รถเมล์สาย 18 – ตอนที่ 21 โจวหย่าเพิ่ง

บทที่ 21 โจวหย่าเพิ่ง

 

การใช้แฟลชไดรฟ์ USB “มาสเตอร์คีย์” ที่สร้างขึ้นโดยเย่เหอ ทําให้เยู่ปินสามารถขโมยไฟล์ข้อมูลมาจากห้องเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทรถเมล์ได้สําเร็จ

 

เมื่อกลับมาถึงบ้านของเฉินฮุย พวกเขาก็เริ่ม ทําการตรวจสอบข้อมูลรถเมล์สาย 18” ทันที

 

ไม่นาน พวกเขาก็พบไฟล์ทั้งหมดของรถเมล์ สาย 18” ซึ่งมีข้อมูลทุกอย่างบันทึกไว้อย่างละเอียด

 

“นี่ไง ข้อมูลเมื่อ 5 ปีก่อน!” เยู่ในชี้ไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อพบชื่อของคนขับรถเมล์ สาย 18” เมื่อห้าปีก่อน

 

“โจวหย่าเพิ่ง”

 

พอเห็นชื่อ จางหลานก็จําข้อมูลในแฟ้มที่ “หัวหน้าเหล่าหวัง” นํามาให้เขาดูตอนนั้นได้ในแฟ้มข้อมูลระบุชื่อคนขับรถคนสุดท้ายของ รถเมล์ สาย 18” ว่า โจวหย่าเพิ่ง

 

“ใช่แล้ว ฉันจําได้แล้ว นี่เป็นชื่อที่ถูกบันทึกไว้ในแฟ้มข้อมูลแฟ้มนั้น ว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โจวหย่าเผิงเป็นคนขับรถเมล์ “สาย 18” วิ่งอยู่ในเส้นทางเดิม”

 

พอได้ยินคําพูดของจางหลาน เป็นก็ใช้คอมพิวเตอร์ตรวจสอบบันทึกต่อไป แต่ในไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ มีเพียงบันทึกของรถเมล์ สาย 18” เมื่อ 5 ปีก่อนแต่ไม่มีบันทึกหลังจากนั้น

 

“ที่นี่ไม่มีบันทึกช่วงหลังจากนั้น” เป็นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แม้ในที่สุดจะได้ไฟล์ข้อมูลมาแต่ก็พบเพียงชื่อเดียว

 

“ยังไงก็ตรวจสอบเรื่องของโจวหย่าเผิงก่อนดีกว่า” หนิงหวาแนะนํา

 

“อืม” เป็นพยักหน้า แล้วกดโทรศัพท์หาเย่เหอ

 

“เฮ้ เย่เหอ ช่วยฉันหาคนหน่อย ชื่อโจวหย่าเผิงทํางานบริษัทรถเมล์

 

ด้วยความสามารถของเย่เหอ ไม่นานเขาก็พบข้อมูลเกี่ยวกับ “โจวหย่าเพิ่ง

 

เมื่อได้อ่านข้อมูลของ โจวหย่าเผิง” ที่เย่เหอส่งมาให้ เยบินก็ขมวดคิ้วเพราะข้อมูลมีบันทึกเพียงว่า “โจวหย่าเผิง” เป็นพนักงานของบริษัทรถเมล์ แต่ไม่มีรายละเอียดอย่างอื่น

 

“เยเหอ นายไม่มีประวัติส่วนตัวของโจวหย่าเพิ่งเลยเหรอ?”

 

“ข้อมูลนี้ดึงมาจากฐานข้อมูลประชากร ข้อมูลของโจวหย่าเพิ่งมีแต่สถานที่ทํางานของเขาเท่านั้น ไม่มีประวัติส่วนบุคคล”

 

เยี่ปินขมวดคิ้ว ด้วยความสามารถของเย่เหอก็ยังไม่สามารถค้นหาประวัติส่วนตัวของโจวหย่าเพิ่งพบ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้เพียง 2 อย่างเท่านั้น ประการแรก ในฐานข้อมูลประชากร ไม่มีการป้อนประวัติส่วนบุคคลของโจวหย่าเผิง ประการที่สองมีผู้ที่มีค วามสามารถมากกว่าเย่เหอปกปิดประวัติส่วนบุคคลของโจวหย่าเพิ่ง ไว้”

 

สําหรับความเป็นได้ทั้งสองอย่างนี้ เยู่ปินเชื่อในข้อแรกมากกว่าเพราะท้ายที่สุดแล้วเขายังไม่เคยพบใครที่มีความสามารถเหนือกว่าเยเหอ

 

“ฐานข้อมูลประชากรมีเพียงบันทึกสถานที่ทํางานของโจวหย่าเผิง แต่ไม่มีประวัติส่วนตัว เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง?” จางหลานก็งงเช่นกัน ด้วยความเข้มงวดของระบบรักษาความปลอดภัย สาธารณะ ช่องโหว่ขนาดใหญ่แบบนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น

 

“เป็นไปได้ไหมว่าข้อมูลของโจวหย่าเพิ่งจะไม่ได้รับการอัพเดตหนิงหวาคาดเดา

 

เย่ปินส่ายหน้าปฏิเสธความคิดของหนิงหวา ด้วยความสามารถของเย่เหอ เย่เหอไม่มีทางพลาดที่จะพิจารณาถึงเรื่องนี้

 

“ยังไงก็ตาม เบาะแสของเราขาดตอนอีกแล้ว” เป็นขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาดูน่าเกลียดมาก เบาะแสมีเพียงชื่อที่เหลือทิ้งไว้เท่านั้น ทําให้ทุกอย่างถูกตัดตอนลงอย่างกะทันหัน

 

ขณะที่เย่นตกอยู่ในความทุกข์ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ชื่อ “เฉินฮุย” ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

 

“เฉินฮุย? พวกเขาพบเบาะแสแล้วเหรอ?” เยู่ในพึมพําแล้ว รีบรับโทรศัพท์

 

“เฮ้ เฉินฮุย มีอะไร พวกนายพบเบาะแสอะไรไหม?”

 

“เราพบบัญชีรายชื่อประชากรของหมู่บ้านเฮยสุ่ย ในนี้บันทึกชื่อของทุกคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเฮยสุ่ย”

 

พอได้ยินคําพูดของเฉินฮุย เยู่ปินก็โพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว “มีคนชื่อโจวหย่าเพิ่งในรายชื่อไหม?”

 

“โจวหย่าเผิง? รอเดี๋ยวนะ! ขอดูก่อน!

 

สักพัก เสียงของเฉินฮุยก็ดังขึ้นจากปลายสายอีกครั้ง “พบแล้วโจวหย่าเผิง เป็นหัวหน้าหมู่บ้านเฮยสู่ย”

 

“หัวหน้าหมู่บ้าน!” เนื่องจากเป็นเปิดลําโพงโทรศัพท์ จางหลานกับหนิงหวา จึงได้ยินคําพูดของเฉินฮุยด้วย และพอทั้งสามคนได้ยินคําพูดของเฉินฮุยเท่านั้น ต่างก็ต้องตกตะลึง

 

“เกิดอะไรขึ้น? พวกนายรู้จักชื่อโจวหย่าเพิ่งได้ยังไง?” คราวนี้ถึงคราวที่เฉินฮุยสงสัยบ้าง

 

พวกเยู่ปินทั้งสามคนไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานานพวกเขาคิดไม่ถึงว่า โจวหย่าเพิ่งจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านเฮยสู่ย 

 

“นายพบเบาะแสอะไรอีกไหม?” เยบินบังคับตัวเองให้สงบลงแล้วถามเฉินฮุย

 

“ไม่ พบเพียงบัญชีรายชื่อประชากรเท่านั้น”

 

“รีบกลับมาเร็วๆ ฉันมีเรื่องจะต้องคุยกับพวกนาย”

 

“ได้เ” เฉินฮุยตอบอย่างไม่ลังเล จากนั้นพวกของเฉินฮุยก็ขับรถกลับกันอย่างเร่งรีบ

 

พวกเฉินฮุยกลับมาพร้อมกับบัญชีรายชื่อประชากรของหมู่บ้านเฮยสู่ย แล้วพวกเขาทั้งหมดก็มานั่งประชุมร่วมกัน

 

“ พวกนายไปเจอบัญชีชื่อพวกนี้จากไหน?” บัญชีรายชื่อมีเนื้อกระดาษที่ค่อนข้างเหลือง เห็นได้ชัดว่าอยู่มานานมากแล้ว รายชื่อในบัญชีก็มองเห็นได้ไม่ค่อยชัดเจนนัก

 

“ในบ้านที่ถูกไฟไหม้ในหมู่บ้านเฮยสุ่ยหลังหนึ่ง ฉันไปสะดุดตากับห้องๆหนึ่ง ที่ใต้ห้องนั้น ฉันก็พบบัญชีรายชื่อพวกนี้” เฉินฮุยเล่าถึงขั้นตอนการค้นหาบัญชีรายชื่อ

 

“ในบัญชีรายชื่อ มีชื่อโจวหย่าเผิง ที่เหมือนกับคนขับรถเมล์สาย 18” เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านเฮยสู่ยจริงๆเหรอเนี่ย?” จางหลานมองไปที่ชื่อ “โจวหย่าเผิง” สามคําในบัญชีรายชื่อ แล้วขมวดคิ้วและพูดขึ้น

 

“เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาแค่มีชื่อแซ่เหมือนกัน” เหล่าสวีคิดว่ามันอาจเป็นเรื่องบังเอิญ

 

“จากการอนุมานครั้งก่อนของพวกเรา รถเมล์ผี “สาย 18” กับ “หมู่บ้านเฮยสุ่ย” มีความเกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ออกในกรณีนี้ ชื่อทั้งสองน่าจะเป็นคนๆเดียวกัน ไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญ” เปปินพูด

 

“ตามที่หัวหน้าเหล่าหวังบอกก่อนหน้านี้ คนขับรถเมล์ สาย 18” เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ 5 ปีก่อน เวลาก็พอดีกันเลย” จางหลานนึกถึงการสนทนากับหัวหน้าเหล่าหวังครั้งก่อน ทําให้ยิ่งมั่นใจมากนว่า คนขับรถเมล์ สาย 18” กับหัวหน้าหมู่บ้านเฮยสุ่ยเป็นคนๆ เดียวกัน

 

“ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นเรื่องเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับรถเมล์ สาย 18” ก็น่าจะเกิดจากหัวหน้าหมู่บ้านเฮยสุ่ย โจวหย่าเผิง ที่เสียชี วิตไปแล้ว” เฉินฮุยพูด

 

“มันเป็นไปได้มากที่จะพูดอย่างนั้น” จางหลานเห็นด้วย

 

“รู้ไหมว่า ในบรรดาศพ 98 ศพที่หมู่บ้านเฮยสุ่ย มีศพของโจวหย่าเผิงอยู่ด้วยหรือไม่?” จู่ๆ เยบินก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้

 

“นั่นเป็นไปไม่ได้ หมู่บ้านเฮยสุ่ยไม่มีผู้รอดชีวิต จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้แยกแยะว่าใครเป็นใคร ผู้เสียชีวิตทั้งหมดจึงถูกฝังไว้รวมกันที่สุสานนิรนาม” เหล่าสวีเคยสังเกตสุสานนิรนามที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านเฮยสู่ยอย่างละเอียดมาแล้ว

 

“ถ้าเป็นคนเดียวกัน งั้นเราก็น่าจะสามารถตรวจสอบข้อมูลของหัวหน้าหมู่บ้านเฮยสุ่ยได้” จางหลานเตือน

 

“อืม” เป็นพยักหน้า และรีบติดต่อกับเย่เหอทันที แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับทําให้ทุกคนผิดหวัง

 

เมื่อเทียบกับโจวหย่าเผิงของบริษัทรถเมล์แล้ว ข้อมูลของโจวหย่าเพิ่งหัวหน้าหมู่บ้านเฮยสุ่ยยิ่งแล้วกว่า เพราะมันว่างเปล่า ไม่มีบันทึกประวัติของบุคคลผู้นี้ในฐานข้อมูลพลเรือน

 

“ไม่มีบันทึก! บุคคลไร้สัญชาติงั้นเหรอ?”

 

“ไม่น่าใช่ ฉันจําได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน มีการสํารวจสํามะโนประชากรในหมู่บ้านเฮยสุ่ย ชาวบ้านทั้งหมดในหมู่บ้านเฮยสุ่ยควรได้รับการจดทะเบียนแล้ว” เหล่าสวีทํางานอยู่ที่สถานีตํารวจเป็นเวลา นานทําให้มีอิทธิพลบางอย่างในทีมสืบสวน

 

“เย่เหอ ตรวจสอบโจวหนาน” เปินพูดชื่ออื่นในบัญชีรายชื่อ

“โจวหนาน เกิดวันที่ X เดือน X ปีXX.”

 

เมื่อตรวจสอบบุคคลอื่น ทําให้เป็นรู้ว่า มีข้อมูลส่วนบุคคลอย่างละเอียดในฐานข้อมูลพลเรือน

 

“ตรวจสอบอีกครั้ง โจวเจิ้ง”

 

“โจวเจิ้ง เกิดวันที่ X เดือน X ปี XX.”

 

เมื่อตรวจสอบรายชื่อไปมากกว่าหนึ่งโหลติดต่อกัน พวกเขาก็พบว่าทุกคนมีข้อมูลส่วนบุคคลอย่างละเอียดในฐานข้อมูลพลเรือน ยกเว้นเพียง โจวหย่าเพิ่ง” เท่านั้นที่ไม่มีข้อมูลใดๆ

 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset