รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 458 แจ้งความ

หลิวหยู่พูดอย่างโมโหจบแล้วจึงกดวางสายทันที
หลิวหยู่ที่ใบหน้าบวมช้ำมีพันผ้าพันแผลไว้โยนโทรศัพท์ลงไปที่เตียงคนไข้แรงๆ
ผู้ช่วยหลิวหยู่ที่อยู่ข้างๆเห็นเขาโมโหหน้าบูดหน้าบึ้ง จึงเดินไปเอ่ยถามหลิวหยู่อย่างประจบว่า “นายครับ เรื่องนี้เราจะปล่อยผ่านง่ายๆแบบนี้เหรอครับ? ผมว่าลั่วเสี่ยวชิงคนนั้นคงไม่ยอมง่ายๆแบบนี้หรอกครับ”
หลิวหยู่ฟังสิ่งที่ผู้ช่วยพูด จึงยิ้มอย่างเยือกเย็น “ไม่ยอมง่ายๆแบบนี้? ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะบังคับให้นังลั่วเสี่ยวชิงยอมเอง! ถ้าแค่เด็กอย่างลั่วเสี่ยวชิงฉันยังทำอะไรมันไม่ได้งั้นหลายปีที่ผ่านมาฉันคงหายใจทิ้งไปเปล่าๆ!”
ขณะพูดดวงตาของหลิวหยู่ที่โดนไขมันบีบจนเป็นเส้นตรงก็แฝงไปด้วยความร้ายกาจ จากนั้นจึงหันมองผู้ช่วย “เดี๋ยวแกหาคนขับรถไปดักรอที่หน้าโรงเรียนที่น้องชายนังลั่วเสี่ยวชิงเรียนอยู่ เดี๋ยวถ้าน้องชายมันออกมา ก็ให้คนขับรถไปชน แต่ต้องระวังอย่าทำให้สาหัส แค่ได้แผลถลอกก็พอ อย่าให้มันจนตรอกจนคิดทำอะไรบ้าๆ! ให้คนทำระวังด้วย อย่าสร้างปัญหาให้ฉัน”
ผู้ช่วยได้ยินจึงรีบพยักหน้า “ครับนาย นายไว้ใจเถอะครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
ก่อนที่หลิวหยู่จะเปิดบริษัทเขาเป็นนักเลง จึงรู้จักนักเลงไม่น้อย แม้แต่คนในบริษัทตัวเองเมื่อก่อนก็เป็นนักเลงเหมือนกัน
ผู้ช่วยตอบรับแล้วจึงรีบออกไปจัดการทันที
หลิวหยู่ยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ เขาไม่เชื่อว่าเขาจะไม่ได้ลิ้มลองเนื้อหอมๆอย่างลั่วเสี่ยวชิง!
ทางลั่วเสี่ยวชิง พอหลิวหยู่วางสายแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงก็ขมวดคิ้วเม้มปากแน่น เธอไม่กล้ารีรอ จึงรีบลุกขึ้นออกจากห้องพักทันที
ลั่วเสี่ยวชิงนั่งรถเมล์ไปที่โรงพัก พอเข้าไปเห็นตำรวจแล้วจึงเอ่ยว่า “คุณตำรวจคะ ฉันจะแจ้งความค่ะ”
ตอนนี้ลั่วเสี่ยวชิงต่อกรกับหลิวหยู่ไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือลงมือยับยั้งเขาก่อน!
ตำรวจพยักหน้าให้ลั่วเสี่ยวชิง แล้วพาเธอเข้าไปที่ห้องทำงาน จากนั้นถือกระดาษปากกาแล้วพูดว่า “เอาล่ะ คุณจะแจ้งความเรื่องอะไรครับ”
ลั่วเสี่ยวชิงจึงเล่าเรื่องเมื่อคืนที่โดนหลิวหยู่จับตัวไป
แต่ลั่วเสี่ยวชิงไม่ได้เล่าว่าตัวเองถูกช่วยเหลือแล้ว ไม่ได้พูดถึงลู่เฉิงฮ่าวด้วย
พอตำรวจจดบันทึกเสร็จแล้วจึงพูดกับลั่วเสี่ยวชิงว่า “ความเป็นมาของเรื่องผมรู้แล้ว เรื่องนี้เดี๋ยวทางเราจะไปตรวจสอบเอง แต่ว่าคุณมีพยานหรือว่าหลักฐานอะไรไหมครับ? ถ้ามีหลักฐานสำคัญ ทางเราจะได้ตรวจสอบง่ายขึ้น”
ในมือลั่วเสี่ยวชิงไม่มีหลักฐาน ไม่รู้ด้วยว่าบนถนนที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรหรือเปล่า ถ้ามีกล้องวงจรยังดีหน่อย แต่เธอกลัวว่าจะไม่มีนี่สิ……
ส่วนพยาน ลั่วเสี่ยวชิงรู้ว่ามีใครคนหนึ่งสามารถมายืนยันได้ว่าสิ่งที่เธอพูดคือเรื่องจริง
คนคนนั้นก็คือลู่เฉิงฮ่าว เพราะเมื่อคืนเขาเป็นคนช่วยเธอไว้
แต่ว่าลั่วเสี่ยวชิงไม่อยากเอาลู่เฉิงฮ่าวมายุ่งกับเรื่องนี้
ขณะคิดลั่วเสี่ยวชิงจึงส่ายหน้ากับตำรวจ “ตอนนั้นดึกมากเกินไป บนถนนไม่มีคนเห็น ไม่มีพยานค่ะ ส่วนหลักฐาน ไม่รู้ว่าถนนเส้นนั้นมีกล้องวงจรหรือเปล่า ถ้ามีน่าจะใช้เป็นหลักฐานได้ค่ะ”
ตำรวจพยักหน้า “งั้นคุณไปตรวจเช็กกล้องวงจรของถนนเส้นนั้นกับผม”
ทางตำรวจยังต้องการหลักฐานเพื่อดำเนินคดี
ลั่วเสี่ยวชิงพยักหน้าแล้วไปเช็กกล้องวงจรกับตำรวจ ใครจะรู้ว่าจะบังเอิญขนาดนั้น บนถนนเส้นนั้นมีกล้องวงจร แต่กลับเสียเมื่อไม่กี่วันก่อน สองวันนี้จึงยังไม่ทันได้เปลี่ยนกล้องวงจร
คุณตำรวจจึงพูดกับลั่วเสี่ยวชิงว่า “ตอนนี้ไม่มีบันทึกกล้องวงจร ไม่มีหลักฐานอื่นด้วย ตอนนี้เราต้องไปสอบถามเจ้าตัวก่อน คุณลองคิดดูนะครับว่ายังหาหลักฐานอื่นได้หรือเปล่า ถ้าไม่มีหลักฐานมัดตัวจริงๆ ทางเราก็ดำเนินคดีไม่ได้ครับ”
ลั่วเสี่ยวชิงทำได้แค่พยักหน้า แล้วเดินออกไปจากโรงพัก
ตอนนี้ลั่วเสี่ยวชิงหวังว่าตอนที่ตำรวจไปหาหลิวหยู่ จะทำให้เขาเกรงกลัว แล้วให้หลิวหยู่เปลี่ยนใจได้!
ตอนที่ลั่วเสี่ยวชิงกลับไปถึงที่ห้องพักตัวเอง ทางตำรวจก็ไปหาหลิวหยู่ที่โรงพยาบาลพอดี
หลิวหยู่ที่กำลังนอนกลางวันอยู่โดนเสียงเคาะประตูรบกวนจนตื่น
หลิวหยู่ที่โดนปลุกหน้าบูดบึ้ง แล้วตะโกนไปทางประตูอย่างหงุดหงิด “เข้ามา! จะเคาะทำไมว่ะรำคาญเว้ย!”
เสียงของหลิวหยู่เพิ่งจบลง ประตูห้องจึงเปิดออก จากนั้นจึงมีผู้ชายสองคนที่ใส่เครื่องแบบตำรวจเดินเข้ามา
จากนั้นจึงเดินมาหยุดลงตรงหน้าหลิวหยู่แล้วโชว์บัตรตัวเอง “เราคือตำรวจ”
หลิวหยู่มองตำรวจที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง ในใจจึงสั่นเกร็ง จากนั้นจึงขมวดคิ้วแน่น
ตอนหนุ่มๆหลิวหยู่เป็นนักเลง แล้วเคยเข้าโรงพักบ่อยๆ
ต่อหน้าลั่วเสี่ยวชิงหลิวหยู่ก็ทำตัวปากเก่ง แต่ว่าในใจหลิวหยู่รู้ดี ถ้าจะพูดถึงเรื่องเมื่อคืนจริงๆ ยังไงตัวเองก็ทำผิดกฎหมาย
หลิวหยู่พยายามหักห้ามความร้อนตัวไว้ ใบหน้าก็พยายามฝืนยิ้มกับตำรวจทั้งสองคน “คุณตำรวจ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ? ผมเป็นประชาชนคนดีที่บริสุทธิ์นะครับ”
เสียงของหลิวหยู่เพิ่งจบลง หนึ่งในตำรวจจึงขมวดคิ้วพูดกับหลิวหยู่ว่า “คุณคือหลิวหยู่ใช่ไหมครับ?”
หลิวหยู่รีบพยักหน้า “ครับครับครับ ผมหลิวหยู่ครับ”
“วันนี้มีคนมาแจ้งความคุณด้วยข้อหาพยายามข่มขืน”
ตำรวจคนนั้นมองสำรวจหลิวหยู่ “คุณลองบอกมาสิครับว่าเรื่องเป็นมายังไง”
หลิวหยู่ได้ยินสิ่งที่ตำรวจพูด จึงกัดฟันแน่น เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่านังลั่วเสี่ยวชิงจะกล้าไปแจ้งตำรวจ!
แต่ว่าโชคดีก่อนที่หลิวหยู่จะตัดสินใจทำเรื่องนั้นเขาเตรียมตัวมาดี วางแผนไว้ดีแล้วว่าตำรวจหาหลักฐานอะไรไม่เจอแน่นอน
หลิวหยู่รู้ดีถ้าไม่มีหลักฐานไม่สามารถดำเนินคดีได้
เมื่อคืนเขายังไม่ได้ทำอะไรลั่วเสี่ยวชิง แล้วกล้องวงจรของถนนเส้นนั้นหลิวหยู่ก็ให้คนไปทำลายแล้ว ตอนนั้นดึกมากแล้วบนถนนไม่มีใครเห็น ทีแรกทุกอย่างดำเนินไปตามแผนของเขา แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือลู่เฉิงฮ่าวจะโผล่มาอย่างกะทันหัน!
เมื่อคืนหลิวหยู่คิดไม่ถึงจริงๆว่าอยู่ๆลู่เฉิงฮ่าวจะโผล่มา!
หลิวหยู่ร้อนตัว กลัวว่าลู่เฉิงฮ่าวจะเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ด้วย
แต่ว่าหลิวหยู่อายุมากขนาดนี้แล้วก็ไม่ได้ใช้ชีวิตไปวันๆ สีหน้าก็ยังคงยิ้มใจเย็น เพราะคนอย่างลู่เฉิงฮ่าวไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นอยู่แล้ว!
ถ้าไม่มีหลักฐานมัดตัวตรงๆ หลิวหยู่ไม่โป๊ะแตกง่ายๆหรอก
หลิวหยู่จึงยิ้มพูดกับคุณตำรวจสองคนว่า “คุณตำรวจครับ พวกคุณพูดแบบนี้เกินไปหรือเปล่าครับ ตอนนี้สภาพผมเป็นแบบนี้ จะไปทำเรื่องไม่ดีได้ยังไงครับ!”
หลิวหยู่พูดอย่างโมโหจบแล้วจึงกดวางสายทันที
หลิวหยู่ที่ใบหน้าบวมช้ำมีพันผ้าพันแผลไว้โยนโทรศัพท์ลงไปที่เตียงคนไข้แรงๆ
ผู้ช่วยหลิวหยู่ที่อยู่ข้างๆเห็นเขาโมโหหน้าบูดหน้าบึ้ง จึงเดินไปเอ่ยถามหลิวหยู่อย่างประจบว่า “นายครับ เรื่องนี้เราจะปล่อยผ่านง่ายๆแบบนี้เหรอครับ? ผมว่าลั่วเสี่ยวชิงคนนั้นคงไม่ยอมง่ายๆแบบนี้หรอกครับ”
หลิวหยู่ฟังสิ่งที่ผู้ช่วยพูด จึงยิ้มอย่างเยือกเย็น “ไม่ยอมง่ายๆแบบนี้? ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะบังคับให้นังลั่วเสี่ยวชิงยอมเอง! ถ้าแค่เด็กอย่างลั่วเสี่ยวชิงฉันยังทำอะไรมันไม่ได้งั้นหลายปีที่ผ่านมาฉันคงหายใจทิ้งไปเปล่าๆ!”
ขณะพูดดวงตาของหลิวหยู่ที่โดนไขมันบีบจนเป็นเส้นตรงก็แฝงไปด้วยความร้ายกาจ จากนั้นจึงหันมองผู้ช่วย “เดี๋ยวแกหาคนขับรถไปดักรอที่หน้าโรงเรียนที่น้องชายนังลั่วเสี่ยวชิงเรียนอยู่ เดี๋ยวถ้าน้องชายมันออกมา ก็ให้คนขับรถไปชน แต่ต้องระวังอย่าทำให้สาหัส แค่ได้แผลถลอกก็พอ อย่าให้มันจนตรอกจนคิดทำอะไรบ้าๆ! ให้คนทำระวังด้วย อย่าสร้างปัญหาให้ฉัน”
ผู้ช่วยได้ยินจึงรีบพยักหน้า “ครับนาย นายไว้ใจเถอะครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
ก่อนที่หลิวหยู่จะเปิดบริษัทเขาเป็นนักเลง จึงรู้จักนักเลงไม่น้อย แม้แต่คนในบริษัทตัวเองเมื่อก่อนก็เป็นนักเลงเหมือนกัน
ผู้ช่วยตอบรับแล้วจึงรีบออกไปจัดการทันที
หลิวหยู่ยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ เขาไม่เชื่อว่าเขาจะไม่ได้ลิ้มลองเนื้อหอมๆอย่างลั่วเสี่ยวชิง!
ทางลั่วเสี่ยวชิง พอหลิวหยู่วางสายแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงก็ขมวดคิ้วเม้มปากแน่น เธอไม่กล้ารีรอ จึงรีบลุกขึ้นออกจากห้องพักทันที
ลั่วเสี่ยวชิงนั่งรถเมล์ไปที่โรงพัก พอเข้าไปเห็นตำรวจแล้วจึงเอ่ยว่า “คุณตำรวจคะ ฉันจะแจ้งความค่ะ”
ตอนนี้ลั่วเสี่ยวชิงต่อกรกับหลิวหยู่ไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือลงมือยับยั้งเขาก่อน!
ตำรวจพยักหน้าให้ลั่วเสี่ยวชิง แล้วพาเธอเข้าไปที่ห้องทำงาน จากนั้นถือกระดาษปากกาแล้วพูดว่า “เอาล่ะ คุณจะแจ้งความเรื่องอะไรครับ”
ลั่วเสี่ยวชิงจึงเล่าเรื่องเมื่อคืนที่โดนหลิวหยู่จับตัวไป
แต่ลั่วเสี่ยวชิงไม่ได้เล่าว่าตัวเองถูกช่วยเหลือแล้ว ไม่ได้พูดถึงลู่เฉิงฮ่าวด้วย
พอตำรวจจดบันทึกเสร็จแล้วจึงพูดกับลั่วเสี่ยวชิงว่า “ความเป็นมาของเรื่องผมรู้แล้ว เรื่องนี้เดี๋ยวทางเราจะไปตรวจสอบเอง แต่ว่าคุณมีพยานหรือว่าหลักฐานอะไรไหมครับ? ถ้ามีหลักฐานสำคัญ ทางเราจะได้ตรวจสอบง่ายขึ้น”
ในมือลั่วเสี่ยวชิงไม่มีหลักฐาน ไม่รู้ด้วยว่าบนถนนที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรหรือเปล่า ถ้ามีกล้องวงจรยังดีหน่อย แต่เธอกลัวว่าจะไม่มีนี่สิ……
ส่วนพยาน ลั่วเสี่ยวชิงรู้ว่ามีใครคนหนึ่งสามารถมายืนยันได้ว่าสิ่งที่เธอพูดคือเรื่องจริง
คนคนนั้นก็คือลู่เฉิงฮ่าว เพราะเมื่อคืนเขาเป็นคนช่วยเธอไว้
แต่ว่าลั่วเสี่ยวชิงไม่อยากเอาลู่เฉิงฮ่าวมายุ่งกับเรื่องนี้
ขณะคิดลั่วเสี่ยวชิงจึงส่ายหน้ากับตำรวจ “ตอนนั้นดึกมากเกินไป บนถนนไม่มีคนเห็น ไม่มีพยานค่ะ ส่วนหลักฐาน ไม่รู้ว่าถนนเส้นนั้นมีกล้องวงจรหรือเปล่า ถ้ามีน่าจะใช้เป็นหลักฐานได้ค่ะ”
ตำรวจพยักหน้า “งั้นคุณไปตรวจเช็กกล้องวงจรของถนนเส้นนั้นกับผม”
ทางตำรวจยังต้องการหลักฐานเพื่อดำเนินคดี
ลั่วเสี่ยวชิงพยักหน้าแล้วไปเช็กกล้องวงจรกับตำรวจ ใครจะรู้ว่าจะบังเอิญขนาดนั้น บนถนนเส้นนั้นมีกล้องวงจร แต่กลับเสียเมื่อไม่กี่วันก่อน สองวันนี้จึงยังไม่ทันได้เปลี่ยนกล้องวงจร
คุณตำรวจจึงพูดกับลั่วเสี่ยวชิงว่า “ตอนนี้ไม่มีบันทึกกล้องวงจร ไม่มีหลักฐานอื่นด้วย ตอนนี้เราต้องไปสอบถามเจ้าตัวก่อน คุณลองคิดดูนะครับว่ายังหาหลักฐานอื่นได้หรือเปล่า ถ้าไม่มีหลักฐานมัดตัวจริงๆ ทางเราก็ดำเนินคดีไม่ได้ครับ”
ลั่วเสี่ยวชิงทำได้แค่พยักหน้า แล้วเดินออกไปจากโรงพัก
ตอนนี้ลั่วเสี่ยวชิงหวังว่าตอนที่ตำรวจไปหาหลิวหยู่ จะทำให้เขาเกรงกลัว แล้วให้หลิวหยู่เปลี่ยนใจได้!
ตอนที่ลั่วเสี่ยวชิงกลับไปถึงที่ห้องพักตัวเอง ทางตำรวจก็ไปหาหลิวหยู่ที่โรงพยาบาลพอดี
หลิวหยู่ที่กำลังนอนกลางวันอยู่โดนเสียงเคาะประตูรบกวนจนตื่น
หลิวหยู่ที่โดนปลุกหน้าบูดบึ้ง แล้วตะโกนไปทางประตูอย่างหงุดหงิด “เข้ามา! จะเคาะทำไมว่ะรำคาญเว้ย!”
เสียงของหลิวหยู่เพิ่งจบลง ประตูห้องจึงเปิดออก จากนั้นจึงมีผู้ชายสองคนที่ใส่เครื่องแบบตำรวจเดินเข้ามา
จากนั้นจึงเดินมาหยุดลงตรงหน้าหลิวหยู่แล้วโชว์บัตรตัวเอง “เราคือตำรวจ”
หลิวหยู่มองตำรวจที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง ในใจจึงสั่นเกร็ง จากนั้นจึงขมวดคิ้วแน่น
ตอนหนุ่มๆหลิวหยู่เป็นนักเลง แล้วเคยเข้าโรงพักบ่อยๆ
ต่อหน้าลั่วเสี่ยวชิงหลิวหยู่ก็ทำตัวปากเก่ง แต่ว่าในใจหลิวหยู่รู้ดี ถ้าจะพูดถึงเรื่องเมื่อคืนจริงๆ ยังไงตัวเองก็ทำผิดกฎหมาย
หลิวหยู่พยายามหักห้ามความร้อนตัวไว้ ใบหน้าก็พยายามฝืนยิ้มกับตำรวจทั้งสองคน “คุณตำรวจ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ? ผมเป็นประชาชนคนดีที่บริสุทธิ์นะครับ”
เสียงของหลิวหยู่เพิ่งจบลง หนึ่งในตำรวจจึงขมวดคิ้วพูดกับหลิวหยู่ว่า “คุณคือหลิวหยู่ใช่ไหมครับ?”
หลิวหยู่รีบพยักหน้า “ครับครับครับ ผมหลิวหยู่ครับ”
“วันนี้มีคนมาแจ้งความคุณด้วยข้อหาพยายามข่มขืน”
ตำรวจคนนั้นมองสำรวจหลิวหยู่ “คุณลองบอกมาสิครับว่าเรื่องเป็นมายังไง”
หลิวหยู่ได้ยินสิ่งที่ตำรวจพูด จึงกัดฟันแน่น เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่านังลั่วเสี่ยวชิงจะกล้าไปแจ้งตำรวจ!
แต่ว่าโชคดีก่อนที่หลิวหยู่จะตัดสินใจทำเรื่องนั้นเขาเตรียมตัวมาดี วางแผนไว้ดีแล้วว่าตำรวจหาหลักฐานอะไรไม่เจอแน่นอน
หลิวหยู่รู้ดีถ้าไม่มีหลักฐานไม่สามารถดำเนินคดีได้
เมื่อคืนเขายังไม่ได้ทำอะไรลั่วเสี่ยวชิง แล้วกล้องวงจรของถนนเส้นนั้นหลิวหยู่ก็ให้คนไปทำลายแล้ว ตอนนั้นดึกมากแล้วบนถนนไม่มีใครเห็น ทีแรกทุกอย่างดำเนินไปตามแผนของเขา แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือลู่เฉิงฮ่าวจะโผล่มาอย่างกะทันหัน!
เมื่อคืนหลิวหยู่คิดไม่ถึงจริงๆว่าอยู่ๆลู่เฉิงฮ่าวจะโผล่มา!
หลิวหยู่ร้อนตัว กลัวว่าลู่เฉิงฮ่าวจะเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ด้วย
แต่ว่าหลิวหยู่อายุมากขนาดนี้แล้วก็ไม่ได้ใช้ชีวิตไปวันๆ สีหน้าก็ยังคงยิ้มใจเย็น เพราะคนอย่างลู่เฉิงฮ่าวไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นอยู่แล้ว!
ถ้าไม่มีหลักฐานมัดตัวตรงๆ หลิวหยู่ไม่โป๊ะแตกง่ายๆหรอก
หลิวหยู่จึงยิ้มพูดกับคุณตำรวจสองคนว่า “คุณตำรวจครับ พวกคุณพูดแบบนี้เกินไปหรือเปล่าครับ ตอนนี้สภาพผมเป็นแบบนี้ จะไปทำเรื่องไม่ดีได้ยังไงครับ!”

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset