รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 258: ข่าวลือแพร่กระจาย

และเวลาเพียงไม่นาน ทุกคนในสำนักงานของแผนกการลงทุนต่างก็รู้ “ธาตุแท้” ของมู่ซีซีแล้ว และจากอัตราการแพร่กระจายนี้คาดว่าอีกไม่นานทั้งบริษัทจี้คงต้องรู้ข่าวลือของมู่ซีซีอย่างแน่นอน!
มู่ซีซีพยายามอดทนเมื่อเธอถูกจ้องมองด้วยสายตาแปลก ๆ เธอเอาเอกสารที่ถ่ายเสร็จแล้วยื่นให้ลินดาและพูดด้วยน้ำเสียงเบาว่า: “ลินดา นี่คือเอกสารที่ถ่ายเสร็จแล้ว ถ่ายมาอย่างละสามชุดตามที่เธอบอก”
จู่ ๆ ลินดาก็เอื้อมมือออกไปหยิบเอกสารที่มู่ซีซียื่นมาให้ เธอทำน้ำเสียงฮึ่มใส่มู่ซีซี จากนั้นมองมู่ซีซีอย่างดูถูกดูแคลนและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “ฉันรู้แล้ว!”
มู่ซีซีบีบมือของตัวเองแน่น จากนั้นก็นั่งลงที่โต๊ะของตัวเองและนั่งเคลียร์งานต่อ
ตลอดทั้งวัน มู่ซีซีพยายามอดทนต่อสายตาที่ดูถูกดูแคลนของคนอื่นนั้นไปให้ได้
มันไม่ง่ายเลยที่จะอดทนผ่านเหตุการณ์ที่น่าอึดอัดนั้นไปจนถึงพักกลางวัน มู่ซีซีรีบไปที่โรงอาหารทันที เมื่อกำลังยืนเข้าคิวเพื่อซื้ออาหารกลางวันอยู่นั้น
มีผู้หญิงสองคนต่อแถวอยู่ด้านหน้ามู่ซีซี พวกเธอไม่ได้หันหลังมองว่าคนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังพวกเธอนั้นคือมู่ซีซี พวกเธอยังคงพูดคุยซุบซิบนินทากันว่า: “นี่ เธอได้ยินข่าวลือนั้นไหม ในแผนกการลงทุนพนักงานฝึกงานคนใหม่คนนั้นเป็นผู้หญิงร่านมากเลยล่ะ ได้ข่าวมาว่าชีวิตส่วนตัวของเธอมั่วโลกีย์มาก! ไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แถมยังหิวกระหายนัดผู้ชายไม่ซ้ำหน้า! ร่านจนมีรอยจูบอยู่ที่คอด้วยนะ มีคนเห็นเข้าพอดีโดยไม่ได้ตั้งใจ เธออับอายจนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยล่ะ ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในโลกนี้ยังมีผู้หญิงแบบนี้อยู่อีกเหรอ จะหิวโหยผู้ชายอะไรขนาดนั้น! นี่เธอ ผู้หญิงคนนั้นมีชื่อว่าอะไรอ่ะ!”
“ดูเหมือนว่าชื่อมู่ซีซีนะ!”
ผู้หญิงสองคนที่อยู่ข้างหน้ากำลังคุยเรื่องซุบซิบนินทาอย่างสนุกปาก แต่น้ำเสียงนินทานั้นมู่ซีซีได้ยินเต็มสองรูหูอย่างชัดเจน
ใบหน้าของมู่ซีซีซีดเผือดด้วยความโกรธ และเธอไม่สามารถหยุดตัวสั่นด้วยความโกรธได้!
ด้วยความโกรธมู่ซีซีอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป แล้วคว้าแขนของเพื่อนร่วมงานหญิงที่กำลังพูดนินทาเธออยู่ข้างหน้านั้นทันที
เพื่อนร่วมงานหญิงคนนั้นกำลังพูดคุยนินทากันอย่างมีความสุข และทันใดนั้นเธอก็ต้องตกใจเมื่อมีคนมาจับมือเธอ เธอหันศีรษะไปดูแล้วเห็นว่าเป็นมู่ซีซีเธอก็ผงะไปทันที ด้วยความตกใจเธอรีบสะบัดมือของมู่ซีซีออกอย่างแรง
มู่ซีซีจ้องไปที่เพื่อนร่วมงานหญิงที่สีหน้าประหลาดใจและถามโดยตรงว่า: “สิ่งที่คุณพูดเมื่อกี้นี้คุณได้ยินมาจากไหน?”
เพื่อนร่วมงานหญิงคนนั้นรู้สึกตกใจกับแรงกดของมู่ซีซี และเธอก็พูดโดยไม่รู้ตัวว่า: “จะใครอีกล่ะ……ก็เป็นลินดาจากแผนกการลงทุนแผนกของคุณคนนั้นไงล่ะ……”
หลังจากพูดออกไป เพื่อนร่วมงานหญิงคนนั้นก็ได้สติกลับคืนมา เด็กฝึกงานในวัยยี่สิบต้น ๆกลับทำให้เธอตกใจกลัวขนาดนี้ เธอขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกกับมู่ซีซีว่า: “เธอจ้องฉันแบบนี้ทำไม!นี่กล้าทำแต่ยังไม่กล้ายอมรับอีกนะ?”
มู่ซีซีจ้องไปที่เพื่อนร่วมงานหญิงด้วยดวงตาที่เยือกเย็นและพูดอย่างช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “คุณรู้ไหมว่าการนินทาคนอื่นและการเผยแพร่ข่าวลือทำให้เสียหายสามารถโดนข้อหาหมิ่นประมาทได้?! หากคุณไม่แคร์แล้วล่ะก็ ถ้าเช่นนั้นคุณก็สามารถแพร่ข่าวลือต่อไปได้เลยนะคะ !”
ทันทีที่พูดจบ มู่ซีซีก็รู้สึกทานอะไรไม่ลง เธอหันกลับไปมองรอบ ๆ โรงอาหารของพนักงานแต่มองไม่เห็นลินดา มู่ซีซีเดินออกจากโรงอาหารแล้วขึ้นลิฟต์กลับไปที่แผนกการลงทุนทันที
ทันทีที่เธอออกจากลิฟต์ มู่ซีซีก็เห็นลินดากับชูเหยาและเพื่อนร่วมงานหญิงสองสามคนนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนานพร้อมกับประทานประอาหารที่สั่งจากเดลิเวอรีอยู่ในสำนักงานของแผนกการลงทุน
บริษัทจี้ซือนั้นดูแลพนักงานได้รับค่าตอบแทนและสวัสดิการที่ดีเสมอมา อาหารในโรงอาหารของพนักงานนั้นอร่อยมาก ดีกว่าร้านอาหารข้างนอกบางร้านด้วยซ้ำ
ดังนั้นจึงมีพนักงานน้อยมากที่จะสั่งเดลิเวอรีมาทานด้วยตัวเองเช่นนี้ มู่ซีซีมองดูชื่อร้านอาหารบนกล่องโดยไม่รู้ตัว
นั่นคือชื่อร้านอาหารระดับห้าดาว ซึ่งมีชื่อเสียงมากในเมืองหรง
เกรงว่าจะไม่มีใครอื่นนอกจากชูเหยาที่สามารถสั่งอาหารเดลิเวอรีร้านอาหารระดับห้าดาวมาทานแบบนี้แน่นอน
มู่ซีซีมองไปที่ท่าทางที่มีความสุขและเสียงหัวเราะของชูเหยาและลินดาแล้ว และเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว เธอไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ชูเหยาต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน!
เมื่อวานนี้เธอก็พันผ้าพันคอไหมพรมสีดำผืนนี้เช่นกัน แต่ลินดากลับไม่ได้อยากรู้อยากเห็นที่จะเข้ามาและดึงผ้าพันคอไหมพรมสีดำของเธอเลยนี่นา เมื่อวานนี้ในห้องน้ำมีเพียงชูเหยาเท่านั้นที่ดึงผ้าพันคอไหมพรมของเธอออก และเห็นรอยจูบเหล่านั้น
มือของมู่ซีซีที่แนบอยู่ข้างกายกำหมัดแน่น แต่นี่เป็นเพียงการคาดเดาของเธอเท่านั้น เธอไม่มีหลักฐานดังนั้นการคาดเดานั้นก็ไร้ประโยชน์!
ในขณะที่มู่ซีซีคิดอยู่นั้นเธอก็เดินตรงเข้าไปหาลินดา
เมื่อเธอเดินถึงตรงหน้าลินดาและก่อนที่ลินดาจะทันได้ตอบโต้ มู่ซีซีได้เอื้อมมือออกไปคว้าแขนของลินดาทันที
ลินดาตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของมู่ซีซี เมื่อเธอเห็นว่าเป็นมู่ซีซีทันใดนั้นเธอก็แสดงสีหน้าน่ารังเกียจออกมาและต้องการจะสะบัดมือของมู่ซีซีทิ้งไป: “มู่ซีซี! นี่แกเป็นบ้าอะไร แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
ครั้งนี้ไม่เพียงแต่มู่ซีซีจะไม่ปล่อยมือแล้ว แต่ยังจับมือของลินดาแน่นขึ้นไปอีก มู่ซีซีจ้องไปที่ลินดาอย่างเย็นชาและพูดออกมาทีละคำ: “ลินดา ข่าวลือทั้งหมดเธอเป็นคนแพร่กระจายออกไปใช่ไหม?!”
ลินดาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และหลังจากได้สติคืนกลับมา เธอยิ้มเยาะอย่างมีชัยแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาพูดกับมู่ซีซีว่า: “มู่ซีซี นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ ทำไมฉันฟังไม่เข้าใจเลยล่ะ?”
มู่ซีซีหัวเราะเยาะเย้ยด้วยความโกรธ เธอจ้องไปที่ลินดาพร้อมพูดขึ้นว่า: “ลินดา อยู่ต่อหน้าฉันเธอจำเป็นต้องเสแสร้งทำอีกเหรอ?! พวกเธอสารภาพจนหมดแล้ว ข่าวลือทุกอย่างแพร่กระจายมาจากปากของเธอ!”
ลินดารู้สึกโกรธกับท่าทีที่กดดันของมู่ซีซี เธอรีบสะบัดมือของมู่ซีซีออกอย่างแรงทันที และเดินก้าวเข้าไปใกล้มู่ซีซี: “ใช่! ฉันเป็นคนแพร่กระจายข่าวลือนี้ออกไปเอง แล้วไงล่ะ ?!ก็มันเป็นเรื่องจริงนี่นา! แม้ว่าฉันจะไม่ได้เป็นคนพูด ทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ตอนนี้รู้สึกละอายใจแล้วเหรอ? ถ้ามีปัญญาก็ไปอุดปากทุกคนให้หมดสิ!”
มู่ซีซีมองดูท่าทางที่หยิ่งผยองของลินดาแล้วเธอก็ตัวสั่นไปทั้งตัว และอดไม่ได้ที่จะตบหน้าของลินดาอย่างแรง
“เพี้ยะ” หลังจากเสียงตบดังขึ้น ทันใดนั้นในสำนักงานก็ตกอยู่ในความเงียบอย่างประหลาด
ความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านอยู่บนแก้มทำให้ลินดาต้องยกมือขึ้นจับแก้มและเงยหน้าขึ้นมองมู่ซีซีที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เธอจ้องมองมู่ซีซี และพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุเดือดว่า: “แก แกกล้าตบฉันเหรอ!”
มู่ซีซีจ้องมองลินดาอย่างไม่เกรงกลัวและพูดขึ้นทีละคำว่า: “เธอปล่อยข่าวลือทำลายชื่อเสียงของฉัน และฉันตบเธอคืน บัญชีนี้ถือว่าเคลียร์จบแล้ว!”
มู่ซีซีไม่เคยเป็นคนพาลและไม่ใช่คนที่รังแกคนอื่นก่อน ถ้าไม่รุกรานฉัน ฉันก็ไม่เคยไปรุกรานใครก่อน ลินดาจงใจทำให้เธออับอายขายขี้หน้าอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเช่นนั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าลินดาเช่นกัน
ทันทีที่มู่ซีซีพูดจบ ลินดาก็พุ่งเข้าหามู่ซีซีอย่างบ้าคลั่ง ลินดากระโจนเข้าใส่มู่ซีซีแต่มู่ซีซีเตรียมพร้อมไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว เธอขมวดคิ้วและหลบไปอีกทาง
เพื่อนร่วมงานหญิงอีกคนที่มักซุบซิบนินทากับลินดาบ่อย ๆ เห็นว่าเหตุการณ์เริ่มบานปลายแล้ว จึงรีบเข้าไปดึงลินดาและพูดอย่างใจเย็นว่า: “ลินดา ใจเย็น ๆ อย่าหุนหันพลันแล่น! ที่นี่เป็นที่ทำงาน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้จัดการมาเห็นพวกเธอทั้งสองคนทะเลาะตบตีกันอยู่ที่นี่!”
เพื่อนร่วมงานคนนั้นกอดลินดาเอาไว้ ลินดายังคงดิ้นรนอย่างไม่พอใจ และต้องการเข้าไปทำร้ายมู่ซีซี เพื่อนร่วมงานหญิงคนนั้นรีบพูดว่า: “ลินดา ใจเย็น ๆ เธอใจเย็น ๆสิ! ถ้าผู้จัดการเห็นพวกเธอทั้งสองตบตีกันในสำนักงานแบบนี้แล้วล่ะก็ ผู้จัดการจะต้องไล่พวกเธอทั้งสองออกอย่างแน่นอน มู่ซีซีเป็นแค่เด็กฝึกงานเท่านั้นถ้าถูกไล่ออกก็ไม่ได้มีผลอะไร แต่เธอเป็นพนักงานเต็มตัว!เธอทำงานอยู่ในบริษัทจี้มาก็หลายปีแล้ว บางทีเธออาจจะได้เลื่อนตำแหน่งก็เป็นได้ ถ้าตอนนี้เธอโดนไล่ออก มันคุ้มกันไหมล่ะ!”

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset