ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ตอนที่ 80 ระดับสุญตาขั้นเก้า ตัวเอกฟื้นคืนชีพ

บทที่ 80 ระดับสุญตาขั้นเก้า ตัวเอกฟื้นคืนชีพ
ทางเหนือของต้าเยี่ยน หิมะน้ำแข็งปกคลุมพันลี้

ภายในถ้ำภูเขาแห่งหนึ่ง หยางเทียนตงคุกเข่าตัวสั่นงันงกอยู่บนพื้น

“อ๊ากกก ข้าทนไม่ไหวแล้ว! เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้”

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ขยุ้มผมคำรามด้วยความโมโห พลังลึกลับที่สมควรตายนั่นมารบกวนการฝึกฝนของเขาอีกแล้ว

ทั้งๆ ที่เขาได้สาบานต่อสวรรค์แล้ว เหตุใดถึงยังต้องเผชิญกับโทษเช่นนี้

หยางเทียนตงเองก็รู้สึกแปลกใจมาก แท้ที่จริงแล้วราชาปีศาจเตี่ยนซู่ไปล่วงเกินผู้ใดเข้ากันแน่ คิดไม่ถึงว่าจะสามารถแอบสาปแช่งราชาปีศาจเตี่ยนซู่อยู่ในที่ลับได้

สามารถทำให้ราชาปีศาจเตี่ยนซู่บ้าคลั่งได้ถึงขนาดนี้ จะต้องเป็นผู้ทรงพลังอย่างแน่นอน!

ที่สำคัญคือแม้ว่าราชาปีศาจเตี่ยนซู่จะบ้าคลั่ง แต่กลับไม่กล้าก่นด่าอีกฝ่าย ในใจยังคงหวาดกลัวอยู่มาก

ดวงตาแดงก่ำทั้งคู่ของราชาปีศาจเตี่ยนซู่จ้องมองไปที่หยางเทียนตงนิ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “เจ้าว่ามา! เจ้าว่าบิดาควรทำอย่างไร”

หยางเทียนตงกลิ้งกลอกลูกตา กล่าว “บิดาบุญธรรม เป็นไปได้หรือไม่ว่า…สาบานต่อสวรรค์ เทพเซียนท่านไม่เชื่อ หากท่านไปเยี่ยมเยียนสำนักของเผ่ามนุษย์ด้วยตัวเอง คบค้าสมาคมกับพวกเขา บางทีเทพเซียนอาจจะมองท่านเปลี่ยนไป”

เมื่อคำพูดนี้เอ่ยออกไป ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ก็ตาเป็นประกาย นี่ก็พอมีเหตุผลอยู่บ้าง

“แต่ต้าเยี่ยนมีสำนักมากมายขนาดนั้น ข้าต้องไปเยี่ยมเยียนทีละสำนัก แสดงใบหน้ายิ้มแย้มกับผู้บำเพ็ญเหล่านั้นหรือ”

“ย่อมไม่ถึงขนาดนั้น ท่านเพียงไปเยี่ยมเยียนสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดก็น่าจะเพียงพอแล้ว!”

“สำนักใดแข็งแกร่งที่สุดในต้าเยี่ยน”

“สำนักหยกพิสุทธิ์ แต่ก่อนข้าก็เป็นศิษย์ของสำนักหยกพิสุทธิ์ บางทีข้าอาจจะช่วยท่านพูดได้ เพื่อจะลดความเข้าใจผิดได้บางส่วน”

“ดี! เช่นนั้นก็ไปสำนักหยกพิสุทธิ์ พรุ่งนี้ออกเดินทาง ไม่สิ วันนี้แหละ ตอนนี้เลย! ข้าทนไม่ไหวแล้วจริงๆ!”

……

หลังจากหานเจวี๋ยรู้ว่าเซียวเอ้อร์ตายแล้ว ไม่ถึงครึ่งปี ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ก็รีบมาที่สำนักหยกพิสุทธิ์

หยางเทียนตงให้เขารออยู่บริเวณใกล้ๆ ก่อน ส่วนตนเองนั้นเข้าไปไหว้อาจารย์ของตน

หานเจวี๋ยเป็นผู้อาวุโสสังหารเทพของสำนักหยกพิสุทธิ์ เกิดความขัดแย้งกับราชาปีศาจเตี่ยนซู่ได้ง่าย

หยางเทียนตงเข้าใจอาจารย์ของตนเป็นอย่างดี แม้ว่าจะถ่อมตน พูดเต็มปากเต็มคำว่ากลัวตาย แต่หากสำนักหยกพิสุทธิ์เผชิญกับปัญหาจริงๆ เขาไม่อาจนิ่งดูดายได้อย่างแน่นอน

ทว่าราชาปีศาจเตี่ยนซู่ไม่ใช่ผู้อ่อนแอ หยางเทียนตงไม่อยากให้พวกเขาต่อสู้กัน

ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน

หานเจวี๋ยรู้ว่าราชาปีศาจเตี่ยนซู่มาถึงแล้ว ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของเขาคือเข้าไปจำลองการทดสอบ

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่แข็งแกร่งยิ่งนัก!

ครั้งแรกหานเจวี๋ยใช้เวลาต่อสู้ไปสิบวินาที

เช่นนี้ไม่ได้!

ระดับสุญตาขั้นแปดสังหารระดับรวมกายาขั้นสี่ ใช้เวลาสิบวินาที?

หานเจวี๋ยไม่เชื่อในความชั่วร้าย เขาไม่สนใจหยางเทียนตง ยังจำลองการทดสอบต่อไป

ครั้งนี้เขาใช้ท่าใหญ่ทันที กระบี่พิพากษาอนธการ และจิตกระบี่หวนคืนกับพลังวิญญาณหกสายสำแดงวิชากระบี่ฟ้าสังหารเทพปีศาจ สามารถสังหารราชาปีศาจเตี่ยนซู่ได้ในเสี้ยววินาที!

หานเจวี๋ยรู้สึกวางใจทันที

สามารถสังหารได้ในวินาทีเดียวก็ดีแล้ว

เขาลืมตามองไปทางหยางเทียนตง เอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจ “เหตุใดราชาปีศาจเตี่ยนซู่ถึงได้มาที่สำนักหยกพิสุทธิ์”

ครั้งนี้ ท่าทีของเขาแตกต่างไปจากไปเดิมอย่างสิ้นเชิง ทำให้หยางเทียนตงได้กลิ่นของการขู่เข็ญที่ไม่ยี่หระแต่อย่างใด

หยางเทียนตงแอบเลื่อมใสเขา สมกับเป็นอาจารย์ เป็นผู้เจนโลกอย่างแท้จริง

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่สามารถรออยู่ข้างนอกได้ แสดงให้เห็นท่าทีของเขาแล้ว หากเปลี่ยนเป็นเจ้าสำนัก แม้จะรู้ท่าทีของราชาปีศาจเตี่ยนซู่ ก็ยังต้องวิ่งหนี

หยางเทียนตงเริ่มเล่าเรื่องที่ราชาปีศาจเตี่ยนซู่เผชิญในช่วงนี้

หานเจวี๋ยฟังแล้วเกือบหัวเราะออกมา

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่กลับสงสัยว่าเป็นฝีมือของเทพเซียน เช่นนี้ก็ดี มีพันธมิตรเพิ่มอีกคนย่อมดีกว่ามีศัตรูเพิ่ม

“อืม พาราชาปีศาจเตี่ยนซู่ไปพบเจ้าสำนักเถอะ ข้าจะถ่ายทอดเสียงบอกเจ้าสำนักเดี๋ยวนี้” หานเจวี๋ยเอ่ยปากกล่าว

หยางเทียนตงดีอกดีใจเป็นอย่างยิ่ง รีบร้อนคารวะแล้วถอยออกไป

หานเจวี๋ยถ่ายทอดเสียงให้หลี่ชิงจื่อทันที

เมื่อหลี่ชิงจื่อได้ทราบเรื่องนี้ ไหนเลยจะกล้าปฏิเสธ ชื่อเสียงของราชาปีศาจเตี่ยนซู่เขาเคยได้ยินมาก่อน ก็เหมือนกับที่คนจีนรู้จักปีศาจกระทิง[1] ตำนานราชาปีศาจเตี่ยนซู่หยั่งรากลึกในต้าเยี่ยน เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้สุนัขรับใช้ที่มีนิสัยอย่างปีศาจพฤกษาเฒ่าที่ป่าวประกาศไปทั่ว

ข่าวที่ราชาปีศาจเตี่ยนซู่มาเยี่ยมเยียนแพร่กระจายไปทั่วสำนักหยกพิสุทธิ์อย่างรวดเร็ว

บรรดาศิษย์พากันตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง ด้วยไม่รู้ว่าราชาปีศาจเตี่ยนซู่มาพูดคุยด้วย พวกเขายังคงนึกว่ามาเปิดศึก

ศิษย์สายในนับหมื่นล้วนจัดขบวนทัพเพื่อรับมือข้าศึกอย่างพร้อมสรรพ

ตั้งแต่ที่นักพรตเต๋าจิ่วติ่งพาสำนักหยกพิสุทธิ์พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน จำนวนศิษย์สายในสำนักหยกพิสุทธิ์ก็มีมากกว่าหนึ่งหมื่นห้าพันคน ศิษย์สายนอกมีมากกว่าสามหมื่นคน อีกทั้งในตำหนักลับยังมีศิษย์อัจฉริยะถึงพันคน

ไม่เพียงเท่านี้ สำนักหยกพิสุทธิ์ยังรับแขกระดับปราณก่อกำเนิดเกือบสิบท่าน ความแข็งแกร่งโดยรวมพุ่งสู่สำนักที่แข็งแกร่งที่สุดในต้าเยี่ยนแล้ว

หานเจวี๋ยไม่ได้ฝึกฝน เขาเอาแต่จับตาดูสถานการณ์บนยอดเขาหลักอยู่ตลอด

โชคดีที่ราชาปีศาจเตี่ยนซู่รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วจริงๆ ท่าทียามที่พูดคุยกับหลี่ชิงจื่อจึงสุภาพอ่อนโยนมาก ทั้งสองฝ่ายเพียงแค่พูดคุยเรื่อยเปื่อย ไม่ได้พูดถึงเงื่อนไขอะไร

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่เพียงแค่มาแสดงเจตนาดี หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน หลังจากนี้ไม่เป็นศัตรูกันอีก

หลี่ชิงจื่อย่อมไม่ปฏิเสธ

หลังจากพูดคุยไปสองชั่วยาม ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ก็พาหยางเทียนตงจากไป

ก่อนหน้าที่จะจากไป หยางเทียนตงยังไปกราบลาหานเจวี๋ย

กระทั่งเขาจากไปแล้ว หานเจวี๋ยยังคงรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง

แต่เช่นนี้ก็ดี หยางเทียนตงมีคนหนุนหลังแล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องรบกวนหานเจวี๋ยอีก

หานเจวี๋ยตัดสินใจว่าหลังจากนี้จะไม่สาปแช่งราชาปีศาจเตี่ยนซู่อีก นอกเสียจากเขาจะสร้างเรื่อง

“เฮ้อ ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ยอมจำนนแล้ว เซียวเอ้อร์ก็ตายแล้ว ไม่มีกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำแล้ว”

หายเจวี๋ยทอดถอนใจด้วยความรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง

ช่างเถอะ

บนเส้นทางชีวิตที่ยาวไกล มีเพียงการบำเพ็ญเท่านั้นที่เป็นเพื่อน

หานเจวี๋ยทำการฝึกฝนต่อ เป้าหมายคือทะลวงระดับสุญตาขั้นเก้า!

……

เจ็ดปีต่อมา

ในที่สุดหานเจวี๋ยก็ทะลวงถึงระดับสุญตาขั้นเก้า!

เบิกบานใจเสียจริง!

ในที่สุดหานเจวี๋ยก็มองเห็นระดับรวมกายาอยู่รำไร ไม่ต้องบอกเลยว่าเขาจะอารมณ์ดีขนาดไหน

บรรลุถึงขั้นเก้า และสะสมพลังวิญญาณหกสายให้ถึงระดับสุญตาขั้นสมบูรณ์ อย่างมากก็ใช้เวลาไม่กี่ปี ส่วนการทะลวงก็ใช้เวลาไม่กี่วันเท่านั้น

หานเจวี๋ยว่างไม่มีอะไรทำ จึงเปิดดูจดหมายในค่าความสัมพันธ์

[โจวฝานสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายหลัก] x8,932

[โจวฝานสหายของท่านดับสูญ]

[เซียนซีเสวียนสหายของท่านได้รับโอกาสวาสนา เข้าใจมหามรรคา พลังมรรคเพิ่มพูน]

[โจวฝานสหายของท่านได้รับพลังยิ่งใหญ่ ปั้นกายเนื้อขึ้นมาอีกครั้ง ฟื้นคืนชีพสำเร็จ ตบะเพิ่มพูน]

[สุนัขสวรรค์ฮุ่นต้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านเผชิญกับการโจมตีจากสัตว์ปีศาจ] x7,843

[สุนัขสวรรค์ฮุ่นต้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคดีที่ดวงแข็งพลิกร้ายให้กลายเป็นดีได้]

[หวงจุนเทียนสหายของท่านรับประทานของล้ำค่าฟ้าดิน คุณสมบัติรากวิญญาณเติบโต]

……

เอ๊ะ?

โจวฝานตายแล้วฟื้นชีพอีกแล้ว?

นี่มัน…

ไม่สมเหตุสมผลเลย!

หานเจวี๋ยคิดว่าหากเขาไม่มายังโลกใบนี้ โจวฝานจะต้องเป็นตัวเอกอย่างแน่นอน

ไม่รู้ว่าหากโจวฝานพบเจอกับซูฉี จะกระทบกันแบบไหน

สิ่งที่ควรกล่าวถึงคือ เขาไม่เห็นจดหมายของซูฉี คาดว่าเจ้าหมอนี่คงปิดด่านฝึกฝน ยกระดับตบะอยู่

ซูฉีปิดด่านฝึกฝน ใต้หล้าสงบสุข!

เป็นเรื่องยากที่หานเจวี๋ยจะหวังว่าเขาไม่ต้องปิดด่านในช่วงเวลานี้

อีกอย่างสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นก็จะเสเพลไปหน่อยกระมัง จู่ๆ หานเจวี๋ยก็ไม่กล้าที่จะเป็นเจ้าของมัน เจ้าหมอนี่หยุแหย่ศัตรูไปตั้งเท่าไร

ส่วนหวงจุนเทียนดวงดีไม่น้อย ของล้ำค่าฟ้าดินที่สามารถยกระดับคุณสมบัติรากวิญญาณได้ นั่นเป็นสมบัติระดับตำนานเลยนะ

มันก็ถูก หวงจุนเทียนนั่งตำแหน่งเจ้าสำนักเก้ามังกร อยากได้ทรัพยากรก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

นับว่าแดนบำเพ็ญพรตยังคงมีสีสันเหมือนที่ผ่านมา คาดว่าโจวฝานและสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นคงจะพุ่งถลันออกไปจากต้าเยี่ยน คอยปลุกปั่นเรื่องราวในดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาลยิ่งกว่า

หานเจวี๋ยดูผ่านจดหมาย เหมือนกับว่าเขาอ่านนิยายจบไปจำนวนมาก ได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย

ยังคงเป็นคำพูดนั้น ไม่ทำเป็นตายก็จะไม่ตาย

[เฒ่าประหลาดอู้เต้าเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 4 ดาว]

ในสมองหานเจวี๋ยเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามในทันที

เฒ่าประหลาดอู้เต้าคือใคร

เอาละ!

กำลังหงุดหงิดอยู่ว่าหนังสือแห่งความโชคร้ายจะไม่ได้ใช้ประโยชน์ เจ้าเฒ่านี้กลับส่งตัวเองเข้ามาถึงที่!

……………………………………….

[1] เป็นราชาปีศาจในวรรณกรรมจีนเรื่องไซอิ๋ว นิสัยห้าวหาญ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
Score 9.8
Status: Ongoing
อ่านระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะเนื่องจากชาติก่อนเป็นโรครักษาไม่หาย ตายก่อนวัยอันควร เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่ในแดนบำเพ็ญเซียน เขาจึงมีเป้าหมายเดียว... ชีวิตอมตะ! หานเจวี๋ยพบว่าตนเองมีระบบของเกมวิถีชีวิตอยู่กับตัว หลังจากใช้เวลากว่าสิบเอ็ดปี ในที่สุดก็สุ่มได้ดวงชะตาและรากวิญญาณชั้นเลิศจากระบบ ทำให้เขาสามารถเข้าสู่วิถีแห่งการบำเพ็ญเซียนได้อย่างมั่นใจ เพื่อเป้าหมายการมีชีวิตเป็นอมตะ เขาตัดสินใจฝึกฝนเงียบๆ เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ให้เป็นจุดสนใจ กระทั่งพันปีต่อมา แดนบำเพ็ญเซียนเปลี่ยนไปยุคแล้วยุคเล่า เมื่อเทพเซียนจะชำระล้างโลกมนุษย์ หานเจวี๋ยไม่อาจไม่ลงมือ ยามนั้นเขาจึงเพิ่งค้นพบว่า... เทพเซียนมันก็แค่นี้เอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset