รักซ่อนร้าย นายซาตานรักผิดคน – ตอนที่ 2 ตบหน้าทั้งคู่

บทที่002 ตบหน้าทั้งคู่

ครั้งนี้ฉินซูได้ไปทัศนศึกษาในชนบทที่มหาลัยจัดขึ้น

คราวนี้มีนักศึกษาแพทย์ฝึกหัดทั้งหมดกว่า20คน มาตั้งแคป์อยู่ที่หมู่บ้านเชิงภูเขา

หลังจากกลับถึงค่าย พวกเพื่อนๆก็หลับไปหมด

ฉินซู ตักน้ำเพื่ออาบน้ำเช็ดตัว

มองดูร่องรอยฟกช้ำของร่างกาย ดวงตาของเธอก็แดงก่ำ

ความบริสุทธิ์ที่เธอรักษาไว้มา20ปี ซึ่งเธอต้องการจะมอบมันให้กับผู้ชายที่เธอรักที่สุด

“ มึ่งฟาน ฉันขอโทษ”

ฉินซูร้องไห้

ผ่านไปพักหนึ่ง เธอถึงกลับมาสงบได้เหมือนเดิม

การร้องไห้ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้

การเสียตัวคือเรื่องจริงแล้ว เธอเองก็ไม่ได้คิดจะปิดบังหลินมึ่งฟาน จึงตัดสินใจว่่ากลับไปแล้วจะสารภาพกับเขา

เรื่องนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัย และมึ่งฟานก็เป็นคนที่อ่อนโยน เอาใจใส่คนอื่น และรักเธออย่างสุดซึ้ง เธอเชื่อว่าเขาต้องเข้าใจเธออย่างแน่นอน……

หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้ว ฉินซูก็กลับไปนอน

แต่พบว่าเตียงข้างๆเธอว่างอยู่ หวังอี้หลินเพื่อนของเธอยังไม่กลับมา

“ อี้หลินเคยบอกว่า จะไปกินข้าวที่บ้านญาติในเมือง มันค่อนข้างไกล และขี้เกียจเดินทาง

ดูเหมือนว่าวันนี้น่าจะไม่กลับมาแล้ว……”

ฉินซูคิดแบบนี้ หลับตาลงแล้วก็นอนหลับไป

ในขณะเดียวกัน

ภายใต้แสงจันทร์ ร่างที่สวมเสื้อผ้าหลุดลุ่ยวิ่งชนนู่นชนนี่อยู่ในภูเขา

พอมั่นใจว่าไม่มีใครตามมาแล้ว เธอถึงได้เริ่มช้าลง เช็ดใบหน้าของตัวเอง แล้วสบถว่า

“อะไรกัน ไม่คิดดูท่าทางที่น่ารังเกียจของตัวเองเลย……”

พอนึกถึงผู้ชายอัปลักษณ์ที่รูปร่างหน้าตาเหมือนโจรห้าร้อย หวังอี้หลินก็รู้สึกคลื่นไส้สะอิดสะเอียน

เดิมทีคิดจะไปกินข้าวที่บ้านญาติ ใครจะไปรู้ว่าจะมาเจอเรื่องซวยแบบนี้

ทันใดนั้น เธอได้เหยียบอะไรบางอย่าง

หวังอี้หลินหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปด้วยความตื่นตระหนก แล้วก็ตะลึงไป

ผู้ชายที่หล่อมากกก……

……

เช้าตรู่ ฉินซูตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย

เธอฝันถึงผู้ชายคนนั้นเมื่อคืน เห็นใบหน้าไม่ชัดเจน

ฉินซูพยายามบังคับให้ตัวเองสงบลง

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทัศนศึกษาและต้องกลับไปที่มหาลัยแล้ว เธอเก็บสัมภาระเรียบร้อย เห็นว่าหวังอี้หลินยังไม่กลับมา จึงตัดสินใจโทรหาเธอ

“เข้าใจละ เธอช่วยเก็บของให้ฉันก่อนก็แล้วกัน” ทางเขาพูดอย่างไม่ค่อยสนใจ

หลังจากพูดจบ ก็ตัดสายไป

ฉินซูส่ายหน้าอย่างไม่มีทางเลี่ยง ทำได้แค่เก็บของใส่กระเป๋าให้เธอ

หวังอี้หลินเอาสิ่งของมาเยอะ ก็เลยเอากระเป๋าใบใหญ่มา ฉินซูมีสัมภาระเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอมีแค่เป้ใบเดียว กับกล่องอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น

ถึงเวลาออกเดินทาง หวังอี้หลินก็ยังไม่กลับมา ฉินซูจึงช่วยเธอเอากระเป๋าขึ้นรถ

อาจารย์ผู้นำทีมก็เร่งถามว่า “หวังอี้หลินล่ะ? ใครโทรหาเขาหน่อยซิ ตอนนี้เหลือเขาคนเดียวแล้วเนี่ย!”

“ อาจารย์ซวู เธอน่าจะใกล้——”ฉินซูยังไม่ทันจะพูดจบ หวังอี้หลินก็ปรากฏตัว

ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ไม่สนใจอาจารย์ที่กำลังโกรธเกรี้ยว ตรงขึ้นรถไป แล้วก็นั่งในที่นั่งของตัวเอง

ฉินซูนั่งข้างๆเธอ แล้วพูดเบาๆว่า “อี้หลิน เธอมาสาย น่าจะขอโทษอาจารย์ซวูหน่อยนะ……”

“ขอโทษ?” หวังอี้หลินกลอกตา แล้วก็ทำเสียงฟึดฟัด “เป็นอาจารย์แล้วมันวิเศษวิโสขนาดนั้นเลยรึไง? ฉินซูเธอคอยดูนะ วันดีๆของฉันกำลังจะมาถึงแล้ว แค่อาจารย์คนเดียว ฉันไม่ต้องสนใจเขามากหรอก!”

“……”ฉินซูมองเธออย่างพูดอะไรไม่ออก

คนที่นั่งถัดไปกระซิบกระซาบกัน

“เห็นไหม ชุดสีขาวที่หวังอี้หลินใส่อยู่ เป็นชุดเซทฤดูร้อนล่าสุดของชาแนล แพงมากเลย”

“ที่แท้เธอรวยขนาดนั้นเลยเหรอ? เยี่ยมไปเลย……”

หวังอี้หลินได้ยินคำพูดพวกนี้ ก็คลี่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

ฉินซู รู้สึกงงงวยเล็กน้อย

ครอบครัวของหวังอี้หลินไม่ได้ถือว่าแย่ แต่ว่าก็ไม่ได้รวยขนาดนั้น ขนาดเธอที่ไม่ได้สนใจแบรนด์หรูอะไรพวกนี้ยังรู้ว่าชาแนลมันแพง แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงรุ่นใหม่ล่าสุดเลย……

ฉินซูรู้สึกว่าหวังอี้หลินไปกินข้าวที่บ้านญาติแล้ว ก็แปลกไป

หวังอี้หลินเหลือบมองไปทางฉินซู เห็นแล้วก็คิดว่าที่คอของเธอได้สวมอะไรบางอย่าง

“นี่คืออะไร?”

เธอยื่นมือออกไป แล้วก็ดึงสร้อยคอของฉินซูออกมา

จี้กลมทองแดง แค่มองดูก็รู้แล้วว่าเป็นของกระจอกๆ

หวังอี้หลินปล่อยมืออย่างรังเกียจ “แฟนเธอให้เหรอ? ของแบบนี้ มันสามารถหาซื้อได้ตามแผงลอยข้างถนน”

ฉินซูตะลึงไป ตอนนี้เองถึงได้ตระหนักว่า สร้อยคอนี้ ผู้ชายคนนั้นใส่ให้เธอเมื่อคืน

สีหน้าของเธอเริ่มซีดลง เธอไม่พูดอะไรแล้วก็ถอดสร้อยนั้นออก เก็บไว้ในกระเป๋า

พอเห็นดังนั้น หวังอี้หลินก็ถือว่าเธอยอมรับ เบ้ปากพูดว่า “แฟนจนๆของเธอน่ะ รีบๆเลิกไปซะเถอะ แม้แต่กับแฟนตัวเองยังไม่ยอมให้เงินใช้เลย จะมาพูดถึงความรักที่แท้จริงอะไรกัน”

ฉินซูขมวดคิ้ว “ฉันสามารถหาเงินได้ด้วยตนเอง ทำไมต้องใช้เงินของแฟนด้วย?”

หวังอี้หลินเบ้ปาก ไม่แสดงความคิดเห็นอะไรต่อ

กลับถึงเมืองก็ถึงตอนเที่ยงแล้ว หวังอี้หลินได้ติดต่อพ่อแม่มารับเธอกลับไปล่วงหน้า เธอเดินอย่างมีความสุข เหมือนได้เจอเรื่องที่ดีมาก

ฉินซูกินอาหารเที่ยงง่ายๆแล้วก็กลับไปที่หอพัก

เดิมทีนัดแฟนหลินมึ่งฟานฉลองวันเกิดด้วยกันเย็นนี้ แต่ว่าพอได้เจอกับเรื่องเมื่อวานนั้น ทำให้เธอรอถึงตอนเย็นไม่ไหว

เธอจำเป็นต้องระบายความจริงให้ใครบางคนฟัง นอกจากแฟนแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าต้องไปพูดกับใครดี

ฉินซูได้เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็ขึ้นรถเมล์ไปยังโรงพยาบาลใจกลางเมืองที่หลินมึ่งฟานทำงานอยู่

เป็นเวลาพักกลางวันพอดี เธอก็ไปที่ห้องทำงานของเขา

เธอจำได้ว่ามึ่งฟานเคยบอก วันนี้มีเขาคนเดียวที่ต้องปฏิบัติงานในแผนก

ฉินซูเปิดประตูเข้าไปอย่างหมดความอดทน

“เสี่ยวซู……”

“มึ่งฟาน?!”

ตลอดชีวิตนี้เธอไม่เคยคิดเลยว่า หลินมึ่งฟานจะหักหลังเธอ แล้วทำเรื่องที่ไร้ยางอายแบบนี้!

หลินมึ่งฟานถูกจับได้คาหนังคาเขา “เธอออกไปก่อน เดี๋ยวเราค่อยคุยกันโอเคไหม?”

“คนที่ไม่มีหน้าจะไปเจอคนอื่นคือนาย จะให้ฉันไป? มีอะไร ก็พูดออกมาให้เคลียร์ตรงนี้เลย!”

ฉินซูยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ความโกรธพลุ่งพล่านอยู่ในอกของเธอ

“สาวน้อย ไม่ต้องโมโหขนาดนี้หรอก เธอไม่ได้ดูตัวเองหน่อยเหรอ เหมือนผู้หญิงตรงไหนกัน?”

ผู้หญิงที่ยืนพิงโต๊ะอยู่มองไปที่ฉินซูอย่างดูหมิ่น แล้วก็จัดกระโปรงของตัวเองให้เรียบร้อยอย่างช้าๆ

พึ่งจะพูดจบ ฝ่ามือหนึ่งก็ถูกเหวี่ยงเข้ามา

เพียะ!

ฉินซูพุ่งเข้ามาตบหน้าเธออย่างเสียงดังฟังชัด โกรธจนตาแดงก่ำ

“อีกะหรี่หุบปากไปเลย!”

หลินมึ่งฟานดึงผู้หญิงคนนั้นมาปกป้องในอ้อมแขนโดยทันที แล้วก็ถลึงตาใส่ฉินซู “เธอเป็นบ้าอะไรไป กล้าตบเค้ายังงั้นเหรอ? เธอรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร!”

ภายใต้สายตาที่ไม่อยากจะเชื่อของฉินซู เขาก็มองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเองอย่างกังวล น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “ เสี่ยวหรู เธอเป็นอะไรไหม?”

ได้ยินดังนั้น ฉินซูเหมือนถูกฟ้าผ่า

เสี่ยวหรู

หลานสาวรองผอ.ของโรงพยาบาลแห่งนี้ ถังเสี่ยวหรู!

ก่อนหน้านี้หลินมึ่งฟานเคยเล่าให้เธอฟังหลายครั้ง ว่าถังเสี่ยวหรูช่วยเหลือเขามาเยอะ

พอได้ยินที่ถังเสี่ยวหรูพูด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งคู่ทำเรื่องอย่างว่านี้

เรื่องมาถึงแบบนี้แล้ว ฉินซูจะยังไม่เข้าใจได้ยังไง ว่าหลินมึ่งฟานหักหลังเธอมาตั้งแต่แรก

เธอหัวเราะเยาะ แล้วก็ยกมือขึ้นอีกครั้ง

หลินมึ่งฟานที่ไม่ทันระวังตัวถูกตบที่ใบหน้า

“ฉันไม่ได้แค่จะตบเธอ แต่ฉันจะตบนายด้วย!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset