ระบบใช้จ่าย – ตอนที่ 10

ตอนที่ 10: การถลุงเงินที่ยกระดับขึ้นไปอีก!

 

” มันก็แค่เรื่องง่าย ๆ ” ชายหนุ่มมองดูบอดี้การ์ดและให้พวกเขาเคลียร์พื้นที่ให้ว่างและเงียบในบริเวณรอบ ๆ ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ยิ้มและพูดว่า ” ตอนที่ฉันมาถึงที่นี้ ฉันได้ยินมาว่านายซื้อไนท์คลับทั้งหมดนี้ไปแล้วหรอ? “

 

” ใช่ แล้วจะทำไม? นายวางแผนที่จะซื้อที่นี่รึไง? ” หงต้าหลี่ไม่ต้องการที่จะเคารพกับชายหนุ่มคนนี้ หงต้าหลี่ก็ได้ทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้ววางเท้าของเขาไว้บนโต๊ะน้ำชาอย่างอวดดี ” ถ้านายต้องซื้อไนท์คลับนี้ต่อ ฉันขายให้นายก็ได้นะ ไหน ๆ เราก็เป็นคนในตระกูลเดียวกันแล้ว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับฉัน ” ภารกิจของเขาเสร็จสิ้นไปแล้ว หากชายหนุ่มคนนี้ยินดีที่จะซื้อไนท์คลับแห่งนี้ต่อ หงต้าหลี่ก็ไม่ได้สนใจว่าจะขายได้กำไรหรือขาดทุน

 

ชายหนุ่มหัวเราะด้วยความอับอายและพูดว่า ” ฮ่าฮ่าฮ่า ต้าหลี่ นายต้องล้อเล่นแน่ ๆ ฉันคงไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบนายหรอก  จริง ๆ แล้วที่ฉันมาที่นี่ก็เพื่อมาพบนาย ฉันแค่ต้องการขายอพาร์ทเมนท์และร้านค้าไม่กี่แห่งในบริเวณใกล้เคียงนี้ นายคิดว่าไง? มันอยู่ใกล้กับไนท์คลับนี้มากและมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ ราคาก็สมเหตุสมผล

 

หงต้าหลี่ได้แต่คิดจมปลักอยู่กับไอ้กระเจี๊ยวสีชมพู ๆ ของเขาและเขาก็เอานิ้วแหย่จมูกทำท่าทางอย่างเย่อหยิ่ง ” ใช่ ฟังดูน่าสนใจทีเดียว ให้ฉันดูหน่อยว่ามีอะไรบ้าง? “

ชายหนุ่มหันไปหาบอดี้การ์ดคนนึงของเขา บอดี้การ์ดเดินมาหาและนำเอกสารสองฉบับออกมาทันที และวางไว้ที่หน้าหงต้าหลี่ เอกสารมีข้อมูลจำนวนมาก รวมถึงสถานที่เฉพาะมีพื้นที่ ที่ดิน จำนวนชั้นและอื่น ๆ หงต้าหลี่มองผ่านอย่างช้า ๆ ก่อนจะพูดว่า  ” ใช่ ร้านอินเทอร์เน็ตหนึ่งแห่งและคลับสนุ๊กเกอร์ที่อยู่ในละแวกนั้นห่างกัน 400 ตารางเมตร ร้านอาหารอีกสามแห่งที่มีพื้นที่ทั้งหมด 6,300 ตารางเมตร เกสต์เฮาส์สองแห่งมีพื้นที่ทั้งหมด 1,100 ตารางเมตร และอพาร์ทเมนท์สี่สิบแปดห้อง รวมพื้นที่ 5,200 ตารางเมตร “

 

หลังจากดูทุกอย่างหงต้าหลี่ก็สะบัดเอกสารในมือของเขาเบา ๆ ” เพื่อน ฉันแปลกใจจริง ๆ กับจำนวนที่ดินของนาย ทำไม..นายถึงอยากให้ฉันชื้อที่ดินดีๆแบบนี้กันล่ะ? “

 

เมื่อได้ยินว่าหงต้าหลี่เข้าใจกับความตั้งใจของเขาแล้ว ชายหนุ่มก็รู้สึกประหม่าทันที   ” เป็นยังไงล่ะ ‘เพื่อนที่แสนดีของฉัน’ ที่ดินพวกนี้เป็นสิ่งที่ฉันได้สร้างขึ้นมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะนายสนใจที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในวันนี้ ทำไมนายไม่ซื้อพวกนี้ไปด้วยพร้อมกันเลยล่ะ ในเมื่อนายก็ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว ก็แค่ชื้อเพิ่มไปอีกนิดหน่อย นายไม่เห็นด้วยรึไง? “

 

“ อืม ก็ถือว่าเป็นความคิดที่ดี นายรู้จักฉันดีนิ เพื่อนยาก ” หงต้าหลี่หัวเราะเสียงดัง ” บอกราคามาสิ ถ้ามันสมเหตุสมผล ฉันจะซื้อทุกอย่าง นายคิดว่าดีไหมละ? “

 

ถังมู่ซินที่อยู่ข้าง ๆ เขาย่อมไม่รู้เรื่องแบบนี้แน่นอน หงต้าหลี่กำลังครุ่นคิดพักหนึ่ง ชายหนุ่มคนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีเจตนาที่ดี ทำไมหงต้าหลี่จึงยังต้องร่วมมือกับเขา? นอกจากนี้ที่ดินทั้งหมดเมื่อรวมเข้าด้วยกันจะมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แต่เธอก็ไม่เข้าใจการใช้เงินของหงต้าหลี่ในตอนนี้ได้เลย ดังนั้นแล้ว ตัวเธอจึงได้แต่นิ่งเงียบและรอฟังข้อสรุป

 

แม้ว่าพ่อแม่ของหงต้าหลี่จะจับตาดูเขาอย่างเคร่งครัด แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่พวกเขาจะให้เงินกับหงต้าหลี่ง่าย ๆ ท้ายที่สุดแล้ว ที่ดินพวกนั้นก็คงจะมีราคารวมประมาน 20 ถึง 30 ล้านหยวน

 

อันที่จริงแล้ว ชายหนุ่มลังเลเล็กน้อยก่อนจะระบุราคาในความคิดของเขาออกมา ” ราคารวมคือ 35 ล้านหยวน น้องชายสุดที่รัก นายคิดว่าไง? นายคิดที่จะซื้อที่ดินทั้งหมดเลยไหม? ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา นายยังไม่เคยใช้เงินซื้อสิ่งใหญ่ ๆ แบบนี้เลยใช่มั้ยหรือว่านายเคยซื้อแล้วล่ะ? “

 

” ใช่ นี่มันน่าสนใจมาก ฉันชอบพอสมควร ” หงต้าหลี่แตะคางของเขาและคำนวณในใจ …ที่ดินทั้งหมดที่เสนอมาไม่ได้มีราคาแบบนี้ในโลกนี้อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง หากฉันซื้อที่ดินทั้งหมดได้ ถ้าคะแนนสถานะของฉันไม่เพิ่มขึ้นหรือเกินขีดจำกัดละ? แต่ปัญหาคือวิธีซื้อทั้งหมดด้วยเงินของตัวเอง หากเงินของฉันยังไม่เพียงพอ แล้วเงินที่ใช้ในครอบครัว ระบบจะยังคงนับรวมอยู่ในรายการใช้จ่ายของฉันหรือเปล่านะ? นี่เป็นปัญหาที่ต้องคิดอย่างจริงจังสินะ

ซึ่งสรุปแล้วว่า เขายังไม่ควรต้องมาคิดมาก แม้ว่าหงต้าหลี่จะใช้จ่ายอย่างถล่มทลายไปแล้วก็ตามทีเถอะ  แต่เขาไม่อยากที่จะแกล้งทำเป็นเป็นคนโง่เขลาต่อหน้าไอ้บ้านี้ หรือว่าเขาควรจะทำดีนะ? หงต้าหลี่ยิ้มและพูดว่า ” เสี่ยวหยี่ช่วยฉันคำนวณให้ฉันที ว่าที่ดินพวกนี้มีมูลค่าเท่าไหร่? “

 

” ได้ค่ะ ท่านนายน้อย ” หลิงเสี่ยวหยี่เอาเอกสารมาและคิดคำนวณทีละอย่าง ” ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่และคลับสนุ๊กเกอร์ในบริเวณใกล้เคียงมักจะทำเงินได้ไม่ค่อยดีนัก  โดยทั่ว ๆ ไปพวกเขาพยายามหาคนเซ้งร้านต่อหรือปล่อยร้างทิ้งไว้ ดังนั้นพื้นที่ 800 ตารางเมตรของพวกเขาทั้งหมดมีมูลค่าแค่ 2,200 หยวนต่อตารางเมตร ร้านอาหารสามแห่งกำลังดีขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่มากนัก อัตราพื้นที่ของพวกเขาควรอยู่ที่ 2,500 หยวนต่อตารางเมตร ถัดไปเป็นเกสต์เฮาส์สองแห่งมีประสิทธิภาพที่แย่และที่มากไปกว่านั้นแต่ละตารางเมตรมีมูลค่าแค่ประมาณ 2,000 หยวนเท่านั้น สำหรับอพาร์ทเมนท์ที่อยู่อาศัย 48 ห้อง แต่ละตารางเมตรมีมูลค่ามากที่สุดที่ 800 หยวน คำนวนคร่าว ๆ ประมานนี้ค่ะ “

 

” ดังนั้นพอรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว” หลิงเสี่ยวหยี่ก็นำเครื่องคิดเลขออกมา ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเธอพกเครื่องคิดเลขมาตอนไหน ” อินเทอร์เน็ตคาเฟ่และคลับสนุ๊กเกอร์มีมูลค่ารวม 1,760,000 หยวน ร้านอาหารทั้งสามแห่งมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 15,750,000 หยวน เกสต์เฮาส์สองแห่งมีมูลค่ารวม 2,200,000 หยวน สุดท้ายคืออพาร์ทเมนท์ที่อยู่อาศัย 48 ห้องมีมูลค่า 4,160,000 หยวน ทั้งหมด ทุกอย่าง… ” ได้ยินเสียงกดเครื่องคิดเลขอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเสี่ยวหยี่ได้ข้อสรุปว่า ” มูลค่ารวมคือ 23,870,000 หยวน ค่ะ “

 

ชายหนุ่มรู้สึกตะลึง เมื่อเธอคำนวณเสร็จ เขาก็ถามอย่างไม่ได้ตั้งใจว่า ” นี่ … ผู้หญิงคนนี้มาจากที่ไหนกัน เธอเป็นภูติผีหรือไง? แล้วเธอสืบเชื้อสายมาจากที่ไหนกัน? ทำไมเธอถึงคำนวณได้อย่างแม่นยำแบบนี้! ” เขาจะไม่ตกใจได้ยังไงกัน? ค่าที่หลิงเสี่ยวหยี่คำนวณนั้นแตกต่างจากที่คำนวณโดยผู้เชี่ยวชาญการประเมินมูลค่าทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเองนะ

 

” ฉันมาจากมหาวิทยาลัยเทียนจิงและฉันเรียนการเงินการบัญชีค่ะ ” หลิงเสี่ยวหยี่ยิ้มอย่างเขิน ๆ ” ตอนนี้ฉันทำงานให้กับท่านนายน้อยต้าหลี่ค่ะ “

 

นี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน หงต้าหลี่ไม่เคยคาดหวังว่าจะโชคดีในวันนี้ วิธีการฟุ่มเฟือยที่ไม่ธรรมดาของเขา ทำให้เขาได้พบกับคนที่มีความสามารถพิเศษเช่นนี้! หงต้าหลี่หัวเราะเสียงดัง ” เสี่ยวหยี่การประเมินของเธอดีมาก ฉันจะให้รางวัลแก่เธอ ฉันจะให้อีก 5,000 หยวน เป็นทิปเงินในภายหลัง! “

 

หลิงเสี่ยวหยี่ยิ้มและพูดว่า ” ขอบคุณสำหรับรางวัลค่ะ ท่านนายน้อย “

 

” โอเค กลับมาเรื่องธุรกิจกันต่อ ” หงต้าหลี่มองไปที่พี่ชายของเขาคนนี้ซึ่งเขายังไม่รู้ตัว ” ฉันจะให้นาย 25 ล้าน นายคิดว่าไงละกับราคานี้ เพื่อนยาก “

 

แม้ว่าชายหนุ่มไม่สามารถหลอกลวงหงต้าหลี่ได้ เพื่อที่จะรับเงินในราคา 35 ล้านหยวน แต่ 25 ล้านหยวนก็อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ชายหนุ่มคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็กัดฟันแล้วพูดว่า ” เอาล่ะ! ราคานี้ก็โอเค ต้าหลี่เราจะเซ็นสัญญากันตอนนี้เลยไหมล่ะ? ” ที่ดินบริเวณนี้ไม่มีค่าใด ๆ แก่เขาแล้ว แต่มันจะเป็นการเสียเปล่าที่จะทิ้งไว้เฉย ๆ สถานที่เหล่านี้เป็นภาระแก่เขา แต่ไม่มีใครเต็มใจที่จะซื้อสถานที่เหล่านี้เลย ถึงแม้ว่าเขาต้องการจะขาย แต่ในตอนนี้หงต้าหลี่ผู้ที่วางแผนที่จะซื้อทุกอย่าง ก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาอะไรอีก

 

เพื่อความซื่อสัตย์ หงต้าหลี่ต้องการเซ็นสัญญาโดยตรงตอนนี้ แต่จำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องสูญเสียในครั้งนี้มีขนาดใหญ่เกินไป ในโลกนี้ 25 ล้านหยวนต้องเป็นบุคคลที่รูปร่างสูงตระหง่าน แม้ว่าพ่อแม่ของเขาจะให้ความสำคัญกับเขา แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะตัดสินใจเรื่องใหญ่ ๆด้วยตัวเองได้ หงต้าหลี่คิดว่ามันจบลงแล้ว และทันใดนั้นเขาก็ต้องโทรหาใครบางคน หงต้าหลี่จึงถามคนขับรถว่า ” คนขับรถ นำโทรศัพท์มาด้วยรึป่าว? โทรไปที่บ้านพัก ฉันต้องขออนุญาตเพื่อเซ็นสัญญาพวกนี้ “

 

คนขับรถรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรอย่างรวดเร็ว หงต้าหลี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพูดว่า ” สวัสดี คือว่า … “

 

ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคของเขา ที่หน้าจอโทรศัพท์ เขาได้ยินเสียงแม่ของเขา      ” อ่า ต้าหลี่เหรอ มีอะไรเกิดขึ้น? หรือว่าเงินไม่พอ? “

 

หงต้าหลี่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะบิดจมูกและพูดว่า ” ใช่ครับ เงินไม่พอ ผมทำธุรกรรมสองอย่างแล้วมันต้องใช้เงินเยอะมาก … “

 

” โอ้ ต้าหลี่ของเรารู้วิธีทำธุรกิจแล้วเหรอ? ” แม่ของเขาพูดด้วยความประหลาดใจ       ” แกทำธุรกิจแบบไหน ด่วน! บอกฉันมาทีสิ ดีใจจริง ๆ เลย ต้าหลี่ของเราเติบโตขึ้นแล้ว แกรู้วิธีการทำธุรกิจแล้วสินะ “

 

” ผมเพิ่งจะซื้อที่ดินเพียงบางส่วน … ” หงต้าหลี่สูดลมหายใจของเขา ” ทั้งหมดมีค่าใช้จ่ายประมาณ 30 ล้านหยวน … “

 

เมื่อเขาพูดจบ โทรศัพท์ของอีกฝั่งหนึ่งหล่นลงที่พื้นพร้อมกับเสียงดัง ” ปั๊ก ” หลังจากนั้นไม่นานเสียงพ่อของเขาก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์ ” แก!ไอลูกสารเลว ราคาเท่าไหร่นะ! ส..สามสิบล้านหยวนเลยเหรอ! “

ระบบใช้จ่าย

ระบบใช้จ่าย

เรื่อง ระบบใช้จ่าย โดย นำเรื่อง ระบบใช้จ่าย มาเป็นบางส่วน บทนำ เขาได้ตายไปเพราะช่วยเหลือคนจากการถูกรถชน จากนั้นก็ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมกับระบบแปลกๆและยังโลกใบเดิมที่ผิดไปจากเดิมอีก เรื่องย่อ ” หงต้าหลี่ เพศชายอายุ 22 ปี ไร้ครอบครัว ได้เสียชีวิตอย่างโชคร้ายโดยที่ได้ช่วยเหลือเด็กสองคนที่กำลังจะถูกรถชน หลังจากหารือหลายครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดสินใจให้เกียรติเขาในฐานะวีรบุรุษและนักศึกษามหาวิทยาลัยดีเด่นของจังหวัด “ – หนังสือพิมพ์รายวันประชาชน … ” ไม่!ไม่!ไม่! ไม่มีทาง หนูจะไม่หมั้นกับตระกูลหงเด็ดขาด! ” ถังมู่ซินพูด เธอซ่อนศรีษะไว้ใต้หมอนและกะดิกขาไปมาอย่างหงุดหงิด ” หงต้าหลี่เป็นพวกเศษเดนที่คนรู้จักกันทั่วเมือง เขาเป็นพวกสุรุ่ยสุร่ายและเป็นที่ขายหน้าของตระกูลหง เขาทั้งอ่อนแอและสมองทึบอีกด้วย ไม่มีทางที่หนูจะเอาคนแบบนี้มาเป็นคู่หมั้นหรอกนะ! “ ถังมู่ซิน เป็นลูกคนเดียวของ ถังรุ่ยชี ประธานบริษัทถังเวชกรรม เธอเป็นคนที่มีความสามารถทั้งการอ่านและเขียน ทั้งนี้เธอยังเป็นคนที่เที่ยงธรรมและเป็นคนที่สวยงามอีก ด้วยรูปลักษณ์ของเธอ เปรียบได้กับดอกไม้ที่สวยที่สุดราวกับว่าทุกอย่างนั้นดีไปหมดเมื่ออยู่กับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นสุดยอดแม่ครัว ทำให้เธอเป็นภรรยาในแบบอุดมคติเลยทีเดียวเชียว การที่ทั้งทำอาหารได้อร่อยและหน้าตาเป็นเลิศเช่นนี้ เธอจะต้องเป็นผู้หญิงในฝันของผู้ชายหลายคนในโรงเรียน วันนี้ เธอได้ยินเสียงจากพ่อว่าจะพาเธอไปหาตระกูลหงต้าหลี่ที่แสนน่าอับอาย เพื่อที่จะได้หมั้นตัวเธอกับลูกชายของตระกูลหง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถยอมรับได้เลยสักนิดเดียว ” ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของเขาตามใจและพวกเขายังมีลูกแค่คนเดียว คนไร้ค่าอย่างเขาคงจะถูกไล่ออกจากตระกูลหงไปนานแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ เขาจะยังสามารถใช่เงินสุรุ่ยสุร่ายได้แบบนี้อีกงั้นเหรอ? “ เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว ถังรุ่ยชีซึ่งนั่งอยู่หน้าเตียงก็ได้ยิ้มแย้ม ” ซินซิน1 ไม่ใช่ว่าพ่อมีทางเลือก การแต่งงานระหว่างหนูกับหงต้าหลี่ถูกตัดสินโดยคุณปู่เมื่อหลายปีก่อน แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กน้อยทึ่ม ๆ คนหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ใช่มั้ย จากสิ่งที่พ่อรู้จริง ๆ แล้ว หงต้าหลี่เป็นเด็กที่หน้าตาดีเลยนะ … “ ถังรุ่ยชี สวมเสื้อกล้ามสีเขียวที่สะอาดสะอ้านและเน็คไทที่มีปมเรียบง่ายตรงคอของเขา เขามีหนวดเคราอยู่เหนือริมฝีปาก เขาถือกล่องยาสูบไว้ในมือและผมสีดำสั้นของเขาก็ได้ถูกหวีอย่างเรียบร้อยไปทางด้านหลังของศีรษะอย่างดูดี ความแปลกเพียงอย่างเดียวก็คือ ตอนนี้ดวงตาของเขาเปล่งประกายพร้อมกับเต็มไปด้วยความรู้สึกหมดหนทางและไม่เต็มใจ พูดตามตรง เพราะเขาไม่มีทางเลือกหรอกนะ เขาจะยอมมอบลูกสาวที่มีค่าของตัวเองให้กับคนไร้ค่าอย่างหงต้าหลี่งั้นหรอ? สาเหตุที่เขาเรียกว่าคนไร้ค่างั้นเหรอ ก็เพราะหงต้าหลี่อาจเรียกได้ว่าเป็นคนประหลาดที่สุดบนโลกใบนี้ สิ่งเดียวที่เขาชอบทำก็คือ การถลุงเงินที่มีอยู่ของตนเอง คำพูดประจำตัวของเขาคือ ” ฉันจะต้องฟุ่มเฟือยสิ ถ้าฉันไม่ใช้เงิน เงินที่พ่อแม่ของฉันที่หามาก็คงสูญเปล่าใช่ไหมละ? “ คำพูดของเขาได้สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนในเมืองเทียนจิง ผู้ปกครองจำนวนมากต่างก็ได้สอนลูกของพวกเขาโดยพูดว่า ” ถ้าลูกกล้าเรียนรู้เรื่องการใช้เงินจากหงต้าหลี่ ไปกินข้าววัดเลยไป! “ ดังนั้นแล้ว จึงเป็นที่เข้าใจได้เลยว่าทำไมถังมู่ซินถึงได้อารมณ์เสีย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset