รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 214 ค่ำคืนวันแต่งงานอันแสนมีค่า

ทันทีที่เธอลงจากบันได มู่ซีซีก็เห็นจี้หลิงชวนนั่งรออยู่บนโซฟา
เมื่อเห็นมู่ซีซีเดินลงมา สายตาของจี้หลิงชวนก็ขยับออกจากนิตยสารการเงินในมือของเขา และเหลือบมองไปที่มู่ซีซีที่สวมกระโปรงสีขาวยาวถึงเข่า
จี้หลิงชวนลุกขึ้นในทันที จากนั้นก็เดินตรงไปหยุดอยู่ตรงด้านหน้าของมู่ซีซี เขาอารมณ์ดีมากขนาดยักคิ้วให้กับมู่ซีซีและเอนตัวเข้าไปใกล้หูของเธอ จากนั้นก็กล่าวคำชมโดยไม่ลังเลว่า “อืม วันนี้สวยมากนะ”
คำพูดไม่กี่คำดังเข้ามาในหูของมู่ซีซี บวกกับเสียงลมหายใจอันร้อนแรงของจี้หลิงชวน ลมหายใจอันร้อนระอุสัมผัสเข้ากับใบหูของเธอจนหูของเธอกลายเป็นสีชมพูระเรื่อๆ
มู่ซีซีรีบก้าวถอยหลังกลับโดยไม่รู้ตัว โชคดีที่เมื่อครู่นี้นายหญิงจี้ไม่ได้อยู่ที่นั่น ไม่เช่นนั้นหากว่านายหญิงจี้เห็นพฤติกรรมเธอกับจี้หลิงชวนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันคงแย่แน่
แค่กำลังคิดถึงเรื่องนายหญิงจี้ นายหญิงจี้ก็ถูกแม่บ้านจางเข็นรถเข้ามาในทันที ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอมองดูจี้หลิงชวนและมู่ซีซี จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ซีซี ทำไมวันนี้หนูตื่นเช้าจัง? ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย . หนูไปนอนพักก่อนไหม ตื่นสายๆก็ได้ ไม่เป็นไร”
เมื่อมู่ซีซีได้ฟังคำพูดที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของนายหญิงจี้ เธอจึงรีบเดินไปหานายหญิงจี้ในทันที เธอจับรถเข็นของนายหญิงจี้ และพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่มีความห่วงใยว่า “คุณย่า เมื่อคืนคุณนอนหลับดีไหมคะ? มีตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า”
ฉากที่นายหญิงจี้เป็นลมล้มพับไปในตอนที่เธอโมโหในครั้งนั้น มันยังคงทำให้มู่ซีซีรู้สึกกลัวอยู่ แม้มู่ซีซีจะ รู้ว่าเธอนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับนายหญิงจี้ก็ตาม แต่ในใจของมู่ซีซีได้คิดกับนายหญิงจี้ว่าเป็นคุณย่าแท้ๆของเธอมาตั้งนานแล้ว
“ฉันไม่เป็นไร เมื่อคืนนอนหลับสบายมากๆ ไม่ต้องห่วง”
พูดไปพลางนายหญิงจี้ก็ไปทานอาหารเช้าพร้อมกับมู่ซีซีและจี้หลิงชวน
หลังจากรับประทานอาหารเช้าด้วยกันในบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์ จี้หลิงชวนลุกขึ้นและมองไปที่คุณย่าของเขาพร้อมกับพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “คุณย่า เช้านี้ ซีซีมีธุระที่จะต้องออกไปข้างนอก ผมก็จะออกไปข้างนอกอยู่พอดี ก็เลยจะส่งเธอด้วย ”
จี้หลิงชวนพยักหน้าโดยไม่ลังเล มู่ซีซีโตขนาดนี้แล้ว เธอก็คงจะมีเพื่อนของเธอ แน่นอนว่านายหญิงจี้คงจะไม่บังคับให้มูซีซีอยู่กับเธอที่บ้านทุกวันหรอก
“เอาล่ะๆ ซีซีไปพร้อมกับพี่ชายของเธอเถอะนะ แล้วอย่ากลับบ้านดึกเกินไป อยู่ข้างนอกก็ระวังตัวด้วย ”
นายหญิงจี้ เตือนด้วยความเป็นห่วง
จี้หลิงชวนพามู่ซีซีเดินออกไปข้างนอก
จี้หลิงชวนนั่งในรถสปอร์ตมายบัคสุดหรูของเขา จี้หลิงชวนซึ่งเพิ่งคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ เขาเหลือบมองไปที่มู่ซีซีที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นและพูดขึ้นว่า “มู่ซีซี เธอเอาบัตรประชาชนมาด้วยหรือเปล่า?”
“เอามาแล้ว…” มู่ซีซีมองที่จี้หลิงชวนและรีบเบนสายตาออกจากเขาด้วยความกังวลอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อเห็นท่าทางที่ดูเขินอายของมู่ซีซี ริมฝีปากของจี้หลิงชวนก็เผยให้เห็นยิ้มเล็กน้อย เขาสตาร์ทรถและขับตรงไปยังสำนักงานกิจการพลเรือนในทันที
จี้หลิงชวนได้นัดคนที่สำนักงานกิจการพลเรือนไว้แล้ว ทันทีที่จี้หลิงชวนพามู่ซีซี มาถึงที่สำนักงานกิจการพลเรือนก็มีคนมารออยู่ เมื่อเห็นว่าจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีมาด้วยกัน พนักงานก็หยิบหนังสือทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของมู่ซีซีไปเปลี่ยนข้อมูลทางด้านอายุของเธอ
อายุของมู่ซีซีเปลี่ยนให้มากกว่าเดิม 1 ปี เมื่อเธออายุครบ 20 ปีเธอก็จะมีสิทธิ์ในการสมรสตามกฎหมาย มู่ซีซี ได้ลงนามในข้อตกลงการแต่งงานกับจี้หลิงชวนไว้ จากนั้นทั้งสองก็ไปถ่ายรูปบัตรแต่งงาน และดำเนินการจดทะเบียนสมรสในสมุดทะเบียนสมรสเล่มสีแดง
จนกระทั่งมู่ซีซีได้รับสมุดจดทะเบียนสมรส มู่ซีซีรู้สึกว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ดูแปลกๆแต่ก็อธิบายไม่ได้
นี่เธอแต่งงานกับจี้หลิงชวนแล้วจริงๆหรือ?
เธอเปิดสมุดทะเบียนสมรสและมองดูตัวอักษรสีดำที่พิมพ์ชื่อของมู่ซีซีและจี้หลิงชวนลงบนทะเบียนสมรส มู่ซีซี จึงรู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝันหรือว่าจินตนาการ เธอแต่งงานกับจี้หลิงชวนจริงๆ
“ไปกันเถอะ พวกเรากลับบ้านกัน” จี้หลิงชวนเก็บรวบรวมทะเบียนสมรส จากนั้นก็ยื่นมือออกไปจับมือของมู่ซีซีอย่างเป็นธรรมชาติ
สายตาของมู่ซีซีมองไปที่มือที่ถูกจี้หลิงชวนจับไว้แน่น จู่ๆหัวใจของเธอก็เต้นขึ้นมาซะอย่างนั้น
ตลอดระยะทางที่จี้หลิงชวนพาออกจากสำนักงานกิจการพลเรือน ในสมองของมู่ซีซีรู้สึกเกิดความสับสนเล็กน้อย เธอเพิ่งถูกจี้หลิงชวนพาขึ้นรถ เข็มขัดนิรภัยก็ยังไม่ทันได้รัดให้ดีเลย ร่างสูงใหญ่ของจี้หลิงชวนก็คร่อมลงมาทับร่างของเธอในทันที เขาจับที่ด้านหลังศีรษะของมู่ซีซีและจูบลงบนริมฝีปากของเธอ
เขาจูบจนมู่ซีซีแทบจะหายใจไม่ออก จากนั้นเมื่อพอใจแล้วจี้หลิงชวนจึงค่อยๆขยับออกจากมู่ซีซี เขากอดมู่ซีซีไว้แน่นพร้อมกับมองตาของมู่ซีซีและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยว่า “มู่ซีซี ตอนนี้เราแต่งงานกันแล้วนะ เธอเป็นคนของฉันแล้ว!”
เมื่อพูดจบจี้หลิงชวนมองมู่ซีซีที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอเขินอายแม้แต่หูและคอก็กลายเป็นสีแดงด้วย จากนั้นเขาก็จับคางของมู่ซีซีและตั้งใจลดระดับเสียงลง”มู่ซีซี คืนนี้ทำตัวดีๆและรอฉันที่ห้องนะ คืนวันแต่งงานอันแสนมีค่า ฉันไม่อยากเสียมันไปโดยเปล่าประโยชน์”
ทันทีที่เสียงอันไพเราะและล้ำลึกของจี้หลิงชวนแผ่วเบาลง ใบหน้าสีขาวของมู่ซีซีก็แดงขึ้นเล็กน้อย
มู่ซีซีอดไม่ได้ที่จะผลักและดิ้นรนหลบหนีออกจากอ้อมแขนของเขา
โชคดีที่ในบรรยากาศอันมีกลิ่นตุๆแบบนี้ จี้หลิงชวนไม่ได้จะบังคับหรือทำอะไรเธอ เขาสตาร์ทรถแล้วขับออกไปจากตรงนั้น
ในตอนบ่าย จี้หลิงชวนยังมีธุระบางอย่างที่จะต้องสะสางในบริษัท ดังนั้น หลังจากที่จี้หลิงชวนส่งมู่ซีซี กลับไปที่บ้านหลังใหญ่ของตระกูลจี้แล้ว เขาก็ขับรถไปที่บริษัทในทันที
ตลอดทั้งช่วงบ่ายมู่ซีซีอยู่ในอาการงุนงงๆ ในหัวของเธอมักจะคิดถึงสิ่งที่จี้หลิงชวนพูดในรถกับเธออย่างคลุมเครือว่า “มู่ซีซี คืนนี้ทำตัวดีๆและรอฉันที่ห้องนะ คืนวันแต่งงานอันแสนมีค่า ฉันไม่อยากเสียมันไปโดยเปล่าประโยชน์”
ความตั้งใจของจี้หลิงชวนที่จะทำในสิ่งที่เขาต้องการทำคืนนี้ชัดเจนมาก!
มู่ซีซีไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าเธอต้องเข้าใจคำพูดของจี้หลิงชวน…
แต่ตราบใดที่เธอยังคิดถึงมัน มู่ซีซีก็รู้สึกร้อนไปทั้งตัว ราวกับว่าเธอถูกขุดหลุมฝั่งหรืออะไรก็บอกไม่ถูก
เรื่องนี้ทำให้มู่ซีซีสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปตลอดทั้งช่วงบ่าย เธอทำสิ่งต่าง ๆผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง เช่น ตอนที่เธอไปสวนดอกไม้ข้างหลังบ้านเพื่อรดน้ำต้นไม้กับนายหญิงจี้ ปรากฏว่าเธอเหม่อลอยจนเทน้ำจากบัวรดน้ำออกมาจนเกือบท่วมต้นลิ่วเว่ยและต้นจวี๋จือหลาน หากนายหญิงจี้ไม่เข้ามาเห็นซะก่อน เกรงว่าต้นไม้พวกนี้ก็คงจะตายเป็นแน่
ยังมีอีก ตอนที่มู่ซีซีไปรินชาให้นายหญิงจี้ ในสมองของเธอไม่รู้ว่ากำลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ สุดท้ายปรากฏว่ามู่ซีซีรินชาจนล้นแก้วโดยที่เธอก็ไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ชาร้อนๆสัมผัสโดนมือของเธอ เธอตกใจจึงได้สติกลับมา เธอถูกชาร้อนลวกเล็กน้อยจนมือแดงเป็นปื้นๆ โชคดีที่แม่บ้านจางรีบเอายาแก้น้ำร้อนลวกเข้ามาทาให้เธอ ตรงบริเวณที่โดนลวกถึงได้ไม่มีตุ่มของผิวหนังบวมขึ้นมา

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset