ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 188

ห้องใต้ดิน

ด้านนอกโรมแรมเทียนถัง

ถังอี้ ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 ต้น ของตระกูลถังปรากฏตัวตรงจุดที่เกิดการระเบิดอย่างรวดเร็ว หัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยที่มาถึงก่อน เข้าไปรายงานเหตุการณ์ระเบิดคราวๆ ถังอี้พยักหน้ารับพร้อมกวาดตามองไปรอบๆ ประสาทสัมผัสถูกยกระดับถึงขีดสุด คิ้วของเขาขมวดแน่น เขาพบผู้บ่มเพาะพลังชั้นสูงจำนวนมากซ่อนตัวอยู่รอบๆโรงแรม

ในตอนนั้นเองเขาหันไปมองทางด้านหนึ่ง และพุ่งตรงไปทางนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปเขาไม่ลืม ที่จะร้องบอกหัวหน้ายามรักษาความปลอดภัย

“เรียกกำลังเสริมมาคุ้มกันคุณชาย อย่าปล่อยให้ใครเข้าไปในโรมแรมได้”

หยวนเซี่ย ผู้อาวุโสตระกูลหยวน สัมผัสได้ถึงผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งเคลื่อนตัวเข้ามาหา เขากระโดดออกจากที่ซ่อน ตั้งรับพร้อมต่อสู้

“หยวนเซี่ย ตระกูลหยวนของแก คิดจะหาเรื่องพวกเราใช่ไหม”ถังอี้เขายิ้มเยาะดูแคลน ร่างของเขาหยุดตัวลงด้านหน้าของหยวนเซี่ย พลังกดดันแผ่กระจายออกจากร่าง

“ถังอี้ ฉันไม่คิดว่าจะเจอแกที่นี่”หยวนเซี่ยไม่ได้เกรงกลัว เขาเร่งพลังกดดันปะทะโดยตรง สิ่งของที่อยู่แถวนั้นสั่นไหวอย่างรุนแรง”กล้าโผล่มาให้ฉันเห็นหน้า แสดงว่าความพ่ายแพ้ครั้งที่แล้ว ไม่ทำให้แกรู้สึกถึงความต่างชั้นหรือไง”

“ครั้งนั้นฉันแพ้ แล้วยังไง ฉันไม่จำไปใส่ใจด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นการต่อสู้ที่ไร้ศักดิ์ศรี แกใช้วิธีแบบหมาลอบกัดเอาชนะฉันไปได้ มันน่าภูมิใจนักเหรอ แต่ถ้าแกรู้สึกภูมิใจ กับชัยชนะแบบนั้นจริงๆ ฉันก็ได้แต่พูดว่า…”ถังอี้กล่าวเย้ยหยัน

“สมแล้วที่เป็นพวกชอบทำอะไรหลับหลัง เหมือนหนูขี้ขลาด”

“แกอย่าได้ปากดีนัก ถ้าไม่ใช้ตระกูลถังรับแกไปเลี้ยง แกมันก็แค่ขยะที่ไม่มีใครต้องการ”หยวนเซี่ยกล่าวจี้ใจดำ เขาขุดเรื่องอดีตดูแคลนถังอี้

แววตาของถังอี้ลุกโชน ด้วยความโกรธ เรื่องที่เขาถูกทิ้งเป็นเด็กกำพร้าเป็นบาดแผลในใจของเขา ที่พยายามจะลืม หน้าผากของเขาปรากฏรอยสักค้อนสีแดงเพลิง

เพลิงสีแดงลุกไหม้บนมือของถังอี้ กลายเป็นค้อนเหล็กทองแดงมีลวดลายสีแดงเพลิงล้อมรอบด้ามจับ

“ฮ่าๆ แค่นี้ก็รับไม่ได้ คนอย่างแกก็เป็นแค่คนไร้ค่า”หยวนเซี่ยยิ้มเยาะ หน้าผากของเขาปรากฏรอยสัก หมาป่าสีน้ำตาล

ด้านหน้าของเขาแผ่นดินยกตัวขึ้นกลายเป็นหมาป่าสูง 3 เมตร มันร้องคำรามเสียงดัง เขี้ยวสีน้ำตาลแหลมคม ท่าทางหยิ่งผยอง

ถังอี้หมุนควงค้อนในมือ เพลิงสีแดงลุกไหม้แผดเผารอบร่างกาย เขาพุ่งตัวเข้าไปหาร่างหมาป่า ค้อนทุบลงไปอย่างรุนแรง

ตูมม!

แรงปะทะแผ่กระจายเป็นวงกว้าง ชิ้นส่วนสิ่งของที่ไม่มั่นคงถูกแรงปะทะพัดกระเด็นออกไปไกล คนที่ซ่อนอยู่แถวนั้นต้องเคลื่อนตัวหลบออกไป แต่โชคร้ายที่ยามรักษาความปลอดภัยขั้นที่ 7 ของตระกูลถัง ตรวจพบ พวกเขารีบเขาไปหยุด เกิดการต่อสู้กันอย่างรุนแรง

กลายเป็นการต่อสู้ชุลมุนหลายพื้นที่

ถังเป๋ย ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 กลาง ยืนอยู่บนอาคารห่างออกไปเล็กน้อย เขามองการต่อสู้ด้วยท่าทางครุ่นคิดบางอย่าง การต่อสู้ด้านล่างดูเหมือนจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก

แต่ในตอนนั้นเอง

บึม! เสียงระเบิดก็ตั้งขึ้นทางทิศตะวันตก ถังเป๋ยตื่นตัวพุ่งไปทิศทางเสียงระเบิดทันที

ในเวลาเดียวกัน จางหาน ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 ของสำนักแพรหยก รู้ว่าสถานการณ์ไม่ดี เขารีบออกจากที่ซ่อน

แต่ไม่ทันที่เขาจะได้หนีไป

ถังเป๋ยก็มาถึง เขาไม่พูดให้เสียเวลา พุ่งเขาหาจางหานทันที รอยสักค้อนเพลิงปรากฏขึ้นบนหน้าผาก ในมือถือค้อนสี่เหลี่ยมด้านยาวสีเงิน เขาทุบค้อนดักหน้าจางหาน

เปรี้ยง! จางหานหลบได้ทัน แต่ถนนด้านหน้าถูกทุบแตกกระจายเป็นชิ้นๆ ผู้คนที่อยู่แถวนั้นกรีดร้องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว คนที่อยู่ในรถยนต์รีบลงจากรถและวิ่งหนีไปอย่างไม่ลังเล พวกเขามองพื้นที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ถ้าพวกเขาโดนลูกหลง ชีวิตก็ไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้

“หลบไป! แกคิดจะเป็นศัตรูกับสำนักแพรหยกใช่ไหม”จางหานพูดขู่หน้าผากของเขาปรากฏรอยสักนกอินทรีสีเขียวอ่อน ด้านหน้าของเขาเกินพายุหมุนขนาดเล็กนกอินทรีขนาด 2.5 เมตรปรากฏขึ้น จางหานไม่รอช้ากระโดดขึ้นนกอินทรีเพื่อที่จะหนี แต่ถังเป๋ยไม่ยอมเขาพุ่งเขามาดักและทุบค้อนเข้าใส่ เปลวเพลิงสีแดงลุกไหม้พุ่งเข้ามาอย่างน่าหวาดกลัว

“บ้าเอ้ย!”จางหานร้องตะโกน ร้องสั่งเคล็ดบ่มเพาะพลังอิรทรีจ้าววายุผ่านเชื่อมจิต สั่งให้มันเร่งความเร็ว แต่ก็ไม่ทันค้อนตกมาเบื้องหน้าแล้ว จางหานกัดฟันพุ่งเอาตัวเข้ารับ

ปัง! ร่างของจางหานกระเด้นกลับไปกระแทกร่างของนกอินทรี พวกเขาลอยไกลออกไปหลายสิบเมตร ปากของเขากระอักเลือดสีแดงออกมา เสื้อของเขาฉีดขาดปรากฏเกาะชั้นดีที่มีรอยร้าวขนากใหญ่

“ได้! ถ้าแกอยากจะต่อสู้นักฉันก็จะช่วยเอง”จางหานกล่่าวเสียงเย็นชา รอยสักบนหน้าผากส่องประกลายเขียวอ่อนเจิดจ้า พลังงานสีเขียวอ่อนห่อหุ่มร่างของนกอินทรี มันร้องเสียงแสบแก้วหูก่อนจะพุ่งเข้าหาฉินเป๋ย ด้วยความเร็วเหนือเสียง!

เสียงสายลมลุกไหม้อย่างน่ากลัวพุ่งเข้าหาร่างของอี้เป๋ย…

บนภัตตาคาร

“งี่เง่า ทำไมไม่รีบหนี ไปต่อสู้ทำไม”หยวนหลินหวางตบโต๊ะอาหารเสียงดัง

“ฝ่ายตรงข้ามของผู้อาวุโส 7 หยวนเซี่ย คือผู้อาวุโส 6 ตระกูลถัง ถังอี้ครับ”ผู้คุ้มกันด้านหลังกระซิบแผ่วเบา

หยวนหลินหวางเงียบไปครู่หนึ่ง เขารู้ถึงการต่อสู้ชิงดีชิงเด่นของทั้งสองเป็นอย่างดี พวกเขาอายุเท่ากัน และอยู่ในตระกูลราชวงศ์ในเมืองเดียวกัน ไม่แปลกที่จะต้องมีการเปรียบเทียบ ทั้งสองต่อสู้กันมาตั้งแต่หลายสิบปีจนถึงปัจจุบัน สลับแพ้ชนะกันตลอด เมื่อพบกันทั้งสองต้องสู้กันจนกว่ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้

หยวนหลินหวางถอนหายใจ ก่อนจะพูดสั่งอะไรบางอย่าง

ด้านบนห่างกันแค่ 1 ชั้น

หม่าคุน เขายกแก้วไวท์ขึ้นดื่มจนหมด ก่อนจะกวักมือบอกคนของเขาให้ชำระเงิน ก่อนที่ตัวเองจะเดินออกไป

ชั้นที่ 3 โรงแรมเทียนถัง

ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย

ผวัะ! จิวโมไป่ใช้มือกระแทกหลังคออย่างแรง จนถังหมิงหยุนสลบ เขาอยากจะลงมือทรมาน แต่ต้องหักห้ามเอาไว้ เพราะกลัวผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 จะได้ยิน ยันต์กันเสียงของเขาสามารถกันเสียงได้ก็จริง แต่ก็ไม่สามารถกันเสียงได้ทั้งหมด ถ้าเสียงดังมากๆก็อาจจะหลุดออกไปได้ แม้จะเป็นแค่เสียงเบาๆ ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 สามารถได้ยินได้

เขาทิ้งร่างถังหมิงหยุนบนพื้น ต้องรีบเสียเวลาอีกไม่ได้

หยิบยานอนหลับใส่ปากถังหมิงหยุน ก่อนจะถอดเสื้อผ้าด้านนอกและร้องเท้าออกจนหมด เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าของถังหมิงหยุน และเปลี่ยนใบหน้าและสวนสูง ให้คล้ายถังหมิงหยุนที่สุด

ก่อนจะออกจากห้องเดินกลับไปทางเดิม เขาเลียนแบบการเดินทุกอย่าง ทั้งจังหวะ น้ำหนักเท้า ระยะก้าวเดิน เขาเดินไปที่ห้องของผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8

“ผู้อาวุโส ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นหรือครับ”จิวโมไป๋พูดเลียนเสียงถังหมิงหยุน

ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 ยังเงียบไปเล็กน้อย ก่อนกล่าวขณะหลับตา”ข้างนอกมีปัญหาอะไรบางอย่างจริงๆ แต่มันไม่สำคัญ”

“นายน้อยอยู่ด้านล่างคงไม่ทราบ ผู้อาวุโสผมขอตัวไปบอกนายน้อยก่อน”จิวโมไป๋พูดจบก็เดินไปทางห้องลับ

ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 เงียบไม่ตอบ

แต่อยู่ๆเขาก็ลืมตาขึ้นมา สีหน้าของเขาแสดงถึงความสงสัยบางอย่าง เหมือนพบอะไรผิดปกติ เขาใช้ประสาทสัมผัสที่สูงกว่าคนทั่วไป ตรวจสอบถังหมิงหยุน แต่ก็ไม่พบอะไรผิดสังเกต เขาส่ายหน้าเบาๆ

เขาอาจคิดมากไปเอง

จิวโมไป๋ไปที่ห้องลับ เขาก็ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบภายในห้อง และเดินไปหมุนเครื่องเคลือบลายคราม ผนังห้องด้านหนึ่งก็เลื่อนออกอย่างง่ายดาย ไม่ต้องเสียเวลาคิด เขากดปุ่มลิฟต์ก็เปิดทันที เพราะถังหมิงหยุนพึงออกมา ลิฟต์ยังไม่กลับลงไป

เขาเข้าไปในลิฟต์กดลงชั้นใต้ดิน

จิตสัมผัสของเขาก็เฝ้าดูด้านนอก เมื่อเห็นว่าเริ่มมีการต่อสู้เขาก็เบาใจ แต่เมื่อเห็นว่ามีผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 กลาง ยืนดูการต่อสู้อยู่เฉยๆ ท่าทางเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง เขาก็หาเป้าหมาย เขามองไปที่ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 ที่ซ่อนอยู่อีกฝั่ง

จิวโมไป๋หยิบยันต์แผ่นหนึ่งออกมาเผา

บึม! รูปปั่นหินที่ตั้งอยู่กลางสวน ทางตะวันตกของโรมแรมระเบิดอย่างรุนแรง

ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 กลาง ตระกูลถังถูกดึงดูดความสนใจไปในทันที และเหมือนกับที่จิวโมไป๋คาดเอาไว้ เมื่อทั้งสองพบกัน พวกเขาก็เริ่มลงมือต่อสู้กันทันที

ลิฟต์ของจิวโมไป๋ลงไปถึงขั้นใต้ติน สัญญาณกำไลข้อมือถูกตัด

จิวโมไป๋ยังคงไม่กังวล เพราะเขารู้อยู้แล้วว่าชั้นนี้มีการตั้งเครื่องปิดสัญญาณ

ประตูลิฟต์เปิดออก กลิ่นเลือดหน้าแน่นกระทบจมูก แววตาของจิวโมไป๋กลายเป็นรุนแรง กระบี่เลือนเร้นสั่นไหวอย่างรุนแรง

จิวโมไป่พยายามตั้งสติ สงบอารมณ์ด้านลบลง เขากวาดตามองภานในห้อง เห็นสมบัติจำนวนมาก เขาตรวจสอบดูมีเกือบ 50 ชิ้น สมบัติบางชิ้นมีประโยชน์มากกว่าที่จะถูกสะสม

เอาพวกมันมาเก็บไว้แบบนี้ เสียของจริงๆ

เขาเดินไปกลางห้องก็พบกล่องใส่โสมธาตุทองและกล่องใส่แหวนนางเงือก วางอยู่บนโต๊ะเตี๊ยกลางห้อง เขาไม่รอช้าเก็บพวกมันลงในแหวนมิติเก็บของทันที

เขาเดินไปเก็บสมบัติทั้งหมดในห้อง จิตสัมผัสของเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง เมื่อเขาหันไปมอง ตรงมุมอับที่ไม่ได้ใส่ใจนัก มีก้อนหินสีแดง สีเขียวเข้มวางอยู่เหมือนถูกทิ้งไม่ใส่ใจ

จิวโมไป๋หายตัวไปโผล่ด้านหน้า และยื่นมือหยิบหินสีแดงออกมา เขาเผลอตัวอ้าปากเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่จะหยิบหินสีเขียวเข้มอีกก้อนขึ้นมาดู

จิวโมไป๋ถอนหายใจออกมา เขาไม่คิดเลยว่าโชคของเขาจะดีขนาดนี้

“สมบัติปฐพีระดับ 5 แร่แดงไฟ คุณสมบัติธาตุไฟ และ สมบัติปฐพีระดับ 5 แร่เขียวไม้ คุณสมบัติธาตุไม้ จริงๆด้วย”

ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์

ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์

ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์
Status: Ongoing
อ่านนิยายย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ จิวโมไป๋ ชายอายุเกือบ100ปี ได้ย้อนเวลากลับมาก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรมที่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องพังพินาศ เขาใช้ความรู้ในอนาคตเพื่อปกป้องครอบครัวและสหาย สร้างกองกำลังที่แข็งแกร่งเพื่อเข้าร่วมสงครามในอนาคต

Comment

Options

not work with dark mode
Reset