ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ตอนที่ 60 บรรลุระดับสุญตาในที่สุด! ของวิเศษคู่ชีวิต!

บทที่ 60 บรรลุระดับสุญตาในที่สุด! ของวิเศษคู่ชีวิต!
พินาศย่อยยับทั้งพรรค?

หานเจวี๋ยอ่านด้วยความตะลึงงัน เขาตะโกนในใจว่ายอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้

สมกับเป็นดาวตัวซวยแห่งวังสวรรค์จริงๆ!

ระเบิดอาวุธปรมาณูอย่างสมบูรณ์แบบ!

แต่หานเจวี๋ยไม่เคยได้ยินชื่อพรรคภูตทมิฬมาก่อน คาดว่าคงเป็นพรรคเล็กๆ

หากเป็นสำนักบำเพ็ญเซียนที่มีรากฐานยาวนาน คงไม่ถึงกับพินาศย่อยยับเพียงเพราะด่านเคราะห์สวรรค์ที่พบเจอได้น้อยในรอบไม่กี่ร้อยปี

บางทีอาจจะพึ่งแค่ซูฉี หานเจวี๋ยไม่ต้องลงมือก็สามารถจัดการสำนักมารปีศาจได้อย่างนั้นหรือ

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นโม่ฟู่โฉวกำลังถูกผู้บำเพ็ญสายหลักไล่ล่า

นี่คือการตกสู่มรรคมารอย่างสมบูรณ์!!

จำต้องกล่าวว่า

โลกภายนอกมีสีสันมาก เรื่องราวในโลกเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน

โชคดีที่เขาเลือกถ่อมตนฝึกบำเพ็ญตั้งแต่แรก

หากเป็นเหมือนกับโม่ฟู่โฉว โจวฝานและหลี่ชิงจื่อ เช่นนั้นจะต้องทุกข์ทรมานเพียงใด

ยังมีศิษย์ของเขาอีก กล่าวว่าไปเข้าร่วมงานประชุมใหญ่การบำเพ็ญเซียน สุดท้ายกลับถูกราชาปีศาจโจมตี

โชคยังดีที่พลิกร้ายให้กลายเป็นดีได้

หากตกตายอยู่ข้างนอก หานเจวี๋ยคงพูดอะไรไม่ออก

ที่ควรกล่าวถึงก็คือ ช่วงนี้หลี่เฉียนหลงไม่ปรากฏตัวออกมาเลย หรือเขาจะสาปแช่งสำเร็จแล้ว

หานเจวี๋ยส่ายหน้า หยัดการลุกขึ้นเตรียมไปฝ่าด่านเคราะห์ที่แดนหมื่นปีศาจ

……

ภายในหุบเขาที่มืดสลัวแห่งหนึ่ง

หลี่เฉียนหลงพิงหน้าผา และจดจ่ออยู่กับการกลั้นหายใจ

มีผู้บำเพ็ญสิบกว่าคนยืนอยู่ข้างๆ เขา

เงยหน้ามองขึ้นไป ปีศาจประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังวนเวียนอยู่เหนือหุบเขา

ผู้บำเพ็ญหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลี่เฉียนหลงกล่าวด้วยความคับแค้นใจ

“ผู้อาวุโสหลี่ ไม่ใช่ว่าท่านรู้ทางหรอกหรือ เหตุใดถึงพาพวกเรามาอุโมงค์ปีศาจได้”

ผู้บำเพ็ญคนอื่นๆ ล้วนแต่มีสีหน้าหวาดกลัว

พวกเขาล้วนเป็นผู้บำเพ็ญของตระกูลเว่ย

หลี่เฉียนหลงตามหาตระกูลเว่ยตามที่ราชาพิษบอก ใช้เวลาไปหลายปีเพื่อรับบุตรชายคนโตของภรรยาเอกตระกูลเว่ยเป็นศิษย์ สร้างความสัมพันธ์อันดี ครั้งนี้ไปจากต้าเยี่ยนพร้อมกับตระกูลเว่ย เพื่อเตรียมไปดึงสำนักที่แข็งแกร่งของแดนบำเพ็ญพรตอื่นๆ มาเป็นพวก

ผลสุดท้ายค่ายกลแห่งหนึ่งที่ใช้ในการส่งตัวเกิดข้อผิดพลาด ส่งพวกเขามายังอุโมงค์ปีศาจแห่งนี้ ที่นี่มีปีศาจมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งมีราชาปีศาจอยู่ตนหนึ่ง พลังของมันน่ากลัวยิ่งนัก แม้แต่หลี่เฉียนหลงยังเอาชนะได้ยาก

หลี่เฉียนหลงเองก็กลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก

ช่วงไม่กี่ปีนี้ ดวงชะตาของเขาย่ำแย่อย่างถึงที่สุด

รีบออกเดินทางก็โดนฟ้าผ่า บำเพ็ญเพียรก็พบเจอกับจิตมาร ปล้นสะดมผู้บำเพ็ญหนุ่ม สุดท้ายคนผู้นั้นก็เป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับเปลี่ยนวิญญาณที่แกล้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสือ

ครั้งนี้ยังพาศิษย์ตระกูลเว่ยมาประสบโชคร้ายด้วยกันอีก

“ไม่ได้! ข้ายังไม่ได้แก้แค้น! ไม่อาจตายอยู่ที่นี่ได้!”

หลี่เฉียนหลงกัดฟันคิด

……

หอสัตว์เลี้ยงปีศาจ

ศิษย์จำนวนหลายสิบคนมารวมตัวกันที่นี่ นักพรตเต๋าจิ้งซวีเองก็อยู่ที่นี่ด้วย

“ตั้งแต่นี้ไป ศิษย์ทั้งหมดห้ามเข้าแดนหมื่นปีศาจ รอเปิดประกาศยกเลิกแล้วถึงแจ้งให้ทราบ”

นักพรตเต๋าจิ้งซวีกล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก

ศิษย์ยอดเขาหลักผู้หนึ่งถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ “อาจารย์ เกิดอะไรขึ้นกับแดนหมื่นปีศาจหรือ”

ศิษย์คนอื่นๆ ก็รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก

ศิษย์ทุกคนต่างจะไปจับสัตว์เลี้ยงปีศาจในแดนหมื่นปีศาจ เพื่อเพิ่มกำลังการเดินบนเส้นทางในแดนบำเพ็ญพรตของตน

นักพรตเต๋าจิ้งซวีกล่าวอย่างเรียบนิ่งว่า “ผู้อาวุโสสังหารเทพกำลังฝ่าด่านเคราะห์ หรือบางทีอาจจะฝึกบำเพ็ญพลังวิเศษบางอย่าง”

เขาไม่เคยคิดว่าหานเจวี๋ยอาจจะทะลวงระดับสุญตา

นี่แค่ไม่กี่สิบปีเอง?

เดิมทีก็ไม่มีทางเลย!

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งก็ใช้เวลามากกว่าพันปีถึงบรรลุระดับสุญตาได้ จำต้องรู้ว่านักพรตเต๋าจิ่วติ่งก็คือผู้มีพรสวรรค์อันดับหนึ่งของแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยนในปีนั้น!

ฮือฮา…

บรรดาศิษย์พากันฮือฮาขึ้นมา

“ผู้อาวุโสสังหารเทพอยู่ด้านในหรือ”

“ว้าว ข้ายังไม่เคยเห็นผู้อาวุโสสังหารเทพเลย”

“กล่าวกันว่าผู้อาวุโสสังหารเทพเป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักหยกพิสุทธิ์ ท่านเอาแต่ปิดด่านฝึกบำเพ็ญอยู่ตลอดเวลา”

“ความมุมานะฝึกบำเพ็ญของผู้อาวุโสสังหารเทพก็ไม่มีใครเทียบเทียมได้ กล่าวกันว่าผู้อาวุโสสังหารเทพรูปงามกว่าบุรุษและสตรีใดๆ ในใต้หล้าเสียอีก”

“อยากเห็นใบหน้าที่แท้จริงของผู้อาวุโสสังหารเทพจริงๆ”

“ผู้อาวุโสสังหารเทพรับศิษย์หรือไม่”

บรรดาศิษย์ต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความตื่นเต้นไม่หยุด

ข่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เหล่าลูกศิษย์พากันมามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หอสัตว์เลี้ยงปีศาจแน่นขนัดจนแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ไม่สามารถไหลผ่าน

บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างก็เคยได้ยินเรื่องเล่าขานของผู้อาวุโสสังหารเทพมาก่อน!

แม้กระทั่งยังมีคนพูดว่าที่สำนักหยกพิสุทธิ์มีวันนี้ได้ คุณูปการของผู้อาวุโสสังหารเทพก็มากกว่าอาจารย์ปู่เสียอีก

หลายวันต่อมา

กวนโยวกังรีบรุดเข้ามา เมื่อเห็นว่ามีคนมารวมตัวกันนอกหอมากมายเช่นนี้ เขาก็ก่นด่าด้วยความโมโห “ไสหัวออกไปให้หมด ผู้ใดกล้ามารวมตัวกันที่นี่ จะปลดให้ไปอยู่สำนักฝ่ายนอก!”

พอวาจานี้หลุดออกจากปาก บรรดาศิษย์ทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปกระเจิดกระเจิง

กวนโยวกังมาถึงโต๊ะด้านหน้า กล่าวว่า “เปิดค่ายกล ข้าจะไปแดนหมื่นปีศาจ!”

ผู้ดูแลกล่าวอย่างลังเล “นักพรตเต๋าจิ้งซวีกล่าวว่า ไม่อนุญาตให้ผู้ใด…”

“ข้าเป็นใครกัน?”

เมื่อเผชิญกับคำพูดประโยคนี้ของกวนโยวกัง ผู้ดูแลก็รีบไปเปิดค่ายกลส่งตัวด้วยอารามตกใจ

……

หลังจากทะลวงมาเจ็ดวันเจ็ดคืน ในที่สุดหานเจวี๋ยก็ฝ่าด่านเคราะห์สวรรค์ที่มีอานุภาพยิ่งใหญ่ไปได้อย่างยากลำบาก ตอนนี้เลื่อนขั้นเป็นผู้บำเพ็ญระดับสุญตาแล้ว!

ด้วยความสามารถระดับเขา เคราะห์สวรรค์ไม่อาจฟาดเขาให้ตายได้!

[ยินดีด้วย ท่านบรรลุระดับสุญตา ได้รับของวิเศษคู่ชีวิตหนึ่งชิ้น]

[ของวิเศษคู่ชีวิตจะผสานกับวิญญาณของท่าน จะยอมรับแค่ท่าน ขณะที่ท่านแข็งแกร่งขึ้น ของวิเศษคู่ชีวิตก็จะแข็งแกร่งตามไปด้วย]

[สำหรับของวิเศษคู่ชีวิต ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง กระบี่]

[สอง ของวิเศษป้องกัน]

ทั้งตัวหานเจวี๋ยล้วนเป็นสมบัติวิญญาณแบบป้องกัน เขาย่อมต้องเลือกกระบี่อยู่แล้ว

อย่างไรเสียเขาก็ฝึกสายกระบี่!

จึงเลือกตัวเลือกที่หนึ่งทันที

[ยินดีด้วย ท่านได้รับกระบี่พิพากษาอนธการ]

[กระบี่พิพากษาอนธการ: เนื่องจากท่านไม่ได้มาจุติตามกฎเกณฑ์ปกติ แต่กลับข้ามอนธการมายังโลกใบนี้ กลิ่นอายอนธการบนตัวหลอมหลวมเป็นของวิเศษคู่ชีวิตของท่าน]

อนธการ?

หานเจวี๋ยอึ้งไปทันที

อนธการในนิยายยุคบรรพกาลหรือ

ระบบไม่ได้ตอบเขา

เขาไม่ได้คิดอะไรมาก และทำตบะให้แข็งแรงต่อ

คุณสมบัติของเจ้าในขณะนี้

[ชื่อ: หานเจวี๋ย]

[อายุขัย: 227/8940]

[เผ่าพันธุ์: มนุษย์ (ช่วงหลุดพ้นโลกีย์) ]

[ตบะ: ระดับสุญตาขั้นหนึ่ง]

[วิชายุทธ์: วิชาวัฏจักรหกวิถี (สามารถสืบทอดได้) ]

[วิชาเวท: ดรรชนีกระบี่เทพ ย่างก้าวลวงตาเจ็ดชั้น สามกระบี่แยกเงา (ที่สุดแห่งยุค) ตราประทับเก้ามังกรขจัดมาร มหาวายุอัสนี วิชาเทพวายุ]

[พลังวิเศษ: พลังดูดวิญญาณหกสาย กระบี่ฟ้าสังหารเทพปีศาจ ค้ำฟ้าเสมือนพสุธา ตีลังกาเมฆ พลังเทพหมื่นกระบี่ คำสาปตถาคต]

[อาวุเวท: อาภรณ์เทพทมิฬจักจั่นทอง (สมบัติวิญญาณระดับเจ็ด) เข็มขัดเก็บสมบัติ กระบี่กิเลน เชือกพันธนาการปีศาจ ระฆังเพลิงอัคคี (สมบัติวิญญาณระดับหก) รองเท้าวิเศษเก้าดารา (สมบัติวิญญาณระดับห้า) มงกุฎแก้วเจ้าเหมันต์ (สมบัติวิญญาณระดับสี่) หนังสือแห่งความโชคร้าย (สมบัติวิญญาณชั้นยอด)]

[ของวิเศษคู่ชีวิต: กระบี่พิพากษาอนธการ]

[คุณสมบัติรากวิญญาณ: ร่างวิญญาณหกสาย ประกอบไปด้วยรากวิญญาณขั้นสูงสุด วายุ อัคคี วานี พสุธา พฤกษา อัสนี เสริมดวงชะตาอีกหนึ่งขั้น]

[ดวงชะตาแต่กำเนิดมีดังนี้]

[ไม่เป็นสองรองใคร: คุณสมบัติเซียน มหาเสน่ห์ขั้นสูงสุด]

[ชะตาเซียนกระบี่: คุณสมบัติมรรคกระบี่ขั้นสูงสุด ความเข้าใจมรรคกระบี่ขั้นสูงสุด]

[ความไวของท่าร่าง: คุณสมบัติท่าร่างขั้นสูงสุด]

[ทายาทจักรพรรดิเซียน: ได้รับวิชายุทธ์บำเพ็ญเพียรชั้นเลิศ หินวิญญาณชั้นสูงหนึ่งพันก้อน]

[ตรวจสอบค่าความสัมพันธ์]

……

อายุขัยพุ่งทะยานไปถึง 8,940 ปี!

สุดยอดไปเลย!

หานเจวี๋ยยังสังเกตเห็นว่าสถานะมนุษย์ของเขายังมีคำใบ้ว่า ‘ช่วงหลุดพ้นโลกีย์’ อยู่ด้วย

นี่คือสัญญาณว่าเดินเข้าหนทางแห่งการเป็นเซียนแล้วหรือ?

หานเจวี๋ยปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างมาก

การฝึกบำเพ็ญอย่างลำบากมาสองร้อยปี หากเป็นคนอื่นคงเป็นบ้าไปแล้ว

แต่เขาชินเสียแล้ว แม้กระทั่งยังมีความสุขกับมันด้วย

ความรู้สึกที่แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างมั่นคง มันช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก!

เหตุที่มนุษย์ธรรมดาเบื่อหน่ายการฝึกบำเพ็ญ ส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่รู้สึกว่าตนเองแข็งแกร่งขึ้น

แต่หานเจวี๋ยแตกต่างออกไป คุณสมบัติเลิศล้ำ ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน

บรรลุระดับสุญตาได้ นับว่าไร้ศัตรูในแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยนแล้ว!

หลังจากนี้…

แน่นอนว่าต้องพุ่งทะลวงระดับรวมกายาอย่างสุดกำลัง!

หานเจวี๋ยคิดอย่างแน่วแน่

ตอนนั้นเอง มีเสียงดังเข้ามา

“ผู้อาวุโสสังหารเทพ ข้าคือกวนโยวกัง รอท่านทำตบะให้แข็งแรงแล้ว เรามาประมือกันสักรอบเถิด หากข้าชนะท่านได้ หลังจากนี้ข้าก็คือเจ้าสำนักของสำนักหยกพิสุทธิ์!

……………………………………….

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
Score 9.8
Status: Ongoing
อ่านระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะเนื่องจากชาติก่อนเป็นโรครักษาไม่หาย ตายก่อนวัยอันควร เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่ในแดนบำเพ็ญเซียน เขาจึงมีเป้าหมายเดียว... ชีวิตอมตะ! หานเจวี๋ยพบว่าตนเองมีระบบของเกมวิถีชีวิตอยู่กับตัว หลังจากใช้เวลากว่าสิบเอ็ดปี ในที่สุดก็สุ่มได้ดวงชะตาและรากวิญญาณชั้นเลิศจากระบบ ทำให้เขาสามารถเข้าสู่วิถีแห่งการบำเพ็ญเซียนได้อย่างมั่นใจ เพื่อเป้าหมายการมีชีวิตเป็นอมตะ เขาตัดสินใจฝึกฝนเงียบๆ เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ให้เป็นจุดสนใจ กระทั่งพันปีต่อมา แดนบำเพ็ญเซียนเปลี่ยนไปยุคแล้วยุคเล่า เมื่อเทพเซียนจะชำระล้างโลกมนุษย์ หานเจวี๋ยไม่อาจไม่ลงมือ ยามนั้นเขาจึงเพิ่งค้นพบว่า... เทพเซียนมันก็แค่นี้เอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset