รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 97 เป็นมู่ซีซี! ไม่ใช่มู่อวี๋เฟย?

สีหน้านายหญิงเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด พอแม่บ้านจางที่อยู่ข้างๆเห็นจึงมาลูบหลังนายหญิง “นายหญิง ใจเย็นๆก่อนนะคะ เกิดอะไรขึ้นคะ?”
นายหญิงจี้มองแม่บ้านจางแล้วพูดว่า “ตระกูลมู่! เอาใครก็ไม่รู้มาหลอกตระกูลจี้! วันเดือนปีเกิดของมู่อวี๋เฟยคนนั้นไม่ตรงกับที่เราเลือกไว้เลย!”
โทษที่ตอนนั้นนายหญิงป่วยจนไม่ได้สติ คิดแค่อยากให้จี้หลิงชวนรีบแต่งงาน บวกกับตอนนั้นร่างกายตัวเองก็ไม่ค่อยดี จึงลืมเรื่องนี้ไป
ไม่คิดเลยว่าตระกูลมู่จะกล้าขนาดนี้
แม่บ้านจางที่อยู่ข้างๆได้ยินสิ่งที่นายหญิงพูดจึงตกใจ ตระกูลมู่กล้ามากจริงๆ กล้าเอาตัวปลอมแต่งเข้าตระกูลจี้
แม่บ้านจางจึงถามนายหญิงว่า “นายหญิง แล้วตอนนี้เราจะทำยังไงดีคะ?”
สีหน้านายหญิงจี้เข้มขรึม แล้วพูดสั่งว่า “สืบเรื่องนี้ให้แน่ใจ ดูว่าใครกันแน่ที่ตรงกับวันเดือนปีเกิดนั้น!”
นายหญิงจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสั่งการอีกครั้ง
เพราะแค่สืบเรื่องวันเกิด จึงได้รับการตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“นายหญิงครับ จากที่พวกผมสืบมา มีแค่ลูกสาวคนเล็กของตระกูลมู่ที่วันเกิดตรงตามที่นายหญิงให้ครับ”
นายหญิงจี้ขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยถามว่า “ลูกสาวคนเล็กตระกูลมู่? ชื่ออะไร?”
“ลูกสาวคนเล็กตระกูลมู่ชื่อมู่ซีซี ปีนี้อายุเพิ่งสิบเก้า เรียนปีหนึ่งอยู่ที่มหาวิทยาลัยA ผลการเรียนดี ทั้งอาจารย์กับเพื่อนก็ชมว่าดี แต่ว่า……”
“แต่ว่าอะไร?”
“แต่ว่าตระกูลมู่ไม่ค่อยดีกับลูกสาวคนเล็กคนนี้ ตั้งแต่อายุสิบแปด ตระกูลมู่ก็ไม่เคยให้เงินมู่ซีซีอีกเลย ค่าเทอมกับค่าครองชีพของมู่ซีซีตอนนี้ต้องพึ่งทุนการศึกษากับหางานทำเองครับ”
พอนายหญิงได้ยินประโยคหน้า คิ้วที่ขมวดอยู่จึงขมวดแน่นกว่าเดิม พอได้ยินประโยคหลัง คิ้วค่อยคลายออกเล็กน้อย
ตระกูลมู่ทำเกินไปจริงๆ เลี้ยงดูมู่อวี๋เฟยอย่างตามใจ ทั้งๆที่ทั้งสองคนเป็นลูกสาวตัวเอง แต่เลี้ยงต่างกันสิ้นเชิงขนาดนี้ มู่ซีซียังเรียนอยู่ ตระกูลไม่ใช่ไม่มีเงิน แม้แต่ค่าเทอมกับการครองชีพก็ไม่ให้ลูกตัวเอง
ทั้งสองสามีภรรยาตระกูลมู่ลำเอียงจริงๆ! แค่มองก็รู้แล้วว่ามู่อวี๋เฟยนั่นจงใจจะแต่งเข้ามาตระกูลจี้แทนมู่ซีซี
แต่มู่ซีซีกลับเป็นเด็กดี ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยAภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนั้น แถมอาจารย์กับเพื่อนยังชมอีก นิสัยก็คงไม่แย่อะไรมาก
แค่อายุเด็กเกินไป อายุเพิ่งสิบเก้าเอง
เมื่อกี้รู้เรื่องที่มู่อวี๋เฟยทำแล้ว ตอนนี้นายหญิงจึงรอบคอบกับเรื่องการแต่งงานของจี้หลิงชวนมากขึ้น
ไม่กล้าตัดสินใจง่ายๆแทนจี้หลิงชวนอีก
คิดแบบนี้นายหญิงจึงถอนหายใจแล้วพูดกับอีกฝั่งของโทรศัพท์ว่า “เอาล่ะ ฉันรู้แล้ว! เรื่องนี้แค่นี้ก่อนแล้วกัน!”
พอนายหญิงจี้กดวางสายแล้วจึงรีบโทรไปหาจี้หลิงชวนทันที
จี้หลิงชวนได้รับโทรศัพท์จากนายหญิงตอนที่เลิกงานกำลังขับรถกลับไป พอกดรับสาย จี้หลิงชวนจึงได้ยินเสียงที่เอ็นดูของคุณย่าตัวเอง “หลิงชวน ตอนนี้หลานเลิกงานหรือยัง?”
“คุณย่า ผมเพิ่งเลิกงานครับ” เพราะปกติจี้หลิงชวนยุ่งมาก เพราะฉะนั้นนายหญิงจึงไม่ค่อยโทรมาหาเขา พอคิดได้แบบนี้ จี้หลิงชวนจึงถามกลับว่า “คุณย่า มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
“มีเรื่องหนึ่งที่ย่าอยากคุยกับหลาน หลิงชวน ถ้าตอนนี้หลานไม่มีธุระอะไรก็มาที่โรงพยาบาลหน่อย”
พอได้ยินเสียงคุณย่าตัวเอง จี้หลิงชวนจึงก้มดูนาฬิกา เห็นว่าเวลายังไม่สายจึงตอบว่า “ได้ครับคุณย่า ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ”
ยี่สิบห้านาทีหลังจากนั้น จี้หลิงชวนมาถึงโรงพยาบาล เพิ่งเข้าห้องพักฟื้นก็เห็นสีหน้าคุณย่าไม่ค่อยดี จึงขมวดคิ้วทันที
เขาก้าวเดินไปนั่งลงข้างเตียงคุณย่า แล้วจี้หลิงชวนก็ถามอย่างเป็นห่วงว่า “คุณย่าครับ เป็นอะไรครับ? ร่างกายไม่สบายอีกแล้วเหรอครับ?”
นายหญิงจี้ส่ายหน้าไม่พูดอะไร แม่บ้านจางที่อยู่ข้างๆถึงตอบจี้หลิงชวนแทนนายหญิงว่า “คุณชาย นายหญิงอารมณ์ไม่ดีค่ะ……”
จี้หลิงชวนจึงขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “คุณย่า เกิดเรื่องอะไรครับ? ใครทำให้คุณย่าอารมณ์ไม่ดีครับ?”
พอพูดถึงเรื่องนี้ นายหญิงจึงอารมณ์ขึ้น “ยังจะใครอีกล่ะ! ตระกูลมู่หลอกลวงมาก!”
จี้หลิงชวนได้ยินว่าพูดถึงตระกูลมู่ จึงขมวดคิ้วแน่น “คุณย่า ตระกูลมู่ทำอะไรครับ?”
“หลิงชวน! วันนี้หลานทำถูกแล้วที่จัดงานแถลงข่าว! หลานห้ามแต่งงานกับมู่อวี๋เฟย! มู่อวี๋เฟยนั่นไม่ใช่ผู้หญิงที่วันเดือนปีเกิดเหมาะสมกับหลาน! เป็นแค่คนที่ตระกูลมู่เอามาแทนที่!”
ได้ยินคุณย่าพูดแบบนี้ จี้หลิงชวนจึงอึ้งไปหลายวินาทีค่อยตั้งสติได้ จึงขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม แล้วถามคุณย่าตัวเองว่า “คุณย่า หมายความว่ายังไงครับ? คนที่วันเดือนปีเกิดเหมาะสมกับผมคือใครครับ?”
“ลูกสาวคนเล็กตระกูลมู่มู่ซีซี!” นายหญิงเพิ่งพูดจบ จี้หลิงชวนจึงเบิกตาโตอย่างตกใจ
เป็นมู่ซีซีจริงๆด้วย! กี่วันก่อนเขายังเทียบมู่อวี๋เฟยกับมู่ซีซี เขาอยากแต่งงานกับมู่ซีซีมากกว่า ไม่คิดเลยว่ามู่ซีซีจะเป็นคนที่เขาควรแต่งงานด้วย
สายตาจี้หลิงชวนจึงมืดหม่น แล้วเงยหน้าถามคุณย่าอีกว่า “คุณย่า คุณย่าแน่ใจใช่ไหมครับว่าเป็นมู่ซีซีไม่ใช่มู่อวี๋เฟย?”
“ครั้งนี้ย่าสืบให้แน่ใจแล้ว แน่ใจมากแล้ว! เป็นมู่ซีซี!”
ฟังน้ำเสียงที่มั่นใจของคุณย่า แววตาของจี้หลิงชวนจึงมืดมนกว่าเดิม
มุมปากเลิกขึ้นอย่างเย็นชา เหอะ ตระกูลมู่กล้ามากจริงๆ! กล้าส่งตัวปลอมมาแต่งงานกับเขา ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้มู่อวี๋เฟยรนหาที่เอง งั้นมู่อวี๋เฟยก็จะต้องอยู่ในฐานะคุณหญิงจี้น่ะสิ!
นายหญิงเห็นว่าจี้หลิงชวนที่อยู่ข้างๆเอาแต่เงียบ นายหญิงเป็นคนที่เลี้ยงดูจี้หลิงชวนจนโต นายหญิงจึงรู้นิสัยหลานตัวเองดี
ยิ่งจี้หลิงชวนโมโห สีหน้าก็จะนิ่งเฉยจนน่ากลัว
นายหญิงจี้จึงอดถามจี้หลิงชวนไม่ได้ว่า “หลิงชวน หลานรู้จักลูกสาวคนเล็กที่ชื่อมู่ซีซีเหรอ?”
ไม่รู้ว่านายหญิงจี้รู้สึกไปเองหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่เพราะจี้หลิงชวนรู้จักมู่ซีซี ตอนนี้จี้หลิงชวนที่เป็นคนใจเย็นคงไม่โกรธขนาดนี้

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset