รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 270 ยัยมือที่สาม!!!

ตอนที่เพื่อนร่วมงานหญิงเมื่อกี้สบตากับสายตาที่ประหลาดใจของมู่ซีซีจึงพากันเก็บสายตากลับไป หลบสายตามู่ซีซีจนมู่ซีซีไม่รู้จะพูดกับพวกเธอยังไงดี
ยังดีที่ลิฟต์ไปถึงชั้นห้องอาหารพอดี เสียงดังติ๊ด ประตูลิฟต์ค่อยๆเปิดออก มู่ซีซีจึงเดินออกจากลิฟต์คนแรก
เพิ่งเดินเข้าห้องอาหารพนักงานมู่ซีซีก็รู้สึกได้ว่าสายตาของทุกคนเอาแต่มองมาที่เธอ แล้วสายตาแบบนั้นเหมือนกับสายตาที่ดูถูกไม่แยแสของเพื่อนร่วมงานในลิฟต์เป๊ะเลย
เหมือนเห็นของอะไรที่สกปรกมากอย่างนั้น
โดนทุกคนจ้องแบบนี้ มือของมู่ซีซีที่ถือจานชามไว้จึงถือไว้แน่นกว่าเดิม
เธอกัดริมฝีปากเบาๆ มู่ซีซีไม่สนใจสายตาของคนพวกนั้น กำลังถือจานไปต่อแถมตักข้าว แต่มู่ซีซีเพิ่งก้าวเดินไป ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่แผนกอื่นก็เดินมาทางมู่ซีซี ตอนที่เดินผ่านมู่ซีซี อยู่ๆก็เดินชนไหล่เธอแรงๆ
มู่ซีซีไม่ทันตั้งตัว โดนผู้หญิงคนนั้นชนกะทันหัน ถ้าไม่ใช่จับโต๊ะข้างๆไว้ มู่ซีซีคงล้มลงไปแล้ว
ผู้หญิงคนนั้นออกแรงหนักมาก ชนจนไหล่ของมู่ซีซีรู้สึกปวด
แล้วที่สำคัญคือผู้หญิงที่ชนมู่ซีซีเมื่อกี้เหมือนตั้งใจเดินมาชนเธอ!
มู่ซีซีไม่ได้ส่งเสียงอะไร แต่ผู้หญิงที่เดินชนเธอเมื่อกี้กลับเอ่ยขึ้นก่อน มองมาที่มู่ซีซีด้วยสีหน้าดูถูกรังเกียจพร้อมพูดเสียดสีว่า “โอ๊ย นี่มู่ซีซีแผนกการลงทุนไม่ใช่เหรอ เธอทำท่าทางน่าสงสารแบบนี้ให้ใครดู? ต่ำทรามจริงๆ! เสียดายที่ฉันไม่ใช่ผู้ชาย ไม่งั้นต้องสงสารเธอแน่นอน!”
ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งพูดจบ รอบๆจึงมีผู้หญิงอีกสามคนเดินมาหาผู้หญิงคนเมื่อกี้ แล้วล้อมมู่ซีซีไว้ตรงกลาง
มู่ซีซีเงยหน้ามองผู้หญิงที่ชนตัวเองเมื่อกี้ แล้วมองกวาดผู้หญิงคนอื่นๆที่ยืนล้อมเธออยู่
นี่จงใจหาเรื่องงั้นเหรอ?
“ใช่ ฉันคือมู่ซีซีแผนกการลงทุน แต่ว่าฉันไม่รู้จักคุณ ไม่เคยมีเรื่องกับคุณด้วย เพราะฉะนั้นคุณจะใช้คำพูดแบบนั้นมาทำร้ายฉันไม่ได้ แบบนี้จะทำให้ตัวคุณเองดูเหมือนพ่อแม่ไม่สั่งสอน” มู่ซีซีไม่เคยหาเรื่องอยู่แล้ว แต่ก็ไม่กลัวว่าจะมีเรื่อง เธอจึงมองผู้หญิงที่ชนตัวเองเมื่อกี้ด้วยสายตาที่เยือกเย็น
ทั้งสองสบตากัน พอผู้หญิงคนนั้นได้ยินมู่ซีซีพูดแบบนี้ หน้าจึงแดงขึ้นมาทันที สายตามีแต่ความโกรธแล้วเอาแต่จ้องมู่ซีซี จากนั้นก็พูดกัดฟันแน่นออกมาว่า “มู่ซีซี แกยังกล้ามาด่าฉันว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนเหรอ!!! เหอะ แกต่างหากที่พ่อแม่ไม่สั่งสอน! อายุยังเด็ก ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ก็รู้จักไปยั่วผู้ชายแล้ว เป็นมือที่สาม แกยังมีหน้ามาลอยหน้าลอยตาอีกเหรอ?”
พอผู้หญิงคนนั้นเพิ่งพูดจบ ผู้หญิงอีกสามคนที่ยืนล้อมมู่ซีซีอยู่ก็ด่าออกมาอย่างโกรธแค้นว่า “ใช่ ต่ำทรามมาก ยังตอแหลทำเป็นผู้ดีอีก ดูท่าทางมันสิ หน้าด้านจริงๆ ตอนที่ไปยั่วผู้ชายก็จงใจทำให้ตัวเองตัวเปียก คงโดนผู้ชายสั่งสอนบนเตียงมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วมั้ง!”
ผู้หญิงพวกนั้นทั้งไม่แยแสแล้วดูถูกมู่ซีซี แต่ในใจกลับอิจฉาแล้วก็เกลียดจะเป็นบ้า
อิจฉาแล้วก็เกลียดที่มู่ซีซีสามารถยั่วยวนผู้ชายที่พวกเธอใฝ่ฝันอยากจะได้อย่างจี้หลิงชวน!
เพราะชูเหยาเป็นคนที่จี้หลิงชวนยอมรับเองว่าเป็นแฟน เพราะฉะนั้นพวกเธอจึงรู้สึกอิจฉาชูเหยาแต่ไม่กล้าทำอะไรชูเหยา
แต่มู่ซีซีไม่เหมือนกัน มู่ซีซีไม่มีเบื้องหลังอะไรเลย เป็นแค่นักศึกษาปีสอง ถ้าพวกเธอจะทำอะไรมู่ซีซี นี่ถือเป็นเรื่องที่ง่ายมาก!
บวกกับที่มู่ซีซีถูกตีตราว่าเป็นมือที่สามอีก เพราะฉะนั้น จึงมีข้ออ้างที่จะรังแกมู่ซีซี
เหตุผลที่พวกเธอกล้าทำอย่างเปิดเผยแบบนี้ก็เพราะในใจรู้ดี ถึงแม้จะรังแกมู่ซีซีต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ ไม่มีทางมีคนมาช่วยมู่ซีซีแน่นอน
เพราะสำหรับมือที่สาม ทุกคนรู้สึกเกลียดมาก!!!
ตอนนี้พนักงานทั้งบริษัทจี้ซือคงกำลังรอดูความอับอายของมือที่สามอย่างมู่ซีซีอยู่!
คำพูดที่ไม่น่าฟังพวกนั้นลอยเข้าหูมู่ซีซีทีละคำ จนมู่ซีซีโกรธจนหน้าซีด
เห็นว่าผู้หญิงพวกนี้ยังพูดอยู่ มู่ซีซีจึงโมโหแล้วเดินก้าวไปหา สายตาที่เยือกเย็นก็เอาแต่จ้องผู้หญิงคนนั้นไว้แล้วพูดออกมาทีละคำว่า “เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ? ฉันคือมือที่สาม? ฉันไปยั่วผู้ชาย?”
“เหอะ ยัยมู่ซีซี แกไม่อยากยอมรับงั้นเหรอ!” ผู้หญิงคนนั้นมองมู่ซีซีอย่างไม่แยแสพร้อมพูดเสียดสีว่า “แกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ! งั้นฉันก็จะให้แกดูให้เต็มตา! ดูสิว่าแกจะแก้ตัวยังไงอีก!”
ขณะพูดผู้หญิงคนนั้นก็เปิดโทรศัพท์ตัวเอง แล้วหาอีเมลฉบับนั้น กดเปิดอัลบั้มรูปภาพแล้วยื่นไปตรงหน้ามู่ซีซี “ตอนนี้แกมีอะไรจะแก้ตัวอีกไหม?”
สายตามู่ซีซีหันมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ที่ยื่นมาหาตัวเอง จึงเห็นบนหน้าจอเป็นรูปภาพที่เมื่อวานเธอจูบกับจี้หลิงชวนที่หน้าป้ายรถประจำทาง นี่เรื่องอะไรกันเนี่ย!
ทำไมในโทรศัพท์พวกเธอถึงมีรูปถ่ายพวกนั้น?
มู่ซีซีเบิกตาโตอย่างไม่อยากเชื่อแล้วยืนอึ้งนิ่งอยู่กับที่
ผู้หญิงที่ยืนล้อมมู่ซีซีอยู่ เห็นท่าทางมู่ซีซีที่ยืนอึ้งอยู่กับที่ จึงมองตาขวางใส่มู่ซีซีทั้งอิจฉาทั้งโกรธเกลียด
ผู้หญิงคนนั้นที่เป็นคนเริ่มมองมู่ซีซีแล้วพูดอีกว่า “เหอะ มู่ซีซี ทั้งๆที่แกรู้ว่าชูเหยาเป็นแฟนของคุณชายจี้ แกยังกล้าหน้าด้านไปยั่วคุณชายจี้อีก แกนี่หน้าไม่อายจริงๆ”
ฟังเสียงของผู้หญิงคนนั้น มู่ซีซีที่อึ้งนิ่งอยู่ค่อยดึงสติกลับมาได้ สายตาจึงอดมองกวาดไปรอบๆไม่ได้ จึงเห็นว่าสายตาทุกคนมองมาที่ตัวเองเหมือนกำลังดูอะไรสนุกๆอยู่
ตอนนี้มู่ซีซีเข้าใจสักที ทำไมตอนเที่ยงที่เธอเดินออกจากห้องทำงานแล้วเข้าลิฟต์ สายตาทุกคนที่มองมาถึงมีความดูถูก อาจจะเพราะรูปถ่ายเมื่อกี้ ทุกคนน่าจะเห็นกันหมดแล้ว
มู่ซีซีแค่ไร้เดียงสา แต่ไม่ได้โง่ เรื่องลามมาถึงขั้นนี้แล้ว แต่กลับไม่มีใครบอกมู่ซีซีเลย ไม่มีใครช่วยอธิบายให้เธอ โตมาขนาดนี้มู่ซีซีค่อยเข้าใจว่าคำพูดของคนเราสำคัญแค่ไหน
มู่ซีซีแค่ไร้เดียงสา แต่ไม่ได้โง่ ตอนนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เบื้องหลังต้องมีคนคอยจัดฉากอยู่แน่นอน!!!
มู่ซีซีสบตากับผู้หญิงที่เป็นคนหาเรื่องก่อน แล้วพูดปฏิเสธอย่างเยือกเย็นว่า “คุณแค่คิดไปเอง คุณชายจี้ไม่มีแฟน!”