ระบบรักฉบับเทพบุตร – ตอนที่ 13

ตอนที่ 13 เหมี๊ยว~~ยอมแพ้ซะ

 

“ครับ คุณสองคนต้องการเช่าบ้านใช่ไหม?” หลินฟ่าน ยิ้มและมองไปที่ชายและหญิงวัยกลางคน จ้าวปิงฉี อายุ 40 ปีในขณะที่ผู้หญิง หยางกง อายุน้อยกว่า

 

“ บังเอิญผมมีบ้านให้เช่าใน อยู่ในไห่ถัง การ์เด้น  นี่คือใบรับรองอสังหาริมทรัพย์และบัตรประจำตัวของผม  คุณสามารถดูได้ทั้งหมด” หลินฟ่าน กล่าวพร้อมแสดงตัวตนของเขา

 

เขาไม่มีพิธีรีตรองอะไรมากมาย เป็นเพราะมันเริ่มมืดแล้ว เขาต้องกลับไปที่ร้านเพราะกลัวว่า เซี่ยหว่านชิวจะรอนาน

และอีกอย่าง เซี่ยหว่านชิว เป็นดาราดังและเธอยังสวยมากด้วยกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเธอเข้า

“อ๋อ..ดีเลยครับ” จ้าวปิงฉี ดูแล้วแน่ใจว่าหลินฟ่าน เป็นเจ้าของบ้านตัวจริง

“คุณช่วยพาเราไปดูบ้านได้ไหมครับแล้วจะได้คุยกันเรื่องค่าเช่าระหว่างทางด้วย” จ้าวปิงฉี พูด

 

“ไม่มีปัญหาครับ” หลินฟ่านตอบ จ้าวปิงฉีและพาทั้งสองเข้าไปดูตัวบ้าน

 

บ้านของ หลินฟ่าน เป็นบ้านขนาดหนึ่งร้อยตารางเมตร ไม่ใหญ่มาก แต่การตกแต่งดีมาก มี 3ห้องนอน 1ห้องนั่งเล่น ห้องสุขาและห้องครัว

 

และคุณสามารถเข้าอยู่ได้เลยเฟอร์นิเจอร์พร้อมทั้งหมดเป็นรุ่นล่าสุด

 

หลังจากเดินเข้าออก จ้าวปิงฉี และ หยางกง ก็พอใจมากหลังจากได้เห็นบ้าน

 

บ้านนี้ไม่เลวเลยถือว่ายอดเยี่ยมเลยด้วยซ้ำ

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเป็นที่พักประจำเขตการศึกษาของ ไห่ถัง การ์เด้น ซึ่งล้อมรอบไปด้วยโรงเรียนชั้นนำ การเดินทางที่สะดวก สาธารณูปโภคที่สะดวกและการรักษาความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบ มีหลายๆปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดราคาที่พักย่านเขตกานศึกษามานานแล้ว

 

จ้าวปิงฉี และหยางกง ไม่ใช่คนฐานะธรรมดาพวกเขามาทำงานใน เมจิกซิตี้ และต้องการบ้านเพียงแค่บ้านใน ไห่ถัง การ์เด้น ดิสทริค นี้  เพื่อให้เหมาะสมกับพวกเขาแล้ว

 

“ ค่าเช่าบ้านที่นี่เดือนละประมาณหกหมื่นห้าพัน เราเพิ่งมาทำงานใน เมจิกซิตี้  ถูกกว่านี้ได้ไหม?เดือนละ 60,000 หยวนได้ไหมครับ?” จ้าวปิงฉี ถาม

 

ในทางธุรกิจเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดคุยเกี่ยวกับราคา จ้าวปิงฉี ตรงไปที่ประเด็นค่าเช่าและขอลดค่าเช่าโดยตรงกับ หลินฟ่าน

 

หลินฟ่าน ครุ่นคิดเล็กน้อยราคาค่าเช่าเฉลี่ยของบ้านใน ไห่ถัง การ์เด้น ดริสทริค อยู่ที่ประมาณหกหมื่นห้าพัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหกหมื่นห้าพันนั้น จะสามารถเช่าบ้านที่ดีพร้อมเช่นนี้ได้

 

บ้านที่นี่ขาดตลาดและราคาสูงขึ้นทุกวันแม้ว่าใครบางคนจะใช้จ่ายหกหมื่นห้าพัน แต่ก็ไม่สามารถเช่าบ้านใน ไห่ถัง  การ์เด้น ได้

 

แม้ว่า หลินฟ่าน จะไม่ค่อยมีเงิน แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่เขาพอที่จะยอมให้ใครเอาเปรียบได้

 

“แม้ว่าราคาเฉลี่ยของบ้านที่นี่จะอยู่ที่หกหมื่นห้าพันต่อเดือน แต่ก็มีผู้ต้องการเช่าบ้านเป็นจำนวนมากคุณลองหาบ้านว่างหลังอื่นก่อนก็ได้ครับ”

“การเดินทางที่นี่สะดวกมากและไม่มีรถติด หากคุณต้องเดินทางไปทำงาน ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มีร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าและโรงเรียนอยู่ใกล้ ๆ นักเรียนอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน ดังนั้นการลดค่าเช่าลงคงไม่ได้แน่นอนครับ”

“ เดิมผมคิดไว้ว่าจะปล่อยให้เช่าในราคา 70,000 หยวนต่อเดือนครับ” หลินฟ่าน กล่าว และนี่คือข้อสรุปที่เขาได้รับหลังจากการประเมินเป็นเวลานาน

 

“ค่าเช่าเดือนละ 70,000 หยวนซึ่งไม่แพงเกินไปสำหรับที่นี่”

 

” ถ้าหากผมลดราคากลัวว่าจะทำให้ มาตรฐานราคาของที่พักอื่นใน ไห่ถัง การ์เด้น นี้ต่ำลงด้วย”

 

“ใช่ เรารู้มาว่าราคาที่อยู่อาศัยที่นี่มันคือ 70,000 หยวนต่อเดือนและ 840,000 หยวนต่อปีเราขอพิจารณาค่าเช่านี้ก่อนและให้คำตอบได้ไหมครับ” จ้าวปิงฉี ถามด้วยรอยยิ้ม

 

“โอเคครับ แต่คุณต้องตัดสินใจเร็วหน่อยนะครับ  อาจมีผู้เช่ารายใหม่มาขอดูบ้านอีก” หลังจาก หลินฟ่าน พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนและดูเวลาและเตรียมตัวออกเดินทางไปที่ร้าน

 

“นี่ค่ามัดจำ 6,000 หยวนเราจะให้คำตอบคุณภายในสามวันเป็นอย่างช้าที่สุด คุณพอจะเก็บบ้านไว้ให้เราก่อนได้ไหมขอเวลาสามวันนะครับ” จ้างปิงฉี ถามหลังจากตกลงค่าเช่า 840,000 หยวน ไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินใจได้ง่ายๆกับการจ่ายค่าเช่าบ้านในราคานี้

 

“ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมจะเก็บไว้ให้คุณได้แค่สามวันเท่านั้นนะครับ ถ้าคุณแน่ใจคุณสามารถโทรหาผมได้เลยครับ” หลินฟ่าน รับคำขอของ จ้าวปิงฉี

สำหรับ หลินฟ่าน เป็นเรื่องที่ดีที่สุด ถ้าหากเขาจะเช่าที่นี่ได้ เพราะตอนนี้ หลินฟ่าน ไม่มีเงิน

 

ข้อเสนอของ จ้าวปิงฉี เป็นสิ่งที่ หลินฟ่าน ยอมรับไม่ได้อย่างแน่นอน ค่าเช่าเดือนละ 60,000 หยวนเป็นเพียง 720,000 หยวนต่อปีและค่าเช่าเดือนละ 70,000 หยวนเท่ากับ 840,000 หยวน ต่างกัน120,000

 

หาก หลินฟ่าน ยอมใจอ่อนให้เขาเช่าในราคา60,000 พวกเขาจะมีเงินค่าเช่าเหลืออีก 120,000 ต่อปี   แต่เงินมัดจำ 6,000 หยวน นั้นก็ยังดี แม้ว่า จ้าวปิงฉี และภรรยาของเขาจะไม่ได้เช่าบ้าน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องคืนเงินพวกเขาอีกครั้ง แต่ยังสามารถให้คนอื่นเช่าได้

 

หลังจาก หลินฟ่าน  จากไป จ้าวปิงฉี และ หยางกง พวกเขายังดูพอใจกับการรับปากของหลินฟ่าน และชื่นชมอยู่มาก

 

จ้าวปิงฉี  เห็นว่า หลินฟ่าน ยังเด็กและดูเหมือนจะร่ำรวยมาก เขาต้องการที่จะขอลดค่าเช่าโดยคิดว่า หลินฟ่าน จะไม่สนใจด้วยเหตุนี้ หลินฟ่าน จึงไม่ให้ค่าเช่าราคาที่เขาขอ

 

“คุณคะ  หลินฟ่าน เขาไม่ยอมลดค่าเช่า แม้ว่าเขาจะดูไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรก็ตาม คนเช่นนี้ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ” กงหยางกล่าวด้วยความเห็นชอบ

 

“ ใช่!หลินฟ่านคนนี้ ขับรถสปอร์ตที่มีคันเดียวในโลกซึ่งเทียบไม่ได้กับคนทั่วไป” จ้าวปิงฉี  ถอนหายใจส่วนค่าเช่านั้นพวกเขาต้องคิดใหม่จริงๆ

 

เมื่อ  หลินฟ่าน ขับรถกลับมาถึงที่ร้านของเขา นั่นก็มืดแล้ว

หลังจากจอดรถแล้วเขาก็เข้าทางประตูหลังร้านและเปิดไฟ เริ่มเตรียมส่วนผสมอาหารสำหรับมื้อเย็น

 

เซี่ยหว่านชิว ยัยตัวร้ายของเขามักชอบมาหาเขาเพื่อทานอาหาร

 

ประมาณสิบนาทีต่อมา

 

ผู้หญิงสาวสวยสวมหมวกหูแมวเดินเข้ามาทางประตูหลังร้าน นั่นก็คือ เชี่ยหว่านชิว

 

เธอสวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเสื้อสีเทารูปร่างที่เพรียว ผิวสีขาวและขายาว บวกกับหน้าสวยๆของเธอที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ไม่ว่าใครอยากมอง

หลินฟ่าน ได้เห็นผลงานทั้งหมดของเธอ เธอสวยและน่ารักมากเมื่ออยู่บนหน้าจอและมีแฟน ๆ นับไม่ถ้วน แต่ตัวจริงเธอดีกว่าในทีวีมาก

 

เซี่ยหว่านชิว เมื่อไม่ได้แต่งหน้าเธอ มีใบหน้าที่ใสบริสุทธิ์ ยิ่งกว่าพวกเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งเข้าวงการซะอีก

มีดาราชายหลายคนที่อยากแสดงฉากจูบกับเธอแต่เธอไม่รับเล่นบทแบบนั้น ชีวิตในวงการบันเทิงของเธอสะอาดและเรียบง่ายที่สุดและสวยงามมาก เธอมีความตั้งใจกับการทำงานสูง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้

 

“เหมี๊ยวๆ ” เซี่ยหว่านชิว มองไปที่ หลินฟ่าน เธอมักชอบพูดเหมี๊ยวๆเป็นการทักทาย

 

“ ทำไมดูอารมณ์ไม่ดีเลย ทำอาหารด้วยใบหน้าโกรธแบบนี้ เป็นอะไรรึเปล่า?” เซี่ยหว่านชิว  ก้าวเข้ามาใกล้และมองไปที่หลินฟ่าน ใกล้ๆ

หลินฟ่าน ยังคงทำเป็นไม่สนใจ เซี่ยหว่านชิว

แน่นอนว่า หลินฟ่าน ไม่ได้โกรธเธอจริงเพียงแค่แกล้งทำเป็นไม่สนใจเธอเท่านั้น

 

“หืม..งั้นก็ไม่ต้องพูดเลยนะ” เซี่ยหว่านชิว บ่นพึมพำก่อนนั่งบนเก้าอี้และสงสัยในใจว่ามีอะไรที่ทำให้ หลินฟ่าน โกรธรึเปล่า

 

เซี่ยหว่านชิว ก็ทำเป็นไม่สนใจ หลินฟ่าน บ้างเช่นกัน เธอพยายามเอาชนะ

 

เธอนับในใจ

หนึ่งนาที.

 

สองนาที.

 

สามนาที.

ในที่สุดเธอก็ต้องเริ่มคุยก่อน

เซี่ยหว่านชิว  ลุกขึ้นยืนและเดินไปหา หลินฟ่าน  เธอยื่นมือของเธอไปจับชายเสื้อของหลินฟ่านพร้อมกับทำหน้าเศร้าและก้มหัวลง เพื่อยอมรับความผิดพลาดของเธอ

 

เธอน่ารักแบบนี้ใครทนใจร้ายกับเธอได้

 

หลินฟ่าน  มองไปที่ เซี่ยหว่านชิว แล้วยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “แล้วเธอจะกินอะไรล่ะเย็นนี้”

 

เขาจะไม่ได้โกรธ เซี่ยหว่านชิว จริงๆ แต่เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับ เซี่ยหว่านชิว ดังนั้นเขาก็มักจะแกล้งเธอแบบนี้ และ เชี่ยหว่านชิว ก็ต้องยอมแพ้    แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม

เมื่อ เซี่ยหว่านชิว ได้ยินแบบนั้น เธอก็ยิ้มมุมปากให้เห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจ ความข้องใจของเธอก็หายไป “นั่นแน่ะ  นายพูดก่อนนายต้องแพ้”

ขณะนั้น หลินฟ่าน มีเพียงความคิดเดียวในใจ

ว่า…”ฉันถูกยัยนี่โกงอีกแล้ว !

ระบบรักฉบับเทพบุตร

ระบบรักฉบับเทพบุตร

ระบบรักฉบับเทพบุตร
Score 5.9
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ระบบรักฉบับเทพบุตรเรื่องราวชีวิตที่ดูจะเหลือเชื่อไปซักหน่อยของชายหนุ่มที่หล่อขั้นเทพบุตร รักความสงบ แต่อันที่จริงแล้วเดิมทีเขามีชีวิตที่ค่อนข้างจะลำบากเพราะเขาเกิดในครอบครัวธรรมดาและเติบโตมาในชนบท แต่เมื่อเขาจบการศึกษาเขามีโอกาสได้เข้ามาใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ที่ชื่อว่า เมจิกซิตี้ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้ทุกอย่างในชีวิตเขาเปลี่ยนไปเขาบังเอิญได้เข้าใช้ระบบมหัศจรรย์ที่เชื่อมต่อกับชีวิตจริงของเขา ระบบที่ทำให้เขากลายเป็นคนที่ร่ำรวยมากอันดับต้นๆของโลกและทักษะความสามารถรอบด้านเกินกว่าที่คนทั่วไปจะมีได้ หากแต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ระบบไม่ได้ให้มานั่นคือ ดาราสาวสวย ที่ชื่อว่า เซี่ยหว่านชิว ที่เขาและเธอมีความรู้สึกดีๆต่อกันตั้งแต่สมัยที่เรียนชั้นมัธยมปลายจนถึงช่วงเวลาที่เขาประสบความสำเร็จมากที่สุด มักจะมีเธออยู่ข้างๆเสมอ แต่ชีวิตของเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมากมายเหลือเกิน ตัวละครในชีวิตเขาเพิ่มขึ้นมาเพราะระบบนี้ ที่มอบชีวิตดีๆ บวกกับความหล่อของเขามันทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ยากที่จะคาดเดาถึงตอนจบว่าจะเป็นอย่างไร

Comment

Options

not work with dark mode
Reset