รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 38 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!

เย่เฉี่ยวอดกลั้นความรังเกียจที่อยู่ในใจ รีบมองไปทางลูกผู้ดีมีที่เงินเอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานและพูด“พนักงานที่เพิ่งเข้าไปข้างในคนนั้นล่ะ?พวกคุณทำยังไงกับเธอ?!”
เย่เฉี่ยวเพิ่งจะพูดจบ ประตูห้องส่วนตัวด้านข้างก็ถูกคนผลักจากด้านในออกมากะทันหัน
เงารูปร่างสูงใหญ่ของผู้ชายเดินออกมา
ทางด้านเย่เฉี่ยวกับลูกผู้ดีมีที่เงินเอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานไม่ได้สังเกตถึงผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่เพิ่งออกมาจากในห้องส่วนตัว
ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือจี้หลิงชวนที่ให้ฟางเซิ่งที่พาคนสหรัฐอเมริกามาในภัตตาคารเว่ยหรานเพื่อพูดคุยเรื่องโครงการ
จี้หลิงชวนสายตาเย็นชากวาดมองกลุ่มลูกเศรษฐีที่อยู่บริเวณระเบียงทางเดิน ความรังเกียจและการดูถูกเหยียดหยามแวบผ่านดวงตาที่ลึกซึ้งยากจะคาดเดา
ฟางเซิ่งที่อยู่ด้านข้างเห็นสถานการณ์ พูดกับจี้หลิงชวนอย่างเคารพ “คุณชายจี้ ต้องการให้ผมเข้าไปนำคนพวกนี้ออกไปไหม?”
จี้หลิงชวนดึงสายตารังเกียจและดูถูกกลับมา เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านมาโดยตลอด เห็นสถานการณ์แบบนี้ก็ส่ายหัว“เรื่องโครงการพูดคุยเสร็จแล้ว พวกเรากลับ”
พูดพลางจี้หลิงชวนก็มองไปที่ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานเดินผ่านระเบียงทางเดินเข้าไป
ไม่มีวิธีอื่น พอดีกับที่ลิฟต์อยู่ด้านข้างระเบียงทางเดินที่มีลูกผู้ดีที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานยืนอยู่
ที่นี่คือชั้นห้า จี้หลิงชวนไม่มีเวลาจะเดินลงบันได
จี้หลิงชวนเดินผ่านทางนี้ไป ยิ่งได้ยินเสียงพนักงานหญิงสาวที่ทำงานที่ภัตตาคารแห่งนี้ตะโกนไปที่ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานสองสามคนอย่างใจร้อนและกังวล“คนล่ะ?เพื่อนร่วมงานฉันอยู่ที่ไหนแล้ว?ถูกพวกคุณพาไปไว้ที่ไหน?”
ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานที่เพิ่งจะผิวปากคนนั้นได้ยินเย่เฉี่ยวถามแบบนี้ หัวเราะด้วยท่าทางไม่สุภาพ ยิ้มอย่างมีลับลมคมในให้กับเย่เฉี่ยวและชี้ไปในห้องส่วนตัว“เพื่อนร่วมงานเธอคนนั้นโชคดีกว่าเธอมากนะ ถูกคุณชายถงของพวกเราชอบ ตอนนี้กำลังดูแลคุณชายถงอยู่!”
ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานตั้งใจพูดคำว่าดูแลด้วยน้ำเสียงเน้นย้ำ พูดอย่างมีเลศนัย
เพิ่งจะพูดจบ ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานที่อยู่ด้านข้างชั่วพริบตาเดียวก็หัวเราะฮ่าๆขึ้นมา
ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานคนนั้นที่เพิ่งจะพูดจบก็มองสังเกตสีหน้าของเย่เฉี่ยวยิ้มและพูด“สาวสวย ไม่งั้นเธอก็ไม่จบกับคุณชายถงพวกเราแน่ หลังจากนี้เธอก็ต้องรับผิดชอบ!”
จี้หลิงชวนที่เพิ่งจะเดินผ่านด้านข้างของสองสามคนนั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเข้ามาในหูของจี้หลิงชวน
นี้ยิ่งทำให้สายตาของจี้หลิงชวนมีความรังเกียจเพิ่มมากยิ่งขึ้น แม้แต่ฟางเซิ่งที่อยู่ด้านหลังก็มองไม่ลง
จี้หลิงชวนหยุดที่หน้าประตูลิฟต์ ฟางเซิ่งที่อยู่ด้านหลังรีบเดินขึ้นมาด้านหน้า รีบกดชั้นหนึ่ง เพียงแต่ลิฟต์ตอนนี้กำลังอยู่ชั้นหนึ่ง ขึ้นมาชั้นห้ายังต้องรออีกสามนาที
จี้หลิงชวนยืนอยู่ด้านข้างลิฟต์
ทางเย่เฉี่ยวได้ยินคำพูดของลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงาน ท่วมตัวก็อึ้งไปชั่วขณะ เย่เฉี่ยวรู้นิสัยของมู่ซีซีดี รู้ว่ามู่ซีซีพบเรื่องแบบนี้จะไม่มีทางประนีประนอมอย่างแน่นอน ตอนนี้มองเห็นสถานการณ์ที่เหล่าเศรษฐีเห็นมู่ซีซีต่อต้านก็จะข่มขืนมู่ซีซีที่นี่แล้ว!
เมื่อนึกถึงในใจของเย่เฉี่ยวก็เจ็บปวดเหมือนถูกไฟเผา เป็นความผิดของเธอ เป็นเธอที่ดึงมู่ซีซีเข้ามา เดิมทีก็ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับมู่ซีซี!
เป็นเพราะว่าเธอกลัวมู่ซีซีจึงเข้าไปในห้องส่วนตัว!
เมื่อนึกถึงเย่เฉี่ยวจะอดทนได้ที่ไหนกันล่ะ เบ้าตาแดง พุ่งเข้าไปในห้องส่วนตัวอย่างไม่คิดชีวิต
ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานเหล่านั้นเห็นท่าทางเย่เฉี่ยวบ้าคลั่งจิตใต้สำนึกก็สั่งให้หลบหลีก ยิ่งเห็นเย่เฉี่ยวใช้แรงบิดประตูห้องส่วนตัว
แต่ว่าประตูของห้องส่วนตัวถูกลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานสองสามคนนั้นล็อกประตูป้องกันไม่ให้มู่ซีซีวิ่งหนีออกมาด้านนอกได้ กุญแจยังอยู่ในมือของลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงาน
เย่เฉี่ยวเปิดประตูของห้องส่วนตัวยังไงก็เปิดไม่ออก ทำได้แค่ตบประตูห้องส่วนตัวแรงๆด้วยความรู้สึกผิดแล้วตะโกนเรียกเสียงดังพร้อมน้ำตาอาบแก้ม“ซีซี!มู่ซีซี!เธออยู่ในนี้ไหม เธอไม่ต้องกลัว ฉันมาช่วยเธอแล้ว!”
เย่เฉี่ยวเพิ่งจะพูดจบ เสียงลิฟต์ด้านข้างก็ค่อยๆเปิดออก แต่ว่าจี้หลิงชวนรู้ร่างสูงใหญ่ที่กำลังรอลิฟต์ก็แข็งทื่ออยู่ที่เดิม มองดูประตูลิฟต์ที่เปิดออก ไม่มีความคิดที่จะเข้าไปโดยสิ้นเชิง
เห็นได้ชัดวา ประโยคเมื่อกี้ของเย่เฉี่ยวดัวเข้ามาในหูของจี้หลิงชวนอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันที่ได้ยินมู่ซีซีสามคำนี้ เดิมทีสีหน้าของจี้หลิงชวนที่เย็นชาอยู่แล้วก็มืดครึ้มลงไปอีก แม้แต่อุณหภูมิทั่วทั้งร่างก็ลดลงหลายองศา!
ฟานเซิ่งมองดูท่าทางประธานบริษัทของตัวเอง แอบคิดในใจเงียบๆว่าลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานพวกนั้นกำลังจุดเทียนไข กวนโมโหใครไม่กวน มากวนโมโหประธานบริษัทของตัวเอง
ตอนนี้ฟานเซิ่งที่อยู่ด้านข้างกำลังภาวนาในใจอย่างเงียบๆ มู่ซีซีที่คนนั้นพูดออกมาขออย่าให้เป็นคุณหนูซู ถ้าหากว่าเป็นคุณหนูซูจริงๆ ก็ไม่มีทางให้เกิดเรื่องอะไรได้ ใอย่างนั้นเกรงว่าจะไม่มีใครสามารถรับความโกรธของประธานบริษัทของตัวเองได้!
ทางด้านเย่เฉี่ยวกำลังตะโกนตัวสั่นอย่างหมดหวังรีบหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของตัวเองออกมาต่อสายโทรศัพท์หาหมายเลขหนึ่งหนึ่งศูนย์
ผลลัพธ์คือเย่เฉี่ยวยังไม่โทรออก โทรศัพท์กูถูกลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานที่อยู่ด้านข้างแย่งโทรศัพท์ไปแล้ว โยนทิ้งลงบนพื้นโดยตรง
ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานพูดเตือนเย่เฉี่ยว“ฉันแนะนำเธออย่ายุ่งเรื่องชาวบ้าน!ถ้าเธอกล้าแจ้งตำรวจ พวกเราจะให้เธอรับผิดชอบทั้งหมด!”
ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานเพิ่งจะพูดจบ ก่อนที่ทุกคนจะตอบสนองกลับมา ทันใดนั้นก็ยินเสียงปังดีงขึ้นมา ชั่วพริบตาเดียว ก็มองเห็นว่าผู้ชายที่พูดจาเลวทรามในตอนนี้ถูกเตะออกไปหนึ่งเมตรอย่างรุนแรงและล้มลงกับพื้นด้วยอาการหน้ามืดเป็นลม
บรรยากาศก็เย็นเฉียบขึ้นมาทันที
ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานเหล่านั้นเบิกตาโตมองจี้หลิงชวนที่ปรากฏตัวออกมากะทันหันอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานก็เคยเจอเหตุการณ์ต่างๆมากมาย หลังจากสิบกว่านาทีก็ตอบสนองกลับมา สบตากับสองสามคน ทันใดนั้นสีหน้าของลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานก็ปรากฏสีหน้าประหลาดใจและสายตาป้องกันมองไปที่จี้หลิงชวน
ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานเห็นได้ชัดเจนว่าไม่รู้จักจี้หลิงชวน
เห็นจจี้หลิงชวนก้าเท้ายาวเดินไปที่ประตูห้องส่วนตัว ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานเห็นสถานการณ์ในสมองมีความคิดแรกขึ้นมาก็คือ จบเห่ ถ้าหากว่าทำลายเรื่องดีของคุณชายถงแล้ว เกรงว่าสุดท้ายแล้วความซวยจะต้องมาหาพวกเขาอย่างแน่นอน
ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานสบตากัน สองสามคนก็รีบเข้าไปขวางประตูห้องส่วนตัวเอาไว้
หนึ่งในนั้นมีผู้กล้าหาญคนหนึ่งก็มองไปที่จี้หลิงชวนด้วยสีหน้าท่าทางที่ใจร้อน“แกจะทำอะไร!ฉันจะบอกแกให้ แกอย่ายุ่งเรื่องชาวบ้าน!รีบไสหัวไป!”
ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานที่กล้าหาญคนนั้นเพิ่งจะพูดจบ จี้หลิงชวนที่เดินเข้ามาเหลือบมองลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานคนนั้นที่พูดด้วยแววตาที่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง
ลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขไม่ทำงานได้รับสายตาของจี้หลิงชวน รู้สึกว่าเสียวสันหลังขึ้นมา ลำคอเหมือนถูกฝ่ามือใหญ่ที่มองไม่เห็นบีบคอเอาไว้ ประโยคครึ่งหลังก็พูดไม่ออกอีกแล้ว

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset