รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 226 นายหญิงจี้รู้เรื่องแล้ว!

นายหญิงจี้ฟังจี้หลิงชวนพูดด้วยท่าทางที่ไม่มีความสุขพร้อมกับมองไปที่เขาด้วยใบหน้าที่สงบ “เธอยังกล้าบอกว่าไม่เป็นไร?! ถ้าไม่เป็นไร ตอนนี้จะมานอนอยู่ที่โรงพยาบาลทำไม?”
เมื่อได้ฟังอย่างนั้นแล้วนายหญิงจี้ก็รู้สึกโกรธมาก เธอมองดูจี้หลิงชวนด้วยความเป็นห่วงและถามขึ้นว่า “เจ็บตรงไหน? บาดเจ็บได้อย่างไร?เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ เธอลองอธิบายให้ฉันฟังอย่างตรงไปตรงมาสิ!”
นายหญิงจี้ถามขึ้นด้วยความกังวลพร้อมกับหันไปทางมู่ซีซีที่นั่งอยู่ทางด้านข้าง แล้วพูดขึ้นเบา ๆ ว่า “ซีซีหนูเป็นอย่างไรบ้าง? ไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม”
เมื่อได้ยินสิ่งที่นายหญิงจี้พูด มู่ซีซีก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ติดต่อกันหลายครั้ง โดยไม่แสดงออกถึงความรู้สึกกลัวออกมาบนใบหน้า เธอเงยหน้าขึ้นและมองนายหญิงจี้พร้อมกับส่ายหัวไปมาอย่างรวดเร็ว ” คุณย่า หนูไม่เป็นไรค่ะ…หนูไม่ได้รับบาดเจ็บเลยค่ะ”
เมื่อนายหญิงจี้ได้ฟังคำตอบของมู่ซีซีแล้ว สีหน้าที่เป็นกังวลของเธอลดลงเล็กน้อย “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
นายหญิงจี้พูดขึ้นพร้อมกับใช้สายตาของเธอจ้องไปที่จี้หลิงชวนอีกครั้ง จากนั้นเธอก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่สงบว่า”พูดมาเถอะ! เมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
จี้หลิงชวนรู้ดีอยู่แก่ใจว่า ถ้าเขาปกปิดเรื่องอะไรกับคุณย่าตอนนี้ล่ะก็ คุณย่าก็จะต้องส่งคนไปตรวจสอบด้วยตัวเองแน่ ถึงตอนนั้นเกรงว่ามันจะยิ่งทำให้คุณย่าโกรธและกังวลมากขึ้นไปอีก
เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้วจี้หลิงชวนจึงบอกกับนายหญิงจี้ว่า “เมื่อคืนนี้มู่อวี๋เฟยจงใจหลอกให้ซีซีออกไปข้างนอก และเมื่อ ซีซีมาถึง เธอก็ทำให้ซีซีสลบไป จากนั้นก็พาเธอไปที่อาคารเก่าพังยับเยินแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเขตชานข้างกับแม่น้ำสายหนึ่ง แล้วยังได้นัดกับพวกลักพาตัวขอเงินเรียกค่าไถ่จากผมด้วย และหลังจากที่ผมทำการตรวจสอบอย่างแน่ชัดแล้ว ผมก็รีบไปช่วยชีวิตของซีซี แต่ในระหว่างนั้นผมไม่ทันได้ระวังจึงโดนมีดเฉียดทางด้านหลังเล็กน้อย”
จี้หลิงชวนไม่กล้าบอกกับคุณย่าว่าเขาโดนแทง ถ้าคุณย่ารู้ท่านคงกังวลใจมากกว่านี้
เมื่อนายหญิงจี้ได้ฟังจี้หลิงชวนพูดจบ สีหน้าของเธอก็ดูสงบขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเธอมองไปที่จี้หลิงชวน แล้วพูดขึ้นอีกว่า “ตรงที่บาดเจ็บ ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม?”
จี้หลิงชวนรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “คุณย่า ผมไม่เป็นไรจริงๆ ไม่ต้องกังวล หมอบอกว่าผมสามารถออกจากโรงพยาบาลได้หลังจากสังเกตอาการในโรงพยาบาลสักสองวัน”
นายหญิงจี้รู้สึกโล่งใจขึ้น แต่เมื่อกี้ที่เธอได้ฟังจี้หลิงชวนพูดถึงชื่อของมู่อวี๋เฟย นายหญิงจี้ก็ขมวดคิ้วและถามขึ้นว่า “ตอนนี้มู่อวี๋เฟยคนนั้นอยู่ที่ไหน?การกระทำนี้ชั่งดูโหดร้ายจริงๆ! แม้ว่าซีซีจะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับตระกูลมู่ของพวกเขา แต่อย่างน้อยซีซีก็เติบโตขึ้นมาพร้อมกับเธอ และเรียกเธอว่าพี่สาวมาเป็นเวลากว่า 10 ปี! เธอเลือดเย็นขนาดร่วมมือกับคนอื่นมาลักพาตัวซีซีไป !คนแบบนี้จะปล่อยไปง่าย ๆ ไม่ได้ !ไม่อย่างนั้นเรื่องแบบนี้คงจะเกิดขึ้นอีกแน่!”
เมื่อจี้หลิงชวนได้ฟังอย่างนั้นแล้วเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมกับยกมือขึ้นมานวดเบาๆตรงระหว่างคิ้วทั้งสอง จากนั้นก็มองไปที่คุณย่าของเขาแล้วพูดขึ้นว่า “หลังจากนั้นมู่อวี๋เฟยได้กระโดดลงไปในแม่น้ำ ตอนนี้ยังไม่มีคนหาเธอพบและไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย”
เมื่อนายหญิงจี้ได้ฟังแบบนี้แล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
นายหญิงจี้ไปหาหมอที่ดูแลจี้หลิงชวนโดยตรงเพื่อยืนยันว่าอาการบาดเจ็บของจี้หลิงชวนนั้นไม่ได้ร้ายแรง หลังจากทำอย่างนั้นเธอจึงจะรู้สึกสบายใจขึ้นและกลับบ้านพร้อมกับแม่บ้านจาง
ทันทีที่นายหญิงจี้และแม่บ้านจางกลับออกไป ก็เหลือเพียงมู่ซีซีและจี้หลิงชวนที่อยู่ในห้องคนไข้
มู่ซีซีมองด้านหลังของนายหญิงจี้ที่ค่อยๆห่างออกไป ทำให้ความรู้สึกเครียดกดดันของเธอบรรเทาลง
และอดไม่ได้ที่จะมองไปยังจี้หลิงชวนด้วยความผิดและกังวลใจเล็กน้อย ทันใดนั้นเธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงต่ำออกมาว่า “จี้หลิงชวน… คุณว่าคุณย่ามาถึงโรงพยาบาลตั้งเมื่อไหร่ ?แล้วคุณย่าจะเห็นตอนที่พวกเรานอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลไหม…”
จี้หลิงชวนมองไปที่มู่ซีซีด้วยสีหน้ากังวลและส่ายหัวไปมา “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน … แต่ที่ฉันเห็นท่าทางของคุณย่าเมื่อกี้ ท่านน่าจะไม่เห็นนะ”
เพราะก่อนหน้านี้นายหญิงจี้ได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง ท่านจึงลืมสิ่งที่จี้หลิงชวนได้เคยอธิบายเกี่ยวกับเรื่องที่ว่ามู่ซีซีไม่ใช่หลานสาวแท้ๆของท่านไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ในสายตาของนายหญิงจี้ทั้งจี้หลิงชวนและมู่ซีซีก็เป็นเหมือนลูกพี่ลูกน้องกัน
ความคิดของนายหญิงจี้ค่อนข้างหัวโบราณ หากเห็นจี้หลิงชวนและมู่ซีซีสนิทสนมกันจริง ๆ แน่นอนว่าเธอจะต้องเข้าห้ามพวกเขาโดยไม่ลังเล
แต่ท่าทางของนายหญิงจี้เมื่อกี้ แม้แต่จี้หลิงชวนเองก็ยังมองไม่ออก เพราะนายหญิงจี้ไม่ใช่หญิงสูงอายุธรรมดาๆทั่วไป!
ตอนยังสาวๆนายหญิงจี้เคยเป็นเจ้าแห่งการทำธุรกิจ หากว่าเธอเอาจริงขึ้นมา แม้แต่จี้หลิงชวนเองก็ยังเดาไม่ออก
เมื่อได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูด มู่ซีซีก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย แต่ทว่าตอนนี้คิดมากไปก็เพียงจะทำให้ตัวเองรู้สึกไม่สบายใจ บางทีนายหญิงจี้อาจจะไม่เห็นมันก็ได้ ทุกอย่างอาจเป็นเพราะเธอคิดมากไปเอง
เมื่อคิดได้อย่างนี้ มู่ซีซีก็พยายามรีบคิดหาวิธีทำให้จิตใจอันยุ่งเหยิงของเธอสงบลง
และสิ่งที่มู่ซีซีและจี้หลิงชวนไม่รู้ก็คือ ตอนที่แม่บ้านจางพยุงนายหญิงจี้ออกจากห้องVIPของโรงพยาบาลไป ทันทีที่ประตูห้องปิดลง สีหน้าของนายหญิงจี้ก็เคร่งขรึมขึ้นในทันที
ตลอดระยะทางที่แม่บ้านจางได้พยุงนายหญิงจี้จนไปถึงที่จอดรถ เธอไม่พูดอะไรเลยสักคำ นายหญิงจี้กำไม้เท้าในมือแน่น ในหัวเธอฉุดภาพก่อนที่จะเปิดประตูห้องพักของโรงพยาบาลและเห็นจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีที่มีความสนิทสนมกัน และกอดกันอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลขึ้นมาไม่หยุด!
นายหญิงจี้ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาเนิ่นนาน ทำไมเธอถึงจะมองไม่เห็นว่าความสนิทสนมระหว่างจี้หลิงชวน และมู่ซีซีนั้นเกินขอบเขตของลูกพี่ลูกน้องทั่วไป!
ตอนนั้นนายหญิงจี้ก็คิดอยากจะตรงเข้าไปและแยกทั้งสองคนออก แต่ตอนที่นายหญิงจี้เข้าไป เห็นสีหน้าอันขาวซีด และดวงตาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานใจของมู่ซีซีแล้ว นายหญิงจี้ก็ยอมใจอ่อนในทันที
เธอรักและเป็นห่วงมู่ซีซี เธอเป็นหนี้มู่ซีซีอยู่มาก นายหญิงจี้กลัวว่าหลังจากถามความจริงออกไปแล้วและมู่ซีซีไม่สนใจเธอขึ้นมาจะทำไง ฉะนั้นนายหญิงจี้จึงทำได้เพียงระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านเก็บเอาไว้ในใจของเธอเท่านั้น
ทันทีที่นายหญิงจี้กลับมาถึงคฤหาสน์ แม่บ้านจางก็รีบรินน้ำอุ่นมาหนึ่งถ้วยยื่นส่งให้กับเธอและกระซิบว่า “นายหญิง ดื่มน้ำก่อนนะคะ ใจเย็นๆ…”
นายหญิงจี้หยิบแก้วน้ำขึ้นมา แต่ไม่ได้ดื่มเข้าไปเลยสักคำ เธอวางแก้วลงกับโต๊ะด้วยเสียงกระหึ่ม
แม่บ้านจางไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดปลอบใจจากตรงไหน เธอทำได้เพียงแค่ก้มหน้ายืนอยู่เป็นเพื่อนกับนายหญิงจี้
นายหญิงจี้โมโหอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าที่เคร่งขรึมของเธอก็ค่อยๆดีขึ้นมาเล็กน้อย เธอมองไปที่แม่บ้านจางแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ได้! ฉันจะปล่อยพวกเขาเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้หรอก! ลูกพี่ลูกน้องจะอยู่ด้วยกันไม่ได้!!!”
เมื่อแม่บ้างจางได้ฟังคำพูดของนายหญิงจี้แล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่นายหญิงจี้และกำลังจะพูดอธิบายออกมา แต่เมื่อเธอนึกถึงเรื่องที่คุณหมอได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ แม่บ้านจางก็ถึงกับพูดไม่ออก
เธอมองไปทางนายหญิงจี้และทำได้เพียงแค่พูดปลอบใจเบาๆว่า “นายหญิง คุณอย่าโมโหเลยนะคะ อย่าโมโหมากซะจนทำให้สุขภาพของคุณแย่ลงเลย ……”

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset