รถเมล์สาย 18 – ตอนที่ 28 ความคิดเห็นของประชาชน

รถเมล์สาย 18 บทที่ 28 ความคิดเห็นของประชาชน

 

บทที่ 28 ความคิดเห็นของประชาชน

 

“ได้ข่าวไหม? มีคดีฆาตกรรมที่ถนนตะวันตกเมื่อคืนนี้ ศพถูกนั่นเป็นห้าชิ้น หัวถูกแขวนไว้ต้นไม้”

 

“อืม ฉันได้ยินมาว่า มีการปกปิดข้อเท็จจริงบางอย่างไว้ด้วย ดูเหมือนว่าคดีนี้ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ เป็นไปได้มากว่าจะเป็นฝีมือของผีร้าย!”

 

“ผีร้ายฆ่าคน!”

 

“ใช่ ใช่ ใช่! ฉันก็ได้ยินมาอย่างนั้นเหมือนกัน ระยะนี้มีข่าวเรื่องภูติผีอยู่ทุกที่ เมื่อไม่กี่วันก่อน ก็มีข่าวว่ารถชนผีจนพลิกคว่ำตายยกคัน!”

 

“แล้วคดีที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ก็ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับรถเมล์ “สาย 18” เมื่อนานมาแล้ว ฉันได้ยินมาว่ามีเด็กสองคน คนหนึ่งหายไป อีกคนเสียชีวิตในสวนสนุกร้าง แล้วศพก็ยังถูกแขวนไว้บนชิงช้าสวรรค์ด้วย”

 

“ไม่ใช่แค่นั้น ก่อนหน้านี้ในชุมชนหลิวหลินที่อยู่ข้างบ้านของฉัน ฉันได้ยินมาว่าพบศพคนตายถูกฝังไว้ในแท่นคอนกรีตด้วยล่ะ สภาพศพน่าอนาถมาก จนตํารวจที่พบศพคนหนึ่งถึงกับตกใจจนเป็นลมเลยล่ะ”

 

ข่าวลือเริ่มต้นจากคดีของรถเมล์ “สาย 18” ที่ยังไม่สามารถคลี่คลายได้หลายคดี ภายในระยะเวลาอันสั้น มันก็แพร่กระจายไปทั่วเมือง X ทําให้ผู้คนในเมือง X ตื่นตระหนก และตกอยู่ในความตื่นตกใจที่อธิบายไม่ได้

 

“การอัพโหลดออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ” จางหลานนั่งดูเหตุการณ์ “ผีร้ายฆ่าคน” ในกระดานข่าวที่แพร่กระจายอยู่บนคอมพิวเตอร์ ผู้คนนับไม่ถ้วนโพสต์ซ้ำไปซ้ำมาใส่สีตีไข่เหตุการณ์ “ผีร้ายฆ่าคน” บ่อยขึ้นเรื่อยๆ มีแม้กระทั่งคนที่แสดงตัวว่าเคยเห็นการปรากฏตัวของ “ผีร้าย”

 

ยิ่งกว่านั้น เนื่องจากเหตุการณ์ “ผีร้ายฆ่าคน” ทําให้ “นักพรตเต๋า” หลายคน จู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาในเมือง X “นักพรตเต๋า” เหล่านี้อ้างตัวว่ามาจากสํานักเหมาซาน สํานักเจิ้งยี่ สํานักฉวนเจิ้น ซึ่งแต่ละแห่งล้วนเป็นสํานักที่มีชื่อเสียง พวกเขายังอ้างตัวว่าสามารถปราบภูติผีปีศาจได้ และทําการขาย “กระดาษยันต์” ไปทั่วทุกที่

 

เมื่อเหตุการณ์ “ผีร้ายฆ่าคน” ได้กลายเป็นเรื่องเลวร้ายมากขึ้น ผู้คนจํานวนมากในเมือง X ได้ขอให้สิ่งที่เรียกว่า “นักพรตเต๋า” มารักษาความสงบ บางคนถึงกับใช้เงินจํานวนมากเพื่อเชิญ “นักพรตเต๋า” ไปที่บ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ครอบครัวตกเป็นเป้าของ “ผีร้าย”

 

“เรื่องมันชักจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ตอนนี้ผู้คนในเมือง X กําลังตื่นตระหนก เราต้องหาวิธีแก้ไข” จางหลานมองวิธีขับไล่ภูติผีปีศาจที่โพสต์บนกระดานข่าวอย่างใจเย็น และตระหนักได้ว่าเรื่องทุกอย่างกําลังแย่ลง

 

“เมื่อเร็วๆนี้มีคดีเกิดขึ้นมากเกินไปจริงๆ และที่สําคัญคดีพวกนั้นยังไม่สามารถคลี่คลายได้เลยสักคดี มันจึงส่งผลกระทบมากขึ้น” เหล่าสวีส่ายหน้าและถอนหายใจ

 

“ก็อย่างที่พูดนั่นแหล่ะ นี่เป็นข้อเท็จจริง ที่บางคดีไม่ได้เกิดจากฝีมือมนุษย์ แต่เกี่ยวข้องกับภูติผีจริงๆ” จ้าวเจิ้นรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลที่เมือง X จะกลายเป็นแบบนี้

 

“ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร เราก็ไม่สามารถทําลายกฏระเบียบดั้งเดิมของสังคม เราต้องโค่นล้มความรู้ความเข้าใจของผู้คน มิฉะนั้นมันจะทําให้เกิดความสับสนวุ่นวายได้” แม้ว่าจางหลานจะรู้ว่าสิ่งที่จ้าวเจิ้นพูดมามันสมเหตุสมผล แต่เขาก็เข้าใจดีว่าการเปิดเผยเรื่องภูติผีปีศาจจะส่งผลกระทบต่อกฎระเบียบของสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

“หลานเกอพูดถูก เราจะต้องหาวิธีไม่ให้สถานการณ์แบบนี้ดําเนินต่อไป” ความคิดเห็นของเย่ปินอยู่ในแนวทางเดียวกับจางหลาน เพราะไม่ว่าจะเป็นในกรณีใดก็ตาม กฎระเบียยดั้งเดิมของสังคมจะถูกทําลายไม่ได้ มิฉะนั้นมันจะส่งผลกระทบมหาศาล

 

“จากสถานการณ์ของพวกเรา ไม่ง่ายเลยที่จะควบคุมสถานการณ์” เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่สามารถควบคุมสถานกาณ์นี้ได้ เพราะตอนนี้ทุกคนไม่ใช่ตํารวจอีกแล้ว

 

“ พวกนายสืบสวนกันต่อเถอะ ฉันจะกลับไปที่สถานีตํารวจ” ในที่สุดเย่ปินก็เกิดความคิด จากนั้นเขาก็ขับรถไปที่สถานีตํารวจพร้อมกับจางหลาน

 

หลังจากมาถึงสถานีตํารวจ ทั้งเป็นกับจางหลานไม่มีเวลาไปทักทายกับอดีตเพื่อนร่วมงาน พวกเขารีบตรงไปยังห้องทํางานของเลียวมู่หยางทันที

 

“เย่ปิน คุณควรเข้าใจว่าสิ่งนี้สําคัญกับตํารวจอย่างเราขนาดไหน” หลังจากฟังความคิดเห็นของเยี่ปุ่น เกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันของเมือง X สีหน้าของเลี่ยวมู่หยางก็ทรุดลง

 

“หัวหน้าเลี่ยว เรื่องนี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อกฎระเบียบของสังคม หากยังดําเนินต่อไปสถานการณ์ก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น” เป็นพูดตรงๆโดยไม่สนใจกับสีหน้าของเดี่ยวมู่หยาง

 

“หากปลอมแปลงความจริงอย่างที่คุณพูดแล้วต่อไปตํารวจอย่างเราจะใช้อะไรไปทําให้ประชาชนไว้วางใจได้อีก?” เลี่ยวมู่หยางตั้งคําถามกับเป็นอย่างเคร่งขรึม

 

“หัวหน้าเลี่ยว เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ระหว่างความจริงของคดีหรือว่ากฎระเบียบของสังคมอะไรจะสําคัญกว่ากัน ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้แก่ใจดี ที่ผมต้องการพูดก็มีแค่นี่แหละ ส่วนคุณจะทําหรือไม่นั้น มันก็เรื่องของคุณ” พอพูดจบเป็นก็หันกลับและจากไปพร้อมกับจางหลานอย่างไม่ลังเล

 

เมื่อเห็นเป็นจากไป เดี๋ยวมู่หยางก็เอนหลังพิงเก้าอี้สํานักงาน มองเพดานอย่างครุ่นคิด

 

“ปินจื่อ นายคิดว่า เดี๋ยวมู่หยางจะฟังเราไหม?” หลังจากออกจากสถานีตํารวจ จางหลานก็เอ่ยปากถามเย่ปิน เพราะเขาไม่คิดว่าเดี๋ยวมู่หยางจะฟังในสิ่งที่เป็นพูด

 

เป็นส่ายหน้าตอบคําถามของจางหลาน อันที่จริงเขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เดี๋ยวมู่หยางจะทําตามคําแนะนําของเขาหรือไม่ “ฉันไม่รู้ ตอนนี้ฉันทําได้เพียงเชื่อใจเขาเท่านั้น ฉันคิดว่าเขาจะเลือกได้อย่างถูกต้อง”

 

“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น” จางหลานไม่ถามต่อ ทั้งคู่ขับรถกลับไปที่บ้านของเฉินฮุยโดยไม่ได้พูดเรื่องนี้กันอีก

 

ที่บ้านของเฉินฮุยเหลือเพียงหนิงหวาอยู่เฝ้าบ้านเท่านั้น พวกเฉินฮุ่ยทั้งสามคนออกไปสืบเรื่องของหมู่บ้านเฮยสุ่ยกันต่อแล้ว

 

“พวกนายกลับมาแล้ว ปินจื่อตามการสืบสวนของฉันตอนนี้ ฉันได้พบเบาะแสบางอย่าง” ทันทีที่คนทั้งคู่เข้าประตูบ้านมาหนิงหวาก็เอ่ยปากทักทันที

 

ทั้งเป็นและจางหลานพอได้ยินดังนั้น ก็รีบเดินไปที่ข้างตัวของหนิงหวาและจ้องมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

 

บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของหนิงหวาเป็นภาพ และภาพนั้นก็คือแผนที่เส้นทางเดินรถเมล์ ซึ่งบันทึกเวลาเริ่มต้นเดินรถและเวลาสิ้นสุดอย่างละเอียดและมีเส้นทางการเดินรถของรถเมล์อย่างละเอียดบันทึกไว้ด้วย

 

เย่ปินกับจางหลานมองดูเส้นทางเดินรถอย่างระมัดระวัง ในไม่ช้าพวกเขาก็สังเกตเห็นบางอย่าง และพูดขึ้นพร้อมกันว่า “นี่มันเส้นทางเดินรถของรถเมล์ “สาย 18″ ไม่ใช่เหรอ?” พวกเขาหันไปมองหนิงหวาด้วยความสงสัย ทั้งคู่ไม่เข้าใจว่าทําไมหนิงหวาถึงให้พวกเขาดูเส้นทางเดินรถของรถเมล์ “สาย 18″ อีก ต้องรู้ว่าเส้นทางเดินรถของรถเมล์สายนี้ ทุกคนเรียนรู้และจดจําได้ทุกป้ายจนขึ้นใจอยู่แล้ว

 

“พวกนายดูให้ดีก่อน” หนิงหวาเตือน

 

เมื่อได้ยินคําเตือนของหนิงหวา เป็นกับจางหลานก็มองดูเส้นทางเดินรถของรถเมล์ “สาย 18” อย่างระมัดระวังอีกครั้ง

 

ในตอนแรกสีหน้าของทั้งคู่ดุนงงไม่เข้าใจ แต่ท้ายที่สุด สีหน้าของเย่ปินกับจางหลานก็ค่อยๆดิ่งลง เมื่อพบว่าเส้นทางเดินรถของรถเมล์ “สาย 18” ภาพนี้ ค่อนข้างแตกต่างจากเส้นทางที่พวกเขารู้จักอยู่บ้าง

 

“เส้นทางเริ่มต้นไม่แตกต่าง แต่เส้นทางส่วนหลังเปลี่ยนไป นี้ไม่ใช่เส้นทางเดินรถของรถเมล์ “สาย 18″ เหรอ?” เป็นมองหนิงหวาด้วยความสงสัยอีกครั้ง

 

“นี่เป็นแผนที่ ที่ฉันพบบนกระดานข่าวของเมื่อ 5 ปีก่อน และเป็นเส้นทางเดินรถของรถเมล์ “สาย 18” เพียงแต่มันเป็นเวอร์ชันก่อนหน้าเส้นทางที่พวกเรารู้จัก” หนิงหวาบอกทีมาของภาพ

 

เป็นมองดูภาพ และขอให้หนิงหวาเลื่อนเม้าส์ลงมา ที่ด้านล่างมีแผนที่เส้นทางเดินรถของรถเมล์ “สาย 18” ที่ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็เป็นแผนที่ ที่พวกเย่ปินได้รับมาจากบริษัทรถเมล์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset