รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 125: ฮีโร่ผู้ปกป้องสุภาพสตรี

คิดว่าในโลกนี้คงไม่มีหญิงใดที่กล้าจะปฏิเสธสิ่งยั่วยวนใจจากเสื้อผ้าสวย ๆ เหล่านี้ได้
มู่ซีซีเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆ ไม่ว่าใครต่างก็ต้องหลงใหลในความงามของเสื้อผ้าสวยๆเหล่านี้เช่นกัน เมื่อมองดูเสื้อผ้าที่สวยงามเช่นนี้ มู่ซีซีก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองมากกว่าสองครั้งโดยไม่รู้ตัว
ยิ่งดูมู่ซีซีก็รู้สึกว่าเสื้อผ้านี้ช่างเป็นสไตล์ที่ตัวเองชอบมาก มู่ซีซีอดไม่ได้ที่จะเอาเสื้อผ้าที่แขวนอยู่บนราวแขวนนั้นลองทับที่ร่างกายของตัวเองดูในกระจกโดยไม่รู้ตัว
กระโปรงนี้ดูเหมือนจะทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับมู่ซีซีโดยเฉพาะ มันเหมาะสมกับมู่ซีซีอย่างมาก และสีของชุดนี้มันก็เข้ากับสีผิวของมู่ซีซีอย่างมากเช่นกัน
มันช่างสวยงามมากจริงๆ ในขณะที่มู่ซีซีคิดอยู่นั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองราคาบนป้ายของชุดนั้นโดยไม่รู้ตัว
ในช่วงเวลาต่อมา เมื่อมู่ซีซีเห็นราคาห้าหลักบนป้าย มือที่ถือกระโปรงอยู่นั้นก็แข็งทื่อทันที
กระโปรงตัวนี้มีราคามากถึง 30,000 กว่าหยวนจริงๆ!
แม้ว่ามู่ซีซีจะเตรียมใจไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่าเสื้อผ้าในร้านนี้ราคาไม่ถูกอย่างแน่นอน แต่เธอคาดไม่ถึงว่าแค่กระโปรงตัวเดียวจะมีราคาสูงมากถึง30,000 กว่าหยวน
ราคา 30,000 กว่าหยวน เพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพของมู่ซีซีเป็นเวลาหนึ่งปีเชียวนะ
ในขณะที่มู่ซีซีคิดอยู่นั้น จู่ ๆ มู่ซีซีก็รีบหลบสายตาจากกระโปรงตัวนั้นด้วยความเขินอายเล็กน้อย จากนั้นเธอวางกระโปรงในมือกลับไปแขวนคืนที่เดิมทันที
มู่ซีซีรู้สึกเขินอายเล็กน้อยและลังเลว่าจะออกจากร้านดีหรือไม่ แต่ในชั่วขณะต่อมา พนักงานขายที่จ้องมองเธออยู่ก่อนหน้านั้นก็รีบตรงเข้ามาหามู่ซีซีทันที
เมื่อเดินตรงไปถึงที่มู่ซีซี พนักงานขายสำรวจมองไปที่มู่ซีซีอยู่สักพัก จากนั้นขดริมฝีปากด้วยความรังเกียจและพูดกับมู่ซีซีด้วยน้ำเสียงอย่างดูถูก: “โอ้ นี่คุณผู้หญิงคะ คุณรู้ไหมคะว่าคุณอยู่ที่ไหน?”
ในขณะที่พนักงานคนนั้นพูดอยู่นั้นเธอก็มองการแต่งตัวของมู่ซีซีด้วยสายตาที่ดูถูกดูแคลน แค่มองก็รู้แล้วว่ากระโปรงที่เธอใส่อยู่นั้นราคาถูกมาก แล้วพนักงานขายก็พูดต่อว่า :“นี่คุณ เสื้อผ้าร้านของเราที่นี่มันแพงมากเลยนะคะ ถ้าคุณไม่มีปัญญาซื้อ ก็อย่าคิดไปแตะต้องมัน !ถ้าแตะจนเป็นรอยขึ้นมาคนจนอย่างคุณคงชดใช้คืนไม่ไหวหรอกนะคะ!สำหรับคนอย่างคุณที่มีกลิ่นเหม็นอับคนจน ถ้าไม่มีอะไรทำก็รีบไสหัวออกจากร้านของเราไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ อย่าส่งผลกระทบต่อธุรกิจในร้านของเราเลย!”
ทันทีพนักงานขายพูดจบ พนักงานขายคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็หัวเราะปิดปากเหมือนเยาะเย้ย
เมื่อได้ยินเช่นนี้มู่ซีซีก็ขมวดคิ้วและมองไปยังพนักงานขายที่หัวเราะเยาะเธอและท่าทางที่หยิ่งผยองคนนั้น
สายตาการจ้องมองและพฤติกรรมที่หัวสูงแบบนี้น่าขยะแขยงจริง ๆ ยิ่งคำพูดประโยคสุดท้ายที่พูดกระทบจิตใจคนอื่นแบบนี้มันยิ่งน่าขยะแขยงสุด ๆ
มู่ซีซีแค่หยิบชุดขึ้นมาดูเท่านั้นเอง และแม้แต่มุมของเสื้อผ้าก็ไม่มีรอยย่น นับประสาอะไรที่จะทำให้เสื้อผ้าเกิดความเสียหาย
ในขณะที่มู่ซีซีคิดอยู่นั้นเธอถูกพนักงานเหล่านั้นดูถูกจึงหัวเราะออกมา เธอสบตากับพนักงานขายคนนั้นที่ดูถูกเหยียดหยามเธอและพูดว่า :“แน่นอน ฉันรู้ว่าที่นี่คือที่ใด ที่นี่มันก็แค่ร้านขายเสื้อผ้าสตรีไม่ใช่เหรอ!เสื้อผ้ามันต้องลองใส่ก่อนถึงจะรู้ว่าเป็นอย่างไรไม่ใช่เหรอ ฉันไม่เห็นในร้านของพวกคุณจะติดประกาศว่าห้ามหยิบจับมันนี่น่า”
พนักงานขายคาดไม่ถึงว่ามู่ซีซีไม่ได้รู้สึกอายจนต้องเดินหนีออกจากร้านไป นี่ยังกล้าประจันหน้ากับเธอโดยตรงแบบนี้
ใบหน้าของพนักงานสาวคนนั้นถอดสีทันที เธอจ้องมองมู่ซีซีด้วยแววตาที่ดูถูกและโกรธเคืองมากขึ้น: “นี่คุณดูน่าตาก็ดีแต่ทำไมถึงเหมือนไม่มีใครเคยสั่งเคยสอนมา ?จนขนาดนี้ยังกล้ามาดูเสื้อผ้าในร้านเรา นี่ฉันไม่มีสิทธิ์ว่าเธออย่างนั้นเหรอ?”
มู่ซีซีอดไม่ได้ที่จะมองไปที่พนักงานขายคนนั้นและพูดว่า: “ฉันอาจจะจน แต่เมื่อเดินเข้ามาในร้านนี้ก็ถือเป็นลูกค้า คุณในฐานะพนักงานขายของที่นี่ คุณปฏิบัติต่อลูกค้าด้วยทัศนคติที่แย่และเย่อหยิ่งเช่นนี้เหรอ ไม่ว่าเสื้อผ้าของร้านคุณจะแพงขนาดไหน จะสวยขนาดไหน จะฟุ่มเฟือยแค่ไหน ในสายตาฉันแล้วมันก็แค่นั้นแหละ ”
“นี่คุณ!” พนักงานขายโกรธมาก สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีเขียวเพราะความโกรธ และเธอก็จ้องไปที่มู่ซีซีอย่างดุเดือด
วินาทีถัดมา พนักงานขายคนนั้นทั้งอายทั้งโกรธ จู่ๆอ้างมือออกไปผลักมู่ซีซีออกจากร้าน เธอผลักมู่ซีซีออกไปด้วยพร้อมพูดกับมู่ซีซีไปด้วยว่า ?เธอไม่มีปัญญาซื้อยังหน้าด้านมาพูดอะไรแถวนี้อีก !เป็นแค่คนจน รีบไสหัวออกไปจากเราเดี๋ยวนี้ อย่ามาทำให้เราเสียเวลาบริการลูกค้าคนอื่น !”
มู่ซีซีไม่ทันได้ตั้งตัว เธอก็ถูกพนักงานคนนั้นพักจนเดินเดินโซเซ ภายใต้แรงผลักจากพนักงานขายคนนั้นทำให้เธอเกือบล้มลงไปกับพื้นทันที
มู่ซีซีหลับตาลงโดยคิดว่าเธอกำลังจะล้มลงไปกองกับพื้นอยู่นั้น วินาทีต่อมา เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด มู่ซีซีรู้สึกว่าหลังของเธอกระแทกเข้ากับอะไรสักอย่าง
ทันใดนั้น ฝ่ามือขนาดใหญ่คู่หนึ่งที่มีอุณหภูมิร้อนจัดก็แตะที่เอวเรียวบางของมู่ซีซี
ด้วยฝ่ามือขนาดใหญ่นั้นช่วยให้มู่ซีซีกลับมายืนขึ้นได้
มู่ซีซีที่เพิ่งยืนทรงตัวได้ เธอรีบมองไปข้างหลังเธอด้วยความตื่นตระหนก
ใบหน้าหล่อเหลาและแสนอย่างชาของจี้หลิงชวนที่คุ้นเคยนั้น เธอก็รู้สึกประทับใจในทันที
เป็นจี้หลิงชวน!
มู่ซีซีมองจี้หลิงชวนด้วยความประหลาดใจ เธอคาดไม่ถึงว่าจี้หลิงชวนจะกลับเข้ามาเร็วขนาดนี้ ……
ในวินาทีต่อมา เสียงที่เข้มและเย็นชาของจี้หลิงชวนก็ดังขึ้นข้างหูของมู่ซีซี และเสียงนั้นทำให้สติของเธอกลับคืนมา: “คุณโอเคไหม? บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
เมื่อมู่ซีซีเห็นจี้หลิงชวนที่มองเธอด้วยสายตาที่ห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด เธอส่ายหัว และตระหนักได้ว่าเธอนั้นอยู่ภายใต้สาธารณชนและมีคนยืนมองเธออยู่ มู่ซีซีก็รู้สึกอับอายและรีบผละออกจากอ้อมแขนของจี้หลิงชวนทันที
มู่ซีซียกมือขึ้นเพื่อจัดทรงผมของตัวเอง เมื่อมู่ซีซีทรงตัวได้แล้วเธอรีบตอบกลับจี้หลิงชวนว่า: “ขอบคุณค่ะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ ……”
จี้หลิงชวนขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ที่เห็นมู่ซีซีนั้นรีบผละออกจากอ้อมแขนของตัวเอง
แววตาที่เป็นกังวลก็สำรวจมองมู่ซีซีอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากยืนยันแล้วว่ามู่ซีซีไม่ได้รับอันตรายร้ายแรงใด ๆ จี้หลิงชวนก็ค่อยวางใจ สายตาของจี้หลิงชวนก็มองไปพนักงานคนนั้นที่เพิ่งผลักมู่ซีซีจนเกือบล้มด้วยแววตาอาฆาต
พนักงานขายเมื่อกี้นี้ยังแสดงท่าทางที่หยิ่งผยอง หลังจากที่ถูกมองโดยจี้หลิงชวนแล้ว เธอก็ตัวแข็งทื่อ รู้สึกว่าเย็นยะเยือกไปทั้งตัว และเธอก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เหมือนมีพลังบางอย่างกดทับให้เธอหมดเรี่ยวแรงและแม้แต่หายใจก็ยังรู้สึกลำบากมาก
จู่ ๆทันใด้นั้นก็ตกอยู่ในความเงียบอย่างประหลาด
ในที่สุด มีชายในชุดสูทคนหนึ่งสวมแว่นตาขอบทองก็รีบเดินเข้ามาในร้านอย่างรวดเร็ว
เมื่อเขาเดินมาถึงตรงหน้าจี้หลิงชวน เขาก็หยุดเดินและโค้งคำนับให้จี้หลิงชวน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ประจบสอพลออย่างเห็นได้ชัด และเขาก้มศีรษะลงอย่างระมัดระวังให้กับจี้หลิงชวนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเท : “คุณชายจี้ครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ ผมไม่รู้ว่าแขกผู้ทรงเกียรติอย่างคุณจะมาใช้บริการ ต้องขอโทษมากจริงๆนะครับ……”
ชายสวมแว่นขอบทองคนนั้นกล่าวคำขอโทษอย่างไม่หยุด จี้หลิงชวนขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างใจเย็นว่า: “นี่คือห้าง Times Commercial Center ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหรง แต่มีพนักงานในห้างแสดงพฤติกรรมแบบนี้ต่อลูกค้าอย่างนั้นเหรอครับ?”

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset