รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 289 เรื่องเร่งด่วน?

“ตอนนี้สามารถรักษาให้หายได้ไหม?”
“มันสามารถรักษาให้หายได้ แต่กระบวนการรักษานั้นจะช้ามากและ…” คุณหมอเซี่ยจงใจพูดเว้นช่องว่าง เมื่อพูดถึงจุดนี้
จี้หลิงชวนขมวดคิ้วและถามคุณหมอเซี่ยว่า “และ ทำไมอย่างนั้นเหรอ?”
เสียงของคุณหมอเซี่ยค่อย ๆ ดังขึ้น “เพราะภาวะซึมเศร้าส่วนใหญ่ของคุณชูเหยา นั้นเกิดจากคุณ ดังนั้น หากคุณต้องการจัดการกับภาวะซึมเศร้าของคุณชูเหยาให้หายขาด จำเป็นที่คุณจะต้องให้ความร่วมมือ”
ในใจของจี้หลิงชวน เดิมทีเขาก็รู้สึกผิดต่อชูเหยามาโดยตลอด ตอนนี้พอเขาได้ยินสิ่งที่คุณหมอเซี่ยพูด เขาขมวดคิ้วอย่างไม่ต้องสงสัยและถามต่อไปว่า “แล้วผมต้องทำอย่างไร?”
หลังจากที่คุณหมอเซี่ยได้ยินคำถามของจี้หลิงชวน คุณหมอเซี่ยก็พูดต่ออย่างเป็นธรรมชาติว่า “คุณชายจี้ มันเป็นแบบนี้เพราะความหดหู่ใจของคุณชูเหยาส่วนใหญ่เกิดจากคุณ ดังนั้นในช่วงเวลาของการรักษาคุณชูเหยา ฉันหวังว่าคุณจะดีกับเธอให้มากที่สุด และทำตามความต้องการของคุณชูเหยา และอย่าทำอะไรที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเธอ”
จี้หลิงชวนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วหลังจากที่ได้ยินคำพูดของคุณหมอเซี่ย แต่เมื่อนึกถึงตอนที่ชูเหยาทานยานอนหลับกว่าสองร้อยเม็ดเพื่อฆ่าตัวตาย จี้หลิงชวนจึงรู้สึกกลัวขึ้นมา หากว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับชูเหยาล่ะก็ เกรงว่าจี้หลิงชวนคงจะไม่ให้อภัยตัวเองเป็นแน่
เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว จี้หลิงชวนจึงพยักหน้าให้กับคุณหมอเซี่ย”ตกลง ผมเข้าใจแล้ว ผมจะพยายามให้ความร่วมมือกับการรักษาของชูเหยาอย่างเต็มที่”
หลังจากที่ได้คุยกับคุณหมอแล้ว จี้หลิงชวนก็เดินตามคุณหมอเซี่ยกลับไปที่หน้าห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาล
เมื่อจี้หลิงชวนเดินเข้าไปห้อง ก็พบว่าชูเหยาได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
ซูเหยานอนอยู่ในห้องพักของผู้ป่วยด้วยใบหน้าซีดเซียว เมื่อเห็นจี้หลิงชวนเดินเข้ามา น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาเต็มหน้า เธอมองไปที่จี้หลิงชวนด้วยแววตาอันน่าสงสารและพูดออกมาเบา ๆ ว่า “หลิงชวน ฉันคิดว่าคุณกลับไปซะแล้ว… ”
เมื่อจี้หลิงชวนมองไปที่ชูเหยาผู้น่าสงสาร เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงอาการของ ชูเหยาในตอนนี้ จี้หลิงชวนจึงเดินเข้าไปนั่งลงที่ด้านข้างชูเหยาและพูดขึ้นว่า”เช้านี้ผมจะอยู่กับคุณที่โรงพยาบาล แต่คุณต้องให้ความร่วมมือกับแพทย์ในการรักษา”
ภาวะซึมเศร้าของชูเหยานั้นรุนแรงมาก จำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติตามแนวการรักษาอย่างเคร่งครัด และตอนนี้ชูเหยาจำเป็นต้องมีคนคอยอยู่เป็นเพื่อน เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ
เมื่อชูเหยาได้ฟังคำพูดของจี้หลิงชวนเช่นนั้นแล้ว ชูเหยาก็แสร้งพูดและทำตัวน่าสงสาร”หลิงชวน ฉันต้องร่วมมือกับแพทย์ในการรักษาทุกวันหรือเปล่า? แต่ฉันไม่อยากกินยา…และไม่อยากฉีดยาด้วย…”
ชูเหยาพูดจบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็หันไปมองจี้หลิงชวนและพูดขึ้นอีกครั้งอย่างระมัดระวัง “หลิงชวน คุณจะมาอยู่เป็นเพื่อนฉันทุกวันได้ไหม? ถ้าหากว่าฉันเชื่อฟังคุณ และยอมทำตามการรักษาของแพทย์ คุณมาอยู่เป็นเพื่อนฉันทุกวันได้ใช่ไหม ?”
ชูเหยาพูดขึ้นพลางมองดูจี้หลิงชวนที่กำลังขมวดคิ้วและไม่มีท่าทีว่าจะพูดอะไรออกมา เธอกลัวว่าจี้หลิงชวนจะไม่เห็นด้วย จึงรีบอธิบายต่อไปว่า”คุณไม่จำเป็นต้องอยู่กับฉันเป็นเวลานานๆหรอก ต้องการแค่วันละหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น…แค่ชั่วโมงเดียว…หลิงชวน ได้ไหม?”
เขามองดูชูเหยาผู้น่าสงสารด้วยความระมัดระวัง เดิมทีจี้หลิงชวนก็รู้สึกผิดต่อชูเหยาเป็นอย่างมากอยู่แล้ว ประกอบกับการที่เขาไปสัญญากับคุณหมอเซี่ยว่าจะให้ความร่วมมือในการรักษาชูเหยา ตอนนี้จี้หลิงชวนกำลังเผชิญกับดวงตาที่คาดหวังของชูเหยา เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้าตอบตกลง”ได้ หากเธอให้ความร่วมมือและเชื่อฟังแพทย์แล้ว ฉันจะหาเวลาหนึ่งชั่วโมงของทุกบ่ายมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ”
เมื่อชูเหยาได้ฟังคำตอบตกลงของจี้หลิงชวน ทันใดนั้นใบหน้าอันขาวซีดของชูเหยาก็ปรากฏรอยยิ้มอันอ่อนหวานออกมา เธอยื่นมือออกไปดึงแขนเสื้อของจี้หลิงชวนอย่างระมัดระวังและพูดขึ้นว่า”หลิงชวน ถ้าคุณมาอยู่เป็นเพื่อนฉันล่ะก็ ฉันจะเชื่อฟังคุณหมอและทำตามที่คุณหมอพูด”
จี้หลิงชวนดึงแขนเสื้อออกจากมือของชูเหยาด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง จากนั้นก็เหลือบมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือและพูดกับชูเหยาขึ้นว่า”ตอนนี้สายมากแล้ว เธอพักผ่อนก่อนเถอะ ฉันจะกลับไปทำงานที่บริษัทก่อน หากมีเรื่องอะไรก็ค่อยโทรหาฉันนะ ”
เมื่อพูดจบจี้หลิงชวนก็ลุกขึ้นทันที ชูเหยาซึ่งเห็นว่าจี้หลิงชวนกำลังจะจากไป เธอรู้ว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้เขาอยู่ต่อ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าอย่างเชื่อฟังและพูดอย่างระมัดระวังกับจี้หลิงชวนว่า “หลิงชวน แล้วเย็นนี้คุณจะมาหาฉันไหม?”
เมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาที่คาดหวังของชูเหยา จี้หลิงชวนก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าให้กับชูเหยาและพูดว่า “ได้สิ ตอนเย็นผมจะมาหาคุณ”
เมื่อเห็นแผ่นหลังของจี้หลิงชวนค่อยๆเดินไกลออกไป ชูเหยาซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลก็แสยะยิ้มแสดงความพอใจออกมา
เธอดูอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก อันที่จริง เธอแค่ใช้ความรู้สึกผิดของจี้หลิงชวนที่มีต่อเธอมาหลอกใช้เขา ตอนนี้เธอบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการแล้ว ต่อไปถ้าจี้หลิงชวนสามารถมาอยู่เป็นเพื่อนเธอได้ทุกวัน วันละหนึ่งชั่วโมงจริงล่ะก็ เธอกับเขาก็จะค่อยๆปลูกฝังความสัมพันธ์ที่ดี ชูเหยามั่นใจว่าจะสามารถยึดหัวใจของจี้หลิงชวนกลับมาได้อีกครั้งอย่างแน่นอน!
ส่วนมู่ซีซีไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับชูเหยาเลย เธอยังคงทำงานในแผนกการลงทุน เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงจี้หลิงชวนก็โทรเข้ามาและขอให้มู่ซีซี ขึ้นไปที่ห้องทำงานของประธานเพื่อรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน
มู่ซีซีปฏิเสธไม่ได้ จึงทำได้เพียงแค่ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนอย่างเชื่อฟัง
เมื่อเธอมาถึงที่ห้องทำงานของประธาน หลังจากที่ฟางเซิ่งเอาอาหารเข้ามาส่งเสร็จเขาก็ออกจากห้องไป
มู่ซีซีนั่งลงตรงข้ามกับจี้หลิงชวน เธอค่อยๆเปิดกล่องอาหาร กลิ่นหอมๆของอาหารในกล่องตลบอบอวลไปทั่วห้อง
มู่ซีซีอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ เธอมองอาหารเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้าของตัวเองและอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่จี้หลิงชวนด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย อาหารเหล่านี้ล้วนแต่เป็นอาหารจานโปรดของเธอทั้งนั้น!
จี้หลิงชวนมองเห็นสายตาที่ดูมึนงงของมู่ซีซีที่มองมายังเขา ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เขายกมือขึ้นและลูบไปที่ผมอันนุ่มลื่นของมู่ซีซี จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “หยุดจ้องฉันได้แล้ว ลองชิมดูสิว่าชอบไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดที่ดูอ่อนโยนจากจี้หลิงชวน มู่ซีซีก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นขึ้นมาในใจ มู่ซีซียิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าและหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหาร
ไม่เสียชื่อที่เป็นอาหารที่ปรุงโดยเชฟของร้านอาหารระดับห้าดาวจริงๆ ไม่ใช่แค่ดูดี แต่ยังอร่อย แม้ว่าอาหารในโรงอาหารสำหรับพนักงานของบริษัทจี้ซือจะรสชาติดีมากอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีความแตกต่างกับรสชาติอาหารที่ซื้อมาอยู่เล็กน้อย
เมื่อมู่ซีซีได้ทานอาหารที่อร่อย ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้น
และจี้หลิงชวนที่นั่งตรงข้ามเห็นมู่ซีซีกินอย่างมีความสุข ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะเขาทานอาหารมากกว่าปกติโดยที่เขาก็ไม่รู้ตัว
มู่ซีซียังคงมีเรื่องอะไรอยู่ในใจ เมื่อเห็นว่าจี้หลิงชวนทานเกือบจะอิ่มแล้ว มู่ซีซีก็วางตะเกียบลง จากนั้นก็มองไปที่จี้หลิงชวนและถามคำถามลองเชิงขึ้นว่า“จี้หลิงชวน ตอนเช้าที่เรามาถึงบริษัท คุณรับโทรศัพท์สายหนึ่งจากนั้นก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว มีเรื่องสำคัญอะไรเกิดขึ้นเหรอ?”

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset