รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 35 ขอจูบ

เมื่อมู่ซีซีได้ยินคำพูดของจี้หลิงชวน เธอตกอยู่ในความงุนงงทันที วินาทีถัดมา ใบหน้าหล่อเหลาของจี้หลิงชวนก็ใกล้เข้ามู่ซีซี
มู่ซีซีตกใจและลืมหลบหลีก เธอจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของจี้หลิงชวนที่ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จากนั้นมู่ซีซีสัมผัสได้ว่าริมฝีปากของเธอนั้นนุ่มยิ่งขึ้น หลังจากที่ตระหนักได้เธอก็พบว่าเป็นริมฝีปากของจี้หลิงชวนที่ขยับใกล้เข้ามา
ยังไม่ทันที่มู่ซีซีจะโต้ตอบ จี้หลิงชวนกลับแสดงท่าทางที่ไม่พอใจ ทันใดนั้นริมฝีปากของมู่ซีซีก็สัมผัสได้ถึงการกัดเบาๆ
สัมผัสที่ไม่รุนแรง แต่ริมฝีปากนั้นก็เปราะบางเป็นเดิมทีอยู่แล้ว เมื่อโดนจี้หลิงชวนกัดเช่นนี้ ด้วยความเจ็บปวดมู่ซีซีก็เปิดริมฝีปากออกโดยไม่รู้ตัว
เธอไม่ได้คาดคิดว่าจี้หลิงชวนจะคำนวณแผนการไว้แล้ว ขณะที่ริมฝีปากของเธอเปิดออก เขาได้บุกรุกเข้าไปในริมฝีปากมู่ซีซีอย่างล้ำลึก เขาจู่โจมเข้ามาอย่างก้าวร้าวราวกับจะแสดงความเป็นเจ้าของและซึมซับความงดงามของมู่ซีซี
หลังจากการจูบลึกล้ำสิ้นสุดลง การจูบของจี้หลิงชวนทำให้สมองของมู่ซีซีนั้นขาวโพลน กระทั่งริมฝีปากบางของจี้หลิงชวนผละออกไปจากริมฝีปากบวมและแดงของมู่ซีซี ความรู้สึกนึกคิดในสมองของเธอก็ค่อยๆฟื้นคืนกลับมา
มู่ซีซีเงยหน้าขึ้นมองจี้หลิงชวนโดยไม่รู้ตัว เธอเห็นจี้หลิงชวนหรี่สายตามองเธอด้วยท่าทางที่พอใจ มุมปากของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มบางเบาและกล่าวว่า “อืม morning kiss มู่ซีซี หลังจากนี้เธอต้องคิดได้เองและปรับตัวให้มากกว่านี้”
ต้องบอกเลยว่าจี้หลิงชวนนั้นร้ายกาจมากจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่เขากำลังยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้ายและใช้สายตาเฉียบคมจ้องมองเธอ ท่าทางดูหมิ่นเหยียดหยามแบบนี้มันค่อนข้างที่จะร้ายกาจเกินไปสำหรับหญิงสาว
ทันทีที่มู่ซีซีได้ยินคำกล่าวนั้น แก้วขาวราวหิมะของมู่ซีซีก็แดงระเรื่ออย่างรวดเร็ว
หัวใจที่กำลังเต้นอย่างนิ่งสงบราวกับถูกกระตุ้นด้วยบางสิ่งทำให้อัตราการเต้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
มู่ซีซีรีบก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเธอรีบละสายตาด้วยความตื่นตระหนกและรีบกล่าว “ฉัน ฉันต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว!”
ขณะที่เธอกล่าว มู่ซีซีรีบวิ่งไปยังห้องเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่มู่ซีซีย้ายเข้ามาเมื่อคืนนี้ สาวใช้ที่ชื่อป้าหลิงก็ได้นำเสื้อผ้าของมู่ซีซีเข้ามาจัดเก็บไว้ในห้องเสื้อผ้า
ภายในห้องเสื้อผ้า มู่ซีซีรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าจากนั้นก็รีบไปล้างหน้าบ้วนปาก เมื่อมู่ซีซีกลับมายังห้องนอนเพื่อหยิบกระเป๋า เธอก็เห็นจี้หลิงชวนยังคงนอนอยู่บนเตียงอย่างเกียจคร้าน
ทันทีที่สายตาของเธอสบสายตากับจี้หลิงชวนเหมือนกับว่าเธอกำลังโดนน้ำร้อน เธอรีบละสายตาอย่างรวดเร็ว
เธอรีบกล่าว “คุณชายจี้ ฉันขอตัวก่อน”
“ด้านนอกมีคนขับรออยู่ เธอให้คนขับรถไปส่ง”
“โอ้ รู้แล้ว” มู่ซีซีตอบรับ เกรงว่าจี้หลิงชวนจะเกิดความคิดที่ไม่ดีขึ้นมาอีก ใบหน้าแดงก่ำรีบคว้ากระเป๋าและวิ่งลงไปชั้นล่าง
ขณะที่มู่ซีซีเดินลงบันไดไปยังห้องรับแขก ป้าหลิงรีบเดินออกมาจากในครัวอย่างรีบเร่งและกล่าวทักทายเธออย่างสุภาพ “คุณมู่ อาหารเช้าเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว คุณจะทานตอนนี้เลยไหม?”
“ขอบคุณป้าหลิง แต่ไม่ดีกว่า ฉันรีบ” ขณะที่มู่ซีซีกล่าวเธอก้มมองนาฬิกาข้อมืออย่างเร่งรีบ ตอนนี้เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง ต้องขับรถเร็วหน่อยเพื่อที่จะไปถึงได้ทันเวลา จะมีเวลาที่ไหนมากินข้าวเช้าได้อีก
หลังจากกล่าวจบ มู่ซีซีก็รีบวิ่งออกจากประตูของคฤหาสน์
เมื่อออกมาด้านนอกคฤหาสน์แล้วเธอเห็นรถหรู BMW 7จอดรออยู่บริเวณประตู
คนขับยืนอยู่ข้างรถ เมื่อเห็นว่ามู่ซีซีออกมาแล้วเขากล่าวทักทายอย่างเคารพ “คุณมู่ สวัสดี ผมเป็นคนขับรถของคุณ คุณจะไปที่ไหน? ผมจะไปส่งคุณ”
ขณะนี้มู่ซีซีกำลังรีบ เธอไม่มีเวลาประทับใจอะไรจี้หลิงชวน เธอมองไปยังคนขับรถและกล่าว “ไปภัตตาคารเว่ยหรานในใจกลางเมือง ขอแบบด่วนเลย ขอบคุณ”
คนขับรถชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นทางทีกังวลและรีบร้อนอย่างมู่ซีซี จากนั้นเขารีบเอื้อมมือออกไปเปิดประตูให้กับเธอ “รับทราบ คุณมู่”
เขากล่าวและรีบขึ้นรถจากนั้นเขาก็สตาร์ทรถและออกตัวในทันที
คนขับรถรู้ว่ามู่ซีซีกำลังรีบ ดังนั้นเขาจึงเร่งความเร็วขึ้น และสุดท้ายภายในครึ่งชั่วโมงก็จุดหมาย รถจอดลงบริเวณหน้าภัตตาคารเว่ยหรานในใจกลางเมือง
เมื่อเห็นว่าถึงภายในใจเวลาที่พอเหมาะ ไม่สาย มู่ซีซีก็รู้สึกโล่งใจ เธอเปิดประตูรถและลงจากรถและกล่าวขอบคุณคนขับ จากนั้นเธอก็รีบวิ่งเข้าไปภายในภัตตาคาร
เมื่อภารกิจเสร็จสิ้น คนขับรถก็ขับรถกลับมา ระหว่างทางเขาก็ได้โทรรายงานกับคุณชายจี้ “คุณชายจี้ ส่งคุณมู่ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย”
จี้หลิงชวนพยักหน้าอย่างพึงพอใจและกดวางสาย จี้หลิงชวนลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน เขาสวมเชิ้ตสีขาวและชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม
หลังจากที่เขาผูกเนคไทเขาก็ตรวจเช็คความเรียบร้อย จากนั้นจี้หลิงชวนก็ก้าวออกจากห้องและลงไปชั้นล่าง
หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว ฟางเซิ่งก็หอบหิ้วเอกสารมาให้เขา
เขายืนข้างกายจี้หลิงชวนด้วยความเคารพพร้อมกับกล่าวรายงานอย่างชัดถ้อยชัดคำ “คุณชายจี้ วันนี้ทีมจากสหรัฐอเมริกามาถึงช่วงเที่ยง เนื่องจากความเร่งด่วนของเวลา พวกเขาจึงได้นัดกันที่ภัตตาคารเว่ยหรานในช่วง10โมงเช้าของวันนี้ คุณชายจี้ คุณจะไปที่นั่นด้วยตัวเองหรือไม่?”
ครั้งนี้ทีมจากสหรัฐอเมริกามาเพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการที่สำคัญมากกับจี้หลิงชวน
จี้หลิงชวนไม่ค่อยชอบวัฒนธรรมการดื่มไวน์สักเท่าไหร่ แต่โครงการในครั้งนี้นั้นสำคัญมาก จี้หลิงชวนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ผิดพลาด ในขณะที่เขาคิด จี้หลิงชวนเงยหน้ามองฟางเซิ่งพร้อมกับกล่าว “ฉันจะไปเอง ฉันจะไปพบทีมงานที่รับผิดชอบโครงการนี้”
“รับทราบคุณชาย ผมจะเตรียมการให้เดี๋ยวนี้” ฟางเซิ่งกล่าวและรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรเคลียร์ตารางและจัดเตรียมงานให้กับเขา
หลังจากที่จัดเตรียมการแล้ว ฟางเซิ่งก็ได้ขับรถและพาจี้หลิงชวนไปยังภัตตาคาร
ในเวลาเดียวกัน ในภัตตาคารเว่ยหราน มู่ซีซีได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดสูทสีดำตัวเล็กและกระโปรงทรงเอของร้านอาหาร
บริเวณโถงทางเดินเธอได้พบกับเย่เฉี่ยวที่กำลังยืนอยู่ตรงมุมทางเดินและเธอกำลังร้องไห้อยู่ ไม่เพียงแต่เย่เฉี่ยวเท่านั้นที่อยู่บริเวณนั้น ด้านหน้าของเย่เฉี่ยวก็คือพี่หลี่ ผู้จัดการของมู่ซีซีและเย่เฉี่ยว
จุดประจำงานของเย่เฉี่ยวและมู่ซีซีนั้นไม่เหมือนกัน แต่ทั้งสองเป็นพนักงานเสิร์ฟประจำในภัตตาคาร
มู่ซีซีลังเลว่าจะเดินเข้าไปหาดีหรือไม่ ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงที่สั่นเทาของพี่หลี่ “เย่เฉี่ยว เย่เฉี่ยว! ปกติแล้วเห็นเธอเป็นคนที่สงบและจริงจัง ทำไมวันนี้เธอถึงทำผิดได้ร้ายแรงขนาดนี้! แขกที่มาที่นี่มีสักคนไหมที่พวกเราจะสามารถไปยั่วยุเขาได้? แต่เธอช่างกล้าดี! ฉันว่าเธอไม่ได้คิดอยากจะมาทำที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว!”
เย่เฉี่ยวที่ได้ยินเช่นนี้ เธอรีบเงยหน้าขึ้นและมองพี่หลี่ด้วยความตกใจพร้อมกับน้ำตาที่รินไหล เธอมองพี่หลี่ด้วยสีหน้าอ้อนวอนและกล่าว “พี่หลี่ ขอโทษ ขอโทษจริงๆ อย่าไล่ฉันออกเลยได้ไหม ฉันรู้ว่าฉันผิด อย่าไล่ฉันเลย..”
เมื่อมู่ซีซีได้ยินในสิ่งที่เย่เฉี่ยวกล่าว เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น เย่เฉี่ยวนั้นเป็นคนที่นิสัยดีมาก ผลงานของเธอก็ดีเยี่ยมและเธอยังคอยช่วยเหลือมู่ซีซีอยู่หลายต่อหลายครั้ง ดังนั้นความสัมพันธ์ของเธอและเย่เฉี่ยวนั้นค่อนข้างดีเลยทีเดียว
เมื่อเห็นเย่เฉี่ยวตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ มู่ซีซีจะทำเป็นไม่รับรู้ได้อย่างไร เมื่อคิดได้เช่นนั้นมู่ซีซีจึงก้าวเดินเข้าไปหาเย่เฉี่ยวและพี่หลี่

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset