ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก – ตอนที่ 51

เมื่อสัตว์บางตัวพบเสือ แม้ว่าพวกมันจะไม่เคยเห็นเสือมาก่อนหรือแม้ว่ามันจะเป็นเสือปลอมก็ตาม พวกมันก็จะหวาดกลัวอย่างมาก พวกสัตว์เหล่านั้นจะสูญเสียเหตุผลทั้งหมดและต้องการเพียงเเค่หนีเท่านั้น

นี่เป็นความกลัวที่ฝังอยู่ในยีนของพวกเขามาตั้งเเต่เเรก เสียงร้องโหยหวนของต้นไม้ปีศาจก็เหมือนกับเสือตัวนั้น และมนุษย์ที่นั่งสลอนก็เหมือนกับสัตว์เหล่านั้น พวกเขาไม่สามารถเข้าใจมันได้และพวกเขาก็คิดว่ามันน่ากลัว…ความคิดในใจอย่างเดียวคือหนี

เเต่อนิจจา…พวกเขายังมีศักดิ์ศรีค้ำคอ ต่อให้หนี ก็ไปไม่ได้ไกล

“ ฟู่!!! ” กู้จวินหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อปรับการหายใจของตนเองไม่ให้ความกลัวตามสัญชาตญาณที่กำลังครอบงำเขา เเม้จะเเทบสำลักฟอร์มาลินก็ตาม….

แม้ว่าจิตสำนึกของเขาจะประสงค์ให้เขาทำเช่นนั้น เเต่จิตใต้สำนึกของเขากลับเห็นแตกต่างออกไป ร่างกายของเขาแข็งทื่อ และไม่สามารถขยับได้แม้แต่ก้าวเดียว เขาควรจะทำอะไร? ทำตามคำสั่งของจิตสำนึกหรือจิตใต้สำนึกกันเเน่!?

หางตาของกู้จวินเหลือบไปเห็นการแสดงออกที่เงียบสงบบนใบหน้าของศาสตราจารย์ฉินและคณะกรรมการคนอื่น ๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย ทำหน้าบึ้งตึงบอกบุญไม่รับ เเค่มองก็รู้เเล้วว่าคนพวกนี้นั้นชั่วร้ายเเละประสงค์จะไม่ให้เขาผ่านการประเมิน…คนพวกนี้เเค่อยากเเกล้งเขาก็เท่านั้น!!

“เเต่! ฉันได้รับอนุญาตให้เข้าไปในกรงแล้ว ก็ไม่น่าจะมีอันตรายอะไรมั้ง? เพราะถ้าอันตราย…พวกเขาจะไม่ยอมให้เด็กอย่างกู้จวินต้องมาเสี่ยง”

จิตใจของกู้จวินเริ่มหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง จากนั้นเมื่อคิดได้เขาก็สงบลงในทันที เขาย่อยความรู้ในสมองและครุ่นคิดหาคำตอบ

‘ตอนนี้ฉันควรมีวิธีรับมือ ทำไมจู่ๆต้นไม้รูปทรงมนุษย์ต้นนี้จึงส่งเสียง? มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง? มันเป็นความจริงของฉันที่เข้ามา…ใช่ พอฉันเข้ามากลไกบางอย่างอาจจะเริ่มทำงานเเล้ว… ’

ยิ่งกลัวมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งไม่สามารถหนีได้

ขณะที่กู้จวินกำลังคิด เขาก็จ้องไปที่ดวงตาขุ่นมัวบนต้นไม้ที่คล้ายมนุษย์อีกครั้งและมองไปที่ใบหน้านับสิบของอีกฝ่าย

เมื่อเผชิญกับแรงกดดันที่เกิดจากเสียงกรีดร้องเหล่านั้น เขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในดวงตาคู่เหล่านั้น รูม่านตาของพวกเขาขยายขึ้น…

ภายใต้สถานการณ์ปกติ กระจกตาของคนเราจะขุ่นมัวเนื่องจากการสูญเสียน้ำหลังจากเสียชีวิต ยิ่งระยะเวลาตายนานเท่าใดกระจกตาก็จะยิ่งขุ่นมัวมากขึ้นเท่านั้น

แพทย์นิติเวชสามารถประมาณเวลาการเสียชีวิตโดยพิจารณาจากระดับความทึบของกระจกตา

แม้จะเสียชีวิตไม่นานรูม่านตาก็ไม่สามารถหดหรือขยายได้อีกต่อไปเนื่องจากกล้ามเนื้อเรียบจะหย่อนลง เเละขนาดของรูม่านตามันจะคงอยู่ในขนาดกลางเท่านั้น

เเต่…คนที่ตายแล้วภายในต้นไม้ที่คล้ายมนุษย์ดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง!

นี่เป็นเพราะฉันปลุกพวกเขาหรือไง? กู้จวินอยากจะสัมผัสต้นไม้มนุษย์ที่กรีดร้องขึ้นมาอีกครั้ง เขาอยากจะลองพิสูจน์บางอบ่างดู?

“เอาล่ะ ฉันจะลองดู” กู้จวินจ้องมองต้นไม้ปีศาจพักหนึ่งและยกมือขึ้นเอื้อมไปหามันอีกครั้ง เเต่แทนที่จะหยุดชะงักเหมือนเดิม คราวนี้เขายืดมือออกเพื่อปิดเปลือกตาอย่างยากลำบาก นั่นก็เพราะกล้ามเนื้อหลับตานั้นตึงจัดและมีความแข็งอย่างผิดปกติ ดังนั้นเขาจึงต้องออกแรงมากขึ้นเพื่อให้เปลือกตาของต้นไม้นั้นหลับลงไป

เมื่อเปลือกตาปิดลง ใบหน้าทั้งหมดก็เงียบลงอย่างรวดเร็ว

เมื่อปิดตาหนึ่งได้ กู้จวินก็ขยับมาปิดเปลือกตาอีกข้างและขอโทษพวกเขาอย่างเงียบ ๆ ‘ฉันช่วยคุณไม่ได้ ขอให้ไปสู่สุขคติเถิด’

“ หืม?” นี่ไม่ใช่ฉากที่เหล่าคณะกรรมการคิดเอาไว้เลย พวกเขามองไปรอบ ๆ และเห็นความประหลาดใจที่น่ายินดีบนใบหน้าของกันและกัน คณะกรรมการส่วนใหญ่พ่อใจกับพฤติกรรมของกู้จวินเป็นอย่างมาก พวกเขาเอ่ยปากชมเเละเริ่มลงคะเเนนกัน

เด็กคนนี้สามารถแสดงประสิทธิภาพความกล้าเเละความรู้ระดับนี้ได้ในครั้งแรกที่เขาได้พบกับต้นไม้รูปร่างคล้ายมนุษย์ เขาสามารถแสดงความสงบและมีเหตุมีผล ช่างเป็นอะไรที่หายาก! คราวนี้พวกเขาคงได้พบ ‘ทอง’ ล้ำค่าเเห่งวงการเเพทย์เเล้ว

ขณะที่เสียงคร่ำครวญอย่างน่าสยดสยองของต้นไม้ปีศาจค่อยๆเบาลง นักศึกษาทั้งหมดก็สังเกตเห็นการตอบสนองที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบของกู้จวินอย่างชัดเจน

พวกเขาไม่รีรอรีบส่งเสียงโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นทันที เสียงกรีดร้องของความหวาดกลัวรอบ ๆ กู้จวินก็หยุดลงกลายเป็นเสียงเเห่งความยินดีเเล้ว ทุกคนกัดฟันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดระเบียบสติของตนเองใหม่ เเละพยายามสร้างภาพว่าพวกเขาไม่กลัว!

ใช่!! พวกเรา “ทาส” ทางการแพทย์ไม่เกรงกลัวอยู่เเล้ว!

ต้นไม้ปีศจาเเค่นี้เอง!!

“ อืม…” ศาสตราจารย์ฉินพยักหน้า เขาเองก็มองดูในขณะที่กู้จวินปิดเปลือกตาของใบหน้าต้นไม้ปีศาจ

ความพึงพอใจในหัวใจของศาสตราจารย์ฉินเพิ่มขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด เขาคิดในใจด้วยความชื่นชมต่อตัวของเด็กหนุ่ม

เเม้ความสามารถทางการแพทย์ของเขาจะยังไม่เป็นที่ประจักษ์ เเต่อย่างน้อยที่สุดคุณภาพทางจิตใจของชายหนุ่มคนนี้ก็ยอดเยี่ยม

“ นักศึกษากู้ หยุดได!! การประเมินสิ้นสุดลงเเล้ว คุณสามารถออกมาได้”

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก้าวไปข้างหน้าและดึงประตูกรงให้เปิดออก เสียงของประตูกรงที่ขูดกับพื้นดังไปเสียดเเทงหูคนขวัญอ่อนบางคนจนตัวสั่น

กู้จวินจ้องมองต้นไม้ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์อีกครั้ง ก่อนที่จะเดินออกไปด้วยฝีเท้าที่มั่นคง เมื่อเขาจากไป ใบหน้าที่เปลือกตายังไม่ปิดสนิทก็ค่อยๆหยุดร้องครวญครางเเล้วเงียบไปในที่สุด

เมื่อกู้จวินออกจากกรงเหล็ก ผู้ชมต่างก็ปรบมือให้เขาอย่างลืมตัว มหาวิทยาลัยชิงหยุน คณะแพทย์จื่อหัว …นักศึกษาจำนวนมากจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ต่างก็ปรบมือให้กับกู้จวิน

แน่นอนว่านักศึกษาของมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นมีความภาคภูมิใจมากกว่าคนอื่น ๆ  พวกเขาปฏิบัติต่อกู้จวินที่เพิ่งกลับไปนั่งที่เหมือนฮีโร่ที่กลับบ้านอย่างมีชัย

“เสี่ยกู้!! นายทำได้ดีจริงๆ นายกลายเป็นฮีโร่เเล้ว!”

“ นายใจเย็นมาก สุดติ่งไปเลยว่ะ!!”

กู้จวินกลับไปที่ที่นั่งเพื่อตอบรับคำชมของทุกคน ศาสตราจารย์กู้ยกนิ้วให้เขาอย่างภาคภูมิใจ

ซูไห่  จางห้าวหลัน และเฮ่ออี้หานรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการที่จะยกกู้จวินไว้บนแท่นเพื่อบูชาอย่างเคารพอย่างที่สุด

พวกเขาเล่าว่าตอนนั้นพวกเขาหวาดกลัวต้นไม้มากจริงๆ และการกระทำของกู้จวินก็คล้ายกับการช่วยชีวิตที่เลวร้ายของพวกเขา

อย่างไรก็ตามยังไม่ทันที่กู้จวินจะนั่งลง เส้นประสาทที่ตึงเครียดของเขาดันนึกถึงความงามที่น่าสยดสยองและเป็นเอกลักษณ์ของต้นไม้รูปทรงคล้ายมนุษย์ได้ รูปลักษณ์ของมันนั้นยังคงตราตรึงหัวใจของเขาไม่มีวันลืม

เขายังคงครุ่นคิดถึงความหมายเบื้องหลังเสียงกรีดร้องนั้น บางทีมันอาจไม่มีความหมายเลย หรืออาจเป็นเพียงการที่มนุษย์ไม่เข้าใจมัน…หรือภาษาต่างดาวอีก กู้จวินครุ่นคิดจากนั้นก็เกาหัวอย่างงวยงง

“เฮ่อ เสี่ยกู้!” ไช่ฉีซวนกล่าวอย่างมีอารมณ์สนุกสนาน “ ตอนที่นายเดินเข้าไปในกรงเหล็ก มันทำให้ฉันนึกถึง ‘จูล่ง ’ที่กำลังเดินขึ้นไปบนเนินเขาเตียงปันโป๋”

หวังรั่วเซียงซึ่งนั่งอยู่อีกด้านหนึ่งตบไหล่กู้จวินเบาๆและถามว่าอย่างใส่ใจ “ เมื่อกี๊ฉันเห็นนายตกใจนิดหน่อย…เป็นอะไรมากไหม?” เธอสังเกตว่าเขายังคงประหม่าเล็กน้อยและจงใจปลอบโยนเขาเเบบอ้อมๆ

“ ไม่เป็นไรเเล้ว” กู้จวินยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันตกใจเธอนั่นเเหละ! ไม่นึกเลยว่าเเม่หอสมุดเดินได้จะห่วงใยฉัน”

ในทางกลับกันศาสตราจารย์ฉินไม่รีบดำเนินการต่อ หลังจากสิ้นเสียงปรบมือเขาอธิบายอย่างจริงจัง

“ เอาล่ะ! นักศึกษาทั้งหลาย ฉันจะอธิบาย…ต้นไม้นั่นไม่ใช่ผี นั่นคือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ถูกขังในกรง…เอ่อ ขอเรียกมันว่าสิ่งมีชีวิต เพราะนั่นเป็นหนึ่งในอาการที่แสดงก่อนเสียชีวิตของมนุษย์….”

ระบบศัลยเเพทย์ ในยุคสิ้นโลก

ระบบศัลยเเพทย์ ในยุคสิ้นโลก

Score 5.9
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ระบบศัลยเเพทย์ ในยุคสิ้นโลก เรื่องย่อ ครั้งหนึ่ง ถนนเส้นนี้เคยคึกคักครึกครื้น และเต็มไปผู้คนหัวเราะเสียงดัง ทว่าเวลาผันผ่าน..ตอนนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตร บรรยากาศบนท้องถนนเต็มไปด้วยความเงียบที่น่าขนลุก เสียงกระซิบที่แหบแห้งและบ้าคลั่งดังก้องอยู่เหนือท้องฟ้า มีปีศาจยักษ์ใหญ่จากโบราณอันน่ากลัวจนที่ไม่อาจอธิบายได้ แฝงตัวอยู่ในเงามืดของมหาสมุทรที่ไร้ก้นบึ้ง ภัยพิบัติลึกลับได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเเละขยายตัวกระจายไปยังทั่วโลก การระบาดของโรคร้ายและความหายนะทำให้ฝูงคนทั่วโลกตื่นตระหนก ผู้คนหวาดกลัวเเละพากันอพยพหนีตายกันจ้าล่ะหวั่น..มีเพียงหนึ่งเดียวที่พวกเขาต้องการนั่นคือ ที่ซุกหัวที่อบอุ่นเเละปลอดภัยเพียงเท่านั้น หยาดฝนโลหิตไหลรินทั่วแผ่นดิน ในขณะที่มวลมหาสายฟ้าผ่าทั่วท้องนภาอย่างบ้าคลั่ง เเสงสว่างของมันส่องให้เห็นฝูงกาที่กำลังบินฉวัดเฉวียนอยู่ด้านบน “ เราจะเห็นว่าสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างผิดปกตินี้มีซี่โครงสิบสองคู่เหมือนมนุษย์ แต่ยังมี“ กระดูกขวาง” ที่มนุษย์ไม่มี…” ในโรงเรียนแพทย์ กู้จวินยังคงนำมีดผ่าตัดของเขา ผ่าลงที่ซากศพโดยแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างทรวงอกที่ผิดปกติของซากศพ โดยรอบๆโต๊ะผ่าศพมีนักเรียนหลายคนมองดูอยู่ ช่วงเวลาที่เลวร้ายและการเเก่งเเย่งได้ใกล้เข้ามา! ความจริงและตรรกะที่พังทลายคำสั่งวิปริตเข้าสู่ความบ้าคลั่ง มนุษยชาติสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ด้วยพลังแห่งสติปัญญาและสติปัญญาเท่านั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset