รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 387 คลื่นลูกหนึ่งเพิ่งสงบลง คลื่นอีกลูกก็ม้วนมาอีกระลอก

เพราะแบบนี้จี้หลิงชวนจึงสั่งให้ป้าหลิงค่อยตามอยู่ข้างหลังมู่ซีซีตลอดเวลาอย่าให้คลาดสายตา
กับความกังวลมากเกินไปของจี้หลิงชวนแบบนี้มู่ซีซีจึงรู้สึกพะอืดพะอม
ไม่รู้ว่าเพราะใกล้กำหนดคลอดแล้วหรือว่าลูกในท้องมู่ซีซีชอบดิ้นเกินไป จึงชอบเอาแต่ถีบท้องมู่ซีซีเหมือนเด็กน้อยจอมซน
ช่วงนี้มู่ซีซีจึงรู้สึกอารมณ์ร้อนมาก ในใจก็รู้สึกว่าเหมือนมีเรื่องอะไรจะเกิดขึ้นอย่างนั้น
แถมช่วงนี้งานที่บริษัทจี้หลิงชวนก็ยุ่งมากด้วย จี้หลิงชวนออกบ้านตั้งแต่เช้าแล้วก็กลับดึกทุกวัน ยิ่งนานไปก็ยิ่งกลับดึกมากกว่าเดิม
ก่อนหน้านั้นเพราะมู่ซีซีท้อง ทุกวันตอนเย็นจี้หลิงชวนก็จะกลับมาก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อทำมื้อเย็นให้เธอ……
แต่ว่าตอนนี้……
มู่ซีซีที่นอนอยู่บนเตียงกว้างๆคนเดียวอดมองนาฬิกาที่ผนังไม่ได้ ตอนนี้ใกล้จะสี่ทุ่มแล้ว แต่ว่าจี้หลิงชวนยังไม่กลับมา
มู่ซีซีจึงอดถอนหายใจเสียงเบาไม่ได้ ในแววตาก็แฝงไปด้วยความกังวล ในใจคิดอย่างไม่สบายใจว่า หรือว่าบริษัทของจี้หลิงชวนมีปัญหาอะไรหรือเปล่า
พอมีความคิดนี้ลอยเข้ามาในหัวมู่ซีซีจึงรีบส่ายหน้าทันที แล้วสลัดความคิดนี้ทิ้งซะ
ไม่หรอก จี้หลิงชวนอยู่ในเมืองหรงเก่งขนาดนี้ คนอื่นคงไม่กล้าไม่กลัวตายไปหาเรื่องจี้หลิงชวนหรอก
มู่ซีซีแอบปลอบใจตัวเอง จากนั้นจึงหลับตาลง อื้อ ตัวเองต้องคิดมากไปเองแน่ๆ ตอนนี้ดึกมากแล้ว เธอนอนก่อนดีกว่า ไม่งั้นรอจี้หลิงชวนกลับมาแล้วเห็นว่าดึกขนาดนี้แล้วเธอยังไม่นอน เดี๋ยวจะบ่นเธออีก
มู่ซีซีที่นอนอยู่บนเตียงแล้วหลับตาลงนั้น ผ่านไปไม่กี่นาที มู่ซีซีก็พลิกตัว ไม่ถึงสองนาที มู่ซีซีก็ขมวดคิ้วพลิกตัวอีกครั้ง พลิกตัวไปมาสักพัก เปลี่ยนท่านอนไปหลายท่า แต่มู่ซีซีกลับนอนไม่หลับเลย
ทันใดนั้น มู่ซีซีจึงลืมตาขึ้นมา ยื่นมือไปดึงผ้าห่มออกแล้วสวมรองเท้าเดินออกไปนอกห้องนอน
มู่ซีซีที่ท้องโตจับราวบันไดแล้วเพิ่งเดินลงไปชั้นล่าง ป้าหลิงในห้องพักคนรับใช้ที่นอนแล้วได้ยินเสียงจึงรีบตื่นขึ้นมาใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไปนอกห้อง จากนั้นจึงเห็นมู่ซีซีที่กำลังเดินลงมาชั้นล่าง
ป้าหลิงรู้สึกตกใจมาก จึงรีบเดินไปพยุงแขนมู่ซีซีไว้ พร้อมเอ่ยเสียงเกร็งว่า “คุณหนูซีซีคะ มีเรื่องอะไรเรียกป้าก็ได้ค่ะ ดึกขนาดนี้แล้ว คุณหนูลงมาทำอะไรคะ? เดี๋ยวถ้าไม่ระวังหกล้มจะทำยังไงคะ”
มู่ซีซีโดนป้าหลิงพยุงลงมาถึงชั้นล่าง พร้อมเอ่ยกับป้าหลิงอย่างทำตัวไม่ถูกว่า “ป้าหลิงคะ หนูไม่เป็นอะไรค่ะ……หนูแค่นอนไม่หลับ ตอนนี้ดึกขนาดนี้แล้ว ป้ารีบกลับไปนอนเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูจะนั่งรอจี้หลิงชวนที่โซฟาเองค่ะ”
มู่ซีซียังไม่ไปนอน ป้าหลิงจะกล้าไปนอนได้ยังไง ฟังน้ำเสียงของมู่ซีซีมีความหัวดื้อ ป้าหลิงรู้ว่าตัวเองพูดไปก็เปล่าประโยชน์ จึงไม่ได้พูดอีก แล้วพยุงมู่ซีซีไปนั่งลงที่โซฟาก่อน จากนั้นก็ไปอุ่นน้ำสดร้อนๆให้เธอ แล้วนั่งรอจี้หลิงชวนพร้อมเธอ
เวลาค่อยๆผ่านไป แค่แว็บเดียวมู่ซีซีก็รออยู่ในห้องรับแขกไปครึ่งชั่วโมงแล้ว
ตอนนี้สี่ทุ่มครึ่งแล้ว แต่ว่าจี้หลิงชวนก็ยังไม่กลับมา
ป้าหลิงที่อยู่ข้างๆเห็นว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว กลัวว่าถ้านอนดึกจะไม่ดีต่อมู่ซีซี จึงหันไปเอ่ยกับเธอเสียงเบาว่า “คุณหนูซีซีคะ เดี๋ยวให้ป้าไปโทรถามคุณชายไหมคะว่าคุณชายจะกลับมาเมื่อไหร่?”
มู่ซีซีได้ยินป้าหลิงถามแบบนี้ ในใจจึงลังเล ในใจเธอก็อยากโทรหาจี้หลิงชวนเหมือนกัน แต่ก็กลัวว่าถ้าตอนนี้เขากำลังยุ่งอยู่เธอโทรไปจะรบกวนเขา แล้วทำให้เขาเสียสมาธิ
ขณะคิดมู่ซีซีจึงเงยหน้าหันไปส่ายหน้าให้ป้าหลิง “ไม่เป็นไรค่ะ รออีกหน่อยแล้วกันค่ะ ไม่แน่ตอนนี้จี้หลิงชวนอาจจะกำลังกลับมาแล้วก็ได้”
มู่ซีซีจึงรอไปอีกครึ่งชั่วโมง แต่ก็ยังไม่เห็นเงาของจี้หลิงชวนอยู่ดี
ทีนี้มู่ซีซีจึงใจเย็นอีกไม่ได้ มองเห็นเข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขสิบเอ็ดแล้ว
คิ้วของมู่ซีซีจึงขมวดแน่นกว่าเดิม ทันใดนั้น มู่ซีซีจึงลุกขึ้นจากโซฟาทันที
จากนั้นจึงเดินวนๆรอบห้องรับแขกอย่างกังวลใจ สุดท้ายฝีเท้าของมู่ซีซีจึงหยุดลง แล้วแอบกัดริมฝีปากแน่น
ในใจมู่ซีซีเป็นห่วงจี้หลิงชวน กลัวว่าดึกขนาดนี้แล้วจี้หลิงชวนยังไม่กลับมาเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า สุดท้ายเธอจึงอดหันมองไปเอ่ยกับป้าหลิงไม่ได้ว่า “ป้าหลิงคะ ช่วยเอาโทรศัพท์ของหนูมาให้หน่อยค่ะ”
ป้าหลิงตอบรับแล้วจึงรีบขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ของมู่ซีซีที่ห้องลงมา
มู่ซีซีรับโทรศัพท์มา จึงรีบกดเปิดรายชื่อติดต่อแล้วกดโทรเบอร์ของจี้หลิงชวนอย่างไม่ลังเลทันที
โทรศัพท์ดังไปสักพัก ยิ่งนานเท่าไหร่ ในใจมู่ซีซีก็ยิ่งสั่นเกร็งเท่านั้น
สุดท้ายตอนที่มู่ซีซีคิดว่าสายจะตัดแล้ว อยู่ๆในโทรศัพท์จึงมีเสียงของจี้หลิงชวนดังขึ้น
“ซีซี เป็นอะไรหรือเปล่า? เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า?” เสียงของจี้หลิงชวนมีความกระวนกระวาย ตอนนี้ดึกมากแล้ว ปกติเวลานี้ มู่ซีซีควรนอนตั้งนานแล้ว
ตอนที่มู่ซีซีโทรไป จี้หลิงชวนกำลังประชุมด่วนอยู่ โทรศัพท์วางอยู่บนโต๊ะทำงาน เพราะฟางเซิ่งเดินไปหยิบของในห้องทำงานจี้หลิงชวนจึงเห็นโทรศัพท์บนโต๊ะเอาแต่สั่น พอหยิบมาดูจึงเห็นว่ามู่ซีซีโทรมา เขาจึงรีบเอาโทรศัพท์ไปให้จี้หลิงชวนทันที
พอมู่ซีซีได้ยินเสียงของจี้หลิงชวน ใจที่เกร็งอยู่ตลอดค่อยคลายออก มือก็จับโทรแน่นแล้วเอ่ยตอบว่า “จี้หลิงชวน ฉันไม่เป็นอะไร……คือตอนนี้ดึกขนาดนี้แล้ว นายยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ?”
จี้หลิงชวนได้ยินว่ามู่ซีซีไม่เป็นอะไร เขาค่อยโล่งอกไปหน่อย จึงนวดขมับตัวเอง แล้วก้มมองนาฬิกาข้อมือ ค่อยรู้ว่าตอนนี้ห้าทุ่มกว่าแล้ว
จี้หลิงชวนจึงขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม แต่ว่าตอนนี้เขาคงยังกลับไปไม่ได้
จี้หลิงชวนจึงจับโทรศัพท์ในมือพร้อมเอ่ยเสียงเบาว่า “ซีซี ทางฉันยังต้องประชุม อาจจะยังกลับไปตอนนี้ไม่ได้ ตอนนี้ดึกมากแล้ว เธอรีบไปนอนเถอะ ไม่ต้องรอฉัน เดี๋ยวฉันเคลียร์งานเสร็จจะรีบกลับไปเองนะ”
มู่ซีซีได้ยินว่าเสียงจี้หลิงชวนมีความเหนื่อยล้า ในใจจึงรู้สึกเป็นห่วง
เธอไม่อยากให้จี้หลิงชวนเป็นห่วง จึงเอ่ยตอบว่า “ได้”
ลังเลไปครู่หนึ่ง มู่ซีซีก็อดพูดอีกไม่ได้ว่า “จี้หลิงชวน……เพราะบริษัทมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset