ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) – ตอนที่ 225 : ผลโลหิตในกำมือ

ตอนที่ 225 : ผลโลหิตในกำมือ

เมื่อเห็นว่าหวังเย่ายังคงเก็บผลเลือดอย่างต่อเนื่อง จ้าวเมิ่งซีก็สบายใจขึ้นมา

“มันตายแล้วจริง ๆ หรือ ? ”

จ้าวเมิ่งซีรู้สึกว่าต้นไม้นี่น่ากลัว หากมันโดนเผาจนเป็นตอตะโก เธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้อยู่ดีและไม่กล้าลงไปที่เกาะ เพราะที่เกาะแห่งนี้มีรากของมัน รากของมันสามาถสูบเลือดได้ หากไม่ระวังอาจจะโดนมันสูบเลือดจนแห้งเหือดไปทั้งตัวได้

“มันน่าจะตายไปแล้ว ด้วยการโจมตีของฉันก็น่าจะจัดการมันได้”

หวังเย่าพยักหน้าก่อนจะหยิบเอาผลเลือดขึ้นมาตรวจสอบ

ผลเลือดมีผิวสีน้ำตาล ผลของมันคล้ายกับลูกพีช มันมีขนาดเท่ากับครึ่งหนึ่งของสมองคนแต่มันหนักหลายกิโลกรัม และมันก็ดูโดดเด่น

หวังเย่าเอามีดทมิฬออกมาก่อนจะกรีดเข้าไปที่ผิวของผลเลือด หมอกสีเลือดกระจายออกมาราวกับไอน้ำแข็ง แต่หมอกนี้กลับมีกลิ่นอันหอมหวาน หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะลองเข้าไปสูดดมใกล้ ๆ

พระเจ้า !

มันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา

เขารู้สึกราวกับว่าได้ไปยังสวรรค์ เมื่อสูดหมอกเลือดนี้เข้าไปในตัวเขา ไม่ว่าจะเป็นลำคอหรือกระเพาะ อวัยวะภายในของเขากลับถูกกระตุ้น มันทำงานได้ดีกว่าเดิมเป็นสิบเท่า

นี่คือการพัฒนาของเซลล์ ! มันราวกับว่าเขากำลังจะพัฒนาตัวเอง

เขาใช้ลมห่อผลเลือดเอาไว้เพื่อไม่ให้หมอกเลือดกระจายไปไหน

ยันต์ลม คือทักษะส่วนที่ 1 ของพายุสังหาร มันคล้ายกับโล่ลมแต่มันมีความสามารถในการปิดผนึก

“นายเป็นอะไรรึเปล่า ? ”

จ้าวเมิ่งซีเห็นหวังเย่าแสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมาหลังจากที่ได้สูดดมหมอกเลือดเข้าไป ตัวของเขาแดงก่ำขึ้นมา แต่สิ่งผิดปกตินั้นกลับอยู่เพียงชั่วครู่ก่อนจะหายไป จนเธออดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

หวังเย่าพยักหน้าและตอบกลับ “เมิ่งเอ๋อร์ ผลเลือดนี่น่ะคือยาจิตวิญญาณระดับสวรรค์ พลังของมันแฝงอยู่ในหมอกเลือดที่หนาแน่น ตะกี้ฉันสูดไปแค่ครั้งเดียวก็ได้รับผลลัพธ์ที่น่าทึ่งแล้ว โชคร้ายที่ผลเลือดกว่าครึ่งโดนทำลายไปแล้ว”

อันที่จริงมันก็น่าเสียดาย ต้นไม้กินเลือดนี่ใช้เวลาสร้างผลเลือดมานานหลายปี ไม่รู้ว่ามันต้องใช้เลือดเท่าไหร่ แต่มันกลับทำลายผลเลือดทิ้งอย่างง่ายดายเช่นนี้

เขาเก็บผลเลือดลงไป ถึงคิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีก เมื่อเขาได้ผลเลือดนี้มาแล้ว เขาก็ควรจะเก็บกวาดที่นี่ หวังเย่าทำการดับไฟ ตอนนี้วิญญาณของต้นไม้กินเลือดถูกทำลายไปแล้ว แต่ลำต้นของมันที่สูงกว่า 100 เมตร อาจจะมีประโยชน์อยู่บ้าง

ทั้งสองคนขึ้นไปนั่งบนหลังเทอร์โรซอร์ไฟก่อนจะบินวนไปรอบ ๆ จากนั้นหวังเย่าก็ดึงธนูออกมา เขาใช้ลูกธนูระดับ A ยิงเข้าไปปักที่ลำต้น แต่มันกลับทะลุไปได้แค่ 2 นิ้วเท่านั้น

หวังเย่ารู้สึกแปลกใจ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาและระยะที่ใกล้แบบนี้แล้ว แม้ว่าจะเป็นเหล็กหนาแต่เขาก็สามารถยิงทะลุได้

มันทำให้เขาเข้าใจพลังของลูกธนูไฟได้ดีกว่าเดิมทั้งด้านพลังและความเร็วรวมไปถึงการระเบิดด้วย มันแสดงให้เห็นแล้วว่าธาตุไฟนั้นมีพลังมากแค่ไหน

แต่โครงสร้างของต้นไม้นี่แข็งอย่างมาก มันพอเทียบกับเหล็กกล้าได้

“หวังเย่า เมื่อต้นไม้นี่เป็นต้นไม้อสูร งั้นมันก็ต้องมีอะไรพิเศษ ฉันเคยอ่านหนังสือมา มันบอกว่าต้นไม้ที่เก่าแก่มักจะมีหัวใจแห่งพฤกษาอยู่ เราลองหาดูดีไหม ? ”

จ้าวเมิ่งซีถือว่าเป็นหนอนหนังสือ ตอนที่เธออายุ 3-4 ปี เธอก็เริ่มอ่านหนังสือแล้วจึงทำให้เธอมีความรอบรู้กว่าคนอื่น

หวังเย่าไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้ เขาได้สร้างลูกธนูไฟขึ้นมาแล้วเล็งไปที่ใจกลางลำต้น ก่อนจะส่งมันออกไปโจมตี

“เดี๋ยวก่อน ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น” จ้าวเมิ่งซีรีบห้ามทันที

หวังเย่ายกเลิกลูกธนูไฟก่อนจะดึงพลังไฟกลับเข้าไปในลูกแก้ว และตามจ้าวเมิ่งซีที่อยู่เหนือบึงขึ้นไปร้อยเมตร ตอนนั้นเองเขาก็พบว่าในมือของเธอนั้นมีน้ำอยู่ มันเริ่มรวมตัวกันก่อนจะก่อตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็ง

เธอสะบัดมือก่อนที่เกล็ดน้ำแข็งนั้นจะรวมตัวกันและตกลงไปที่แม่น้ำ

ไม่ถึง 10 นาทีบึงแห่งนั้นก็กลายเป็นน้ำแข็งไปทันที

หวังเย่ารู้ว่านี่คือความสามารถในการควบคุมน้ำแข็งของจ้าวเมิ่งซี หลังจากที่กินบัวหิมะน้ำแข็งเข้าไป เธอก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้มันออกมายังไง นี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้ใช้มันอย่างจริง ๆ จัง ๆ สักที

จ้าวเมิ่งซีหันกลับมายิ้มและพูดขึ้น “ เมื่อนายเห็นความสามารถใหม่ของฉันแล้ว นายจะเข้าใจเอง ”

“น่าสนใจ” หวังเย่ารู้สึกสนใจขึ้นมา

เกล็ดหิมะนับไม่ถ้วนได้แทรกซึมไปตามช่องว่างของพื้นดินและลำต้นของต้นไม้…สกิลแพร่กระจาย

ตอนนั้นจ้าวเมิ่งซีก็หลับตาลง แม้แต่ตัวของเธอก็ยังมีเกล็ดหิมะซึ่งดูไปแล้วไม่ต่างอะไรจากเอลซ่า เทพธิดาน้ำแข็งเลย

“ เธอใช้หิมะเหล่านี้ในการรับรู้สิ่งรอบตัวงั้นหรือ ไม่สิ ด้วยความช่วยเหลือจากเกล็ดหิมะเหล่านี้ก็ทำให้เธอสำรวจสิ่งรอบตัวได้ใช่ไหม ? ”

หวังเย่าพอเข้าใจขึ้นมาบ้าง นี่คือความสามารถในการแพร่กระจายของน้ำแข็ง มันหมือนกับการแผ่การรับรู้ของตัวเองออกไป แต่ธาตุไฟของเขานั้นไม่อาจจะใช้ในการตรวจจับรึสำรวจได้

เวลาผ่านไปไม่นาน

“ฉันเจอแล้ว”

จากนั้นจ้าวเมิ่งซีก็ลืมตาขึ้นด้วยความสงสัย เธอพูดออกมาด้วยท่าทีไม่มั่นใจ “ฉันเจอหัวใจแห่งพฤกษ์แล้ว มันอยู่ห่างจากลำต้นไป 30 เมตร เมื่อใช้เกล็ดน้ำแข็งในการสำรวจ นอกจากหัวใจแห่งพฤกษ์แล้ว ฉันก็ยังพบบางอย่าง”

หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา “เธอเจออะไร ? ”

“มัน…น่าจะเป็นตา จากลำต้นลึกลงไปกว่า 100 เมตรจะมีรากนับไม่ถ้วนห่อหุ้มมันไว้เพื่อปกป้องมันอยู่ พลังน้ำแข็งรับรู้ถึงการมีอยู่ของมัน แต่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร”

หวังเย่าสงสัยขึ้นมา เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่รากต้นไม้ หากรากพวกนี้คอยปกป้องตานั้นอยู่ งั้นมันจะเป็นอะไรไปได้ ?

ตานั่นแน่นอนว่าต้องเป็นสมบัติ !

“ช่างเถอะ เมื่อเราหามันเจอ เราก็แค่ต้องขุดมันออกมาดู ”

หวังเย่าไม่ได้คิดอะไรมาก เขาสะบัดมือพร้อมกับเรียกอสูรทั้งสามออกมาก่อนจะให้พวกมันลงมือทำลายต้นนี้

หวังเย่าได้สร้างลูกธนูไฟขึ้นมาอีกครั้งเพื่อใช้กำจัดรากของต้นไม้

ตูม ตูม ตูม !

เกิดการระเบิดดังขึ้นเหนือหัวใจแห่งพฤกษาไปประมาณ 5-6 เมตร มันกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมาทันที

ตอนนั้นหงอคงได้ปีนต้นไม้ขึ้นไป มันจับรูนั้นเอาไว้แล้วใช้ตัวที่หนักและพลังธรรมชาติถ่วงต้นไม้ให้หักลง

การ์ฟิลด์เห็นแบบนั้นก็พุ่งเข้าไปใช้กรงเล็บเข้าโจมตีใส่ต้นไม้พร้อมกับปากที่พยายามฉีกต้นไม้ให้ขาดออกจากกัน

ปัง !

ต้นไม้ขนาดใหญ่โดนโจมตีอย่างหนักหน่วงเช่นนี้สุดท้ายก็ต้องหักลงมา

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

Status: Ongoing
อ่านนิยาย ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) นี่คือโลกของสัตว์อสูร ! หายนะบังเกิดขึ้น เมื่อโลกได้เชื่อมต่อกับมิติอื่น ส่งผลให้สัตว์และพืชทุกชนิดเกิดการวิวัฒนาการอย่างบ้าคลั่ง จนเกิดสัตว์อสูรไม่รู้จบขึ้นมา ! เหล่าผู้ใช้อสูรได้นำสัตว์อสูรของตนฟาดฟันกับเหล่าสัตว์อสูรอยู่ในแนวหน้า แย่งชิงพื้นที่และบุกเบิกอารยธรรมของมนุษย์ขึ้นมาใหม่ ด้วยการนำทางของ “ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ” ทำให้หวังเย่าได้ทะลุมิติมายังโลกนี้ ในขณะที่ผู้ใช้สัตว์อสูรคนอื่น ๆ ฝันอยากจะมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์สักตัว แต่หวังเย่ากลับกังวลว่าตัวเองมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์มากเกินไป… หือ ? สัตว์อสูรวิ่งมากอดขาฉันและอ้อนวอนให้ฉันรับเลี้ยงงั้นหรือ ? โทษทีนะพวก ! มีหลายตัวจองคิวไว้แล้ว นายต้องต่อคิวนะรู้ไหม นี่คือเรื่องราวของระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ ที่จะนำกองทัพสัตว์อสูรบุกถล่มโลกสัตว์อสูรให้เหี้ยน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset