รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 139 การแก้แค้น

แม้ว่ามู่อวี๋เฟยจะตกต่ำลงมาสู่พื้นดินแล้วก็ตาม แต่ความเย่อหยิ่งของเธอนั้นก็ไม่ได้เสื่อมคลายลงไปเลย
หลังจากที่ได้ยินเสียงเยาะเย้ยของหญิงสาวแล้ว มือของมู่อวี๋เฟยก็กำแน่นเข้ามาทันที
ในวินาทีต่อมา มู่อวี๋เฟยก็เงยหน้าขึ้นและเผชิญกับใบหน้าของผู้หญิงสาวที่เพิ่งพูดจบประโยคไปเมื่อกี้ด้วยสีหน้าที่เย็นชา พร้อมกับพูดออกไปอย่างใจเย็นว่า “ทำไม เธอมีเรื่องอะไรกับฉันอย่างนั้นเหรอ?”
มู่อวี๋เฟยยังคงจำใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ได้อย่างชัดเจน ชื่อของเธอคือเย่อิงอิง สถานะทางครอบครัวของเธอก็ไม่ค่อยดีนัก แต่เธออาศัยการได้รับเลี้ยงดูจากคุณชายสกุลเหม่ยในวัยสี่สิบปี และกลายเป็นเมียน้อยจึงทำให้เธอมีเงินใช้จ่าย จากนั้นก็เคยอยู่ในกลุ่มสังคมเดียวกับมู่อวี๋เฟยมาก่อน
มู่อวี๋เฟยกำหมัดแน่นและยังคงทะนงตนเองอยู่ แม้ว่าครอบครัวของเธอจะไม่ร่ำรวยเท่าสี่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในหรงเฉิง แต่ก็ยังร่ำรวยกว่าครอบครัวธรรมดาทั่วไปมาก
มู่อวี๋เฟยโกรธจนคลั่ง ตอนที่เธอเจอเย่อิงอิงในตอนแรกและรู้ว่าเย่อิงอิงเป็นเมียน้อยซึ่งถูกเลี้ยงโดยคนอายุมากกว่าเธอยี่สิบปี มู่อวี๋เฟยได้เยาะเย้ยเธอ ต่อหน้าแขกนับร้อย ทำให้เย่อิงอิงอับอายขายหน้าและเธอยังได้ตบเย่อิงอิงไปหนึ่งทีอีกด้วย
มู่อวี๋เฟยจำได้อย่างชัดเจนว่าในตอนนั้นเย่อิงอิงน้ำตาซึม
และมู่อวี๋เฟยก็ไม่เคยเห็นเย่อิงอิงตั้งแต่นั้นมา จนถึงวันนี้ มู่อวี๋เฟย ไม่เคยคิดว่าเธอจะได้เห็นเย่อิงอิงอีกครั้งในลักษณะที่น่าละอายเช่นนี้
เธอเห็นเย่อิงอิงสวมชุดคอลเลคชั่นฤดูร้อนรุ่นล่าสุดของ Chanel ยืนอยู่ต่อหน้าเธอ กระโปรงอย่างเดียวราคาห้าหมื่นถึงหกหมื่นหยวน บวกกับรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งที่ราคามากกว่า สองหมื่นหยวน และสร้อยเพชรที่เธอสวมใส่มีมูลค่าหลายสิบล้านหยวน รวมถึงกระเป๋า Hermes รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นชุดนี้ราคาห้าถึงหกหมื่นหยวน
ดวงตาของมู่อวี๋เฟยลุกเป็นไฟขึ้นมาทันที เธออดไม่ได้ที่จะก้มลงมองดูตัวเองอีกครั้ง
เธอสวมเสื้อผ้าเก่าที่ผ่านมาหลายปี และนี่คือเสื้อผ้าที่ดีที่สุดที่มู่อวี๋เฟยหาได้ในตอนนี้!
กระเป๋าในมือของเธอเป็นเงินที่มู่อวี๋เฟยขอจากแม่มาอย่างยากลำบาก เพื่อซื้อกระเป๋า LV เลียนแบบเกรดเอใบนี้ในราคาสามร้อยหยวน
คิดไปพลางมู่อวี๋เฟยก็พยายามซ่อนกระเป๋า LV เลียนแบบเกรดเอไว้ด้านหลังของตัวเอง
ต่างกับเย่อิงอิงในตอนนี้ มู่อวี๋เฟยได้ตระหนักรู้แล้วว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าของเธอนั้นสู้เขาไม่ได้!
เมื่อก่อนนี้เสื้อผ้าที่มู่อวี๋เฟยเคยสวมใส่ไม่ได้ต่างอะไรกับเย่อิงอิงที่ถูกผู้ชายเลี้ยงดูเลย !
แต่ตอนนี้ทั้งสองดูเหมือนจะแตกต่างกันมาก!
เย่อิงอิงเหลือบสายตามองมู่อวี๋เฟยตั้งแต่หัวจรดเท้าขึ้นลงหลายครั้ง ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็แสดงความเย่อหยิ่งเหมือนที่มู่อวี๋เฟยเคยเป็น เธอเงยหน้าขึ้นมองดู มู่อวี๋เฟย และหัวเราะอย่างกะทันหันพร้อมกับพูดขึ้นว่า “มู่อวี๋เฟย นี่ไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนเชียว ทำไมหน้าของเธอถึงได้เหมือนผีอย่างนี้? ตัวเธอแต่ก่อนเป็นถึงลูกสาวของตระกูลมู่ที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เจอเธอตอนแรก ฉันเกือบจำไม่ได้เลย ก็คิดอยู่ว่าร้านภัตตาคารอาหารส่วนตัวแบบนี้เรียกขอทานเข้ามากินอาหารตั้งแต่เมื่อไหร่!”
หัวเราะไปพลางเย่อิงอิงก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของเธอไว้อย่างสะใจ
มู่อวี๋เฟยได้ยินเสียงเยาะเย้ยของเย่อิงอิงเธอก็โกรธจนหน้าคล้ำดำเขียว เธอไม่สามารถทนต่อความโกรธในใจของเธอได้แล้ว เธอกำลังจะยกมือขึ้นมาและคิดที่จะตบไปที่หน้าของเย่อิงอิง
เย่อิงอิงได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว ทันทีที่เธอเห็นมู่อวี๋เฟยยื่นมือออกมา เธอก็จับเข้าไปที่ข้อมือของ มู่อวี๋เฟยอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเย่อิงอิงเคร่งขรึมขึ้น จากนั้นเธอก็มองไปที่มู่อวี๋เฟย และพูดดูถูกเหยียดหยามพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ”มู่อวี๋เฟย ตอนนี้เธอยังคิดที่จะตบฉันอยู่อีกเหรอ?”
เย่อิงอิงใช้คำพูดเยาะเย้ยและดูถูก “มู่อวี๋เฟย ตอนนี้มันไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว เมื่อก่อนเธอเคยเป็นลูกสาวของตระกูลมู่ ฉันเป็นเพียงแค่เมียน้อยที่ถูกเสี่ยเลี้ยงดู เธอตบฉันและฉันไม่กล้าโต้กลับ ”
เย่อิงอิงพูดไปพลาง น้ำเสียงของเธอก็เต็มไปด้วยความดูถูก “ตอนนี้เธอมันก็ไม่ต่างอะไรกับหมาตัวหนึ่ง! ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ คนเขาพูดกันไปว่าบริษัทของตระกูลมู่ล้มละลายไปแล้ว พ่อกับแม่ของเธอตอนนี้ก็ยังอาศัยอยู่ในสลัม โถๆๆ น่าสงสารมาก! คงจะอึดอัดมากนะที่ปล่อยให้คุณลูกสาวคนโตของตระกูลมู่มาอาศัยอยู่ในสลัมแบบนี้!”
พูดไปพลางน้ำเสียงของเย่อิงอิงก็แหลมขึ้นเล็กน้อย “ตอนนี้คนที่อาศัยอยู่ในสลัม อย่างเธอยังกล้าจะลงมืออะไรกับฉันอีกเหรอ? เหอะ เธอเชื่อไหมว่าตอนนี้ฉันสามารถใช้เงินฆ่าเธอได้เลยนะ?!”
คำพูดของเย่อิงอิงทำให้มู่อวี๋เฟยสั่นไปทั้งตัว มู่อวี๋เฟยพยายามขยับมือที่ถูกเย่อิงอิงจับเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล
เดิมทีวันนี้มู่อวี๋เฟยคิดว่าฉู่จือหยวนจะมาเลี้ยงอาหารเย็น และเธอก็ตั้งใจไม่ทานอะไรมาเพื่อให้ท้องว่าง ตอนนี้เธอหิวจนไม่มีแรงแล้ว เธอไม่สามารถสู้แรงของเย่อิงอิงได้
แต่สิ่งที่เย่อิงอิงพูดในตอนนี้ มู่อวี๋เฟยไม่สามารถจะโต้ตอบเย่อิงอิงได้เลยสักคำ
เพราะเป็นอย่างที่เย่อิงอิงพูดจริงๆ เธอเลยไม่กล้า ตอนนี้เธอไม่มีอะไรเลยจริงๆ แต่เย่อิงอิง เธอมีทั้งเงินและมีอำนาจ เมื่อกี้เธอก็แค่ใจร้อนไปหน่อย ในใจของเธอไม่กล้าตบเย่อิงอิงจริงๆซะหน่อย
หากเย่อิงอิงขุ่นเคืองใจขึ้นจริงๆ เย่อิงอิงอาจจะคิดแก้แค้นเธอก็คงไม่ยาก
ดวงตาของมู่อวี๋เฟยแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอพยายามระงับความโกรธและจ้องเขม็งไปที่เย่อิงอิง เธอไม่สามารถอดทนต่อความโกรธของตัวเองได้จึงพูดเยาะเย้ยเย่อิงอิงว่า “เย่อิงอิง! เธอมีความภูมิใจอะไรหนักหนา! เธอในตอนนี้ก็เป็นแค่เมียน้อยที่ให้เขามาเลี้ยงดู!และเธอก็ไม่สามารถยังยืนได้!”
คำพูดของมู่อวี๋เฟยได้แทงใจดำของเย่อิงอิง ดวงตาของเย่อิงอิงเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที จากนั้นเธอก็ยกมือขึ้นมาและตบเข้าที่ใบหน้าของมู่อวี๋เฟยอย่างรุนแรง ใบหน้าของมู่อวี๋เฟยบวมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
มู่อวี๋เฟยตะลึงอยู่กับที่ เธอยกมือขึ้นมาจับแก้มของตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา พร้อมกับจ้องไปที่เย่อิงอิงที่ยืนอยู่ต่อหน้าของเธอด้วยความงุนงง
จนกระทั่งเย่อิงอิงหัวเราะขึ้นเบาๆ เสียงหัวเราะของเธอได้ทำลายความสงบลงไป “อืมไม่ต้องขอบคุณฉัน ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันบวมเท่ากันแล้ว! นี่คือสิ่งที่ฉันเอาคืนที่เธอตบฉันเมื่อปีที่แล้ว !”
เมื่อมู่อวี๋เฟย ได้ฟังคำพูดของเย่อิงอิงร่างกายของเธอก็สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้
สมควรตาย! มาถึงตอนนี้แม้แต่เย่อิงอิงที่เป็นเพียงเมียน้อยของคนอื่น ก็ยังกล้ารังแกเธอ! ! !
เสียงกำหมัดของมู่อวี๋เฟยดังลั่นขึ้น
ตอนที่มู่อวี๋เฟยกำลังจะกระโจนเข้าไปที่ตัวเย่อิงอิง ในขณะนั้น ก็มีผู้ชายวัยกลางคนอายุราวๆสี่สิบปี เดินมาที่นี่พร้อมกับบอดี้การ์ด
เย่อิงอิงมองไปที่ชายวัยกลางคนผู้นั้น เธอเปลี่ยนสีหน้าและยิ้มขึ้นมาในทันที จากนั้นก็โบกมือให้ชายคนดังกล่าวนั้นด้วยใบหน้าที่มีความสุข “ที่รัก ฉันอยู่นี่!”

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset