รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 43 เตรียมเซอร์ไพรส์

มู่ซีซีก้มลงมองที่นาฬิกาข้อมือของเธอ ตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงครึ่งแล้ว ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จี้หลิงชวนจะกลับมา
เธอครุ่นคิดสักพักพร้อมกับกัดที่ริมฝีปากเบาๆ เธอลังเลใจว่าจะโทรถามจี้หลิงชวนดีไหม?
มู่ซีซีดูไม่ค่อยอยากจะโทรหาจี้หลิงชวนสักเท่าไหร่……แต่ถ้าหากไม่โทรถามจี้หลิงชวนล่ะก็ เธอก็จะไม่รู้ว่าจี้หลิงชวนจะกลับมาเมื่อไหร่……เรื่องที่เธอวางแผนว่าจะขอบคุณจี้หลิงชวนดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายเลย……
ท้ายที่สุดมู่ซีซีกัดฟันแน่นจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปที่เบอร์ของจี้หลิงชวน
ตอนที่มู่ซีซีโทรไปหาจี้หลิงชวน ตอนนั้นเขากำลังอยู่ในห้องทำงานและเตรียมที่จะเลิกงาน โทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น
จี้หลิงชวนมองไปที่โทรศัพท์ เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของมู่ซีซี จี้หลิงชวนก็เก๊กหน้าหล่อ พร้อมกับแสยะยิ้มที่มุมปาก เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาจากนั้นก็กดรับสาย
“มีธุระอะไร?”
เมื่อได้ยินเสียงอันเย็นชาพร้อมกับดูสุขุมดังเข้ามาในสาย มู่ซีซีรู้สึกอึ้งไปสักพัก หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
มู่ซีซีชะงักไปสักพัก ทันทีที่เธอได้สติกลับมา เธอกลืนน้ำลายลงไปหนึ่งอึก จากนั้นกุมโทรศัพท์ไว้แน่น“ไม่มีธุระอะไร……ก็แค่ แค่อยากจะถามว่าจะเลิกงานตอนไหน?”
พูดไปพลางมู่ซีซีก็เกิดชะงักขึ้น สักพักจึงถามขึ้นมาอีกว่า“อย่างนี้……อย่างนี้นะ คุณ คุณ จะกลับมาที่นี่ไหม?”
เมื่อจี้หลิงชวนได้ยินคำถามสองประโยคจากมู่ซีซีทำให้เขาถึงกับชะงักไปในชั่วครู่ เขาไม่เคยคิดเลยว่ามู่ซีซีจะสนใจเรื่องที่เมื่อไหร่เขาจะกลับ เมื่อได้สติกลับมา จี้หลิงชวนก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
จี้หลิงชวนเผลอหัวเราะออกมาหนึ่งครั้ง เขาพูดเสียงต่ำและดูอ่อนโยน“ทำไม คิดถึงฉันอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อมู่ซีซีได้ยินเสียงของจี้หลิงชวนดังเข้ามา เธอตะลึงไปสักพัก เธอรู้สึกร้อนๆที่บริเวณใบหู เธอค่อยๆเคลื่อนโทรศัพท์ให้ไกลออกจากหู ใบหน้าอันขาวซีดของมู่ซีซีค่อยๆแดงขึ้นเรื่อยๆ
มู่ซีซีไม่คิดว่าจี้หลิงชวนจะถามเธอแบบนี้ เธอรีบอธิบายกับเขาทันทีว่า“ไม่ใช่นะ……ฉัน ฉัน ก็แค่ถามเฉยๆว่าคุณจะกลับมาเมื่อไหร่ จะได้บอกป้าหลิงให้เตรียมอาหารเย็น……”
ตอนที่มู่ซีซีเขิน จี้หลิงชวนดูอารมณ์ดีขึ้นมาก เขาแสยะยิ้มที่มุมปาก จี้หลิงชวนก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนว่า “ตอนนี้เลิกงานแล้ว อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงบ้านแล้ว ”
“อ้อ ฉันทราบแล้ว !”มู่ซีซีตอบกลับอย่างเขินๆอายๆว่า :“อย่างนั้น อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว ฉันวางสายแล้วนะ……”
พูดไปพลาง หน้าของมู่ซีซีก็ร้อนเป็นไฟขึ้นมาทันที เธอไม่รีรอให้จี้หลิงชวนตอบกลับ มู่ซีซีรีบชิงตัดสายโทรศัพท์ไป
เมื่อจี้หลิงชวนเห็นว่ามู่ซีซีวางสายโทรศัพท์ไป เขาไม่เพียงแต่ไม่โกรธ และกลับยิ้มออกมาด้วยซ้ำ
อืม มู่ซีซีคนนี้บทจะดีขึ้นมาก็ดูน่ารักเอามากๆแถมยังทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆตกหลุมรักเอาได้ง่ายๆอีกด้วย
จี้หลิงชวนเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง พร้อมกับยื่นมือออกไปเปิดประตูห้องทำงานและเดินออกไป
ถึงตอนนี้พนักงานทั้งบริษัทจี้ซือต่างรับรู้ได้ว่าประธานบริษัทของพวกเขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ!
นั่นเป็นเพราะว่าในตอนเย็นของทุกๆวันจี้หลิงชวนชอบทำงานล่วงเวลาอย่างบ้าคลั่งและพนักงานในบริษัทก็ต้องอยู่ทำงานล่วงเวลาด้วย แต่เย็นวันนี้ประธานจี้คนบ้างานได้มีคำสั่งลงมา เพราะฉะนั้นพนักงานทั้งหมดไม่ต้องทำงานล่วงเวลา!
เมื่อพนักงานของบริษัทนายทุนจี้ซือได้ยินข่าวนี้ก็ดีใจโห่ร้องกันยกใหญ่ จำได้ว่าวันที่จี้หลิงชวนประธานของพวกเขาแต่งงานวันนั้นทั้งบริษัทยังคงทำงานล่วงเวลาอยู่เลย!
อีกทั้งตอนเวลาเลิกงานพนักงานที่เห็นท่านประธานต่างก็พบว่าวันนี้จี้หลิงชวนดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ!ไม่เพียงแต่ไม่เห็นสีหน้าที่เย็นชาของเขาแล้ว แต่ใบหน้าของท่านประธานในวันนี้ยังแสดงให้เห็นถึงรอยยิ้มเล็กน้อยอีกด้วย
หรือว่านี่จะเป็นสัญญาณที่ดีอะไรหรือเปล่า!
ทำให้พนักงานในบริษัทต่างก็อดไม่ได้ที่จะเดากันไปต่างๆนานา หรือสีหน้าท่าทางอย่างนี้ประธานบริษัทของเรากำลังออกเดต!!
อีกด้านหนึ่ง จี้หลิงชวนไม่รู้ตัวเองเลยว่าวันนี้เขามีท่าทีที่ดูผิดปกติ พร้อมทั้งยังขับรถไปทางคฤหาสน์ที่มู่ซีซีอยู่ด้วยตัวเอง
เขาขับรถเร็วกว่าปกติ เดิมทีการขับรถต้องใช้เวลาประมาณสี่สิบนาที แต่วันนี้เขาขับรถกลับถึงคฤหาสน์เร็วกว่าปกติถึงยี่สิบกว่านาที ยังไม่ทันถึงครึ่งชั่วโมง จี้หลิงชวนก็ขับรถมาถึงด้านนอกของคฤหาสน์
จี้หลิงชวนเปิดประตูลงจากรถ เขาตั้งใจเดินเสียงเบากว่าปกติเพื่อเข้าไปในบ้าน
อืม ในบ้านมีคนรอเขากลับมาบรรยากาศแบบนี้มันช่างดูอบอุ่นเสียจริง คิดไปพลางจี้หลิงชวนผู้ที่มีสีหน้าเย็นชาก็แสยะยิ้มออกมา
จี้หลิงชวนเปิดประตูบ้านและเดินตรงไปที่ห้องรับแขก เขามองไปรอบๆห้องรับแขกรวมทั้งที่โซฟา แต่ทั้งห้องไม่มีคนแม้แต่คนเดียว จี้หลิงชวนไม่พบคนที่เข้าต้องการจะพบ คิ้วของเขาขมวดขึ้นมาทันที
มู่ซีซีผู้หญิงคนนี้ เพิ่งจะโทรมาถามว่าเมื่อไหร่เขาจะกลับมาถึงบ้าน เธอไม่ควรรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขกหรอกเหรอ?
จี้หลิงชวนเปลี่ยนรองเท้าเสร็จ เขาได้ยินเสียงของมู่ซีซีดังออกมาจากห้องครัว “ป้าหลิง……ทำแบบนี้ถูกไหมคะ?”
เมื่อได้ยินเสียงของมู่ซีซี คิ้วที่ขมวดของจี้หลิงชวนก็คลายออก
มู่ซีซีทำอะไรในห้องครัว?
จี้หลิงชวนอดไม่ได้ที่จะสงสัย เขาค่อยๆเดินย่องไปทางห้องครัว
เมื่อจี้หลิงชวนเดินไปถึงหน้าประตูห้องครัวเขาเห็นมู่ซีซีสวมชุดกันเปื้อนดูน่ารักน่าชังมาก มือซ้ายจับกระทะทำอาหารส่วนมือขวาจับตะหลิวไม้ กำลังเร่งรีบทำอาหารอยู่
ป้าหลิงและมู่ซีซีกำลังยุ่งกันอยู่ในครัวทั้งสองหันหลังให้กับประตูห้องครัว ดังนั้นจึงมองไม่เห็นจี้หลิงชวนที่ยืนอยู่หน้าประตู
อีกทั้งนี่เป็นครั้งแรกที่มู่ซีซีทำอาหาร เพราะฉะนั้นท่าทีของเธอจึงดูไม่ค่อยชำนาญ ภาพในครัวดูเลอะเทอะไปหมด
แม้แต่ป้าหลิงที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ทนดูไม่ไหว จึงถามเป็นนัยว่า“คุณมู่……ให้ฉัน เย็นวันนี้ให้ฉันทำอาหารเย็นดีกว่าไหม ……คุณจะได้ไปพักสักครู่……”
มู่ซีซีที่กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารรู้ดีว่าป้าหลิงต้องการที่จะสื่ออะไร แต่วันนี้เธอตั้งใจทำอาหารเย็นมื้อนี้เป็นการขอบคุณจี้หลิงชวน
ใช่แล้ว วิธีการตอบแทนจี้หลิงชวนด้วยการทำอาหารให้เขา มู่ซีซีใช้เวลาคิดตั้งนาน เมื่อเธอคิดออกว่าจะให้ของขวัญอะไรเพื่อใช้เป็นการตอบแทนที่จี้หลิงชวนช่วยเธอวันนี้
ดังนั้นตอนนี้มู่ซีซีจึงไม่อยากยอมแพ้ไปง่ายๆ!

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset