รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 173 เซอร์ไพรส์หรือว่าช็อก?

ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็ไม่สนใจการแสดงออกบนใบหน้าของมู่ซีซี เธอสตาร์ทรถอย่างรวดเร็วและหมุนพวงมาลัยออกไปในทันที เหลือเพียงฝุ่นควันและมู่ซีซีที่ยืนอยู่ตรงนั้น!
ของขวัญชิ้นใหญ่? อะไรคือของขวัญชิ้นใหญ่! มู่อวี๋เฟยคิดจะเล่นตลกอะไรกับเธอกันแน่! มู่ซีซียังคงยืนอยู่ที่เดิมและภายในใจของเธอนั้นรู้สึกไม่สบายใจมากกว่าเก่า
ไม่มีทางเดาได้เลยว่ามู่อวี๋เฟยต้องการทำอะไร และตอนนี้มู่ซีซีไม่มีทางเลือกอื่นใด เธอทำได้เพียงรอเท่านั้น
ขณะครุ่นคิด มู่ซีซีก็พยายามจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นเธอก็เรียกแท็กซี่ไปยังสถานที่นัดพบของเธอและลั่วเสี่ยวชิง
ทางด้านมู่อวี๋เฟยนั้น เธอกำลังขับรถและรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้นไม่สามารถหุบลงได้เลย!
ตอนนี้เธอได้ทั้งตัวอย่างDNAของมู่ซีซี ได้ทั้งของพ่อมู่และแม่มู่แล้วด้วย!
มู่อวี๋เฟยดีใจมาก เธอโทรหาหยวนลี่ในทันทีและให้หยวนลี่พาเธอไปยังสถานที่ตรวจDNA
หยวนลี่นั้นดีกับมู่อวี๋เฟย และเมื่อไม่กี่วันก่อนเธอเกือบจะมอบความตายให้แก่มู่อวี๋เฟย ในตอนนี้สามารถพูดได้เลยว่าหยวนลี่นั้นตามใจมู่อวี๋เฟยแทบทุกอย่าง เมื่อได้ยินคำขอของมู่อวี๋เฟย หยวนลี่ก็ตอบรับในทันที เขาขับรถไปรับมู่อวี๋เฟยด้วยตัวเขาเองและพาเธอไปยังสถานที่ตรวจDNAและส่งตัวอย่างทั้งสามให้แก่สถานที่ตรวจ
ผลของการตรวจสอบDNAนั้นไวที่สุดก็ประมาณหนึ่งสัปดาห์!
เพียงแค่เวลาหนึ่งสัปดาห์ มู่อวี๋เฟยก็แทบจะทนรอไม่ไหว!
มู่ซีซีถึงสถานที่ที่เธอนัดพบกับลั่วเสี่ยวชิง สถานที่นี้อยู่ใกล้กับลั่วเสี่ยวชิง เธอจึงมาถึงก่อนมู่ซีซีประมาณ10นาทีที่แล้ว
เมื่อเห็นมู่ซีซีลงจากรถแท็กซี่ลั่วเสี่ยวชิงก็โบกมือให้มู่ซีซีอย่างดีใจ เธอรีบวิ่งเข้าไปหามู่ซีซี จับมือมู่ซีซีไว้และมองสำรวจมู่ซีซี จากนั้นลั่วเสี่ยวชิงก็เริ่มพูดกับมู่ซีซีว่า “มู่ซีซีเพื่อนร่วมชั้น! เธอนี่ไม่ใจจืดใจดำไปหน่อยหรือ! ไม่คิดจะบอกฉันสักคำ ไม่พูดไม่จาแล้วก็หายไปตั้งหนึ่งอาทิตย์ ฉันน่ะเกือบจะโทรแจ้งตำรวจแล้ว!”
เมื่อรู้ว่าลั่วเสี่ยวชิงนั้นเป็นกังวลในเรื่องของเธอมาก มู่ซีซีก็ยิ้มออกมา เธอเอื้อมมือออกไปและคว้าแขนของลั่วเสี่ยวชิงไว้และพูดว่า “ต้องขอโทษจริงๆ ตอนนั้นมันกะทันหันมาก ฉันเองก็ยังมึนๆงงๆ ตอนแรกทันทีที่ถึงฝรั่งเศสฉันตั้งใจจะบอกเธออยู่แล้ว แต่ผลสุดท้ายโทรศัพท์ของฉันมันใช้ไม่ได้น่ะสิ”
ขณะที่พูด มู่ซีซีก็ดึงมือของลั่วเสี่ยวชิงเดินไปยังร้านอาหารที่พวกเธอทั้งสองมักจะมาทานกันเป็นประจำ เธอเดินไปพลางและยิ้มพร้อมกับกล่าว “ฉันน่ะสำนึกผิดแล้วจริงๆ เพื่อที่จะแสดงให้เธอเห็นว่าฉันน่ะรู้ตัวแล้วว่าฉันผิด ฉันเลยตัดสินใจว่าจะเลี้ยงอาหารอร่อยๆเพื่อเป็นการไถ่โทษ โอเคไหม?”
จริงๆแล้วลั่วเสี่ยวชิงนั้นไม่ได้โกรธมู่ซีซี เพียงแค่รู้ว่ามู่ซีซีปลอดภัย ลั่วเสี่ยวชิงก็โล่งใจแล้ว เมื่อได้ยินมู่ซีซีพูดเช่นนั้น ลั่วเสี่ยวชิงก็ตอบรับเห็นด้วยในทันที
ทั้งสองพบมุมที่เงียบสงบริมหน้าต่างในร้านอาหารและนั่งลง ในตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาของทานอาหาร ดังนั้นอาหารที่มู่ซีซีและลั่วเสี่ยวชิงได้สั่งไปจึงมาเสิร์ฟในเวลาที่รวดเร็ว
มู่ซีซีและลั่วเสี่ยวชิงนั้นทานอาหารและพูดคุยกันอย่างมีความสุข
ลั่วเสี่ยวชิงยิ้มอย่างมีเล่ห์นัยและจ้องมองมู่ซีซีด้วยแววตาที่คลุมเครือและพูดกับมู่ซีซีว่า “มู่ซีซีเพื่อนร่วมชั้น คุณชายจี้ช่างดีกับเธอมากจริงๆ ไปดูงานที่ฝรั่งเศส เขาก็ยังพาเธอไปด้วย!!”
ขณะพูด ลั่วเสี่ยวชิงก็จ้องมองใบหน้าแดงก่ำและเป็นประกายของมู่ซีซี รอยยิ้มที่คลุมเครือบนใบหน้าของเธอก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เธอจงใจลดเสียงและโน้มตัวเข้าหามู่ซีซีและพูดกับมู่ซีซีว่า “แล้วก็นะ เห็นหน้าเธอแดงและเป็นประกายขนาดนี้ แค่มองก็รู้แล้วว่าคุณชายจี้ของเธอจะต้องมอบความรักใคร่เอ็นดูและความชุ่มชื้นแก่เธอเป็นอย่างดี!”
เมื่อมู่ซีซีได้ยินคำพูดที่ล้อเล่นของลั่วเสี่ยวชิง ใบหน้าของเธอแดงก่ำกว่าเก่า เธอจ้องมองลั่วเสี่ยวชิงและไม่พูดอะไร นี่เป็นครั้งแรกที่เธอค้นพบว่าเพื่อนของเธอลั่วเสี่ยวชิงมีด้านที่ขุ่นมัวเช่นนี้
มู่ซีซีหน้าแดงด้วยความเคอะเขิน เธอรีบหยิบอาหารและป้อนเข้าปากลั่วเสี่ยวชิง “ลั่วเสี่ยวชิงเพื่อนร่วมชั้น! เธอจะต้องไปชำระล้างความขุ่นมัวนี้! รีบกินข้าวเลย ถ้ายังไม่รีบกินอาหารจะเย็นชืดหมดแล้ว!”
เดิมทีลั่วเสี่ยวชิงเพียงต้องการหยอกล้อมู่ซีซี ในตอนนี้เห็นว่ามู่ซีซีที่ถูกเธอหยอกล้อนั้นใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย ภายในใจของลั่วเสี่ยวชิงก็วางใจมากขึ้น ตอนนี้ดูเหมือนว่าครอบครัวของมู่ซีซีนั้นไม่ได้สนใจในตัวคุณชายจี้แล้ว ไม่อย่างนั้นในตอนนี้มู่ซีซีที่ถูกเธอหยอกล้อนั้นใบหน้าของเธอคงไม่แดงก่ำถึงเพียงนี้
ท่าทางของมู่ซีซีเมื่อครู่นี้ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นดั่งเด็กสาว ท่าทางที่เหมือนเด็กสาววัยแรกแย้ม
เกรงว่ามู่ซีซีนั้นตกหลุมรักจี้หลิงชวนเข้าแล้วโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว!
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจี้หลิงชวนเองก็คงจะชอบพอมู่ซีซีอยู่ไม่น้อย ไม่อย่างนั้นครั้งนี้ที่จี้หลิงชวนไปต่างประเทศ เขาก็คงจะไม่พามู่ซีซีไปด้วยหรอก
จากสายตาที่ลั่วเสี่ยวชิงมองดูในตอนนี้ เธอก็พบว่าจี้หลิงชวนนั้นดีกับมู่ซีซีไม่น้อย
ขณะครุ่นคิด ลั่วเสี่ยวชิงก็จ้องมองมู่ซีซีด้วยความอิจฉาและกล่าวกับเธอว่า “ซีซี คุณชายจี้เขาดีกับเธอมาก ช่างน่าอิจฉาเธอจริงๆเลย”
ในฐานะคนโสดอายุเยอะ ลั่วเสี่ยวชิงต้องพบเห็นมู่ซีซีและจี้หลิงชวนพลอดรักกันเสมอ เธอเองรู้สึกเหนื่อยใจ
มู่ซีซีหน้าแดงระเรื่อและอธิบายอย่างเขินอาย “จริงๆแล้วจี้หลิงชวนพาฉันไปฝรั่งเศสด้วยก็เพราะเรื่องงานหรอก…”
เมื่อพูดจบ มู่ซีซีก็นึกขึ้นได้กับคำพูดที่จี้หลิงชวนพูดกับเธอก่อนหน้านี้ เขาบอกเธอว่างานของเธอในฝรั่งเศสคืออยู่เล่นเป็นเพื่อนเขา และใบหน้าของเธอนั้นแดงระเรื่อยิ่งกว่าเก่า เธอรู้สึกเขินอายกับสิ่งที่เธอพูด
ลั่วเสี่ยงชิงคนโสดนั้นเหนื่อยใจมาก เธอไม่อยากเห็นมู่ซีซีอวดความรักกับเธออีกแล้ว เธอจึงรีบตักอาหารให้กับมู่ซีซี “พอแล้ว พอเลย ไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว กินข้าวเลยกินข้าว ถ้ายังไม่กินอีก ฉันจะกินความรักของพวกเธอจนอิ่มแล้ว”
มุมปากมู่ซีซีกระตุกและพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าอย่างไรดี เธอทำได้เพียงแค่พูดคุยในเรื่องอื่นและทานอาหารกับลั่วเสี่ยวชิง
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว มู่ซีซีก็ไปเดินเล่นช็อปปิ้งกับลั่วเสี่ยวชิงตั้งแต่บ่ายจนกระทั่งพลบค่ำ จากนั้นมู่ซีซีก็แยกกับลั่วเสี่ยวชิงและเธอก็นั่งแท็กซี่กลับไปยังคฤหาสน์
เมื่อมู่ซีซีกลับมายังคฤหาสน์ เธอก็พบว่าจี้หลิงชวนยังไม่กลับมา เมื่อมู่ซีซีวางกระเป๋าสะพายลง โทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น
เป็นสายโทรศัพท์จากจี้หลิงชวน เมื่อมู่ซีซีรับสาย เธอก็ได้ยินเสียงของจี้หลิงชวน เสียงที่นุ่มลึกและน่าฟังของเขาดังขึ้นจากปลายสาย “กินอาหารเย็นหรือยัง?”
ทันทีที่เธอได้ยินเสียงที่น่าฟังของจี้หลิงชวน หัวใจของมู่ซีซีก็เต้นระรัวอย่างรวดเร็ว มู่ซีซีสูดลมหายใจเข้าและพยายามบังคับหัวใจของตัวเองให้สงบลง เธอถือโทรศัพท์ไว้แน่นและตอบจี้หลิงชวนว่า “ออกไปกินข้าวกับเพื่อนมาแล้ว แล้วก็กลับถึงบ้านแล้ว”
อีกด้านหนึ่ง จี้หลิงชวนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินมู่ซีซีพูดว่าคำว่า “เพื่อน” ความหึงหวงนั้นเริ่มพุ่งพล่านและตอบกลับว่า “เพื่อนที่ไหน? ผู้ชายหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินเสียงของจี้หลิงชวน มู่ซีซีก็เผยรอยยิ้มและรีบอธิบายว่า “เป็นผู้หญิง ลั่วเสี่ยวชิง”

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset