รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 238 ชายโสดหญิงโสดอยู่ร่วมห้องกัน

จี้หลิงชวนและชูเหยาต่างก็ค่อยๆลงจากรถ คฤหาสน์หลังนี้ก่อนหน้านี้นั้นว่างเปล่าไร้คนอาศัย ก่อนหน้าที่จี้หลิงชวนจะพาชูเหยากลับมา เขาก็ได้โทรหาฟางเซิ่ง เขาให้ฟางเซิ่งจัดเตรียมคนมาทำความสะอาดบ้านที่ว่างเปล่าหลังนี้ตั้งแต่ภายนอกคฤหาสน์กระทั่งภายในของคฤหาสน์ จากนั้นก็ซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันมาอีกมากมายแถมยังให้แม่บ้านป้าหลี่มาคอยรับใช้ดูแลชูเหยาอีกด้วย
ทันทีที่จี้หลิงชวนและชูเหยาเดินเข้าไปด้านใน ป้าหลี่สาวใช้ที่ดูซื่อสัตย์ก็รีบกล่าวทักทายอย่างเคารพว่า “คุณชายจี้ คุณหนูชู สวัสดีค่ะ”
ขณะพูด ป้าหลี่ก็หันไปทางชูเหยาและพูดอย่างเคารพอีกว่า “คุณหนูชู ห้องของคุณคือห้องนอนมาสเตอร์ที่อยู่บริเวณชั้นสอง ฉันได้จัดเตรียมทุกอย่างและทำความสะอาดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”
จี้หลิงชวนผายมือไปทางป้าหลี่และแนะนำกับชูเหยาว่า “นี่คือป้าหลี่ ป้าหลี่จะคอยดูแลการเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของเธอ หลังจากนี้มีเรื่องอะไรเธอก็สามารถเรียกป้าหลี่ได้เลย”
ชูเหยายิ้มให้จี้หลิงชวนและพยักหน้า หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความอบอุ่น เธอไม่คาดคิดเลยว่าภายในเวลาเพียงสิบชั่วโมงจี้หลิงชวนจะจัดการและเตรียมทุกอย่างให้กับเธอ เพียงพอแล้วที่จะเห็นได้ว่าถึงแม้เวลาจะผ่านไปห้าปี แต่เธอผู้ซึ่งอยู่ภายในใจของจี้หลิงชวนก็ยังคงอยู่ในใจของเขาและไม่มีใครที่จะมาแทนที่เธอได้
“หลิงชวน คุณพาฉันไปดูห้องหน่อยได้ไหม?” ชูเหยาจ้องมองจี้หลิงชวนด้วยรอยยิ้ม
จี้หลิงชวนพยักหน้า เขาพาชูเหยาขึ้นไปยังชั้นสองและเข้าไปภายในห้องนอนมาสเตอร์ จี้หลิงชวนหันไปและพูดกับชูเหยาว่า “วันนี้ค่อนข้างเร่งรีบ เธอก็พักที่นี่ไปก่อน หากว่าเธอต้องการอะไรเพิ่มเติมก็สามารถบอกกับป้าหลี่ได้เลย”
ชูเหยาพยักหน้า สายตาของเธอจ้องมองจี้หลิงชวนและค่อยๆพูดว่า “หลิงชวน ห้าปีที่ผ่านมานี้ พ่อแม่ของฉันยังสบายดีอยู่หรือเปล่า?”
เมื่อห้าปีก่อน ตระกูลชูเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆของเมืองหรง ชูเหยาเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลชู ตั้งแต่เธอยังเล็ก เธอก็ได้รับความรักมากมายจากผู้คนนับร้อยพัน
แต่สุดท้าย เมื่อห้าปีก่อนเป็นเพราะว่าชูเหยาและจี้หลิงชวนนั้นทะเลาะกันในเรื่องเล็กน้อยจึงทำให้ชูเหยาตัดสินใจบินไปสหรัฐอเมริกาเพื่อบรรเทาความเบื่อหน่ายของเธอ
เมื่อได้ยินชูเหยาพูดเรื่องนี้ จี้หลิงชวนขมวดคิ้วแน่นโดยไม่รู้ตัว เขาก้มศีรษะมองใบหน้าที่ยังคงซีดเซียวของชูเหยา จากนั้นจี้หลิงชวนพูดกับชูเหยาว่า “ชูเหยา ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เธอนั่งเครื่องบินมายังไม่ได้พักผ่อนเลย เธอพักผ่อนก่อนเถอะไม่งั้นเดี๋ยวจะเจ็ตแล็ก เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าฉันค่อยเข้ามาคุยกับเธอ”
เมื่อชูเหยาได้ยินคำพูดของจี้หลิงชวน หัวใจของเธอก็กระตุกในทันที สีหน้าของเธอซีดลงยิ่งกว่าเก่า เธอเอื้อมมือออกไปคว้าแขนของจี้หลิงชวนไว้แน่นโดยไม่รู้ตัวและถามว่า “หลิงชวน คุณพูดกับฉันมาตามตรง เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพ่อแม่ของฉันใช่หรือเปล่า?!”
ชูเหยาเห็นท่าทีที่ไม่ตอบโต้ของจี้หลิงชวน น้ำตาของเธอรินไหล เธอสะอื้นไห้พลางจ้องมองจี้หลิงชวน “หลิงชวน คุณพูดมาเถอะ ต่อให้คำตอบจะแย่หรือเลวร้ายแค่ไหนฉันก็รับไหว”
เมื่อจี้หลิงชวนได้ยินคำพูดของชูเหยา เขายกมือขึ้นและสัมผัสคิ้วที่กำลังขมวดแน่น เขารู้ดีว่าเรื่องนี้ชูเหยาก็สามารถสอบถามจากคนอื่นได้ เขาปกปิดมันไม่ได้หรอก เขาจึงมองชูเหยาและพูดว่า “ชูเหยา เมื่อสามปีก่อนพ่อและแม่ของเธอนั้นเจ็บป่วยและจากโลกนี้ไปแล้ว บริษัทตระกูลชูก็ล้มละลายไปตั้งแต่สามปีก่อน”
การที่ชูเหยาหายตัวไปอย่างกะทันหัน สองสามีภรรยาแห่งตระกูลชูมีลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเพียงหนึ่งคน การหายตัวไปของชูเหยานั้นส่งผลที่รุนแรงต่อสองสามีภรรยาเป็นอย่างมาก สองสามีภรรยานั้นไม่สนใจเรื่องของบริษัทอีกต่อไป พวกเขาบินตรงไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อตามหาตัวของชูเหยา
แต่สหรัฐอเมริกานั้นใหญ่โตมาก หากว่ามีใครต้องการซ่อนคนคนหนึ่ง จะตามหากันเจอง่ายๆได้อย่างไร!
คู่สามีภรรยาตระกูลชูใช้เวลาในการค้นหาสามปีเต็มแต่ก็ไม่พบลูกสาว สองสามีภรรยาโศกเศร้าและเจ็บปวดจนตรอมใจ หลังจากนั้นไม่นานนักทั้งสองก็เจ็บป่วยและเสียชีวิตลง บริษัทของตระกูลชูก็ประกาศล้มละลาย
เมื่อชูเหยาได้ยินในสิ่งที่จี้หลิงชวนพูด ใบหน้าเล็กๆที่ซีดเซียวนั้นเต็มไปด้วยน้ำตา ร่างกายของเธออ่อนแรงและเซเข้าสู่อ้อมแขนของจี้หลิงชวน เธอกอดเอวจี้หลิงชวนไว้แน่นพร้อมกับร้องไห้ออกมา
เธอร้องไห้พลางสะอื้นและพูดกับจี้หลิงชวน “หลิงชวน บนโลกใบนี้ของฉันในตอนนี้ คนในครอบครัวของฉันมีเพียงแค่คุณคนเดียวแล้ว”
เมื่อสัมผัสได้ถึงอ้อมแขนที่รัดแน่นบริเวณเอวของเขา ร่างกายของจี้หลิงชวนแข็งทื่อ คิ้วของเขาขมวดแน่นโดยไม่รู้ตัว ปฏิกิริยาแรกในใจของเขาคือการยกมือขึ้นและอยากจะผลักเธอออกไป
เมื่อก้มศีรษะลงและมองชูเหยาที่กำลังร้องไห้จนร่างกายสั่นเทาอยู่ภายในอ้อมแขนและนึกถึงคำพูดของชูเหยาที่เธอพูดเมื่อครู่นี้ว่าสมาชิกในครอบครัวมีเหลือเพียงแค่คนเดียว จี้หลิงชวนก็ห้ามใจไม่ผลักไสเธอออก เขาทำได้เพียงยืนอยู่เช่นนั้นและปล่อยให้ชูเหยากอดเขาไว้
แต่ภายในความคิดของเขานั้นอดไม่ได้ที่จะฉายภาพใบหน้าเล็กๆของมู่ซีซี
จากนั้นจี้หลิงชวนก็นึกขึ้นได้ว่าในตอนนั้นหลังจากที่เขารู้เรื่องของชูเหยา เขาก็รีบร้อนจองตั๋วเครื่องบินเพื่อบินไปสหรัฐอเมริกา
หลังจากอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ไม่ได้โทรศัพท์หามู่ซีซีเลย ตอนนี้มู่ซีซีอยู่ที่คฤหาสน์เพียงคนเดียวไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
ทันใดนั้นจี้หลิงชวนก็คิดอยากจะกลับไปคฤหาสน์และไปหามู่ซีซี ไม่พบเจอกันหนึ่งสัปดาห์ จี้หลิงชวนเองก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงมู่ซีซีอยู่บ้างอย่างไม่สามารถอธิบายได้
แต่ทว่า…จี้หลิงชวนก้มศีรษะลงมองชูเหยาที่ยังคงร้องไห้และกอดเขา จิตใจของเขาก็อ่อนลงอีกครา เขาลูบแผ่นหลังของชูเหยาราวกับว่ากำลังปลอบโยน เขาพูดปลอบโยนอย่างเงอะงะว่า “ชูเหยา อย่าโทษตัวเองเลย มันไม่ใช่ความผิดของเธอ เธอต้องมีชีวิตที่มีความสุขต่อไป พ่อและแม่ของเธอที่อยู่บนฟ้าก็จะดีใจไปด้วย”
เมื่อได้ยินคำพูดปลอบโยนของจี้หลิงชวน ชูเหยาก็ส่ายหน้าไปมาและร้องไห้อยู่ครู่ใหญ่ เสียงร้องไห้ของชูเหยากลับกลายเป็นเสียงแหบแห้งจากนั้นเสียงร้องไห้ก็หยุดลง
ชูเหยาเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเล็กๆนั้นเต็มไปด้วยคราบน้ำตาแลดูน่าสงสาร เธอจ้องมองจี้หลิงชวนด้วยดวงตาที่แดงก่ำและเอ่ยว่า “หลิงชวน ฉันคิดถึงคุณมาก ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาฉันคิดถึงคุณในทุกช่วงเวลา”
ทันทีที่สิ้นเสียง ทันใดนั้นชูเหยาก็กอดเอวของจี้หลิงชวนไว้แน่น เธอหลับตาลง เขย่งเท้าเข้าหาจี้หลิงชวนและจะมอบจุมพิตให้กับเขา
วินาทีถัดมา เมื่อริมฝีปากสีแดงสดของชูเหยากำลังจะแตะริมฝีปากบางที่งดงามของจี้หลิงชวน จี้หลิงชวนขมวดคิ้วแน่นและเอียงศีรษะหลีกหนีการจู่โจมของชูเหยา
จูบของชูเหยาค้างอยู่กลางอากาศ เธอลืมตาขึ้นอย่างงุนงงและมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาของจี้หลิงชวนที่อยู่ใกล้กับเธอ ร่างกายนั้นแข็งทื่ออยู่กับที่ มีเพียงความคิดเท่านั้นที่เข้ามาในหัวของเธอ จี้หลิงชวนหลบหนีการจูบของเธอ จี้หลิงชวนหลบเลี่ยงการจุมพิตจากเธอ!!!
ชูเหยากัดริมฝีปากแน่นโดยไม่รู้ตัว
บรรยากาศเริ่มอึดอัดขึ้นอย่างไม่สามารถอธิบายได้
จี้หลิงชวนใช้มือทั้งสองข้างและออกแรงเพียงเล็กน้อยเพื่อผลักชูเหยาที่อยู่ในอ้อมแขนออกด้วยท่าทีสงบนิ่ง จากนั้นเขามองชูเหยาและพูดว่า “ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ชูเหยา เธอพักผ่อนเถอะ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องสะสางอีก ฉันขอตัวก่อน”
ทันทีที่พูดจบ จี้หลงชวนไม่ได้ให้เวลาชูเหยาตอบโต้ เขาหมุนตัวและเดินออกไปทันที
ชูเหยายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เธอจ้องมองแผ่นหลังของจี้หลิงชวนที่เดินจากไปด้วยความงุนงง จากนั้นเมื่อฟื้นคืนสติ ร่างกายของเธอก็ทรุดตัวลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset