่หายตัวไป

ในเวลากลางคืนของวันที่ 4 หลังจากการหายตัวไป บุตรชายเจ้าของสวนสนุกได้พาเหยื่อไปที่เครื่องเล่นและทำการทรมารก่อนจะสังหาร 1 คน ต่อ 1 เครื่องเล่น เขาหยุดลงเมื่อถึงเครื่องเล่นที่ 61

และบุตรชายเจ้าของสวนสนุกก็ฆ่าตัวตายหน้าทางเข้าเขาวงกต

เช้าวันต่อมามีคนพบศพคนที่หายตัวไป ถูกสังหารในเครื่องเล่นทั่วสวนสนุก ทำให้สวนสนุกถูกตรวจสอบอีกครั้ง และถูกปิดตัวลงอย่างถาวร

ไม่มีใครทราบสาเหตุ ว่าทำไมบุตรชายเจ้าของสวนสนุก ถึงต้องลงมือสังหารเหยื่อ เขาทำไปเพื่ออะไร?…

จิวโมไป๋จุดไฟเผาห้องลับและต้นไม้ทิ้ง จากนั้นเขาก็เดินออกมา เขาหยิบพลองผ่านฟ้าออกจากแหวนมิติเก็บของ ถือมัน เดินผ่านทางแยกต่างๆ เพื่อไปรับเสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมย แต่เหมือนใครบางคนจะไม่ให้เขาได้ไปดีๆ

ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์

ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์

ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์
Status: Ongoing
อ่านนิยายย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ จิวโมไป๋ ชายอายุเกือบ100ปี ได้ย้อนเวลากลับมาก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรมที่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องพังพินาศ เขาใช้ความรู้ในอนาคตเพื่อปกป้องครอบครัวและสหาย สร้างกองกำลังที่แข็งแกร่งเพื่อเข้าร่วมสงครามในอนาคต

Comment

Options

not work with dark mode
Reset