รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 99 เปิดโปงความจริง

มู่ซีซีฟังเสียงของจี้หลิงชวน ใจจึงสั่นเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นยืนเดินไปทางจี้หลิงชวน ยังไม่รอให้มู่ซีซีเดินไปตรงหน้าเขา มือของเขาก็ยื่นมาดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอดแล้ว
เรียวแขนกอดเอวของมู่ซีซีไว้แน่น แล้วมืออีกข้างของจี้หลิงชวนก็จับคางเธอไว้ บังคับให้เธอมองตัวเอง
ดวงตาทั้งสองคู่สบตากัน มู่ซีซีมองสบตาแววตาที่ลึกลับของจี้หลิงชวน แล้วในใจก็เริ่มเกร็ง จนต้องกลืนน้ำลาย แล้วเธอก็เอ่ยพูดว่า “คุณชายจี้……ทำไมเหรอ?”
“ครั้งแรกที่เจอเธอ ใครเป็นคนวางยาเธอ? ตอนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ฉันอยากรู้”
มู่ซีซีฟังแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าจี้หลิงชวนจะพูดถึงเรื่องก่อนหน้านั้น
นี่เป็นความทรงจำที่ไม่ดีสำหรับมู่ซีซี มู่ซีซีไม่อยากคิดถึงอีก เธอจึงมองเขาอย่างประหลาดใจแล้วถามว่า “ทำไมเหรอ? เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“เธอแค่บอกความจริงกับฉัน เรื่องที่ฉันถามเธอก็พอ!”
น้ำเสียงที่เข้มขรึมของเขา ทำให้มู่ซีซีต้องบอกเรื่องนี้ออกมาตามความจริงที่เกิดขึ้น “คืนนั้นฉันไปรับมู่อวี๋เฟยที่บาร์ เขาให้ฉันดื่มเหล้า พอฉันดื่มลงไปแล้วก็รู้สึกสติเลือนราง พอตื่นมาก็เห็นว่าตัวเองนอนอยู่ในโรงแรม ฉันกลัวมาก ก็เลยอยากหนีออกจากห้อง ตอนนั้นสมองมึนมาก ก็เลยเข้าห้องผิด……เข้าไปในห้องนาย……”
พอพูดถึงจี้หลิชวนเสียงมู่ซีซีจึงเริ่มเบาอย่างไม่รู้ตัว
จี้หลิงชวนฟังที่มู่ซีซีพูดแล้วเริ่มขมวดคิ้วแน่น!
เหมือนที่เขาคิดไว้เลย! ตอนนี้มู่ซีซีก็อาจจะยังไม่รู้ว่าเธอต่างหากที่ควรแต่งงานกับเขา วันนั้นมู่อวี๋เฟยต้องเป็นคนวางยาเธอแน่นอน!
แต่มู่อวี๋เฟยคงคิดไม่ถึงว่ามู่ซีซีจะเข้าห้องผิดแล้วเข้าไปในห้องเขา จะว่าไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะมู่อวี๋เฟยจะทำร้ายมู่ซีซี ทั้งชีวิตนี้มู่ซีซีก็คงไม่มีโอกาสได้รู้จักเขา
เสียดายที่มู่อวี๋เฟยวางแผนมาตั้งนาน แต่สุดท้ายแผนก็ล้มเหลว!
แต่กล้ามาหลอกตระกูลจี้ของพวกเขา ทั้งเมืองหรงก็คงมีแค่ตระกูลมู่ตระกูลเดียว!
แววตาของจี้หลิงชวนเข้มขรึม แล้วแววตาที่มองมู่ซีซีก็มีความเอ็นดู
มู่ซีซีมีพ่อแม่แบบนั้นคงไม่มีความสุขแน่นอน
พอคิดแบบนี้จี้หลิงชวนจึงกอดมู่ซีซีแน่นกว่าเดิม แล้วมองเธอพร้อมพูดว่า “มู่ซีซี เธออยากรู้หรือเปล่าว่าทำไมตอนนั้นมู่อวี๋เฟยต้องวางยาเธอ แล้วทำร้ายเธอแบบนี้?”
มู่ซีซีไม่คิดเลยว่าอยู่ๆจี้หลิงชวนจะพูดถึงเรื่องนี้ จึงรีบหันมองจี้หลิงชวน เธออยากรู้มาก! คำถามนี้เอาแต่วนเวียนอยู่ในหัวเธอหลายวันแล้ว
ทั้งๆที่เธอไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ทำไมมู่อวี๋เฟยต้องเอาแต่คิดร้ายกับเธอด้วย
“ฉันอยากรู้! ทำไมมู่อวี๋เฟยต้องทำร้ายฉัน? นายรู้คำตอบเหรอ? นายบอกฉันได้ไหม!” มู่ซีซียื่นมือไปจับแขนเสื้อจี้หลิงชวนไว้แน่น
“ฉันยังไม่แน่ใจ ถ้าเธออยากรู้ ก็ทำตามที่ฉันบอก” จี้หลิงชวนเพิ่งพูดจบ มู่ซีซีก็รีบพยักหน้าทันที
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น คฤหาสน์ตระกูลมู่ในเมืองหรง คุณพ่อมู่กับคุณแม่มู่แล้วก็มู่อวี๋เฟยกำลังนั่งทานมื้อเย็นด้วยกัน
บรรยากาศกดดันมาก สีหน้าพ่อมู่ยังเข้มขรึมเหมือนเดิม สีหน้ามู่อวี๋เฟยไร้ความรู้สึก เหมือนผีดิบที่ไม่มีความรู้สึกอย่างนั้น
สุดท้ายบรรยากาศที่น่ากดดันนี้ก็ถูกเสียงโทรศัพท์ทำลาย
เป็นเสียงโทรศัพท์ของพ่อมู่ พ่อมู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ ตอนที่เห็นว่าขึ้นชื่อคุณชายจี้ สีหน้าเขาจึงเปลี่ยนไปทันที รีบวางตะเกียบในมือลง แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยสองมือ
มู่อวี๋เฟยที่อยู่ข้างๆเห็นอยู่ๆพ่อมู่ก็ทำท่าทางเคารพนับถือ สายตาที่นิ่งเฉยจึงเริ่มตื่นเต้น แล้วรีบหันไปทางพ่อมู่
วินาทีต่อมา มู่อวี๋เฟยจึงได้ยินพ่อมู่กดรับสาย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงประจบประแจง “คุณชายจี้……”
มู่อวี๋เฟยได้ยินพ่อมู่เรียกแบบนี้ เหมือนเดาได้ตั้งนานแล้ว จึงขยับเก้าอี้ไปใกล้พ่อมู่เสียงเบา แล้วเอียงหูฟังเสียงในโทรศัพท์พ่อมู่
จึงได้ยินเสียงที่ทุ้มต่ำเย็นชาของจี้หลิงชวนดังขึ้นว่า “มีเวลาไหมครับ? ผมอยากจะเชิญพวกคุณทั้งครอบครัวสามคนมารับประทานมื้อเย็นพร้อมกัน”
สีหน้าพ่อมู่อึ้งไปทันที ไม่รู้ว่าคุณชายจี้คิดอะไรอยู่ แต่ที่แน่ๆคือคุณชายจี้ไม่ใช่แค่อยากเชิญพวกเขาไปทานมื้อเย็นธรรมดาๆแน่นอน ใจพ่อมู่จึงเริ่มลนลาน……
“ทำไมครับ? ไม่มีเวลา?” เสียงที่เย็นชาของจี้หลิงชวนดังขึ้นอีกครั้ง
พ่อมู่ได้ยินน้ำเสียงที่เย็นชาของจี้หลิงชวน ใจจึงเกร็งทันที แล้วรู้สึกถึงความกดดันอย่างบอกไม่ถูก
พ่อมู่ตกใจจนหน้าผากมีแต่เหงื่อ ไม่สนใจอะไรมาก แล้วรีบเอ่ยตอบว่า “มีครับ มีครับ มีเวลา……”
พ่อมู่ยังไม่ทันพูดจบ จี้หลิงชวนก็พูดแทรกได้จังหวะพอดี “อีกครึ่งชั่วโมง ร้านอาหารหลานเล่อครับ”
พอพูดจบ จี้หลิงชวนก็กดวางสายทันที เร็วจนพ่อมู่ไม่ทันพูดประโยคที่เหลือออกมาด้วยซ้ำ
เห็นว่าสายถูกตัดไปแล้ว ในใจพ่อมู่จึงลนลานไม่สบายใจทันที แล้วจับโทรศัพท์ไว้ด้วยสีหน้าอมทุกข์
มู่อวี๋เฟยข้างๆเห็นแล้วกลับดีใจ เมื่อกี้เธอนั่งอยู่ใกล้ เธอจึงได้ยินสิ่งที่คุณชายจี้พูดชัดเจน
“แม่คะ เรารีบขึ้นไปเตรียมตัวเถอะค่ะ! คุณชายจี้เชิญเราไปกินข้าวด้วยกัน!” มู่อวี๋เฟยรีบลุกขึ้น แล้วดึงแม่มู่ น้ำเสียงดูตื่นเต้นมาก
พอพูดจบ พ่อมู่ที่อยู่ข้างๆได้ยินจึงขมวดคิ้วทันที แล้วใช้สายตาที่ไม่สบอารมณ์มองทั้งสองแม่ลูก “พวกเธอสองคนดีใจอะไรกัน! คุณชายจี้โทรมาตอนนี้ไม่ใช่เรื่องดีอะไร! พวกเธอสองคนยังไม่รู้เรื่องอีก เดี๋ยวจะตายยังไงก็คงไม่รู้ตัว!”
มู่อวี๋เฟยไม่สนใจอะไรมาก ตอนนี้ขอแค่เธอมีโอกาสเจอคุณชายจี้ก็พอแล้ว!
ได้เจอคุณชายจี้ เธอก็จะได้หาโอกาสกลับไปข้างตัวเขา! ตอนนี้ไม่แน่คุณชายจี้อาจจะเสียใจแล้วก็ได้ แล้วอยากจะคืนดีกับเธอ!
พอคิดแบบนี้มู่อวี๋เฟยจึงไม่สนใจพ่อมู่ที่หน้าอมทุกข์ แล้วดึงแม่มู่รีบขึ้นไปชั้นบน

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset