รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 83 แอบรักในวัยเรียน

มู่ซีซีมองเห็นเงานั้นชัดขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของเธอค่อยๆหรี่ลงด้วยความตื่นตระหนก และแก้มสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะก็เหมือนโดนย้อมด้วยสีแดงในทันใด
และชายร่างสูงที่มีใบหน้าอันหล่อเหล่าก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของมู่ซีซี เสียงที่นุ่มนวลและไพเราะดังขึ้นมาอย่างช้าๆ “ซีซี พวกเธอกำลังจะไปที่โรงอาหารกันอยู่หรือเปล่า”
เขาคนนี้คือฉู่จือหยวน ผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านการเงิน และอยู่สาขาการเงินเช่นเดียวกับมู่ซีซีเขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัย A เป็นที่รู้จักในนามเดือนของสาขาการเงิน อีกทั้งยังไม่มีแฟน และเป็นดั่งเทพบุตรของสาวๆจำนวนนับไม่ถ้วนในมหาวิทยาลัย Aแห่งนี้
ทันทีที่ลั่วเสี่ยวชิงเห็นฉู่จือหยวนปรากฏตัวขึ้น มู่ซีซีก็ดูลนลานและทำตัวแปลกๆ เหมือนกับคนพูดไม่ออก เมื่อเห็นว่ามู่ซีซีเงียบไป ลั่วเสี่ยวชิงก็รีบตอบกลับแทนมู่ซีซีว่า “ใช่ค่ะ รุ่นพี่ฉู่ พวกเรากำลังจะไปที่โรงอาหาร รุ่นพี่ก็จะไปอย่างนั้นใช่ไหม? หากว่าไม่รังเกียจพวกเราไปด้วยกันไหมคะ ?”
ยิ่งมู่ซีซีได้ยินสิ่งที่ลั่วเสี่ยวชิงตอบกลับไปเธอยิ่งรู้สึกเขินอายมากขึ้น เธอรีบเอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อของลั่วเสี่ยวชิงเพื่อเป็นการบอกให้เธอหยุด
มู่ซีซีและลั่วเสี่ยวชิงเป็นเพื่อนที่พูดคุยกันในทุกๆเรื่อง แม้ว่าปกติมู่ซีซีจะเป็นคนที่ค่อนข้างเย็นชา แต่ความดื้อรั้นของลั่วเสี่ยวชิงกลับทำให้มู่ซีซีเลือกเธอเป็นเพื่อนสนิท
วันแรกที่เปิดเทอม ทั้งสองนั่งโต๊ะเดียวกัน ตอนแรกก็ยังเฉยๆอยู่ จนกระทั่งตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และพวกเขาสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ดังนั้น มู่ซีซีมีความลับอะไรแน่นอนว่าลั่วเสี่ยวชิงก็ต้องรู้อยู่แล้ว
ทุกคนก็คงเคยแอบชอบใครในช่วงที่เป็นวัยรุ่น และมู่ซีซีก็เหมือนกัน ฉู่จือหยวนชายผู้หล่อเหลา อ่อนโยน ร่าเริง มีความสามารถและเรียนดี ซึ่งเกือบจะพูดได้ว่าดีไปซะหมดทุกอย่าง
มู่ซีซีก็แอบตกหลุมรักเขาเช่นกัน
ในขณะที่มู่ซีซีกำลังคิดอย่างใจลอย น้ำเสียงที่ไพเราะและอ่อนโยนของฉู่จือหยวน ก็ดังเข้ามาในหูของเธออีกครั้ง “ใช่ พวกเราไปด้วยกันเถอะ”
หลังจากที่ได้ฟังฉู่จือหยวนตอบตกลง มู่ซีซีก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความประหลาดใจ และขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นมาก็ได้สบตาและพบกับรอยยิ้มของฉู่จือหยวน
คำพูดปฏิเสธจุกอยู่ที่ลำคอ แต่พูดออกมาได้อย่างยากลำบาก
สุดท้าย มู่ซีซีก็ทำได้แค่เพียงปล่อยให้ลั่วเสี่ยวชิงพารุ่นพี่ไปที่โรงอาหาร
ทั้งสามคนเดินไปที่โรงอาหารด้วยกัน ในระหว่างทาง มู่ซีซีและฉู่จือหยวน ดึงดูดสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของคนจำนวนไม่น้อย อีกทั้งมู่ซีซีและฉู่จือหยวน ต่างก็มีความสามารถ ดูดี และดูเหมาะสมกันมากๆ
ต่อหน้าฉู่จือหยวนมู่ซีซีทำได้เพียงแค่ก้มหน้าด้วยความอาย เธออายจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไร โชคดีที่คำพูดของลั่วเสี่ยวชิงคอยกระตุ้นถามในเรื่องต่างๆทำให้บรรยากาศดูไม่ค่อยตึงเครียดมาก
เมื่อมาถึงโรงอาหาร ตอนนี้เป็นเวลาที่คนมาทานอาหารมากที่สุด ตู้ร้านอาหารแต่ละร้านล้วนแต่มีคนจำนวนมากยืนต่อแถวอยู่
ลั่วเสี่ยวชิงมุ่งมั่นที่จะสร้างความสัมพันธ์ให้คนทั้งสอง เธอพูดกับมู่ซีซีและฉู่จือหยวนในทันทีว่า “ฉันจะไปต่อแถวซื้ออาหารแล้ว”
เมื่อพูดจบลั่วเสี่ยวชิงก็รีบวิ่งออกไป
ตอนนี้มีเพียงแค่มู่ซีซีและฉู่จือหยวนที่ถูกทิ้งให้เผชิญหน้ากัน บรรยากาศมันดูเงียบสงบอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งสองคนยังคงเงียบสงบ มู่ซีซีรู้สึกอายจนทนไม่ไหวแล้ว เธอต้องทำอะไรสักอย่าง และในขณะนั้นฉู่จือหยวนก็ทำลายความเงียบสงบของพวกเขาทั้งสองโดยพูดขึ้นมาก่อนว่า “น้องมู่ วันนี้เธอดูสวยมาก”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉู่จือหยวนพูด มู่ซีซีก็เงยหน้าขึ้นมามองฉู่จือหยวนด้วยความประหลาดใจ เดิมทีก็หน้าแดงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เธอเขินจนเอามือไปคว้ากระโปรงแล้วพูดขึ้นเบาๆว่า “ขอบคุณ”
หลังจากไม่นาน มู่ซีซีก็กล่าวเสริมด้วยความเขินอายเล็กน้อยว่า “รุ่นพี่ฉู่ เรียกชื่อฉันอย่างเดียวก็พอแล้วค่ะ……”
หลังจากพูดไปบรรยากาศก็กลับมาเงียบลงอีกครั้ง มู่ซีซีไม่รู้ว่าจะพูดอะไร และรู้สึกประหม่าขึ้นอีกครั้ง เธอได้แต่คว้ากระโปรงไว้และแอบอธิษฐานให้ลั่วเสี่ยวชิงกลับมาโดยเร็ว
เมื่อฉู่จือหยวนได้ฟังสิ่งที่มู่ซีซีพูด เขาก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน”มู่ซีซี ฉันขอโทษ นะ ฉันมีคำถามจะถามเธอ มันอาจจะเป็นคำถามที่ดูบุ่มบ่ามไปหน่อย……”
เมื่อฟังเสียงของฉู่จือหยวน มู่ซีซีก็เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ และพูดออกไปโดยไม่รู้ตัวว่า “รุ่นพี่ฉู่ถามเถอะค่ะ? ถ้าฉันรู้ฉันก็จะตอบ”
“เธอมีแฟนหรือยัง?”
ทันทีที่เสียงพูดของฉู่จือหยวนแผ่วเบาลง มู่ซีซีก็หยุดนิ่งอยู่กับที่ สมองของเธอดูเหมือนกำลังจะตาย เธอจ้องมองไปที่ฉู่จือหยวนด้วยความว่างเปล่า เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
ในสมองของเธอกำลังทบทวนคำถามของฉู่จือหยวนว่าหมายความว่าอย่างไร ?
มู่ซีซีชะงักไปชั่วขณะ แต่เมื่อเห็นว่าฉู่จือหยวนยังคงรอคำตอบของเธออยู่ เธอจึงกำลังคิดว่าจะตอบอย่างไร ตอนนี้ในสมองของเธอได้ผุดภาพใบหน้าอันหล่อเหลา เย็นชาและไร้อารมณ์ของจี้หลิงชวนขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ความรู้สึกแปลก ๆ ผุดขึ้นในใจของเธอ ทำให้มู่ซีซีก้าวถอยหลังออกห่างไปจากฉู่จือหยวนโดยไม่รู้ตัว
มู่ซีซีเงยหน้าขึ้นมาสบตารอยยิ้มพระจันทร์เสี้ยวของฉู่จือหยวน เธอกัดริมฝีปากเบา
เดิมทีเธอกับจี้หลิงชวนก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบแฟนแต่อย่างใด
เพียงแต่จี้หลิงชวนเลือกเธอมาเป็นคนรักของเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับคู่นอน……
คิดไปพลางมู่ซีซีก็มองสบตาฉู่จือหยวน และส่ายหัว “ฉันยังไม่มีค่ะ…… ”
ฉู่จือหยวนได้ฟังคำตอบของมู่ซีซี รอยยิ้มในดวงตาของเขาก็แสดงออกถึงความดีใจมากขึ้น แล้วยังต้องพูดอะไรอีกละ โชคดีที่ลั่วเสี่ยวชิงซึ่งไปต่อคิวซื้ออาหารกลับมาทันพอดี เธอยกอาหารมาสามชุด พร้อมกับตะโกนเรียกมู่ซีซี”ซีซี รีบมาช่วยฉันหน่อย!”
ทันทีที่มู่ซีซีได้ยินเสียงของลั่วเสี่ยวชิงก็เหมือนกับเธอได้รับอิสระ เธอถอนหายใจด้วยความโล่ง เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองฉู่จือหยวนเลย มู่ซีซีรีบเดินไปหาลั่วเสี่ยวชิงในทันที
หลังจากที่ลั่วเสี่ยวชิงกลับมาบรรยากาศก็ไม่ได้เงียบสงบเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นลั่วเสี่ยวชิงที่เป็นคนชวนคุยอยู่ มู่ซีซีกำลังก้มหน้าทานอาหารของตัวเอง ส่วน ฉู่จือหยวนก็พูดอะไรบ้างเป็นครั้งคราว
บรรยากาศการรับประทานอาหารดูกดดันอยู่บ้าง แต่เมื่อทานอาหารเสร็จ ยังไม่ทันมีโอกาสรอให้ฉู่จือหยวนได้พูดอะไร มู่ซีซีก็หาข้ออ้างรีบดึงลั่วเสี่ยวชิงวิ่งออกไปจากตรงนั้น
หลังจากวิ่งออกไปไกลจนมองไม่เห็นฉู่จือหยวนแล้ว มู่ซีซีก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก และสะกิดให้ลั่วเสี่ยวชิงหยุดวิ่งต่อ
เมื่อเห็นเช่นนี้ลั่วเสี่ยวชิงก็มองไปที่มู่ซีซีด้วยความสงสัย “มู่ซีซี เกิดอะไรขึ้นเหรอ มันไม่กะทันหันเกินไปเหรอ ไม่ง่ายเลยที่จะพบรุ่นพี่ฉู่ ทำไมเธอถึงได้ไม่รู้จักรักษาโอกาสเลยล่ะ!เกือบจะทำให้ฉันโกรธแล้วนะ!”
ลั่วเสี่ยวชิงมองไปที่มู่ซีซีที่กำลังหน้าแดงก่ำ เมื่อเห็นดวงตาอันเป็นประกายระยิบระยับของมู่ซีซี เธอก็สัมผัสได้ถึงสิ่งแปลกๆ จากนั้นเธอจึงกระซิบถามกับมู่ซีซีว่า “อัยยะ ดูเหมือนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น หน้าแดงแบบนี้ วันนี้รุ่นพี่ฉู่พูดอะไรกับเธออย่างนั้นเหรอ?”
มู่ซีซีถูกลั่วเสี่ยวชิงถามด้วยความกดดัน ก็ไม่มีทางเลือกละนะ มู่ซีซีกำลังจะบอกกับลั่วเสี่ยวชิงแต่บังเอิญโทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอดังขึ้นมาเสียก่อน
เมื่อเห็นหน้าจอโทรศัพท์โชว์อักษรสามตัว มู่อวี๋เฟย สีหน้าของมู่ซีซีก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที
เหอะ มู่อวี๋เฟย ยังกล้าโทรมาหาเธออีก?!
มู่ซีซีกำโทรศัพท์แน่นด้วยความคับแค้นใจ จนเล็บมือซีดขาว

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset