รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 137 ของไร้ประโยชน์

ถ้าคุณพ่อนั่งอยู่ตรงนี้เธอก็ไม่สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ เธอจึงทำได้เพียงแค่เก็บเสื้อผ้าและเดินออกไปที่ห้องน้ำสาธารณะข้างนอกบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
มู่อวี๋เฟยรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและกลับบ้านอย่างรวดเร็ว จากนั้นมู่อวี๋เฟยก็รีบนั่งลงบนโต๊ะอาหาร หยิบกระจกบานเล็กมาวางบนโต๊ะ หยิบเครื่องสำอางออกมาและแต่งหน้าอย่างระมัดระวัง นั่นเป็นเพราะเธอไม่ได้ออกไปกินข้าวข้างนอกเป็นเวลานานแล้ว
คุณพ่อที่เมาเหล้าอยู่ทางด้านข้าง เงยหน้าขึ้นมาแล้วเหลือบมองไปที่มู่อวี๋เฟยซึ่งกำลังแต่งหน้าอย่างระมัดระวังอยู่ไม่ไกล คุณพ่อกะพริบตาขึ้นลง และมองมู่อวี๋เฟยด้วยสายตาเย้ยหยัน พร้อมพูดด้วยความโกรธผสมกับความมึนเมาว่า “โอ้ เธอจะแต่งตัวดีไปทำไม?หรือว่าเธอตัดสินใจได้แล้วว่าจะไปเป็นผู้หญิงขายบริการกับคนที่ชื่อลี่อะไรนั่น?”
คุณพ่อกอดขวดพลางหัวเราะเยาะเย้ยเธอขึ้นอีกครั้ง “มู่อวี๋เฟย! ถ้าไปขายได้จะดีมาก! หากเธอได้เงินมา ก็จะได้มาซื้อเหล้าให้ฉันเพิ่มเยอะๆ!”
มู่อวี๋เฟยที่อยู่ข้าง ๆ พอได้ฟังคำพูดของคุณพ่อ เธอก็ตกตะลึงในทันที ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ เธอจ้องไปที่คุณพ่อและตะคอกออกมาด้วยความโมโหว่า “พ่อ! พ่อรู้ไหมว่าเมื่อกี้พ่อพูดว่าอะไร ! พ่อยังมีความเป็นคนอยู่ไหม!ทำไมถึงพูดแบบนี้ออกมาได้!”
พูดไปพลางมู่อวี๋เฟยรู้สึกโกรธมาก เธอหยิบขวดเหล้าเปล่าที่ตั้งอยู่ข้างโต๊ะ กระแทกลงกับพื้นไปทางด้านข้างของคุณพ่อ
จริงๆแล้วภายในใจของมู่อวี๋เฟยหวังว่าจะโยนขวดให้กระแทกไปโดยคนเป็นพ่อให้ตายในคราวเดียวถึงจะดี!
น่าเสียดายที่ขวดเหล้าไม่สามารถที่จะกระแทกโดยคนเป็นพ่อให้ตายในครั้งเดียวได้ หรือไม่แม้แต่จะโดนตัวผู้เป็นพ่อได้ ขวดเหล้ากระแทกลงที่ด้านข้างของคุณพ่อและแตกออกเป็นหลายๆชิ้น
ไม่ได้ทำให้คุณพ่อบาดเจ็บแต่อย่างใด มากที่สุดก็เพียงแค่ทำให้คุณพ่อตกใจ และเขาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสร่างเมาเล็กน้อย
สายตาที่งุนงง จับจ้องไปที่มู่อวี๋เฟย และไม่กี่วินาทีต่อมา คุณพ่อของตระกูลมู่ ก็พยายามพยุงตัวลุกขึ้นมานั่งบนเตียงเหล็กพร้อมกับหนีบเอาขวดเหล้าขึ้นมาด้วย คุณพ่อไม่ทันได้พูดอะไรออกมา และโยนขวดเหล้าไปทางมู่อวี๋เฟยในทันที
ขวดเหล้าที่โยนออกจากมือถูกกระแทกอย่างแรงเสียงดังสนั่น มู่อวี๋เฟยกรีดร้องขึ้นและรีบหลบออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
หลบขวดถือว่าหลบพ้นไปได้ แต่ตอนนี้คุณพ่อตระกูลมู่ได้เดินเข้ามาถึงตรงหน้าของมู่อวี๋เฟยแล้ว ร่างกายของคุณพ่อส่ายไปมา จากนั้นเขาก็เอื้อมมือออกไปคว้าผมของมู่อวี๋เฟยอย่างแรง
คุณพ่อที่กำลังมึนเมาแยกแยะไม่ออกระหว่างหนักเบา เขาคว้าเอากระจุกผมของมู่อวี๋เฟยจำนวนมากและดึงออกมาอย่างแรง จนหนังศีรษะของมู่อวี๋เฟยเกือบจะฉีกออกมา
มู่อวี๋เฟยที่เจ็บปวดที่ศีรษะ จนกรีดร้องออกมา “อ้า!!! จะบ้าไปแล้วหรือไง! รีบปล่อยหนูเดี๋ยวนี้เลยนะ! ปล่อยหนู!”
ความเจ็บปวดทำให้ใบหน้าของมู่อวี๋เฟยค้ำเขียวไปหมด แรงดึงของคุณพ่อเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ มู่อวี๋เฟยไม่สามารถสลัดให้หลุดได้ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีกำปั้นของคุณพ่อที่ชกเข้ามาตามร่างกายของมู่อวี๋เฟยอย่างต่อเนื่อง
ห้องแคบๆในเวลานั้น เต็มไปด้วยเสียงตะโกนของคุณพ่อและเสียงกรีดร้องของมู่อวี๋เฟย
“สองแม่ลูกเฮงซวย! ทั้งหมดเป็นเพราะพวกแกสองคนแม่ลูก! ทำไมพวกแกสองคนแม่ลูกถึงไม่ตายไปเลยตอนนี้! ฉันจะฆ่าลูกที่ไม่กตัญญูอย่างแกซะ!!!”
“ไอ้ขี้เมา! พ่อเป็นบ้าอะไร! ปล่อยหนูนะ! หนูจะไปแจ้งความ!! ไอ้คนบ้า!”
คุณแม่ที่เพิ่งเลิกงานกลับมาเห็นฉากนี้เข้า เธอเห็นผมของมู่อวี๋เฟยถูกดึงและฉีกขาดอย่างยุ่งเหยิง หน้าของมู่อวี๋เฟยยังดูบวมแดง เห็นได้ชัดว่าเธอได้รับบาดเจ็บ
ถุงผักที่อยู่ในมือของเธอหล่นลงพื้นเสียงดัง เธอรีบเดินเข้าไปแยกคุณพ่อตระกูลมู่และมู่อวี๋เฟยออกจากกัน จากนั้นก็เดินเข้าไปโอบกอดมู่อวี๋เฟยเอาไว้ และใช้ร่างกายของเธอรับหมัดของคุณพ่อแทนมู่อวี๋เฟย เขาจับหมัดของคุณพ่อตระกูลมู่ แล้วร้องไห้และตะโกนใส่คุณพ่อตระกูลมู่ว่า “คุณคะ! คุณบ้าไปแล้วหรือยังไง! คุณกำลังทำอะไร! อวี๋เฟยเป็นลูกสาวของคุณนะ! คุณทุบตีเธอแบบนี้ได้ยังไง!”
เมื่อได้ยินคุณแม่พูดอย่างนี้แล้ว สายตาของคุณพ่อก็เหลือบมองไปที่คุณแม่และชี้ไปที่มู่อวี๋เฟยพร้อมกับตะโกนขึ้นว่า “แกยังกล้าพูดอีก! ก็เป็นเพราะพวกแกสองแม่ลูกนั่นแหละที่ทำให้ตระกูลมู่พินาศแบบนี้!วันนี้ฉันจะตีพวกแกให้ตาย!”
คุณแม่โอบกอดมู่อวี๋เฟยด้วยความตกใจและถอยห่างออกไป ดวงตาของเธอกลายเป็นสีแดงก่ำ จากนั้นเธอก็ตะโกนใส่คุณพ่อกลับไปว่า “ที่ครอบครัวตระกูลมู่กลายเป็นแบบนี้ ทำไมคุณถึงไม่ไปโทษมู่ซีซีล่ะ! เธอก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย! แต่ตอนนี้เธอกลับอยู่สุขสบายในคฤหาสน์อันหรูหรากับคุณชายจี้ ทำไมคุณถึงไม่ไปหาเรื่องเธอล่ะ! อวี๋เฟยกับฉันทำอะไรผิด! ที่เราทำก็ไม่ใช่ต้องการให้ตระกูลมู่ดีขึ้นอย่างนั้นเหรอ!”
เมื่อได้ยินคำพูดที่แทงใจดำจากคุณแม่ คุณพ่อตระกูลมู่ก็ยกมือขึ้นอย่างดุดัน จากนั้นก็คว่ำโต๊ะ จาน ชาม เสียงของจานชามแตกกระทบพื้น ดังไปทั่วบ้าน
พ่อตระกูลมู่จ้องเขม็งไปที่คุณแม่และมู่อวี๋เฟยด้วยความโมโห จากนั้นเขาก็เอื้อมมือออกไปแย่งเอากระเป๋าเงินที่อยู่ในมือของคุณแม่ในทันที เขาหยิบเอาเงินที่อยู่ในกระเป๋าตังค์ จากนั้นก็โยนกระเป๋าเงินเปล่าลงกับพื้นต่อหน้าของคุณแม่ และ เดินส่ายไปมาห่างออกไป
ปกติคุณแม่ก็จะไม่กล้าขวางเขา หากว่าเธอเกิดพูดอะไรไม่เข้าหูออกไป คุณพ่อก็จะทำร้ายพวกเธอในทันที!
แม่มู่รีบดึงมู่อวี๋เฟยเข้ามากอดพร้อมกับร้องไห้ “อวี๋เฟย ลูกบาดเจ็บตรงไหนไหม?”
ใบหน้าของมู่อวี๋เฟยเขียวช้ำไปหมด เธอเจ็บและรู้สึกหงุดหงิดจนขนาดผลักแม่ของเธอกระเด็นออกไป เธอไม่รู้จะระบายความโกรธของเธออย่างไร เธอจึงตะคอกใส่แม่ของเธอว่า “ร้องๆๆ! ร้องไห้ทั้งวัน ร้องตอนนี้เธอจะมีประโยชน์อะไร!?”
ยิ่งพูดมู่อวี๋เฟยยิ่งโกรธมากขึ้น เธอลุกขึ้นยืนและรีบเดินไปส่องกระจกในทันที เมื่อเห็นผมของเธอยุ่งเหยิงและใบหน้าของเธอเขียวช้ำ มู่อวี๋เฟยก็รู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้น
เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาอีกครั้ง เธอยังไม่ลืมเวลาที่นัดไว้กับฉู่จือหยวน เมื่อเห็นว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมง และต้องนั่งรถไปอีกกว่าครึ่งชั่วโมง มู่อวี๋เฟยจึงรีบ หวีผม และแต่งตัว
เพราะหน้าของเธอมีรอยช้ำ
หมัดของคุณพ่อชกเข้ามาจนหน้าของเธอแดงและบวม มู่อวี๋เฟยที่กำลังโมโหรีบทารองพื้นกลบหลายๆชั้นเพื่อปกปิดรอยบวมช้ำเอาไว้
จากนั้นมู่อวี๋เฟยก็ถอนหายใจเบา ๆ พร้อมกับหยิบกระเป๋าของเธอและก้าวออกจากบ้านหลังเล็กที่ทรุดโทรม
ในตัวของเธอไม่มีเงินสักบาท มู่อวี๋เฟยจึงทำได้เพียงนั่งรถบัสไปยังสถานีที่ฉู่จือหยวนได้นัดไว้
มู่อวี๋เฟยมาได้ทันเวลา และเมื่อเธอมาถึง เธอก็พบว่าเธอมาถึงเร็วกว่าเวลาที่ตกลงกันไว้ถึงสิบนาที
ก่อนที่ฉู่จือหยวนจะมาถึง มู่อวี๋เฟยต้องเดินเข้าไปในร้านอาหารส่วนตัวและรีบไปถามกับพนักงานว่า “คุณชายฉู่ จองห้องส่วนตัวไว้ที่นี่ ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่าคือห้องไหน?”
เมื่อพนักงานคนนั้นได้ยินที่มู่อวี๋เฟยถาม เธอก็พามู่อวี๋เฟยเดินไปที่หน้าห้องนั้น“ห้องนี้ค่ะ”
มู่อวี๋เฟยพยักหน้า จากนั้นก็ผลักประตูเข้าไป หลังจากที่ดื่มชาในห้องไปได้สิบนาที ฉู่จือหยวนก็มาถึงที่ห้อง

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset