รักหวานอมเปรี้ยว – ตอนที่ 202 เปปเปอร์แปลกๆ

“ประธานเปปเปอร์เข้าใจผิดแล้ว นี่คือนาฬิกาคู่รัก พวกเราไม่ใช่คู่รักกัน ดังนั้นนาฬิกาเรือนนี้ก็ไม่ใช่ของพวกเรา ประธานเปปเปอร์นำกลับไปชื่นชมกับคุณส้มเปรี้ยวเถอะค่ะ”

เมื่อพูดจบ มายมิ้นท์ก็นำกล่องที่อยู่ในมือของผู้จัดการ ยัดใส่ในอ้อมอกของเปปเปอร์

ใบหน้าของเปปเปอร์เย็นชาราวกับน้ำแข็ง อยากที่จะโยนกล่องนั้นทิ้งไปอย่างอัตโนมัติ

แต่ท้ายที่สุด เขาก็สามารถอดทนได้ แล้วยื่นกล่องนั้นให้กับผู้ช่วยเหมันตร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ

ผู้ช่วยเหมันตร์มองไปยังกล่องที่อยู่ในอ้อมอกของตน และมองไปยังเปปเปอร์ที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มขมขื่น

เขานำของสิ่งนี้ให้กับเขา แล้วเขาจะจัดการยังไงล่ะ?

ผู้จัดการยิ่งก้มหน้าลงต่ำ ในใจรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก

ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่านาฬิกาของเขาจะทำให้ประธานเปปเปอร์กับคุณผู้หญิงท่านนี้ทะเลาะกัน เขาก็คงไม่นำออกมา

คนสองสามคนต่างไม่พูดไม่จา บรรยากาศตึงเครียดชวนให้ผู้คนหวาดกลัว

ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านมานานเท่าไหร่ เปปเปอร์จึงเอ่ยปากขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “ไปเถอะ”

ผู้ช่วยเหมันตร์รีบก้าวไปพยุงเขา

มายมิ้นท์ก็ยื่นมือออกไป อยากที่จะพยุงเขาเช่นเดียวกัน

แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าคิดอะไรเหมือนกัน จึงได้ปล่อยมือลง

เปปเปอร์มองเห็นท่าทีของเธอ บรรยากาศรอบกายก็เริ่มอึดอัด

อยากจะพยุงก็พยุงสิ

วางมือกลางคันนี่มันอะไรกัน?

คนกลุ่มหนึ่งเดินออกมานอกร้านอาหาร มายังลานจอดรถ

มายมิ้นท์เปิดประตูรถของตนออกมา ให้ไมโลขึ้นไปบนรถ

เปปเปอร์เห็นสถานการณ์ ขมวดคิ้วพลางพูดขึ้นว่า“คุณจะไปหาทามทอยเหรอ?”

มายมิ้นท์ปิดประตูที่นั่งด้านหลังรถ“ไม่ได้ไปค่ะ”

“งั้นไมโล……”

“ไมโลไปพักค้างคืนกับฉันค่ะ”มายมิ้นท์ตอบพลางมองไปที่เขา

เมื่อได้ยินว่าเขาไม่ได้ไปหาทามทอย ในใจลึกๆของเปปเปอร์รู้สึกสบายขึ้นมาก แต่กลับไม่ได้แสดงออกบนสีหน้า พยักหน้าแสดงให้เห็นว่ารับทราบแล้ว

มายมิ้นท์อ้อมไปยังบริเวณด้านหน้ารถ มายังด้านหน้าประตูของเบาะที่นั่งคนขับ“ประธานเปปเปอร์ ถ้างั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”

“เดินทางระมัดระวังด้วยนะครับ”เปปเปอร์พยักหน้า

มายมิ้นท์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

จู่ๆเขาก็กับชับให้เธอระมัดระวังอย่างกระตือรือร้น

นี่ยังเป็นเปปเปอร์ที่เธอรู้จักอยู่หรือเปล่า?

“ทำไมเหรอครับ?”เมื่อเห็นหญิงสาวงงงวย เปปเปอร์ก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

มายมิ้นท์ส่ายหัว“ไม่มีอะไรค่ะ ประธานเปปเปอร์ก็ระมัดระวังด้วยนะคะ”

แววตาของเปปเปอร์เผยยิ้มออกมา พลาง อึม หนึ่งที

สุดท้ายมายมิ้นท์เหลือบมองเขาครู่หนึ่ง เปิดประตูบริเวณที่นั่งคนขับ จากนั้นก็ขับรถจากไป

เปปเปอร์ยืนอยู่บริเวณด้านหน้ารถมายบัค สายตามองตามส่งเธอตลอดทาง

ขณะที่มายมิ้นท์กลับรถเห็นดังนั้น ในใจจึงรู้สึกแปลกประหลาดไม่น้อย

และความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ไม่ได้เพิ่งรู้สึกตอนนี้ แต่ช่วงเวลานี้เธอรับรู้ได้โดยตลอด

สมัยก่อนเปปเปอร์ไม่เคยเหลือบตามองเธอเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าตอนนี้มองเธอหลายครั้งจนเธอนับไม่ถ้วน

สมัยก่อนเขาไม่ยอมพูดคุยกับเธอมากนัก แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่พูดคุยกับเธอมากขึ้น อีกทั้งยังกำชับเธอให้ระมัดระวังอีกด้วย

ในใจเขาคิดอะไรกันแน่นะ?

มายมิ้นท์ขมวดคิ้วแน่น

ในเวลานี้ ไมโลที่นั่งอยู่เบาะหลังจู่ๆก็กอดบริเวณด้านหลังเบาะคนขับ พลางแนบตัวเข้ามา“คุณอา คุณอาเปปเปอร์ยังมองอยู่เลยครับ”

“อ่า?”มายมิ้นท์หรี่ตา มองไปยังด้านขวาของกระจกหลัง

ที่แท้เปปเปอร์ก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม จ้องมองมายังเธอ

มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากสีแดง เขามองอะไรอยู่กันแน่?

จู่ๆคำพูดของไมโลประโยคหนึ่ง ก็เกือบทำให้เธอเหยียบเบรกผิด

“คุณอา คุณอาเปปเปอร์ชอบคุณ”ไมโลพูด

มายมิ้นท์สำลักน้ำลายจนพูดไม่ออก กระแอมอยู่หลายครั้งจนดีขึ้น และพูดขึ้นอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่า:“เด็กน้อยคนนี้ เพิ่งอายุเท่าไหร่เอง ก็พูดว่าคุณอาเปปเปอร์ชอบฉันซะแล้ว คุณอาเปปเปอร์ไม่ได้ชอบฉัน เขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว”

“แต่ว่าผมดูออก คุณอาเปปเปอร์ชอบคุณอาจริงๆนะครับ แววตาที่เขามองคุณอาเหมือนกับแววตาที่คุณพ่อมองคุณแม่เลย”ไมโลตอบพลางกะพริบตา

“หนูยังมองแววตาของคนออกด้วยเหรอครับ?เก่งจริงๆไมโล”มายมิ้นท์ยิ้ม และไม่ได้เก็บคำพูดของเขาใส่ใจ เห็นเป็นเพียงคำพูดของเด็กน้อยเท่านั้น

เพราะถึงยังไง เด็กคนหนึ่งจะมองแววตาอะไรออกได้

อีกอย่างเปปเปอร์ชอบเธองั้นเหรอ?

มันตลกมากเลย

เมื่อเห็นมายมิ้นท์ไม่เชื่อตนเอง ไมโลเบะปากจิ้มลิ้ม พลางฮึ ฮึ ด้วยความไม่พอใจ และพูดเน้นย้ำว่า:“คุณอา ผมพูดความจริงนะครับ”

“โอเค โอเค โอเค ไมโลพูดความจริง”มายมิ้นท์พยักหน้าคล้อยตาม

ไมโลเห็นว่าเธอก็ยังคงไม่เชื่อ อีกทั้งยังพูดจาขอไปทีกับเขา ใบหน้าจึงเต็มไปด้วยความโกรธ

แต่ว่าไม่นาน เขาก็ราวกับลูกโป่งที่ถูกสูบลมออก ส่ายหัวพลางถอนหายใจ“คุณอา ไม่เชื่อก็ช่างเถอะครับ”

มายมิ้นท์มองไปยังกระจกหลังอย่างหดหู่ใจ เห็นไมโลที่ทำตัวแก่แดด รู้สึกเพียงน่าขบขันเท่านั้น

เด็กคนนี้น่ารักจริงๆ

……

เช้าวันถัดมา มายมิ้นท์เพิ่งตื่นนอน ก็รับสายโทรศัพท์ของทามทอย“มายมิ้นท์ อรุณสวัสดิ์ ”

มายมิ้นท์หาวนอนหนึ่งที“อรุณสวัสดิ์”

ฟังน้ำเสียงอ่อนโยนของเธอที่เต็มไปด้วยความรู้สึกง่วงนอน ในใจของทามทอยเต็มไปด้วยความต้องการ ความร้อนจัดพรั่งพรูออกมากลบจิตใต้สำนึก

กระแอมเพื่อกลบเกลื่อนพลางพูดขึ้นว่า “รบกวนจนคุณต้องตื่นหรือเปล่าครับ?”

“เปล่าค่ะ”มายมิ้นท์บิดขี้เกลียด ได้สติเล็กน้อย พลางตอบกลับ

ทามทอยพูดหยั่งเชิงเล็กน้อย “งั้นก็ดีครับ”

“คุณโทรหาฉันแต่เช้าขนาดนี้ อยากจะมารับไมโลเหรอคะ?”มายมิ้นท์ดึงผ้าห่มออกแล้วลงจากเตียง เปิดประตูแล้วเดินออกไป

ทามทอยพิงอยู่บริเวณหน้าประตูรถ ยิ้มระรื่นพลางพูดขึ้นว่า:“คุณเข้าใจผมดีจริงๆอย่างที่คิดไว้เลย ผมอยู่ใต้ตึกแล้ว ไมโลล่ะ?”

มายมิ้นท์เปิดประตูห้องนอนเล็ก อวัยวะทั้งสี่ของไมโลแผ่อยู่บนเตียง นอนหลับอย่างสบาย

เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ กดน้ำเสียงลงต่ำพลางตอบกลับว่า“ไมโลยังไม่ตื่นเลยค่ะ”

“เด็กคนนี้”ทามทอยยิ้มออกมา

มายมิ้นท์ปิดประตูห้องเบาๆ“ถ้างั้นคุณขึ้นมาก่อนเถอะค่ะ”

ทามทอยกำลังรอคำพูดนี้ของเธออยู่ รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งยิ้มยิ่งเบิกบานมากขึ้น“ได้ครับ งั้นผมขึ้นไปแล้วนะครับ เปิดประตูให้ผมด้วยนะครับ”

มายมิ้นท์ อึม หนึ่งที

ไม่นาน กริ่งประตูห้องก็ดังขึ้น

มายมิ้นท์เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกมาจากห้องนอน ไปเปิดประตูทางเข้า

เมื่อประตูเปิดออกมา ทามทอยยืนอยู่ด้านนอกประตู ยิ้มจนเห็นฟันสีขาว “อาหารเช้าครับ”

เขายกถุงกระดาษขนาดใหญ่ถุงหนึ่งขึ้น หูหิ้วของถุงกระดาษนั้นสกรีนอักษรขนาดใหญ่สี่คำว่าRoyal breakfast

มายมิ้นท์ยิ้มพลางรับไว้“คุณนำอาหารมาด้วย”

“ใช่แล้ว ผมเอาอกเอาใจเก่ง”ทามทอยถูมือ มองไปที่เธอด้วยแววตาเป็นประกาย

ท่าทีเช่นนี้ของเขาสำหรับมายมิ้นท์แล้ว ก็ราวกับสุนัขโกลเด้นที่จ้องมองเจ้าของ เพราะหวังของ

เธอรู้สึกแม้กระทั่งเห็นหางด้านหลังของเขาแกว่งไปแกว่งมาไม่หยุด อดไม่ได้ที่จะยิ้มแฉ่งออกมา“อึม เอาอกเอาใจเก่ง รีบเข้ามาเถอะค่ะ”

มายมิ้นท์เอียงตัวเพื่อหลีกทางให้เขาเข้ามา

“ถ้างั้นก็รบกวนด้วยนะครับ”ทามทอยพูดจบก็รีบเข้าประตูมาทันที ท่าทางรวดเร็วจนให้ความรู้สึกแทบจะทนรอไม่ไหวแล้ว

“คอนโดนี้ของคุณไม่เลวเลยนะครับ”ทามทอยยืนอยู่บริเวณด้านหน้าห้องรับแขก พลางมองไปรอบๆทั้งสี่ด้าน

มายมิ้นท์นำอาหารเช้าวางไว้บนโต๊ะ“พ่อของฉันมอบให้เป็นของขวัญบรรลุนิติภาวะ โอเค เชิญคุณนั่งได้ตามสบายเลยนะคะ ฉันขอตัวไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน หากคุณอยากไปหาไมโล ก็เข้าไปที่ห้องนั้นได้เลย ไมโลอยู่ในนั้น”

เธอชี้ไปที่ห้องนอนเล็ก

ทามทอยโบกมือ“ทราบแล้วครับ คุณรีบไปเถอะ ผมจะไปดูไมโล”

พูดจบ เขาเปิดประตูเข้าไปยังห้องนอนเล็ก

มายมิ้นท์ยิ้มครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าไปยังห้องอาบน้ำ

หลังจากที่เธอล้างหน้าแปรงฟัน และแต่งหน้าเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องอาบน้ำ ทามทอยอุ้มไมโลนั่งลงที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว

“คุณอา อรุณสวัสดิ์ครับ”ไมโลโบกมือสั้นๆของเขา พลางทักทายมายมิ้นท์อย่างอ่อนหวาน

มายมิ้นท์ใจละลาย เดินเข้าไปหอมแก้มจิ้มลิ้มของเขาหนึ่งที “อรุณสวัสดิ์ครับไมโล”

ทามทอยเห็นฉากนี้ ดวงตาก็เบิกกว้าง

เจ้าเด็กนี่ เขายังไม่เคยได้รับจูบหอมๆของคนที่ชอบอยู่ในใจเลย

เจ้าเด็กนี่กลับขโมยไปก่อนซะงั้น

ราวกับว่ารับรู้ได้ถึงแรงอาฆาตของทามทอย ไมโลหันศีรษะไปเหลือบมองเขาครู่หนึ่ง จากนั้นจู่ๆก็ยิ้มให้กับเขา

ทามทอยโกรธจนคันกำปั้นแน่นอยากจะต่อยคน

เด็กผีนี่ กลับโอ้อวดเขาซะนี่?

“ไมโล หนูคันผิวหนังใช่ไหม?”ทามทอยยื่นมือซ้ายขวาออกไปหยิกหน้าของไมโล

ไมโลรีบขอความช่วยเหลือจากมายมิ้นท์“คุณอา คุณลุงหยิกผม”

มายมิ้นท์กำลังจัดโต๊ะอาหารเช้า เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จึงรีบวางตะเกียบที่อยู่ในมือลงทันที

เมื่อเห็นท่าทางของทามทอย จึงเท้าสะเอวพลางตะโกนขึ้นว่า:“ทามทอย คุณทำอะไรของคุณ?”

รักหวานอมเปรี้ยว

รักหวานอมเปรี้ยว

อ่านนิยายรักหวานอมเปรี้ยวเมืองเดอะซี ต้นเดือนสิบสอง อากาศหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา มายมิ้นท์ซุกตัวอยู่ในโซฟาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ฟังเสียงก่นด่าของพิศมัยผู้เป็นแม่สามีจากด้านล่าง “มายมิ้นท์เธอจะท้องไม่ได้ก็ช่างเถอะ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว! เธอจะให้ฉันกับปีโป้หิวตายหรือไง?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset