รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 88 สัญญาได้ยุติลงแล้ว

เมื่อมู่อวี๋เฟยได้ยินคำพูดของแม่มู่เมื่อครู่นี้เธอร้อนรนในทันใด!
น้ำเสียงของเธอร้อนรนขึ้นทันที “แม่ แม่บ้าไปแล้วเหรอ! ทำแบบนั้นไม่ได้! แม่กับพ่อทำแบบนั้นก็เท่ากับทำร้ายหนู! แม่อยากเห็นหนูตายหรือไง!”
“อวี๋เฟย งั้นแกก็ต้องคิดหาหนทางมา แกไปขอร้องคุณชายจี้…อวี๋เฟย บริษัทมู่ซือของเราจะจบเห่ไม่ได้!”
เมื่อได้ยินเสียงของแม่มู่ มู่อวี๋เฟยกัดริมฝีปากของเธอแน่น ความเกลียดชังฉายผ่านแววตาของเธอ
ให้ตาย! เรื่องทั้งหมดในตอนนี้เป็นแบบนี้ก็เพราะว่านังมู่ซีซี นังแพศยานั่นคนเดียว! ทำไมนังแพศยานั่นกลับลอยตัวไม่ต้องเผชิญเรื่องราวอะไรเลย! แต่เธอ ในตอนนี้เธอกลับต้องเผชิญเรื่องราวเลวร้ายมากมาย!!
แต่ตอนนี้มู่อวี๋เฟยไม่สามารถทำอะไรได้ เหมือนกับว่าเธอถูกบังคับให้ไปยืนบนหน้าผาและไม่สามารถเดินย้อนกลับได้ หากว่าพ่อมู่นำเรื่องนี้ออกมาพูดจริงๆละก็ เช่นนั้นมู่อวี๋เฟยจะกลายเป็นตัวตลกและเรื่องตลกของเมืองหรง จะไม่มีใครให้เกียรติเธอและการแต่งงานเข้าสู่ครอบครัวมั่งคั่งก็จะกลายเป็นเพียงความฝัน!!!
เธอจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด!
เมื่อคิดเช่นนั้นนิ้วมือทั้งสิบของมู่อวี๋เฟยกำแน่น เธอถือโทรศัพท์ไว้แน่นและพูดกับแม่มู่ที่อยู่ปลายสายว่า “แม่ เรื่องของบริษัทฉันจะไปหาวิธีให้ แม่ห้ามพ่อไว้เลยนะ เรื่องนั้นฉันจะไม่ยอมให้คนในตระกูลจี้รู้เด็ดขาด!!!”
หลังจากวางสาย มู่อวี๋เฟยเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋า เธอสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆอยู่หลายครั้ง หลังจากปรับการแสดงออกทางสีหน้าของเธอให้เป็นปกติแล้ว มู่อวี๋เฟยก็เดินกลับเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย
“คุณย่า ขอโทษด้วย เพื่อนของหนูคนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย หนูต้องไปดูเธอ” มู่อวี๋เฟยยิ้มและพูดกับนายหญิงจี้
นายหญิงจี้ได้ยินและโบกไม้โบกมือให้กับมู่อวี๋เฟย “งั้นอวี๋เฟยรีบไปเถอะ ไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนหญิงชราอย่างฉันหรอก”
มู่อวี๋เฟยจับมือนายหญิงจี้แสดงให้เห็นถึงความลำบากใจว่าแท้จริงเธอเองก็ไม่ได้อยากจากไป “คุณย่า งั้นหนูต้องไปก่อน ครั้งหน้าหนูจะมาเยี่ยมใหม่นะคะ”
เธอกล่าวจบ จากนั้นมู่อวี๋เฟยก็รีบออกจากโรงพยาบาล เดิมทีเธอต้องการไปหาจี้หลิงชวนที่บริษัท
แต่เมื่อมู่อวี๋เฟยมองดูสภาพชุดเรียบๆที่เธอสวมใส่มา เธอเกิดความรู้สึกขยะแขยงเมื่อได้เห็น ยิ่งไปกว่านั้นเธอต้องไปพบจี้หลิงชวนด้วย
เมื่อคิดได้เช่นนั้นมู่อวี๋เฟยจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอนั่งแท็กซี่กลับไปที่คฤหาสน์ที่เธออาศัยอยู่
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ทันทีที่เธอมาถึงคฤหาสน์ มู่อวี๋เฟยรีบเปิดประตูรถและลงจากรถ
เธอเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว แต่ทันทีที่เธอก้าวไปถึงประตูคฤหาสน์ มู่อวี๋เฟยเหลือบไปเห็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเธอสองใบตั้งอยู่ด้านนอกคฤหาสน์
สายตาของเธอหรี่ลงกะทันหัน เธอรีบก้าวเท้าไปและเปิดกระเป๋าเดินทางใบใหญ่นั้น เธอพบว่าด้านในกระเป๋าเต็มไปด้วยสิ่งของของเธอทั้งหมด
นี่มันหมายความว่าอะไร? สิ่งของของเธอถูกโยนออกมาด้านนอกได้อย่างไรกัน?!
ความโกรธมู่อวี๋เฟยกำลังจะปะทุออกมา!
เธอก้าวเท้าไปยังประตูของคฤหาสน์ที่กำลังปิดอยู่ เธอใช้แรงทั้งหมดทุบประตูของคฤหาสน์จนเกิดเสียงปึงปึง
“เปิดประตู!!!! เปิดประตูให้ฉัน!!!” เธอเคาะประตูอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดเกิดขึ้น มู่อวี๋เฟยอดไม่ไหวจากนั้นเธอก็ตบประตูสุดแรง
มู่อวี๋เฟยโหวกเหวกโวยวายอยู่นาน ในที่สุดด้านในประตูก็มีเสียงเคลื่อนไหว เธอได้ยินเพียงเสียงคลิกของการปลดล็อคประตู ประตูที่ถูกปิดอยู่ก็เปิดแง้มออกมาเพียงเล็กน้อย
สาวใช้ที่ก่อนหน้านี้เคยดูแลรับใช้อวี๋เฟยโผล่หน้าออกมา เมื่อเห็นใบหน้าบึ้งตึงของมู่อวี๋เฟย ด้วยความกลัวสาวใช้จึงก้มศีรษะลงโดยไม่รู้ตัว “คุ….คุณหญิงจี้…”
“เปิดประตูให้ฉัน!!! ฉันจะเข้าไปด้านใน!” มู่อวี๋เฟยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
สาวใช้รีบตอบ “คุณหญิงจี้…ขอโทษด้วย ฉันไม่สามารถให้คุณเข้ามาได้…นี่เป็นคำสั่งของคุณชายจี้..”
สีหน้าของมู่อวี๋เฟยหม่นหมองยิ่งกว่าเก่าเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ดวงตาที่โกรธเคืองของเธอแดงก่ำ เธอโกรธจนแทบทนไม่ไหวและไม่สนใจรูปหน้าและท่าทางของเธออีกต่อไป เธอชี้ไปยังกระเป๋าของเธอที่ถูกโยนออกมาด้านนอก เธอมองสาวใช้และถามด้วยน้ำเสียงที่รุนแรงและดุดัน “กระเป๋าเดินทางของฉันถูกโยนออกมาด้านนอกแบบนี้! พวกแกกล้ามากนะ! ใครใช้ให้พวกแกโยนออกมา!!! ฉันเป็นถึงคุณหญิงจี้ แต่งงานกับคุณชายจี้!! พวกแกกล้าทำกับฉันแบบนี้หรือ! ไม่อยากอยู่แบบอายุยืนกันใช่ไหม?!”
สาวใช้คนนั้นที่ได้ยินคำพูดของมู่อวี๋เฟย ในแววตาของเธอมีความหวาดกลัวฉายผ่าน แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าที่โหดเหี้ยมและร้ายกาจของจี้หลิงชวน สาวใช้จึงมองไปทางมู่อวี๋เฟยอย่างกล้าหาญและพูดว่า “คุณหญิง..ขอโทษด้วย นี่เป็นคำสั่งของคุณชายจี้ พวกเราเป็นเพียงสาวใช้ ไม่กล้าขัดคำสั่งของคุณชายจี้ ดังนั้นหากว่าคุณหญิงมีเรื่องอะไรที่ไม่พอใจ คุณหญิงเชิญไปพูดคุยกับคุณชายจี้ก่อนเถอะค่ะ….”
สาวใช้กล่าว เธอไม่รอให้มู่อวี๋เฟยตอบอะไร ทันใดนั้นเธอรีบปิดประตูคฤหาสน์ในทันที
จมูกของมู่อวี๋เฟยแทบจะสัมผัสกับประตูคฤหาสน์ สีหน้าของเธอมืดมนยิ่งกว่าเก่า
มือของเธอกำแน่น ภายในใจของเธอนั้นรู้สึกโกรธมาก โกรธจนแทบจนไม่ไหว แต่เธอกลับไม่สามารถทำอะไรได้
มู่อวี๋เฟยทำได้เพียงแค่แสดงสีหน้าบึ้งตึง เธอหันหลังกลับและถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเธอสองใบขึ้นแท็กซี่และหาโรงแรมที่ใกล้ที่สุด หลังจากวางกระเป๋าเดินทางและจัดเก็บสัมภาระเสร็จสิ้น เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอจากนั้นเธอลงเมคอัพเบาๆและอดทนต่อความรู้สึกหงุดหงิดภายในใจ เธอปกปิดความเกรี้ยวกราดบนใบหน้าจากนั้นเธอก็เรียกแท็กซี่และตรงไปยังบริษัทจี้ซือ
ก่อนหน้านี้มู่อวี๋เฟยเคยทำงานที่บริษัทจี้ซือ เธอมีบัตรพนักงาน เธอสามารถแตะลิฟต์ขึ้นไปยังห้องทำงานของจี้หลิงชวนที่อยู่ชั้นบนสุดได้
แต่ครั้งนี้เมื่อมู่อวี๋เฟยแตะบัตรพนักงาน เครื่องกลับไม่ตอบสนองแต่กลับแสดงข้อความขึ้นมาว่า “ขอโทษด้วย คุณไม่ใช่พนักงานของบริษัทจี้ซือแล้ว”
มู่อวี๋เฟยถูกไล่ออกมาแล้ว เธอไม่มีบัตรพนักงาน เธอไม่สามารถขึ้นไปยังชั้นบนสุดของบริษัทได้
มู่อวี๋เฟยทำได้เพียงแค่กดโทรศัพท์โทรหาจี้หลิงชวนด้วยสีหน้าซีดเผือด
เป็นดั่งที่คิดไว้ หมายเลขโทรศัพท์ของจี้หลิงชวนไม่สามารถติดต่อได้ สีหน้าของมู่อวี๋เฟยมัวหมอง เธอต้องโทรหาผู้ช่วยฟางเซิ่ง ผู้ช่วยของจี้หลิงชวน
แต่แม้ว่าจะโทรหาฟางเซิ่ง มู่อวี๋เฟยก็ต่อสายโทรศัพท์ไปถึงสองครั้ง กระทั่งโทรครั้งที่สาม มู่อวี๋เฟยจึงได้ยินเสียงที่สงบนิ่งของฟางเซิ่งดังมาจากปลายสาย “คุณมู่อวี๋เฟย โทรหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
เมื่อมู่อวี๋เฟยได้ยินเสียงที่ไม่รู้ร้อนของฟางเซิ่ง เธอกัดฟันแน่น แต่ตอนนี้เธอต้องขอความช่วยเหลือจากเขา มู่อวี๋เฟยทำได้เพียงระงับความโกรธในใจของเธอและกล่าวด้วยน้ำเสียงเก้ๆกังๆว่า “ผู้ช่วยฟาง ฉันต้องการพบคุณชายจี้ คุณช่วยฉันไปบอกเขาหน่อยได้หรือไม่? ฉันอยากเจอเขา ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเขา”
ฟางเซิ่งที่ได้ฟังคำพูดของมู่อวี๋เฟย ตอบกลับมาด้วยความใจเย็นว่า “คุณมู่อวี๋เฟย ขอโทษจริงๆ คุณชายจี้ได้ให้คำสั่งกับผมไว้แล้วว่าเขาไม่ต้องการคุยอะไรกับคุณอีก ตอนนี้เขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณแล้ว และเรื่องที่ได้ทำสัญญากันไว้ก็จบลงไปแล้ว”
ฟางเซิ่งกล่าวโดยไม่คิด แต่มู่อวี๋เฟยกลับเข้าใจในความหมายของประโยคที่ว่าสัญญาที่ได้ทำไว้นั้นสิ้นสุดลงไปแล้ว

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset