รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 363 ไม่มีอะไรจะพูด

ถึงตอนนี้ชูเหยาก็ยังไม่ยอมแพ้แถมยังจะยั่วยุให้จี้หลิงชวนกับมู่ซีซีเข้าใจผิดกันอีก
ฟางเซิ่งที่อยู่ข้างๆเห็นท่าทางชูเหยาที่รนหาที่แบบนี้ จึงแอบไว้อาลัยในใจให้ชูเหยา!
พอจี้หลิงชวนฟังสิ่งที่ชูเหยาพูดจบแล้ว สายตาจึงเหลือบมองมู่ซีซีที่ยืนอยู่ข้างๆ
สายตาที่นิ่งเฉยของมู่ซีซีก็มองไปทางจี้หลิงชวนพอดี
พอสบตากัน มู่ซีซีจึงยิ้มอย่างเสียดสีเย็นชาให้จี้หลิงชวน
จี้หลิงชวนจับมือมู่ซีซีไว้แน่นกว่าเดิม ในใจก็เกร็ง กลัวว่ามู่ซีซีจะเข้าใจผิด แล้วเชื่อสิ่งที่ชูเหยาพูด แต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้ในใจจี้หลิงชวนรู้ดี ไม่ว่าตัวเองจะอธิบายยังไงก็คงไม่มีประโยชน์
จี้หลิงชวนจึงหันมองไปทางชูเหยา สีหน้าเข้มขรึมเข้มงวดมาก
จี้หลิงชวนเม้มปาก ในสายตาที่ลึกลับก็มีไฟลุกโชนเพราะความโกรธ สายตาจ้องชูเหยาไว้ แล้วพูดออกมาทีละคำว่า “เหอะ ชูเหยา เด็กในท้องเป็นของฉันหรือเปล่าใจเธอรู้ดี แล้วเธอก็ไม่มีค่าพอที่จะต้องให้ฉันมาเสียเวลาแบบนี้!”
พูดจบสายตาจี้หลิงชวนจึงหันไปทางบอดี้การ์ดแล้วสั่งการอย่างเยือกเย็นว่า “เอาตัวขึ้นรถเดี๋ยวนี้!”
บอดี้การ์ดสองคนได้ยินจึงจับตัวชูเหยา ไม่สนใจว่าชูเหยาจะดิ้นหนีขนาดไหน แล้วเดินลากชูเหยาไปที่รถที่ฟางเซิ่งเป็นคนขับมา
ชูเหยาถูกลากขึ้นรถแล้วปิดประตูทันที จี้หลิงชวนจึงเก็บสายตาที่เยือกเย็นแล้วหันไปสั่งฟางเซิ่งว่า “ส่งไปที่โรงพยาบาลกลาง”
ฟางเซิ่งเอ่ยตอบรับ จากนั้นจี้หลิงชวนจึงจูงมือมู่ซีซีขึ้นรถของตัวเอง
บนรถมีแค่จี้หลิงชวนกับมู่ซีซีสองคน จี้หลิงชวนสตาร์ทรถแล้วแล่นออกมา
แล่นรถออกไปประมาณห้าหกนาทีกว่าแล้ว แต่ในรถกลับเงียบกริบ
สายตามู่ซีซีมองไปนอกหน้าต่าง สุดท้ายเป็นจี้หลิงชวนที่ทนไม่ไหวแล้วเอ่ยพูดทำลายความเงียบกับมู่ซีซีก่อน “ซีซี โรงพยาบาลที่ฉันหาเป็นโรงพยาบาลของรัฐ เป็นโรงพยาบาลกลางที่มีกฎหมายควบคุม ไม่ว่าผลจะออกมายังไงฉันก็จะไม่ทำอะไรตุกติกเด็ดขาด”
มู่ซีซีได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูด ค่อยหันไปมองเขา มู่ซีซีแค่ทอดมองเขาแต่ไม่ได้พูดอะไรเลย แล้วแค่พยักหน้าให้เขา
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น รถของจี้หลิงชวนกับฟางเซิ่งจึงแล่นไปถึงหน้าประตูโรงพยาบาลกลาง
พอจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีลงรถแล้วจึงเห็นชูเหยาโดนบอดี้การ์ดสองคนนั้นลากออกมาจากรถของฟางเซิ่ง
จากนั้นทุกคนจึงเดินเข้าไปในแผนกตรวจดีเอ็นเอ
จี้หลิงชวนเจาะเลือดตัวเองก่อน จากนั้นพยาบาลก็พาชูเหยาเข้าไปเจาะถุงน้ำคร่ำ
จี้หลิงชวนบอกกับพยาบาลว่าทำการตรวจดีเอ็นเออย่างเร่งด่วนให้ได้ผลตรวจภายในสิบสองชั่วโมง จากนั้นจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีจึงรออยู่หน้าแผนกตรวจ
เพราะคำพูดก่อนหน้านั้นของชูเหยา ในใจจี้หลิงชวนจึงกังวลว่ามู่ซีซีจะคิดมาก เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ได้กลับไป ต่อหน้ามู่ซีซี เขาไม่ได้เอาโทรศัพท์ออกมาด้วยซ้ำ
ตอนที่ชูเหยาเจาะถุงน้ำคร่ำเสร็จแล้วก็เอาแต่โวยวาย จี้หลิงชวนจึงให้บอดี้การ์ดสองคนพาชูเหยาไปสงบสติอารมณ์ในห้องพักฟื้น
จี้หลิงชวนกับมู่ซีซีจึงรออยู่ในแผนกตรวจไปประมาณสี่ชั่วโมง สุดท้ายเจ้าหน้าที่ในแผนกตรวจจึงนำรายงานผลตรวจออกมา
เจ้าหน้าที่ในแผนกถือรายงานผลตรวจเดินออกไป แล้วเดินไปทางจี้หลิงชวนกับมู่ซีซี
“คุณผู้ชายจี้คะ นี่เป็นผลตรวจดีเอ็นเอของคุณค่ะ”
จี้หลิงชวนเงยหน้ารับรายงานผลตรวจมา สายตาจึงมองกวาดไปตรงผลตรวจ สุดท้ายก็ตามที่จี้หลิงชวนคาดเดาไว้ เห็นบนกระดาษเขียนไว้ว่า “ทารกในครรภ์และจี้หลิงชวนความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรมเท่ากับศูนย์”
ตามคาด ลูกในท้องของชูเหยาไม่ใช่ลูกของจี้หลิงชวน!
พอจี้หลิงชวนดูผลตรวจแล้ว จากนั้นจึงรีบยื่นผลตรวจไปที่มือมู่ซีซี พร้อมอธิบายกับเธอว่า “ซีซี ผลตรวจออกมาแล้ว เด็กในท้องชูเหยาไม่ใช่ลูกของฉัน”
มู่ซีซีมองรายงานผลตรวจตรงหน้าตัวเอง บนนั้นเขียนไว้ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือด
สีหน้าของมู่ซีซีใจเย็นมองไม่ออกเลย แต่ว่าในใจลึกๆใจที่เกร็งอยู่ตลอดก็ค่อยโล่งไปที
เด็กคนนั้นไม่ใช่ของจี้หลิงชวน……เด็กที่ชูเหยาท้องไม่ใช่ของจี้หลิงชวนจริงๆ……
มู่ซีซียังไม่ทันได้โล่งใจ อยู่ๆก็รู้สึกอึ้ง ในใจก็มีคำถามเกิดขึ้นมาว่า เด็กคนนั้นไม่ใช่ของจี้หลิงชวนแล้วยังไง?
มู่ซีซี! เธอลืมเร็วขนาดนั้นเลยเหรอว่าชูเหยาเอารูปอะไรให้เธอดู?
ในรูป เป็นรูปเปลือยกายของชูเหยากับจี้หลิงชวน แถมรอยช้ำที่คลุมเครือบนตัวชูเหยาแค่มองก็รู้ว่าเป็นรอยจูบ
ถึงแม้เด็กในท้องของชูเหยาจะไม่ใช่ของจี้หลิงชวน แต่ก็ปฏิเสธความจริงที่จี้หลิงชวนเคยมีอะไรกับชูเหยาไม่ได้
จี้หลิงชวนเห็นคิ้วของมู่ซีซีที่เพิ่งคลายออกแต่กลับขมวดแน่นกว่าเดิม ในใจจึงสั่นเกร็ง มองสีหน้าของมู่ซีซี จี้หลิงชวนก็เดาออกแล้วว่าในใจเธอคิดอะไรอยู่ จากนั้นเขาจึงรีบจับมือเธอแล้วอธิบายว่า “ซีซี คืนนั้นฉันกับชูเหยาไม่ได้มีอะไรกัน ฉันโดนเขาหลอกวางยาแล้วสลบไป จะมีแรงไปทำอะไรแบบนั้นกับชูเหยาได้ยังไง?”
จี้หลิงชวนรู้ว่าที่อธิบายไปก่อนหน้านั้นก็แค่ลมปาก แล้วไม่มีหลักฐานอะไรด้วย แต่ว่าหลังจากที่รู้ผลตรวจแล้ว จี้หลิงชวนจึงมั่นใจสิ่งที่ตัวเองคาดเดา ตัวเองโดนชูเหยาหลอกจริงๆ คืนนั้นเขาโดนวางยาสลบไม่ได้ทำอะไรกับชูเหยาแน่นอน!
จี้หลิงชวนเห็นมู่ซีซีที่ทำหน้านิ่งเฉย จึงจูงมือมู่ซีซีไว้แล้วก้าวเดินไปที่ห้องพักฟื้นที่ชูเหยาอยู่
จี้หลิงชวนดันเปิดประตูแรงๆ จึงเห็นชูเหยาโดนบอดี้การ์ดสองคนกดตัวไว้บนเตียง
พอเห็นชูเหยา สีหน้าจี้หลิงชวนจึงเข้มขรึมทันที
จี้หลิงชวนจูงมือมู่ซีซีเดินไปหยุดลงตรงหน้าชูเหยา ทันใดนั้น จี้หลิงชวนจึงโยนผลตรวจในมือไปที่หน้าชูเหยา สายตาที่เยือกเย็นก็จ้องชูเหยาแล้วพูดทีละคำว่า “ชูเหยา ผลตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้ว เด็กในท้องเธอไม่ใช่ลูกของฉัน ตอนนี้เธอยังจะอ้างอะไรอีก?”
สถานการณ์ของจี้หลิงชวนกับชูเหยากำลังดุเดือด แล้วกี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น ตอนที่จี้หลิงชวนพาตัวชูเหยาออกจากคฤหาสน์ที่ถนนซีหยวนแล้ว คนรับใช้ที่รับผิดชอบดูแลชูเหยาจึงรีบโทรไปหาลู่เฉิงจินอย่างลนลานทันที

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset