รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 133 ขุดหลุมแล้วรอให้เขากระโดดลงไปเอง

แต่ว่า ดูจากตอนนี้ในใจจี้หลิงชวน มู่ซีซีคนนี้สำคัญจริงๆ
นิสัยจี้หลิงชวนใจเย็นอยู่แล้ว ลู่เฉิงฮ่าวโตมากับจี้หลิงชวน อารมณ์ของจี้หลิงชวนไม่ค่อยขึ้น แล้วสถานการณ์ที่ลงมือขย้ำแบบนี้ก็มีน้อยมาก
พอคุณชายที่โดนขย้ำถูกลากตัวออกไปแล้ว บรรยากาศในห้องจึงอึดอัดกดดันทันที
พวกคุณชายที่มุงดูอยู่ก็รีบเก็บสายตาที่ไม่หวังดีกับมู่ซีซีกลับไปพร้อมกัน เมื่อกี้เห็นเพื่อนตัวเองโดนแบบนั้น พวกเขาตกใจกลัวแล้วทิ้งความคิดแบบนั้นไปแล้ว
แต่ละคนนั่งตรง แล้วก้มหน้าลงไปจนจะถึงเป้ากางเกงตัวเองแล้ว
สุดท้ายจี้หลิงชวนจึงหันไปหามู่ซีซีแล้วเอ่ยถามทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี่ว่า “บาดเจ็บที่ไหนหรือเปล่า?”
เสียงที่ทุ้มต่ำแฝงไปด้วยความสงสัยของจี้หลิงชวนทำให้มู่ซีซีดึงสติกลับมา จึงส่ายหน้าให้จี้หลิงชวน “ฉันไม่เป็นไร……ไม่ได้บาดเจ็บ”
สีหน้าที่เย็นชาของจี้หลิงชวนค่อยดีขึ้นมาหน่อย ทีแรกจี้หลิงชวนอยากถามมู่ซีซีว่าเมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรกันแน่ แต่เขาเห็นเธอขมวดคิ้วเหมือนไม่อยากพูดถึงเรื่องเมื่อกี้ เขาจึงกลืนคำพูดตัวเองกลับไป
ลู่เฉิงฮ่าวที่อยู่ข้างๆเห็นว่าบรรยากาศจะอึดอัดอีกครั้ง จึงยิ้มพูดว่า “มามามา เรามานั่งลงแล้วเล่นกันเถอะ”
ขณะพูด ลู่เฉิงฮ่าวก็ก้มดูนาฬิกาตัวเองแล้วพูดว่า “เดี๋ยวยังมีเพื่อนอีกคนก็ใกล้จะถึงแล้ว”
จี้หลิงชวนได้ยินลู่เฉิงฮ่าวพูดแบบนี้ ค่อยยื่นมือไปดึงมู่ซีซีกลับไปนั่งที่มุมห้องมืดๆเหมือนเดิม
ลู่เฉิงฮ่าวจึงเป็นคนที่สร้างบรรยากาศครึกครื้น ตัวเองเลยเลือกเพลงแล้วหยิบไมโครโฟนขึ้นมาร้องเพลง
มู่ซีซีที่นั่งอยู่ข้างจี้หลิงชวน ได้ยินประโยคที่ลู่เฉิงฮ่าวพูดเมื่อกี้ ในใจก็เริ่มเกร็งผิดปกติ จนอดถามจี้หลิงชวนข้างๆไม่ได้ว่า “คุณชายจี้……เดี๋ยวจะมีคนมาอีกเหรอ?”
ได้ยินเสียงของมู่ซีซี จี้หลิงชวนจึงหันไปมองเธอ แล้วพยักหน้าให้เธออย่างนิ่งเฉย
มู่ซีซีจึงอดถามอีกไม่ได้ว่า “เดี๋ยวใครจะมาเหรอ?”
“เดี๋ยวถึงแล้วเธอจะรู้เอง” จี้หลิงชวนพูดประโยคที่กำกวมกับมู่ซีซี
มู่ซีซีจึงงงกว่าเดิม อดขมวดคิ้วไม่ได้ รู้สึกว่าเดี๋ยวจะมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นอย่างนั้น
ตอนที่มู่ซีซีกำลังเหม่อแล้วคิดว่าเดี๋ยวคนที่จะมาคือใคร ทันใดนั้น ประตูห้องที่ปิดสนิทกลับมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ลู่เฉิงฮ่าวที่กำลังร้องเพลงได้ยินเสียงเคาะประตู จึงหยุดลง แล้วหันมองไปทางจี้หลิงชวนที่นั่งอยู่ในมุมห้องมืดๆ
มู่ซีซีฟังเสียงเคาะประตูนั้น หัวใจที่เต้นปกติกลับเกร็งขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว แล้วสายตาก็หันมองไปทางประตูอย่างไม่กะพริบตาเลย
วินาทีต่อมา จึงเห็นลู่เฉิงฮ่าววางไมโครโฟนในมือลงแล้วเดินไปทางประตูห้อง จากนั้นก็ดึงเปิดประตูออก
คนที่มาเห็นว่าลู่เฉิงฮ่าวมาเปิดประตูให้เขาเอง จึงยิ้มอย่างเป็นเกียรติ แล้วน้ำเสียงก็แฝงไปด้วยการประจบประแจง “คุณชายลู่ ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”
มู่ซีซีที่นั่งอยู่ข้างจี้หลิงชวนในมุมห้องมืดๆ ตอนที่เห็นคนที่เดินเข้ามา จึงอึ้งนิ่งอยู่กับที่ ใบหน้าที่สวยงามแสดงสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อ
มู่ซีซีคิดไม่ถึงเลยว่าคนที่เข้ามาจะเป็นฉู่จือหยวน!
ฉู่จือหยวนเป็นเหมือนเทพบุตรที่บริสุทธิ์ในใจเธอ!
ทำไมฉู่จือหยวนถึงรู้จักแล้วมาเที่ยวกับคนกลุ่มนี้?
มู่ซีซียังอึ้งอยู่ ฉู่จือหยวนกับลู่เฉิงฮ่าวอีกฝั่งกลับคุยกันอย่างสนุกสนาน
ลู่เฉิงฮ่าวหรี่ตายิ้มแล้วพยักหน้าให้ฉู่จือหยวนที่เพิ่งเข้ามา “มาสักที รอแค่คุณคนเดียวเลยเนี่ย”
ขณะพูด ลู่เฉิงฮ่าวก็กอดไหล่ฉู่จือหยวนแล้วพาเขาไปนั่งกับกลุ่มคุณชายคนอื่นๆ เดินไปด้วยคุยไปด้วย “มามามา นั่งก่อน เราไม่ได้นัดกันนานแล้ว วันนี้ต้องเล่นให้สนุกๆ”
ถึงบ้านฉู่จือหยวนจะมีฐานะ แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับจี้หลิงชวนกับลู่เฉิงฮ่าว
สี่ตระกูลใหญ่ในเมืองหรง ตระกูลจี้อยู่อันดับแรก มีรากฐานเป็นร้อยปี แล้วเป็นตระกูลที่รวยอันดับหนึ่ง ตระกูลอื่นเทียบไม่ได้เลย
รองลงมาเป็นตระกูลซู จากนั้นจึงเป็นตระกูลลู่ แล้วก็ตระกูลเวิน
สี่ตระกูลใหญ่เป็นพันธมิตรกันมาเป็นร้อยปี แล้วสืบทอดกันรุ่นสู่รุ่น
ถึงรุ่นของจี้หลิงชวน พวกเขาก็เหมือนเป็นพี่น้องที่โตมาด้วยกัน
นอกจากจี้หลิงชวนกับลู่เฉิงฮ่าวที่อยู่ในเมืองหรงตอนนี้ ยังมีเวินจิ่งของตระกูลเวิน ตอนนี้เป็นคุณหมอ เรียนอยู่ที่ต่างประเทศ แล้วก็ซูอวี่โม่ของตระกูลซู เป็นทายาททหาร อายุยังหนุ่มก็ใช้ความสามารถตัวเองจนตอนนี้ได้รับตำแหน่งเป็นพันตรีแล้ว
ตั้งแต่ที่ฉู่จือหยวนเข้ามาในห้อง ก็โดนลู่เฉิงฮ่าวลากไปนั่งกับพวกคุณชาย ไม่ได้สังเกตจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีที่นั่งอยู่ที่มุมห้องมืดๆเลย
พอลู่เฉิงฮ่าวลากฉู่จือหยวนไปนั่งกับพวกคุณชายแล้ว เขาก็เป็นคนทำให้บรรยากาศครึกครื้น ไม่นานพวกคุณชายก็ตั้งสติจากเหตุการณ์ที่จี้หลิงชวนขย้ำคนได้ พากันกอดผู้หญิงแล้วเริ่มสนุกกัน
พอฉู่จือหยวนโดนลากมานั่งแล้ว เขามองลู่เฉิงฮ่าวที่อยู่ข้างๆแล้วรู้สึกเป็นเกียรติมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่เฉิงฮ่าวให้ความสำคัญเขาขนาดนี้
ก่อนหน้านั้นเขาเคยมาเที่ยวกับลู่เฉิงฮ่าว แต่ถึงแม้ลู่เฉิงฮ่าวจะดูเข้าถึงง่าย ความจริงกลับเป็นคนเย็นชา ถึงจะยิ้มแย้มเหมือนคุณชายเจ้าเล่ห์ แต่ความจริงกลับลึกลับกว่านั้น
ฉู่จือหยวนได้ยินลู่เฉิงฮ่าวข้างๆเอ่ยถามว่า “คุณชายฉู่ พวกเราทุกคนพาคู่มาหมด ทำไมคุณไม่พาคู่มาล่ะครับ?”
“คุณชายลู่ คุณเรียกชื่อผมว่าฉู่จือหยวนก็ได้ครับ คือผมเพิ่งมาจากมหาวิทยาลัย ก็เลยไม่ได้พามาด้วย”
กับลู่เฉิงฮ่าว น้ำเสียงของฉู่จือหยวนแฝงไปด้วยการประจบประแจงอย่างไม่รู้ตัว
พอลู่เฉิงฮ่าวได้ยินจึงหัวเราะ “ไม่พาคู่มาด้วยจะเล่นยังไงครับ! นี่ไม่ใช่สไตล์ของคุณชายฉู่เลย”
ลู่เฉิงฮ่าวจงใจพูดเสียงดัง เหมือนอยากจะให้คนทั้งห้องได้ยิน
คุณชายคนอื่นๆได้ยินที่ลู่เฉิงฮ่าวพูดจึงพากันหัวเราะ สายตาที่มีเลศนัยจึงเหลือบมองไปทางฉู่จือหยวน

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset