รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 11 รักษาไตบกพร่องแก้อาการหลั่งเร็ว!

จี้หลิงชวนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความโมโห ไม่คิดเหลือบตามองหญิงสาวคนนั้นแม้แต่นิดเดียว เขาเดินก้าวเท้าอย่างรวดเร็วเดินตรงออกจากโรงแรมไป
ภายในห้องขณะที่ ลู่เฉิงฮ่าวกำลังโอบกอดฟัดเหวี่ยงกับสาวน้อยหน้าอกอึ๋มเอวบางอยู่บนเก้าอี้ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียง คนถีบประตูเข้ามาดังปังอย่างกะทันหัน
เมื่อลู่เฉิงฮ่าวได้ยินเสียงจากทางด้านหน้าประตู เขาก็หน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความโมโห แต่ทันทีที่เหลือบไปเห็นจี้หลิงชวนทำหน้าไม่สบอารมณ์พร้อมกับกำลังเดินตรงเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
ลู่เฉิงฮ่าวทำหน้าเสียอารมณ์ จะพูดก็พูดไม่ออก เขายกมือขึ้นสะบัดไปมาเพื่อบอกให้สาวน้อยหน้าอกอึ๋มที่กำลังนั่งอยู่ทางด้านข้างให้เธอออกไปเสียก่อน เขามองจี้หลิงชวนเพื่อนรักที่นั่งลงทางด้านข้างของเขาด้วยความสงสัย
จากนั้นลู่เฉิงฮ่าวก็หมุนหน้าปัดของนาฬิกาที่คว่ำหน้าอยู่ที่ข้อมือของเขาขึ้นมามองดูเวลา อะไรกัน นี่ยังไม่ถึงสิบนาทีเลยนะ……
บวกกับเวลาที่เดินไปกลับห้องของโรงแรมก็ปาไปแล้วเจ็ดถึงแปดนาที……
เขาคิดไปพลางพร้อมกับเหลือบมองใบหน้าท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ของจี้หลิงชวนอะไรกัน นี่……หรือว่าจะเสร็จแล้ว ยิงออกไปแล้วหรือ?
อืม เรื่องนี้สำหรับผู้ชายแล้วมันถือได้ว่าเป็นเรื่องเลวร้ายสุดๆเลยนะ!
ในขณะที่ลู่เฉิงฮ่าวเห็นสีหน้าของจี้หลิงชวนที่ไม่สบอารมณ์อย่างนั้นแล้ว ก็อดกลั้นอาการขำได้อย่างยากลำบาก เขาครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาตบที่ไหล่ของจี้หลิงชวนเบาๆ พร้อมกับพูดปลอบใจเขาว่า “หลิงชวน นายก็อย่าคิดมากไปเลยนะ ฉันได้ยินมาว่ายาแคปซูลxx เสินเป่า สามารถรักษาอาการไตบกพร่องแก้อาการหลั่งเร็วได้ หากว่ายังไม่ได้ผลอีกล่ะก็ นายก็ยังสามารถเลือกที่จะผ่าตัดได้นี่!”
น้ำเสียงของลู่เฉิงฮ่าวค่อยๆแผ่วเบาลง กลับทำให้บรรยากาศรอบๆตัวของลู่เฉิงฮ่าวรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาชั่วขณะ
สายตาอันเย็นชาของจี้หลิงชวนหันเหลือบมามองที่เขา ทันใดนั้นลู่เฉิงฮ่าวกลับรู้สึกเสียวๆเย็นๆบริเวณคอหอย ทำได้เพียงแค่ขยับตูดของเขาไปมา ……
“ไอ้เจ้าบ้า!คนที่ควรกังวลเรื่องไตจะบกพร่องควรเป็นนายซะมากกว่า ฉันน่ะไม่มีปัญหาเรื่องนั้นซะหน่อย!”จี้หลิงชวนตอกกลับเขาอย่างเย็นชา
ลู่เฉิงฮ่าวมองดูสีหน้าของจี้หลิงชวนอีกครั้ง จึงรู้ว่าเมื่อกี้ตัวเองได้ประเมินสถานการณ์ผิดไป……
“ยังไงล่ะ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่สเปคนายหรือไง?”ลู่เฉิงฮ่าวเห็นท่าทีของจี้หลิงชวนอย่างนั้นแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าจี้หลิงชวนคงจะไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงคนนั้นแม้แต่ปลายเล็บเลย ก็ไม่แปลกที่จะเสร็จรวดเร็วขนาดนี้
คิดไปพลางลู่เฉิงฮ่าวก็พูดขึ้นมาอีกว่า“อย่างนั้นจะเปลี่ยนคนให้ดีไหมล่ะ?”
เมื่อพูดเสร็จเขากำลังตั้งท่าจะเรียกให้หญิงสาวอีกคนเข้ามา
แต่เมื่อจี้หลิงชวนเห็นอย่างนั้นแล้ว เขาก็ยกมือขึ้นมานวดๆบริเวณหว่างคิ้วทั้งสอง “ไม่ต้องแล้ว!”
จี้หลิงชวนไม่แม้แต่จะชำเลืองมองหญิงสาวพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย และก็รู้สึกไม่มีอารมณ์ด้วย!
นอกเสียจากมู่ซีซี!
ลู่เฉิงฮ่าวเห็นท่าทางของจี้หลิงชวนราวกับว่ามีเรื่องอะไรในใจ เขาอดไม่ได้ที่จะถามต่อว่า “หลิงชวน นี่นายเป็นอะไรไป ?หรือว่านายจะมีคนที่ชอบอยู่แล้ว?”
“ก็แค่อยาก !”ตอนนี้จี้หลิงชวนอดไม่ได้ต่อความต้องการของตัวเอง เขาอยากที่จะจับเอาตัวของหญิงสาวที่ชื่อว่ามู่ซีซีคนนั้น มาย่ำยีให้สาแก่ใจตัวเอง!
เพียงแค่ลู่เฉิงฮ่าวคิดขึ้นมาก็รู้สึกเกิดอับอายขายหน้า!
เพื่อนของเรานี่ยังคงป่าเถื่อนเหมือนเดิมจริงๆ
“อย่างนั้นก็ไม่ยากอะไร หากว่านายต้องการที่จะเด็ดดอกไม้มาเชยชม เพียงแค่ออกแรงนิดๆหน่อยๆ กลัวว่าจะเอาเธอมาครอบครองไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ลู่เฉิงฮ่าวพูด จี้หลิงชวนขมวดคิ้วเล็กน้อยดูเหมือนว่าเขาคิดอะไรดีๆได้แล้ว
จากนั้นไม่นาน ลู่เฉิงฮ่าวเหมือนยังมีคำพูดบางอย่างที่อยากจะพูดกับเขาอีก แต่ไม่ทันได้พูด เขาก็เห็นจี้หลิงชวนลุกขึ้นยืนและหันหลังเดินออกไป
ข่าวเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับมู่ซีซี จี้หลิงชวนได้สั่งให้ฟางเซิ่งสืบอย่างถี่ถ้วน แล้วจากนั้นจี้หลิงชวนก็ขับรถตรงไปยังหน้าประตูของมหาลัยA ที่มู่ซีซีเรียนอยู่
หากเขาจำไม่ผิดล่ะก็ ตอนนี้ มู่ซีซีกำลังศึกษาอยู่มหาลัยA ชั้นปีที่หนึ่ง
สายตาของจี้หลิงชวนไม่ละจากหน้าประตูของมหาลัยAเลย ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาของชั่วโมงเรียน หน้าประตูของมหาลัยผู้คนดูบางตา เขาก้มลงมองดูเวลาที่นาฬิกาอีกครั้ง เวลาขณะนั้นห่างจากเวลาพักเที่ยงอยู่สองถึงสามชั่วโมง
จี้หลิงชวนอดทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาฟางเซิ่งในทันที
“ฟางเซิ่ง นายช่วยจัดการหาเบอร์ติดต่อของมู่ซีซีมาโดยด่วน!ภายในเวลาสิบนาทีนี้ต้องส่งมาให้ฉัน!”
สิบนาทีผ่านไปหลังจากวางสายโทรศัพท์ ฟางเซิ่งใช้ความสามารถที่เขามีทั้งหมดเพื่อหาเบอร์โทรศัพท์ของมู่ซีซีมาให้เขาจนได้
จากนั้นจี้หลิงชวนก็กดโทรออกไปที่เบอร์โทรศัพท์ของมู่ซีซีในทันที
ประจวบเหมาะกับที่มู่ซีซีกำลังเลิกเรียน เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น จากนั้นมู่ซีซีก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เธอขมวดคิ้วพร้อมกับมีรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ที่เธอไม่คุ้นเลย คาดว่าน่าจะเป็นโทรศัพท์แนะนำสินค้าพวกนั้น
มู่ซีซี เธอไม่เอะใจเลยแม้แต่น้อย และกดตัดสายในทันที
จากนั้นเธอก็เอาโทรศัพท์ของเธอล้วงใส่ในกระเป๋า ไม่นานเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้สึกแปลกใจมากพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แท้จริงแล้วก็เป็นเบอร์เมื่อกี้ที่โทรเข้ามา
เมื่อเป็นอย่างนี้ มู่ซีซีก็คงทำได้เพียงแค่กดรับสาย“ฮัลโหล?”
“มู่ซีซี!!!”เสียงเมื่อแต่กี้ มู่ซีซีได้ยินแล้วรู้สึกราวกับว่าเป็นเสียงที่คุ้นเคย เสียงเหมือนคนที่กำลังโมโหและกัดฟันพูดดังเข้ามาจากด้านปลายสาย
เสียงนี้……เสียงนี้มัน……ทำไมฟังแล้วดูคล้ายๆกับเสียงของจี้หลิงชวนเลยล่ะ?
มู่ซีซีกำโทรศัพท์ไว้แน่น เธอควบคุมตัวเองไม่อยู่ร่างกายสั่นเทาไปทั้งตัว เสียงเต้นรัวๆของหัวใจดังตึกๆๆไปทั่วทั้งอก
มู่ซีซีเกิดความลังเลว่าเสียงเมื่อกี้ที่เธอได้ยินมันอาจจะไม่ใช่ความจริงก็ได้ แต่แล้วในสายของโทรศัพท์ก็มีเสียงของจี้หลิงชวนที่ดูเย็นชาและเคร่งขรึมดังขึ้นมาอีกครั้ง “ทำได้ดีนี่ มู่ซีซี เธอเป็นคนแรกที่กล้าวางสายโทรศัพท์ของฉัน!”
ครั้งนี้มู่ซีซีได้ยินเสียงของเขาอย่างชัดเจน เป็นเสียงของจี้หลิงชวนอย่างที่คิดไว้ไม่ผิดจริงๆ ในแววตาของเธอดูเต็มไปด้วยความหวาดกลัวขึ้นมาในชั่วขณะ
จี้หลิงชวน……เป็นไปได้ยังไง ทำไมเขาถึงมีเบอร์โทรศัพท์ของเธอได้ล่ะ ?
มู่ซีซียืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ เธอตกใจกลัวจนมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก ยังไม่ทันที่เธอจะออกเสียงพูด มือที่สั่นเทาของเธอที่กุมโทรศัพท์เอาไว้ ไม่ทันได้ระวังก็เผลอไปกดปุ่มตัดสายอีกครั้ง
มู่ซีซีเห็นว่าสายของโทรศัพท์ถูกตัดไปแล้ว เธอกลืนน้ำลายลงคอหนึ่งอึก ……แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้ตั้งใจ ……
ในมือของจี้หลิงชวนที่ถือโทรศัพท์เอาไว้ เขาเพิ่งพูดออกไปเพียงหนึ่งประโยค ก็ได้ยินเสียงตัดสายโทรศัพท์ดังตู๊ดๆๆ เป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมาอีกครั้ง
เฮ้อ ลนลานไปจริงๆ !มู่ซีซีผู้หญิงคนนั้นสมควรตาย กล้ามากที่ตัดสายโทรศัพท์ของเขา!
จี้หลิงชวนโกรธสุดๆแต่กลับสามารถยิ้มออกมาได้อย่างบ้าคลั่ง มุมปากของเขามีรอยยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับสีหน้าอันเย็นชา จากนั้นก็โทรกลับไปที่เบอร์โทรศัพท์ของมู่ซีซีอีกครั้ง
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกครั้ง มู่ซีซีกัดริมฝีปากด้วยความหนักใจ หน้าจอของโทรศัพท์โชว์เบอร์ที่เธอรู้สึกคุ้นชินไปเสียแล้ว ……

เวลาผ่านไปพักหนึ่ง มู่ซีซีหลับตาลง หายใจเข้าออกลึกๆ พยายามทำจิตใจให้สงบอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงกดรับสายโทรศัพท์ “ฮัลโหล?”
จี้หลิงชวนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ออกมาที่หน้าประตูมหาลัย!”
ทันทีที่เสียงพูดของจี้หลิงชวนประโยคนั้นแผ่วเบาลง มู่ซีซีกำลังมีทีท่าที่จะปฏิเสธ จี้หลิงชวนก็พูดตัดบทของเธอขึ้นมาทันที“ถ้าหากว่าเธอไม่คิดที่จะออกมาล่ะก็ ฉันก็ไม่ถือตัวที่จะเข้าไปหาเธอในมหาลัยของเธอด้วยตัวเองนะ!”
ในครั้งนี้ ทันทีที่จี้หลิงชวนพูดจบประโยคเขาก็เป็นคนชิงตัดสายไปก่อนซะเอง
ปล่อยให้มู่ซีซียืนนิ่งกัดริมฝีปากของตัวเองด้วยความกังวลใจ ข้างๆหูทั้งสองข้างของเธอเต็มไปเสียงเต้นรัวของหัวใจดังตึกๆๆเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในใจของเธอคิดไปต่างๆนานาว่า แท้จริงแล้วจี้หลิงชวนต้องการจะทำอะไรกันแน่?
เพิ่งจะแต่งงานกับพี่สาวไปเมื่อวานไม่ใช่หรืออย่างไรกัน?นึกไม่ถึงเลยว่าวันนี้เขาจะมาหาเธอที่มหาลัย!
มู่ซีซีไม่กล้าให้จี้หลิงชวนเข้ามาหาเธอในมหาลัย อย่างนั้นคงทำได้เพียงแค่ต้องออกไปพบเขาทางด้านนอกซะแล้ว
ทันทีที่เธอเดินออกมาถึงบริเวณด้านนอกประตูมหาลัย ความหรูหราของรถหรูเมอร์เซเดส-มาย-บัคก็แตะเข้ากับสายตาของมู่ซีซีทันที
มู่ซีซีที่กำลังมีทีท่าสงสัย ทันใดนั้นเองเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่เธอกุมไว้ก็ดังขึ้น

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset