รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 256: รอดูความชิบหาย

ในขณะที่ป้าหลิงพูดอยู่นั้นก็เหลือบมองสีหน้าของมู่ซีซี และอดไม่ได้ที่จะเสริมอีกประโยคว่า: “เช้านี้รู้สึกว่าคุณชายจี้อารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่……”
มู่ซีซีได้สติกลับคืนมา และพยักหน้าเบา ๆ อย่างรู้สึกหมดแรง แน่นอนเธอรู้ดีว่าเหตุใดเช้านี้จี้หลิงชวนถึงอารมณ์ไม่ดี เมื่อเธอพยายามขัดขืนเมื่อคืนนี้ เธอตระหนักได้ทันทีว่าทำให้จี้หลิงชวนโกรธแล้ว
แต่เวลานี้มู่ซีซีไม่มีเวลาไปสนใจว่าจี้หลิงจะอารมณ์ดีหรือไม่ดี เพราะอารมณ์ของเธอก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่หรอก!
แม้ว่าอารมณ์จะไม่ดี แต่มู่ซีซีก็ดูแลตัวเองอย่างดี เมื่อคืนเธอถูกจี้หลิงชวนจัดหนักทั้งคืน จนหมดเรี่ยวแรงและระบมไปทั้งตัว วันนี้มู่ซีซียังต้องไปทำงานอีก เธอจึงไม่อยากทำร้ายตัวเองโดยการปล่อยให้ตัวเองหิวจนตาลาย
หลังจากทานเกี๊ยวที่ป้าหลิงทำขึ้นเป็นพิเศษให้สำหรับเธอ เธอทานจนอิ่มท้องและรู้สึกสบายกระเพาะมาก มันทำให้อารมณ์ของมู่ซีซีก็ดีขึ้นตามลำดับ
มู่ซีซีกลัวว่าจะไปทำงานสาย หลังออกจากบ้านเธอก็รีบโบกรถแท็กซี่ไปที่บริษัทอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดมู่ซีซีก็ไปถึงที่ทำงานก่อนเวลา 10 นาที ทันทีที่เธอวางของไว้ในลิ้นชัก เธอก็เห็นหุ่นเพรียวของชูเหยาใส่รองเท้าส้นสูงพร้อมถือกระเป๋าแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะข้าง ๆเธอ
ชูเหยาหันหน้าไปยิ้มให้กับมู่ซีซีและทักทาย: “ซีซี อรุณสวัสดิ์จ๊ะ”
มู่ซีซีเหลือบไปที่ชูเหยา และในหัวก็มีแต่ภาพรอยลิปสติกสีแดงสดบนปกเสื้อสีขาวของจี้หลิงชวน มู่ซีซีอดไม่ได้ที่จะมองสีลิปสติกบนริมฝีปากของชูเหยา และเธอไม่คาดคิดว่าสีลิปสติกนั้นมันจะเหมือนกับสีลิปสติกที่คอเสื้อของจี้หลิงชวน
มือที่แนบอยู่ข้างกายกำแน่นโดยไม่รู้ตัว และมู่ซีซีกัดริมฝีปากของตัวเองเบา ๆ จากนั้นเธอจึงพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด มิฉะนั้นอาจทำให้ผิดสังเกตได้ มู่ซีซีทักทายกลับพร้อมรอยยิ้ม: “อรุณสวัสดิ์จ๊ะ”
หลังจากที่พูดจบแล้วมู่ซีซีก็หันหลังกลับ จากนั้นก็รีบหยิบกองเอกสารที่วางอยู่ข้างโต๊ะมาทำต่อ
มู่ซีซีไม่ต้องการคุยกับชูเหยา แต่ชูเหยากลับไม่ยอมปล่อยมู่ซีซีไปง่ายๆ
สายตาที่เย็นชาของชูเหยาจ้องมองไปที่ดวงตาที่ค่อนข้างแดงระเรื่อและบวมของมู่ซีซี แม้ว่ามู่ซีซีจะแต่งหน้าเป็นพิเศษเพื่อปกปิดมันแล้ว แต่ชูเหยาแค่มองแวบเดียวก็สังเกตเห็นความผิดปกติบนดวงตาของมู่ซีซีแล้ว และเมื่อสังเกตดี ๆก็จะเห็นดวงตาที่แดงก่ำของมู่ซีซีทันที เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนนี้มู่ซีซีน่าจะร้องไห้
เมื่อนึกถึงรอยลิปสติกสีแดงที่เธอจงใจทิ้งไว้บนคอเสื้อของจี้หลิงชวนแล้ว ชูเหยาก็ยิ้มเยาะอย่างมีชัย ดูเหมือนว่ามู่ซีซีจะเห็นรอยลิปสติกเมื่อคืนนี้แล้วล่ะ
ชูเหยาเก็บรอยยิ้มบนริมฝีปากของเธอ ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็แสดงออกด้วยความห่วงใยและมองไปที่มู่ซีซีพร้อมถามว่า: “ซีซี ดวงตาของเธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมดูแล้วเหมือนบวมแดงก่ำแบบนั้นด้วยล่ะ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
เมื่อฟังน้ำเสียงของชูเหยาแล้ว มือของเธอที่อยู่ข้างลำตัวก็กำแน่นขึ้น และร่างกายของเธอก็แข็งทื่อเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่กี่วินาที มู่ซีซีก็หันหน้ามองไปที่ชูเหยาเธอยิ้มและส่ายหัวพร้อมพูดว่า:”ไม่ได้เป็นอะไร อาจเป็นเพราะเมื่อคืนนี้นอนไม่หลับ……”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นมู่ซีซีก็อดทนต่อไปไม่ไหวเธอลุกขึ้นยืนทันที: “ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ”
หลังจากพูดจบมู่ซีซีก็รีบลุกออกจากที่นั่งและเดินไปที่ห้องน้ำทันที
ชูเหยานั่งอยู่ที่เดิมมองตามหลังมู่ซีซีและยิ้มเยาะอย่างมีชัย มู่ซีซี อย่าพึ่งใจร้อน ยังมีชุดใหญ่รอเธออยู่ เมื่อถึงเวลานั้น ฉันหวังว่าเธอจะไม่อ่อนแอเกินไป ถ้าเกมมันชนะได้ง่ายเกินไป มันก็ไม่สนุกน่ะสิ
ในขณะที่คิดอยู่นั้นสายตาของชูเหยาก็จ้องมองไปที่พันคอสีดำบนคอของมูซีซี ขอเพียงแค่คิดว่ามีร่องรอยอะไรซ่อนอยู่ใต้ผ้าพันคอนั้น ไฟแห่งความอิจฉาริษยาจึงลุกโชนขึ้นภายในจิตใจของชูเหยารุนแรงขึ้น
ชูเหยาเคาะโต๊ะด้วยนิ้วเรียวขาวของเธอเบา ๆ และกำมือพร้อมคลี่รอยยิ้มเยาะ ๆบนใบหน้าของเธอ
ในเวลาต่อมา สายตาของชูเหยาก็มองไปที่ลินดาซึ่งนั่งอยู่อีกฟากหนึ่ง
ตั้งแต่เมื่อวานตอนกลางวันชูเหยาเลี้ยงลินดาดื่มเครื่องดื่มและทานของหวานเล็กๆ น้อยๆ แล้ว เมื่อ บวกกับชูเหยาบอกว่าเธอเป็นคนรักในวัยเด็กของจี่หลิงชวน ลินดาจึงเริ่มเอาอกเอาใจชูเหยามากขึ้น
“ลินดา คุณทานข้าวเช้าหรือยัง?” ชูเหยายิ้มและมองดูลินดา ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้นเธอก็หยิบชีสเค้กชิ้นเล็ก ๆ ออกจากกระเป๋าของเธอแล้วยื่นให้กับลินดา: “นี่เป็นอาหารเช้าที่ฉันแวะซื้อข้างทาง ฉันซื้อมาเยอะมาก ยังเหลืออีกหนึ่งชิ้นแบ่งให้เธอทานแล้วกันนะ”
ลินดาเหลือบมองป้ายบนชีสเค้ก ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างทันที ดวงตาของเธออดไม่ได้ที่จะมองที่ชูเหยาด้วยความประหลาดใจ: “เหยาเหยา นี่คือชีสเค้กของตระกูลซูเชียวนะ! โอ้พระเจ้า ว่ากันว่าเค้กร้านนี้จะทำเค้กชีสแค่ยี่สิบชิ้นต่อวันเท่านั้น ทุกวันจะมีคนจำนวนมากไปต่อคิวซื้อตั้งแต่เช้าตรู่ยังซื้อไม่ทันเลย!”
ในขณะที่ลินดาพูดอยู่นั้นเธอก็รับชีสเค้กมาด้วยความประหลาดใจและมองดูชูเหยาด้วยสายตาที่ชื่นชม เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา: “โอ้ เป็นคนรวยนี้ดีจัง!”
ชูเหยายิ้ม และเมื่อเห็นลินดากำลังรับประทานอาหารด้วยใบหน้าที่มีความสุข เธอเปลี่ยนหัวข้อไปพูดถึงมู่ซีซีทันที: “นี่ลินดา ฉันคิดว่าซีซีก็ไม่เลวนะ แต่ดูเธอเหมือนไม่ค่อยชอบพูดเลย เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับเธอไหม?”
ลินดากำลังทานชีสเค้กไปด้วยพร้อมฟังชูเหยาพูดไปด้วย จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองที่ชูเหยาพร้อมส่ายหัว: “ฉันก็ไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับมู่ซีซีหรอกนะเพราะมู่ซีซีเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ไม่กี่วันเอง ก่อนหน้านี้เธอเป็นล่ามในสำนักผู้ช่วยท่านประธานได้สองสามวัน ”
ชูเหยาเดาว่าลินดาอาจไม่รู้เรื่องอะไรมากจริง ๆ อีกทั้งจุดประสงค์ตั้งแต่แรกของเธอก็ไม่ใช่สิ่งนี้
ประโยคถัดมาชูเหยามองลินดาอย่างสงสัย: “ลินดา ฉันคิดว่ามู่ซีซีแต่งตัวสวยมากเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าพันคอผ้าไหมพรมสีดำที่พันอยู่รอบคอของเธอในวันนี้ มันดูสวยมากจริง ๆ แต่อากาศมันร้อนมากขนาดนี้ นี่เพราะมู่ซีซีกลัวว่าตัวเองจะไม่สวย แม้ว่าอากาศจะอบอ้าวขนาดไหนก็ไม่กลัวร้อนอย่างนั้นเหรอ”
ก่อนหน้านี้ลินดาก็เห็นมู่ซีซีผูกผ้าพันคอไหมพรมไว้รอบคอของเธอในสภาพอากาศที่ร้อนขนาดนี้ เธอก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย ตอนนี้พอชูเหยาพูดขึ้นมา ความสงสัยก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลินดา!
ใช่สิ แม้ว่าคนทั่วไปจะรักสวยรักงามขนาดไหนในฤดูร้อนเช่นนี้ก็คงไม่มีใครเอาพันผ้าคอสีดำไหมพรมมาพันไว้ที่คอแบบนี้หรอกมั้ง!
ดูเหมือนกำลังต้องการปกปิดอะไรอยู่ยังไงยังงั้นแหละ!
ลินดาเป็นคนประเภทที่ชอบนินทาคนอื่นและอยากรู้อยากเห็นมาก ตอนนี้คำพูดของชูเหยาได้จุดประกายให้เธออยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น
เมื่อชูเหยามองไปที่ท่าทางสีหน้าของลินดาที่อยากรู้อยากเห็นนั้นแล้ว เธอรู้ได้ทันทีว่าเธอบรรลุเป้าหมายแล้ว เธอเม้มปากและยิ้มเยาะเบา ๆ หันกลับมาและเปิดคอมพิวเตอร์ราวกับว่าเธอกำลังทำงานอยู่
เรื่องราวต่อจากนี้ เธอแค่เพียงนั่งรอดูความชิบหายต่อไปเท่านั้นก็พอแล้ว
ไม่กี่นาทีต่อมามู่ซีซีก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอน่าจะล้างหน้าด้วยน้ำเย็นและแต่งหน้าใหม่อีกครั้ง ดวงตาที่บวมแดงนั้นอาการบวมค่อย ๆลดลง และตอนนี้ถ้าไม่สังเกตดี ๆก็มองไม่ออกแล้ว
มู่ซีซีเดินก้มหน้าตลอดทางจนเดินไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองแล้วนั่งลง ลินดาซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้ามู่ซีซีเธอหันหลังมาแล้วยื่นเอกสารให้กับมู่ซีซีพร้อมพูดขึ้นว่า: “มู่ซีซี เดี๋ยวเธอเอาเอกสารนี้ไปถ่ายเอกสารให้หน่อยนะ อย่าลืมนะฉบับละสามชุด “

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset