ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ตอนที่ 84 สัตว์เทพจูโต้ว ฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย

บทที่ 84 สัตว์เทพจูโต้ว ฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย
ตอนเหนือต้าเยี่ยน

ภายในถ้ำเทวา

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ลืมตาขึ้น คิ้วขมวดแน่น

ตั้งแต่เขาไปที่สำนักหยกพิสุทธิ์ ฝันร้ายของเขาก็จบลง เพราะอย่างนั้นเขาจึงใช้โอกาสนี้รักษาอาการบาดเจ็บอย่างเต็มกำลังจนกระทั่งวันนี้

ทว่าช่วงนี้เขากลับมีความรู้สึกไม่สบายใจบางอย่าง

เป็นความไม่สบายใจแบบที่อธิบายไม่ได้ แม้กระทั่งเลือดปีศาจของเขาก็ยังปั่นป่วน

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ หรือว่าเซียนท่านนั้นต้องการจะทำร้ายข้าอีกแล้ว?”

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่คิดขึ้นอย่างหวาดวิตก ยิ่งเขาคิดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทุกข์มากขึ้นเท่านั้น

ถูกผนึกมาสองพันปี หลังจากฟื้นคืนชีพยังไม่ทันจะได้แก้แค้นก็ต้องมาบาดเจ็บหนักเช่นนี้ ราชาปีศาจรู้สึกว่าเหล่าปีศาจใต้อาณัติจะต้องกำลังหัวเราะเยาะเขาเป็นแน่

ยิ่งคิดเขายิ่งหงุดหงิด เกิดเป็นเปลวเพลิงชั่วร้ายเผาไหม้อยู่ในอก

เขาอยากฆ่าล้างบางเผ่ามนุษย์ในต้าเยี่ยนจริงๆ!

ช่างเถอะ!

ทนเอาหน่อยก็แล้วกัน

เฮ้อ

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ทอดถอนใจ ปิดตาลงฝึกฝนต่อ

……

เหนือทะเลหมอก มีทะเลสาบกว้างใหญ่ราวกระจกใส รอบด้านรายล้อมด้วยหมู่เมฆสวยงามราวกับม้วนภาพ

เซวียนฉิงจวินนั่งเข้าฌานอยู่ริมทะเลสาบพร้อมกับสตรีอาภรณ์ม่วงผู้หนึ่ง สตรีอาภรณ์ม่วงนางนี้ก็คือผู้ทรงพลังที่ช่วยชีวิตโจวฝานไว้

“ศิษย์พี่หญิง ท่านยังไม่สำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์อีกหรือ” สตรีอาภรณ์ม่วงหันหน้ามาเอ่ยถาม

เซวียนฉิงจวินเอ่ยตอบขณะที่ยังไม่ลืมตาว่า “ยังไม่ถึงเวลา”

สตรีอาภรณ์ม่วงเดาะลิ้นเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ “ข้าก็ไม่เข้าใจพวกท่านจริงๆ ขั้นฝ่าด่านเคราะห์สามารถสำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ได้ อีกทั้งตอนนี้ท่านก็อยู่ระดับมหายานแล้ว หลังจากบินขึ้น ท่านก็จะได้ถือกำเนิดเกิดใหม่ ที่แดนเซียนท่านก็สามารถอยู่อย่างสุขสบาย แล้วท่านยังรออะไรอีก”

เซวียนฉิงจวินไม่ตอบ กลับเอ่ยถามว่า “โจวฝานเป็นอย่างไรบ้าง”

“อย่าพูดถึงเลย เจ้าเด็กนี่เมื่อเทียบกับชาติก่อนแตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน อารมณ์ร้อนเป็นอย่างยิ่ง ไม่แน่ว่าวันใดยังคงเป็นข้าที่ต้องไปช่วยเขา แต่เขาเชื่อข้าสนิทใจแล้ว”

“อืม เจ้าเด็กคนนี้เป็นส่วนสำคัญในแผนการของพวกเรา อย่าปล่อยให้เขาตกตาย และอย่าให้เขาต่อต้านเจ้า”

“ไม่มีทางหรอก เจ้าเด็กนี่ขาดความรักตั้งแต่เด็ก ทำดีกับเขาหน่อย เขาก็ตายใจแล้ว”

“จะว่าไปแล้ว ที่สำนักหยกพิสุทธิ์ข้าก็มีคู่บำเพ็ญเพียรคนหนึ่ง”

“หา? ศิษย์พี่หญิง ท่านกลับหาคู่บำเพ็ญเพียรได้ด้วย!”

ดวงตางามของสตรีอาภรณ์ม่วงเบิกกว้าง เกิดความสนใจขึ้นมาโดยพลัน ไต่ถามต่อไม่หยุด

เซวียนฉิงจวินนึกย้อนกลับไป มุมปากยกโค้งขึ้นเล็กน้อย พลางยิ้มเอ่ย “ข้าไปเยือนสำนักหยกพิสุทธิ์ครานั้น จุดประสงค์หลักเพียงเพื่ออยากจะไปดูสำนักที่โจวฝานอาศัยอยู่ คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับเด็กหนุ่มที่ต้องตาเป็นอย่างมาก เด็กคนนี้เป็นผู้บำเพ็ญที่เพียรพยายาม ผ่านมานานหลายปีเพียงนี้ ไม่แน่ว่าจะบรรลุระดับเปลี่ยนวิญญาณแล้วก็ได้”

สตรีอาภรณ์ม่วงเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “เช่นนั้นคุณสมบัติของเขาไม่อ่อนแอกว่าโจวฝานหรอกหรือ”

“นั่นย่อมแน่นอน ภายหน้าหากมีโอกาสข้าจะพาเจ้าไปดูเขา”

เมื่อเซวียนฉิงจวินพูดถึงหานเจวี๋ย บนใบหน้าก็ปรากฏเป็นรอยยิ้ม

เดินทางไปทั่วโลกมนุษย์ นางพบว่าหานเจวี๋ยยังคงเป็นบุรุษที่หล่อเหลาที่สุดเท่าที่นางเคยพบเจอ นิสัยเองก็ทำให้คนชื่นชอบได้ง่าย

ทันใดนั้นเอง!

กระจกถูกแผดเผาด้วยเปลวเพลิงมหาศาลอย่างรวดเร็ว เสียงลมคำรามโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง คลื่นความร้อนปกคลุมแผ่กระจายไปทั่วทะเลหมอก

เซวียนฉิงจวินและสตรีอาภรณ์ม่วงลุกขึ้นทันที ก้มหน้ามองลงมา เห็นเพียงวิหคเพลิงตัวมหึมาที่มีระยะห่างระหว่างปลายปีกทั้งสองกว้างถึงหนึ่งร้อยจั้งโฉบบินผ่านไป

สตรีอาภรณ์ม่วงเอ่ยถามด้วยความตกตะลึง “สัตว์เทพจูโต้ว? สัตว์เทพในตำนานที่กล่าวขานว่าเป็นตัวแทนของภัยพิบัติ!”

เซวียนฉิงจวินขมวดคิ้วเอ่ย “จูโต้วตัวนี้ยังไม่เติบโตเต็มที่ แต่ว่าจัดว่าอยู่ในสถานะแห่งความโชคร้ายแล้ว คาดว่าคงจะมีบางสิ่งที่ดึงดูดมัน”

“จึ๊ๆ ก็ไม่รู้สถานที่ใดช่างโชคร้ายเพียงนี้ ดึงดูดจูโต้วให้มาได้”

……

หลังจากที่พบว่าต้นฝูซังสั่นไหวทุกคืน หานเจวี๋ยก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ

เขามักจะรู้สึกว่าต้นฝูซังกำลังร้องเรียกบางสิ่งบางอย่างให้เข้ามา

หรือจะเป็นอีกาทองคำในตำนาน?

เป็นไปไม่ได้กระมัง!

อีกาทองคำไม่ได้อยู่บนสวรรค์หรอกหรือ?

ไม่เคยเห็นพระอาทิตย์ที่นับวันยิ่งต่ำลง!

หานเจวี๋ยหยุดความคิดเอาไว้ ยามฝึกฝนปกติ เขาไม่กล้าทุ่มเทความคิดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

หลายวันต่อมา

หลี่ชิงจื่อแวะมาเยี่ยมเยือน

หลังจากเข้ามาในถ้ำเทวาแล้ว หลี่ชิงจื่อนั่งลงบนเก้าอี้ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้อาวุโสหาน ช่วงนี้สำนักหยกพิสุทธิ์มีเรื่องที่น่ายินดี พวกเราพบซากปรักหักพังของสำนักบรรพกาลแห่งหนึ่ง ภายในนั้นมีทรัพยากรมากมายมหาศาล และยังมีวิชายุทธ์ ของล้ำค่าฟ้าดิน หรือแม้แต่ของวิเศษ ท่านอยากจะไปดูสักหน่อยหรือไม่”

หานเจวี๋ญขมวดคิ้วเอ่ยถามว่า “เรื่องนี้ได้ป่าวประกาศออกไปหรือยัง”

หากโอกาสวาสนาเช่นนี้ประกาศออกไปแล้ว จะต้องดึงดูดเหล่าผู้บำเพ็ญในใต้หล้าให้แห่เข้ามาอย่างแน่นอน

“ย่อมไม่ได้ป่าวประกาศ นี่เป็นความลับของสำนักหยกพิสุทธิ์ ผู้อาวุโสกวนได้นำผู้อาวุโสอีกห้าท่าน พร้อมด้วยศิษย์สายหลักอีกหนึ่งร้อยคนเดินทางไปคุ้มกัน ค่ายกลส่งตัวก็จวนจะติดตั้งเสร็จแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นศิษย์ของสำนักหยกพิสุทธิ์ก็สามารถเข้าไปในซากปรักหักพังนั้นได้”

หลี่ชิงจื่อยิ้มเอ่ยด้วยสีหน้าภูมิใจ

หลายปีที่ผ่านมานี้ สำนักหยกพิสุทธิ์พัฒนาอย่างมั่นคงและราบรื่นมาโดยตลอด ไม่สร้างศัตรู ผู้บำเพ็ญอิสระที่เข้าร่วมกับสำนักหยกพิสุทธิ์ก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

ชื่อของผู้อาวุโสสังหารเทพถูกผู้บำเพ็ญจำนวนไม่น้อยในแดนบำเพ็ญพรตหลงลืมไป ทว่าเหล่าผู้อาวุโสระดับสูงของแต่ละสำนักยังคงจดจำได้ดี เพราะอย่างนั้นจึงไม่กล้าที่จะมายุแหย่สำนักหยกพิสุทธิ์ หรือแม้กระทั่งไม่กล้าเข้ามาขัดขวางเรื่องดีๆ เช่นนี้

หานเจวี๋ยพยักหน้าเอ่ย “เช่นนั้นก็ดี ข้าคงไม่ไปแล้ว พวกท่านเองก็ระวังกันด้วย ปกติแล้วซากปรักหักพังเช่นนี้อาจจะมีบางสิ่งควบคุม”

“เข้าใจแล้ว หากพบเจอของล้ำค่าฟ้าดินที่สามารถเพิ่มพลังวิญญาณได้ ข้าจะให้คนนำมามอบให้”

“ขอบคุณท่านเจ้าสำนัก ลำบากแล้ว”

หลังจากพูดคุยกันสั้นๆ ไม่กี่ประโยค หลี่ชิงจื่อก็รีบร้อนจากไป

อารมณ์ของหานเจวี๋ยพลันดีขึ้นมาก

ความมั่นคงปลอดภัยของสำนักหยกพิสุทธิ์ทำให้เขารู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ยิ่งสำนักหยกพิสุทธิ์แข็งแกร่งมากเพียงใด ก็ยิ่งทำให้เขาปิดด่านฝึกบำเพ็ญได้อย่างสบายใจมากขึ้นเท่านั้น

หานเจวี๋ยพลันพบว่าสวินฉางอันหายไปแล้ว

เขารีบใช้พลังจิตกกวาดหาร่องรอยของสวินฉางอันทันที พบว่าเจ้าหมอนั่นอยู่ในโรงเตี้ยมห้องหนึ่งในเมืองของสำนักฝ่ายใน

หือ?

……

ทางตอนเหนือของต้าเยี่ยน มีประกายเพลิงปรากฏขึ้นที่ริมขอบฟ้า ส่องสว่างจนทั้งนภาเจิดจ้า

หิมะน้ำแข็งบนพื้นดินกว้างใหญ่ล้วนละลายหายไปด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้สัตว์ปีศาจนับไม่ถ้วนหนีออกจากถ้ำของตนด้วยความหวาดกลัว ทอดมองไปที่ริมขอบฟ้า ราชาปีศาจเตี่ยนซู่เป็นหนึ่งในนั้น

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ยืนอยู่หน้าปากถ้ำ ทอดสายตามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ประกายเพลิงสาดส่องลงมากระทบบนใบหน้าของเขา ค้างชะงักหน้าถอดสีในทันที

“นั่นมัน… สัตว์เทพจูโต้ว! เป็นไปได้อย่างไร!”

“แย่แล้ว!”

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ตกตะลึงจนแทบเสียสติ เขารีบเข้าไปในถ้ำเทวา ดินโคลนผุดขึ้นมาจากปากถ้ำ แข็งตัวเป็นปราการภูเขาอย่างรวดเร็ว

สัตว์เทพจูโต้วสยายปีกออกบิน ลักษณะราวกับอีกาทองคำในตำนานที่สามารถกวาดล้างไปทั่วพื้นพิภพ

ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ใด หิมะน้ำแข็งก็ล้วนละลายกลายเป็นทะเลสาบ ระเหยกลายเป็นหมอกควันหนาแน่น

ลักษณะของจูโต้วคล้ายวิหคเพลิง ส่วนหัวเหมือนสุนัขตัวใหญ่ มีสามขา กรงเล็บของมันนั้นแตกต่างจากสัตว์ปีกล่าเหยื่อทั่วไป หากแต่เหมือนกรงเล็บมังกรมากกว่า ลักษณะโดยรวมทรงพลังน่ากริ่งเกรงอย่างยิ่ง ไม่เกรงกลัวสิ่งกีดขวางใดๆ

พื้นหิมะหลายพันลี้ ถูกมันเผาละลายทันที!

ดวงตาคู่นั้นของมันส่องประกายราวกับคบเพลิง และทิศทางที่มันมุ่งหน้าไปคือสำนักหยกพิสุทธิ์!

……

สำนักหยกพิสุทธิ์ ที่พำนักสายใน

ภายในห้องรับรอง

สวินฉางอันนั่งอยู่หน้าโต๊ะ ในมือถือจอกเหล้า พร้อมหัวเราะเอ่ยว่า “เชี่ยนเอ๋อร์ ได้มาเยือนสำนักหยกพิสุทธิ์รู้สึกอย่างไรบ้าง ข้าเข้าสำนักหยกพิสุทธิ์มาร่วมสิบปี หากเจ้าพบเจอเรื่องยุ่งยากใดก็มาหาข้าได้ตลอดเวลา”

สายตาของเขามองไปทางหญิงสาวที่รูปร่างสง่างามนางหนึ่งที่อยู่ริมหน้าต่าง

หญิงสาวผู้นี้สวมอาภรณ์สีคราม ผมยาวถึงเอว ผิวขาวผุดผ่อง แม้ว่านางจะไม่ได้สวยระดับสาวงามล่มเมือง แต่ก็ยังนับว่าเป็นความงามที่ยากจะพบจริงๆ

หญิงสาวนามเชี่ยนเอ๋อร์ผู้นี้ทัดผมไว้ข้างหู เอ่ยว่า “ฉางอัน เจ้าไม่ต้องปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้ เรื่องของเราเป็นไปไม่ได้จริงๆ บางทีเจ้าอาจจะมีชีวิตที่ดีในสำนักหยกพิสุทธิ์ ข้าเองก็ไม่อาจเหนี่ยวรั้งเจ้าไว้ด้วยผลประโยชน์”

สวินฉางอันฟังอย่างเจ็บปวด กัดฟันเอ่ย “เพราะเหตุใดกัน? เพราะรูปลักษณ์ของข้าอย่างนั้นหรือ? ข้าสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้สง่างามหล่อเหลาได้”

เชี่ยนเอ๋อร์หันกายมามองเขา ดวงตางามของนางเผยแววไม่พอใจ กล่าวขึ้น “แต่ความจริงอย่างไรก็คือความจริง ของปลอมก็เป็นของปลอมอยู่วันยังค่ำ หากข้ารักเจ้า ต่อให้ทะเลเหือดแห้งฟ้าดินจะแตกสลายข้าก็ไม่เปลี่ยนแปลง แต่หากข้าไม่ได้รักเจ้า ต่อให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย เหลือรอดเพียงเจ้าและข้า ข้าก็ไม่อาจรักเจ้าได้”

แทงใจยิ่งนัก!

สวินฉางอันบีบจอกเหล้าในมือจนแตกกระจาย ฝ่ามือไม่มีเลือดไหล หากแต่หัวใจของเขากลั่นไปด้วยโลหิต

ทันใดนั้นเอง!

ประกายเพลิงสาดลงบนหลังของเชี่ยนเอ๋อร์ ลมร้อนหอบหนึ่งโหมซัดเข้ามา นัยน์ตาของสวินฉางอันเบิกกว้างจนแทบถลน

เชี่ยนเอ๋อร์หันไปมองทันที เห็นว่าท้องนภาเบื้องหน้าถูกย้อมไปด้วยสีของเปลวเพลิงอย่างรวดเร็ว ที่ขอบฟ้าปรากฏอาทิตย์ดวงหนึ่งกำลังห้อตะบึงเข้ามา

สัตว์เทพจูโต้ว!

……………………………………………………………………………………

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
Score 9.8
Status: Ongoing
อ่านระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะเนื่องจากชาติก่อนเป็นโรครักษาไม่หาย ตายก่อนวัยอันควร เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่ในแดนบำเพ็ญเซียน เขาจึงมีเป้าหมายเดียว... ชีวิตอมตะ! หานเจวี๋ยพบว่าตนเองมีระบบของเกมวิถีชีวิตอยู่กับตัว หลังจากใช้เวลากว่าสิบเอ็ดปี ในที่สุดก็สุ่มได้ดวงชะตาและรากวิญญาณชั้นเลิศจากระบบ ทำให้เขาสามารถเข้าสู่วิถีแห่งการบำเพ็ญเซียนได้อย่างมั่นใจ เพื่อเป้าหมายการมีชีวิตเป็นอมตะ เขาตัดสินใจฝึกฝนเงียบๆ เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ให้เป็นจุดสนใจ กระทั่งพันปีต่อมา แดนบำเพ็ญเซียนเปลี่ยนไปยุคแล้วยุคเล่า เมื่อเทพเซียนจะชำระล้างโลกมนุษย์ หานเจวี๋ยไม่อาจไม่ลงมือ ยามนั้นเขาจึงเพิ่งค้นพบว่า... เทพเซียนมันก็แค่นี้เอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset