ระบบใช้จ่าย – ตอนที่ 21

บทที่ 21: บรรพบุรุษหรือผู้สืบทอด

 

นายกเทศมนตรีเจียงจริง ๆ แล้วเขาเป็นคนใจเย็นเขาไม่ค่อยแสดงอารมณ์ตกใจกับเรื่องใด ๆ เลย

 

หงเหว่ยกูจึงรู้สึกประหลาดใจมาก ” พี่เจียง พี่ดูตกใจง่ายกว่าปกตินะ แม้ว่าต้าหลี่จะซื้อที่ดินเป็นจํานวนมาก แต่ก็ไม่คิดว่าพี่จะตกใจมากขนาดนี้ ทําไมถึงออกอาการแบบนั้นเล่า? ”

 

นายกเทศมนตรีเจียงวางปากกาแล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้เขาไม่ได้ตอบคําถามของหงเหว่ยกโดยตรง แต่ได้ถามว่า “ เรามาดูกันก่อนหงเหว่ยก ถึงแม้ว่าต้าหลี่ซื้อที่ดินจํานวนมากแต่ฉันไม่คิดว่านี่คือเหตุผลที่นายมาที่นี่เพื่อมาพบฉันหรอก? บอกฉันมาว่านายกําลังวางแผนจะทําอะไร? ” การคาดการณ์ของหงเหว่ยกในการทําธุรกิจอุตสาหกรรมนั้นแม่นยําเสมอมาการที่เขามาเยี่ยมนายกเทศมนตรีเจียงในวันนี้ แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ

 

” ไม่มีอะไรมากหรอก จริง ๆ แล้ว ” หงเหว่ยกยิ้มและพูดว่า ” เพราะต้าหลี่ชอบใช้จ่าย ในฐานะคนเป็นพ่อ ผมก็ควรที่จะช่วยเขา พี่ก็รู้ใช่ไหมว่าร่างกายของเขาอ่อนแอแค่ไหนภรรยาของผมและตัวผมไม่สามารถที่จะด่าหรือตีเขาได้ โชคดีที่การกระทําในครั้งนี้ของเขาไปในทางที่ดี ผมจึงวางแผนที่จะช่วยเขาอีกแรง ถ้าหากเขาต้องการ ผมก็อาจช่วยเขาด้วยการซื้อที่ดินทั้งหมดในสี่แยกนี้เลย”

 

หงเหว่ยกหยุดพูดและถือถ้วยน้ําชาเบา ๆ และจิบชา ก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า “ ผมวางแผนที่จะลงทุนประมาน 1 ถึง 300 ล้านหยวน เพื่อพัฒนาพื้นที่โดยรอบเย็ไหลเซียง จริงๆแล้วผมแค่อยากลงทุนดูว่ามันจะมีความเสี่ยงมากแค่ไหน และผลกําไรจะเป็นอย่างไร พี่เจียง พี่คิดว่าไง? “

 

ด้วยความมั่งคั่งของหงเหว่ยกู การลงทุน 1 ถึง 300 ล้านหยวน เพื่อทดสอบพื้นที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น มันก็ไม่ได้แพงมากมายอะไรสําหรับเขาเลย

 

แต่ใบหน้าของนายกเทศมนตรีเจียงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเขาทําหน้าเคร่งขรึมและเขากล่าวว่า “ หงเหว่ยกู ปัญหา พวกนี้ฉันคิดว่านายควรจะขอบคุณลูกค้าหลี่ของนายจริงๆนะ

 

คําพูดของนายกเทศมนตรีเจียงนั้น ทําให้หงเหว่ยกูอยากรู้มากขึ้นไปอีก ” โอ้ ทําไมล่ะ? เป็นไปได้ไหมว่าที่ดินเหล่านี้ที่ต้าหลี่ซื้อมามีมูลค่าของมันอยู่แล้ว? ”

 

นายกเทศมนตรีเจียงยิ้มฝืดๆและพูดว่า “ แต่ก่อนฉันไม่เชื่อเรื่องโชคชะตา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันไม่มีทางเลือก นอกจากจะเชื่อแล้วล่ะ “ เมื่อเขาพูดแบบนั้น เขาก็ได้ยืนขึ้นแล้วหยิบเอกสารจากตู้หนังสือข้างหลังเขาและพูดว่า “ ดูนี่สิ แล้ วนายจะเข้าใจว่าฉันหมายถึงอะไร”

 

” ดูเหมือนพี่จะทําอะไรแปลกๆนะ ” หงเหว่ยได้รับเอกสาร เมื่อเขาเปิดดูเอกสารอย่างร่าเริง ทันใดนั้นดวงตาของหงเหว่ยกูก็เบิกกว้างขึ้นทันที ” นี่ นี่มันไม่จริงใช่ไหม? ประเทศของเรากําลังวางแผนที่จะเวนคืนสี่แยกนี้ เพื่อเตรียมกา รพัฒนาให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ! “

 

“รัฐบาลตั้งใจจะทําแบบนั้น แต่นโยบายที่เหมาะสมยังไม่ได้ถูกอนุมัติ นายรู้หรือไม่ว่าเอกสารนี้ไม่ได้มีมูลค่าแค่นั้นหรอกนะ!” นายกเทศมนตรีเจียงนั่งลงอย่างช้า ๆ และพูดอย่างเคร่งขรึม “ ด้วยความสัมพันธ์ของเรา ฉันเลย บอกให้นายทราบแต่เพราะรัฐบาลยังไม่ได้ทํานโยบายนี้อย่าง เป็นทางการดังนั้นในตอนนี้ฉันจึงตัดสินใจที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้ เป็นความลับ ฉันไม่ได้พูดเกินจริงเลยนะแต่ผู้คนในเมืองเทียน จึงมีไม่ถึงสิบคนที่รู้ถึงเอกสารนี้ “ นายกเทศมนตรีเจียงก็สูด หายใจเข้าลึกๆและพูดต่อว่า “ ฉันไม่คิดเลยว่าต้าหลี่ลูกข องนายในตอนนี้จะดวงดีได้ขนาดนี้ หรือพูดได้เลยว่าต้าหลี่คง จะได้สืบทอดการมองการณ์ไกลจากตระกูลหงเสียแล้วสิ ” 

 

” ด้วยการใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนั้นเนี่ยนะ ” พ่อของหงต้าห-หัวเราะเสียงดัง “ ผมไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะได้เจอกับสถานการณ์ที่บังเอิญแบบนี้ รัฐบาลกําลังวางแผนที่จะเวนคืนที่ดินเพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ ครอบครัวของผมก็จะมีโอกาสมากที่จะได้ไปพัฒนาที่ดินต่อ หากครอบครัวของผมได้รับสัญญาในการพัฒนาที่ดินผืนนี้ล่ะก็ ”

 

หากรัฐบาลทําการเวนคืนที่ดินเพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจจริงๆ แล้ว ก็แสดงว่าที่ดินนี้มีที่ตั้งที่ดีที่สุดในพื้นที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว แม้ว่าสิ่งต่าง ๆ จะยังไม่ได้ข้อสรุปแต่ตราบใดที่เขามีเอกสารที่จะแสดงมูลค่าของพื้นที่นี้ ที่ดินแห่งนี้จะมีมูลค่าเป็นสองเท่าโดยไม่ต้องสงสัยทันที

 

นายกเทศมนตรีเจียงนั่งบนเก้าอี้และยิ้ม “ เห้อ จริง ๆ แล้วฉันเคยสงสารนายนะ แต่ตอนนี้ฉันอิจฉานายแล้วล่ะ บางทีลูกต้าหลี่ของนายอาจสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่นายจริง ๆเขาเกิดมาในครอบครัวที่ดีและมีพ่อแม่ที่รักในตัวเขาอย่างอบอุ่น แม้ว่าเขาจะถลุงเงินเสียบ่อยครั้ง แต่เขาก็สามารถทําเงินได้ไม่น้อยเลย ได้มาหลายร้อยล้านหยวนในเวลานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับคนแบบนี้ สามารถพูดได้เลยว่าไม่มีบรรพบุรุษคนไหนหรือผู้สืบทอดคนไหนหรอกที่ทําแบบนี้ได้”

 

เมื่อได้ยินคําพูดของนายกเทศมนตรีเจียง พ่อของหงต้าหลีก็รู้สึกมีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “ ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นเป็นคุณสมบัติที่เขาเก็บซ่อนไว้อย่างแน่นอน เขาเป็นลูกชายข งผมนะ! “ เขาหัวเราะเสียงดัง ” ดูเหมือนว่าการเดินทางในวันนี้ไม่ได้เสียเปล่าแล้ว ผมได้รับข้อมูลที่มีค่ามาก เอาล่ะผมจะลงทุนสักสองสามร้อยล้านหยวนเพื่อซื้อที่ดินแถวนั้นโดยเร็วที่สุดเอง ผมจะลองลงสนามดูแล้วกัน”

 

” อ้อ อย่าลืมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วย เพราะมันยังไม่ได้เป็นข้อสรุปของทางรัฐบาลหรอกนะ “ นายกเทศมนตรีเจียงเตือนเขา

 

” พี่ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนั้นหรอก” หงเหว่ยถูกล่าว “ ผมเองก็ไม่อยากที่จะมีคู่แข่ง โอเค ผมจะกลับแล้ว เวลาไม่เคยรอใคร ผมคงต้องเตรียมการให้เร็วที่สุด มันก็เป็นเรื่องที่ดีที่ผมสามารถใช้ต้าหลี่เป็นข้ออ้างในการซื้อที่ดินพวกนั้นได้โดยไม่มีใครสงสัย ฮ่าฮ่า! ”

 

เมื่อหงเหว่ยกยินดีออกจากสํานักงานของนายกเทศมนตรีหงต้าหลี่กําลังจีบหลับอย่างมีความสุขในชั้นเรียน

 

ก่อนหน้านี้เขาได้ขอให้จิจือยั่วนํากระเป๋ามาวางไว้ที่โต๊ะให้ก่อน ดังนั้นเมื่อหงต้าหลี่เข้ามาในห้องเรียน เขาจึงหาที่นั่งได้ง่าย จากนั้นเขาก็เริ่มงีบหลับ ศีรษะของเขาพิงบนโต๊ะโดยไม่ต้องกังวลใจอะไรอีกต่อไป จริง ๆ แล้วเขาแสร้งทําเป็นหลับไป เพื่อที่เขาจะได้ไม่สนใจเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่รอบตัวเขา ในระหว่างนี้เขากําลังรวบรวมข้อมูลจากสิ่งที่เขาได้ยิน เพื่อหาของเพื่อนร่วมชั้นและก็เพื่อที่จะรู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับคนอื่นในห้องเรียนด้วย

 

ตัวอย่างเช่น ผู้ชายที่อยู่ข้างเขาคือ ฉินลีปัง เขาเป็นคนที่ชอบเล่นเกมและใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นเกม หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา คือ หงวอนใบ งานอดิเรกของเธอ คือ การแต่งตัวตามเทรนด์แฟชั่นล่าสุดและอื่น ๆ

 

ด้วยประวัติและฐานะครอบครัวของเขา ไม่มีครูคนไหนกล้าว่าหงต้าหลี่ที่นอนในห้องเรียน ครูคนอื่น ๆ ถึงขนาดขอให้เพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ลดระดับเสียงลงเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนหลับของเขาดังนั้นเมื่อโรงเรียนถึงเวลาเที่ยงวัน หงต้าหลี่ก็ได้เข้าใจสถานการณ์และข้อมูลของคนทั้งชั้นอย่างคร่าว ๆ

 

ในกลุ่มของชั้นเรียนห้องมรณะ มีทั้งหมด 42 คน เป็นชาย 18 คน หญิง 24 คน ในวงกว้าง ๆ การพูดคุยกันนั้นแบ่งออกเป็นสองฝ่าย

 

หัวหน้าฝ่ายชาย คือ ฝางหยูเฉิง ครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของเหมืองสี่แห่งใกล้กับเมืองเทียนจิงและมีทรัพย์สินมูลค่ากว่า500 ล้านหยวน เขาเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ ในมาตรฐานการใช้เงินเขาดูฟุ่มเฟือยพอตัวและมีผู้สนับสนุนมากมาย ผู้นําของฝ่ายหญิงคือ ดึงหยังเหมิง ครอบครัวของเธอสร้างอาณาจักรขึ้นมาจากอสังหาริมทรัพย์และมีมูลค่าสุทธิประมาณ 600 ล้านหยวน จากคําพูดของเธอก่อนหน้านี้ เธอมีพฤติกรรมโดยรวมจากการคุยกับผู้คนสามารถอธิบายได้ว่าเธอเป็นทอมบอย เธอเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะมีความสัมพันธ์แบบพี่น้องกับเขา

 

นอกจากนี้หงต้าหลี่ยังได้ยินข่าวสําคัญบางอย่างอย่างคลุมเครือ มีข่าวว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งมีฉายาว่า “ยัยผีบ้า” ที่ไม่ค่อยเข้าเรียน อย่างไรก็ตามเธอเป็นผู้นําอย่างไม่เป็นทางการไม่เพียงแต่ในชั้นเรียนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั้งโรงเรียนด้วย ประวัติของเธอเป็นปริศนา ผู้คนต่างบอกว่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัวเลือดจะหลั่งไหล มีผู้ชายหลายคนถูกเฆี่ยนตีโดยเธอ เธอจะ เฆี่ยนจนกว่าพวกเขาจะเสียเลือด ดังนั้นเธอจึงมีฉายาว่า “ยัยผี บ้า”

 

เมื่อพิจารณาถึงความรุนแรงของเด็กผู้หญิงคนนี้หงต้าหลี่ ก็คงต้องการอยู่ให้ห่างจากเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้แม้ว่าคะแนนสถานะด้านสุขภาพของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็น45 แต่ก็ยัง ห่างไกลจากคนทั่วไปมาก

 

เขาไม่ได้วางแผนที่จะตายก่อนถึงเวลาตายหรอกนะเห้ย

 

ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลสําคัญที่หงต้าหลี่ใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายในการรวบรวม จากนั้นเขาก็ได้ใช้เวลาพักทานอาหารกลางวันอย่างมีความสุข…

ระบบใช้จ่าย

ระบบใช้จ่าย

เรื่อง ระบบใช้จ่าย โดย นำเรื่อง ระบบใช้จ่าย มาเป็นบางส่วน บทนำ เขาได้ตายไปเพราะช่วยเหลือคนจากการถูกรถชน จากนั้นก็ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมกับระบบแปลกๆและยังโลกใบเดิมที่ผิดไปจากเดิมอีก เรื่องย่อ ” หงต้าหลี่ เพศชายอายุ 22 ปี ไร้ครอบครัว ได้เสียชีวิตอย่างโชคร้ายโดยที่ได้ช่วยเหลือเด็กสองคนที่กำลังจะถูกรถชน หลังจากหารือหลายครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดสินใจให้เกียรติเขาในฐานะวีรบุรุษและนักศึกษามหาวิทยาลัยดีเด่นของจังหวัด “ – หนังสือพิมพ์รายวันประชาชน … ” ไม่!ไม่!ไม่! ไม่มีทาง หนูจะไม่หมั้นกับตระกูลหงเด็ดขาด! ” ถังมู่ซินพูด เธอซ่อนศรีษะไว้ใต้หมอนและกะดิกขาไปมาอย่างหงุดหงิด ” หงต้าหลี่เป็นพวกเศษเดนที่คนรู้จักกันทั่วเมือง เขาเป็นพวกสุรุ่ยสุร่ายและเป็นที่ขายหน้าของตระกูลหง เขาทั้งอ่อนแอและสมองทึบอีกด้วย ไม่มีทางที่หนูจะเอาคนแบบนี้มาเป็นคู่หมั้นหรอกนะ! “ ถังมู่ซิน เป็นลูกคนเดียวของ ถังรุ่ยชี ประธานบริษัทถังเวชกรรม เธอเป็นคนที่มีความสามารถทั้งการอ่านและเขียน ทั้งนี้เธอยังเป็นคนที่เที่ยงธรรมและเป็นคนที่สวยงามอีก ด้วยรูปลักษณ์ของเธอ เปรียบได้กับดอกไม้ที่สวยที่สุดราวกับว่าทุกอย่างนั้นดีไปหมดเมื่ออยู่กับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นสุดยอดแม่ครัว ทำให้เธอเป็นภรรยาในแบบอุดมคติเลยทีเดียวเชียว การที่ทั้งทำอาหารได้อร่อยและหน้าตาเป็นเลิศเช่นนี้ เธอจะต้องเป็นผู้หญิงในฝันของผู้ชายหลายคนในโรงเรียน วันนี้ เธอได้ยินเสียงจากพ่อว่าจะพาเธอไปหาตระกูลหงต้าหลี่ที่แสนน่าอับอาย เพื่อที่จะได้หมั้นตัวเธอกับลูกชายของตระกูลหง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถยอมรับได้เลยสักนิดเดียว ” ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของเขาตามใจและพวกเขายังมีลูกแค่คนเดียว คนไร้ค่าอย่างเขาคงจะถูกไล่ออกจากตระกูลหงไปนานแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ เขาจะยังสามารถใช่เงินสุรุ่ยสุร่ายได้แบบนี้อีกงั้นเหรอ? “ เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว ถังรุ่ยชีซึ่งนั่งอยู่หน้าเตียงก็ได้ยิ้มแย้ม ” ซินซิน1 ไม่ใช่ว่าพ่อมีทางเลือก การแต่งงานระหว่างหนูกับหงต้าหลี่ถูกตัดสินโดยคุณปู่เมื่อหลายปีก่อน แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กน้อยทึ่ม ๆ คนหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ใช่มั้ย จากสิ่งที่พ่อรู้จริง ๆ แล้ว หงต้าหลี่เป็นเด็กที่หน้าตาดีเลยนะ … “ ถังรุ่ยชี สวมเสื้อกล้ามสีเขียวที่สะอาดสะอ้านและเน็คไทที่มีปมเรียบง่ายตรงคอของเขา เขามีหนวดเคราอยู่เหนือริมฝีปาก เขาถือกล่องยาสูบไว้ในมือและผมสีดำสั้นของเขาก็ได้ถูกหวีอย่างเรียบร้อยไปทางด้านหลังของศีรษะอย่างดูดี ความแปลกเพียงอย่างเดียวก็คือ ตอนนี้ดวงตาของเขาเปล่งประกายพร้อมกับเต็มไปด้วยความรู้สึกหมดหนทางและไม่เต็มใจ พูดตามตรง เพราะเขาไม่มีทางเลือกหรอกนะ เขาจะยอมมอบลูกสาวที่มีค่าของตัวเองให้กับคนไร้ค่าอย่างหงต้าหลี่งั้นหรอ? สาเหตุที่เขาเรียกว่าคนไร้ค่างั้นเหรอ ก็เพราะหงต้าหลี่อาจเรียกได้ว่าเป็นคนประหลาดที่สุดบนโลกใบนี้ สิ่งเดียวที่เขาชอบทำก็คือ การถลุงเงินที่มีอยู่ของตนเอง คำพูดประจำตัวของเขาคือ ” ฉันจะต้องฟุ่มเฟือยสิ ถ้าฉันไม่ใช้เงิน เงินที่พ่อแม่ของฉันที่หามาก็คงสูญเปล่าใช่ไหมละ? “ คำพูดของเขาได้สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนในเมืองเทียนจิง ผู้ปกครองจำนวนมากต่างก็ได้สอนลูกของพวกเขาโดยพูดว่า ” ถ้าลูกกล้าเรียนรู้เรื่องการใช้เงินจากหงต้าหลี่ ไปกินข้าววัดเลยไป! “ ดังนั้นแล้ว จึงเป็นที่เข้าใจได้เลยว่าทำไมถังมู่ซินถึงได้อารมณ์เสีย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset