ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] – ตอนที่ 283

บทที่ 283

บทที่ 283

เมื่อเห็นเจียงหลูพุ่งเข้ามาหาอย่างบ้าบิ่น หลูชิงเฟิงก็หัวเราะแล้วแกว่งหอกในมือ

 ฉั่วะ ! 

หลังเกิดเสียงเนื้อหนังฉีกขาด ศีรษะของเจียงหลูก็พลันหลุดออก ก่อนร่างไร้หัวจะก้าวไปข้างหน้าอีกสองก้าวแล้วตกลงสู่พื้น

โดยไม่ได้มองไปที่ศพ หลูชิงเฟิงก็ทำการสลัดเลือดที่หอกของเขาออกและหันไปสั่งการ  ฆ่าพวกมันให้หมด แล้วเอาหัวของพวกมันไปแขวนไว้ที่ประตูเมือง ให้พวกมันได้เห็นผลลัพธ์ของการกระทำอันโง่เขลา ! 

 รับทราบขอรับ ! 

พวกทหารปฏิบัติตามคำสั่งทันที โดยไม่สนใจว่าคนนับร้อยจากกองทัพเฟิงตายหรือบาดเจ็บ !

พวกเขาส่วนใหญ่เสียชีวิตภายใต้ลูกศรของศัตรู ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็ถูกตัดศีรษะ

ทันใดนั้นเสียงควบม้าก็พลันดังขึ้นมาจากด้านหลังของหลูชิงเฟิงและเมื่อเขาหันไปรอบ ๆ ก็เห็นเข้ากับผู้เป็นนายของตน เหมาอัน  นายท่าน ! 

 แม่ทัพหลู เกิดอะไรขึ้น ?  เหมาอันพยักหน้าให้หลูชิงเฟิงขณะที่มองไปรอบ ๆ

ในตอนกลางคืน อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของเหมาอันกับหลูชิงเฟิงนั้นชัดเจน คนหนึ่งเฝ้าเมืองด้านหน้า ในขณะที่อีกคนเฝ้าเมืองด้านหลัง ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่คุ้มกันเมืองด้านหลังก็ไม่ใช้ใครอื่นนอกจากหลูชิงเฟิง

 ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขอรับนายท่าน ก็แค่ทหารข้าศึกที่ประมาทเพียงไม่กี่คนที่โจมตีเมืองของเราในเวลากลางคืนเท่านั้น มาตอนนี้พวกเขาทั้งหมดถูกสังหารไปแล้วขอรับ ! 

 โอ้ !  หลังจากได้ยินรายงานของหลูชิงเฟิง เหมาอันก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

หลูชิงเฟิงหัวเราะ  ดูเหมือนว่าเราจะหยุดพักได้แล้ว คืนนี้พวกศัตรูคงจะไม่เคลื่อนไหวใด ๆ อีก ! 

เหมาอันพยักหน้าก่อน จากนั้นจู่ ๆ ก็ส่ายหัวทันทีและพูดกับหลูชิงเฟิงว่า  ถึงอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งได้ประมาท ! 

 ฮ่า ฮ่า !  หลูชิงเฟิงหัวเราะ ด้วยเขารู้สึกว่าเหมาอันนั้นดีในทุก ๆ แต่จะเสียก็แต่ที่อีกฝ่ายนั้นขี้ระแวงมากเกินไป

กลุ่มผู้ซุ่มโจมตีเสียชีวิตไปในเขตศัตรู แล้วพวกเขาจะตั้งกลุ่มที่สองมาบุกไปทำไม ? การกระทำแบบนั้นไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตายงั้นหรือ ? เขาคิดเรื่องนี้ในใจ ทว่าก็ไม่กล้าที่จะพูดออกไป จึงได้แต่กล่าวออกไปว่า  ไม่ต้องกังวลขอรับ ข้าจะแจ้งเตือนทันทีหากศัตรูปรากฏตัว ! ดังนั้นไว้ใจข้าได้เลยขอรับ ! 

 ลำบากเจ้าแล้วล่ะนะ !  เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น หลูชิงเฟิงก็สงบลงก่อนเงยหน้าขึ้นและพูดว่า  ท่านแม่ทัพ อีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น อีกเดี๋ยวกำลังเสริมก็จะมาถึงแล้ว ! และด้วยการร่วมมือกันระหว่างภายในและภายนอก พวกเราก็จะสามารถจัดการกองทัพกบฏของถังหยินได้อย่างแน่นอน !! 

เหมาอันได้ส่งจดหมายถึงเกิงฉวนแล้วบอกให้เขารีบมาที่นี่เพื่อเสริมกำลังในวันที่ 2 แต่มันก็เป็นวันที่ 4 เข้าไปแล้ว ทว่าพวกเขาก็ยังมองไม่เห็นแม้แต่เงาของกำลังเสริมที่ว่า ดังนั้นเขาจึงไม่รู้จริง ๆ ว่าในขณะนี้เกิงฉวนกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่

ว่าแล้วเขาก็ยืดหลังก่อนพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด  ท่านแม่ทัพขอรับ พวกเรามีหน้าที่ป้องกันเมืองจี๋อย่างถึงที่สุด และแม้ว่าเกิง

ฉวนจะไม่เข้ามาช่วย แต่ด้วยความแข็งแกร่งที่มี พวกเราก็ย่อมที่จะต้านทานกองทัพของถังหยินได้ ! 

เหมาอันไม่ได้มองโลกในแง่ดีเช่นเดียวกับเขา ด้วยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาอาวุธหนักของศัตรูไม่ได้ถูกใช้ด้วยซ้ำ และถ้าอีกฝ่ายได้เสบียงมา สถานการณ์มันก็คงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป !  แม่ทัพหลู อย่าได้นิ่งนอนใจ ด้านหลังนี้ขอฝากเจ้าเอาไว้ด้วย ! 

 ขอรับนายท่าน ไปดีมาดี ! 

หลูชิงเฟิงเห็นด้วยกับคำของผู้เป็นนาย แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก ด้วยในความคิดของเขานั้น เนื่องจากศัตรูล้มเหลวไปแล้ว งั้นพวกเขาจะต้องไม่กล้าบุกซ้ำสองเป็นแน่ !

นอกจากนี้ แม่ทัพนายกองของพวกเขาก็อยู่ในสภาวะเครียดมาติดต่อกันหลายวันแล้ว ทำให้พวกเขาเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ จนพวกทหารเลวทั้งหลายไม่สามารถทนรับมันได้อีกต่อไป และหากเขาไม่สามารถใช้ประโยชน์จากช่วงพักสั้น ๆ นี้เพื่อผ่อนคลาย งั้นแล้วใครจะรู้ว่าพวกเขาจะต้องรออีกนานแค่ไหนในอนาคต ?

หลังจากเหมาอันจากไป หลูชิงเฟิงก็เรียกหาผู้ใต้บังคับบัญชาทันที ก่อนจะสั่งให้อีกฝ่ายจัดสรรคนให้เขา 1 พันคนเพื่อปกป้องกำแพงเมือง ส่วนคนที่เหลือก็ให้ไปพักผ่อน เพื่อเตรียมรับมือกับศึกหลังรุ่งสาง ซึ่งการตัดสินใจของเขาก็ทำให้พวกทหารมีความสุขมาก ด้วยในที่สุดพวกเขาก็สามารถนอนหลับได้เต็มอิ่มแล้ว !

ตามคำสั่งของหลูชิงเฟิง ทหารกองทัพเปิงจำนวนพันนายก็จำต้องเดินวนรอบบนกำแพงเมือง โดยพวกเขาจะจัดแบ่งและเว้นระยะกันประมาณ 10 ก้าว เช่นเดียวกับทีมทหารลาดตระเวนที่เดินไปมาเป็นระยะ ๆ และเมื่อแน่ใจแล้วว่าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี หลูชิงเฟิงก็วางใจและกลับไปที่เต็นท์ของตัวเองเพื่อพักผ่อน

หลูชิงเฟิงและกองทัพเปิงส่วนใหญ่กำลังจะเข้านอนโดยปล่อยให้คนนับพันยืนเฝ้า เมื่อผู้คนวิตกกังวลอย่างมาก พวกเขาอาจจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้า แต่ตอนนี้แม้แต่หลูชิงเฟิงก็เข้านอนแล้ว ดังนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคืนนี้จะไม่มีศัตรูอีกต่อไป ทำให้เส้นประสาทที่ตึงเครียดของทหารผ่อนคลายลง จนทำให้ความเหนื่อยล้าเข้าครอบงำพวกเขาอย่างรวดเร็ว

ในตอนแรกกองทัพเปิงที่เหลือยังคงเฝ้ายามอยู่ แต่ในช่วงครึ่งหลังของคืนนั้นพวกเขาเกือบทั้งหมดพากันนอนลงบนพื้น ทำให้ที่เหนือกำแพงเมืองมีเสียงกรนดังเป็นระยะ ๆ และในบางครั้งก็มีเสียงของทหารที่กำลังหลับใหลตื่นขึ้น ก่อนที่คนคนนั้นจะมองออกไปนอกเมืองสองสามครั้ง แล้วค่อย ๆ ปิดตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราต่อ

ถังหยินตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นที่เมืองจี๋ และเมื่อเขาได้ยินว่ามีทหารจำนวนมากเฝ้าอยู่ที่ด้านบนของกำแพงเมือง ชายหนุ่มก็พลันเงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะออกมา !

รุ่งสางเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการลอบโจมตี ซึ่งตัวของถังหยินก็เข้าใจตรรกะนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นหลังจากได้ยินคำแนะนำของซงหยวน เขาก็ตอบรับในทันที และเมื่อถึงเวลาที่ใช่ ถังหยิน เฉิงจิน และคนอื่น ๆ ในกลุ่มศรทมิฬก็พากันเตรียมพร้อม !

ถังหยินต้องการที่จะติดตามกลุ่มศรทมิฬไปด้วยเป็นการส่วนตัวเพื่อลอบโจมตี ซึ่งมันก็ทำให้ซงหยวนและคนอื่น ๆ กังวลเป็นอันมาก โดยเฉพาะชัวน่าที่รีบเข้ามาเพื่อหยุดแผนในครั้งนี้หลังจากทราบถึงสถานการณ์ ทว่าชายหนุ่มกลับไม่สนใจความกังวลของทุกคนและหัวเราะออกมา  ไม่ต้องกังวลไป ต่อให้พวกเขาเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว ก็ไม่มีอะไรที่เราต้องกังวล ! 

ชัวน่ากัดริมฝีปาก ก่อนก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า  ข้าจะไปด้วย ! 

ถังหยินหัวเราะ ชัวน่าไม่ใช่ผู้ใช้ศาสตร์มืด และหากนางติดตามไป ไม่เพียงแต่หญิงสาวจะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว กลับจะกลายเป็นภาระด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงได้หันมาพูดด้วยรอยยิ้ม  เจ้าหญิงชัวน่า สำหรับเจ้า ข้ามีอีกเรื่องที่อยากให้ทำมากกว่า ! 

 อันใด ?  ดวงตาของชัวน่าสว่างวาบ มองไปที่ถังหยินโดยไม่กะพริบตา

ถังหยินกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง  เมื่อข้าเปิดประตูเมืองได้ มันจะต้องปลุกให้กองทหารข้าศึกในเมืองตื่นขึ้นอย่างแน่นอน และเมื่อกองกำลังศัตรูเข้ามาโจมตี ข้าก็อยากให้เจ้านำกองทหารม้าเข้ามาช่วยสนับสนุนอีกแรง ! 

ชัวน่าฟังแล้วพยักหน้า ก่อนจะตระหนักได้ถึงเบื้องหลังของคำขอนี้ ทำให้สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไป และพูดว่า  ให้ข้าไปกับเจ้าไม่ได้เหรอ ? 

ถังหยินกล่าวว่า  การที่มีเจ้าดูแลอยู่ที่ส่วนนอกเมืองมันจะทำให้ข้าสบายใจมากยิ่งขึ้นเวลาต่อสู้ 

ไม่ว่าถังหยินจะปฏิเสธจริงหรือไม่ ชัวน่าก็ยังรู้สึกว่ามันน่าเสียดาย ทว่าหญิงสาวก็ได้แต่พยักหน้าหนักแน่นและพูดอย่างจริงจังออกมา  ข้าจะทำให้ดีที่สุด ! 

 เด็กดี !  ถังหยินยิ้มให้นาง

ถังหยินและเฉิงจินนำกลุ่มศรทมิฬกว่ายี่สิบคนออกไปจากค่ายของพวกเขาอย่างเงียบ ๆ มุ่งหน้าไปยังกำแพงเมืองด้านหลังของเมืองจี๋

ในฐานะผู้ใช้ศาสตร์มืด การลอบโจมตีเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขา ทำให้มีคนมากกว่ายี่สิบคนที่ปรากฏตัวเป็นครั้งคราว ก่อนจะหายไปเป็นครั้งคราวราวกับวิญญาณ ซึ่งช่วงเวลาก่อนรุ่งสางเช่นนี้ มันก็ทำให้บริเวณโดยรอบมืดไปหมด จนยากที่จะเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น !

ตอนนี้ถังหยินและคนอื่น ๆ ได้มาแอบอยู่ใต้กำแพงเมืองแล้ว และเมื่อตั้งใจฟัง พวกเขาก็พลันได้ยินเสียงกรนจากด้านบนของกำแพงเมือง ซึ่งมันก็ไม่มีแม้แต่เสียงกระซิบ ทำให้แน่ใจแล้วว่าคราวนี้ฟ้าน่าจะอยู่ข้างพวกเขา !

เมื่อเห็นเช่นนั้น ถังหยินก็ไม่ลังเลและใช้วิชาสลับเงาทันที หลังจากนั้นกลุ่มหมอกดำก็ได้บินออกไปจนลับสายตา เมื่อเขากลับมาอีกครั้ง ชายหนุ่มก็มาอยู่ที่ด้านบนสุดของกำแพงเมืองแล้ว และหลังจากไปถึงจุดสูงสุดของเมือง ถังหยินก็พลันหมอบลงทันที ก่อนจะถอยกลับเข้าไปในเงามืดแล้วมองสำรวจโดยรอบ

ในเวลานี้เฉิงจินและคนอื่น ๆ ก็ได้ปีนขึ้นไปบนกำแพงเมือง

 หืม… ? 

โดยไม่ต้องรอให้ถังหยินและคนอื่น ๆ ทำการอื่นใด ทหารเปิงที่อยู่ใกล้ถังหยินที่หลับอยู่ข้างกองลูกศรก็ได้พึมพำอะไรบางอย่างก่อนเอียงศีรษะเอนมาซบที่ไหล่ถังหยิน

การกระทำที่ไม่สำคัญนี้ทำให้เฉิงจินและใบหน้าของคนอื่นเปลี่ยนไป ก่อนตามมาด้วยเสียงของคมดาบที่ถูกชักออกจากฟัก

ทว่าถังหยินกลับสงบกว่าพวกเขานัก ด้วยชายหนุ่มเพียงโบกมือให้พวกเขาแล้วบอกให้ช่างมันไป !

ในเวลานี้ถังหยินซ่อนตัวอยู่ใต้สะพาน ทำให้ไม่มีใครสามารถเห็นเขาได้เลยแม้แต่คนเดียว ทว่าถ้าสังเกตดี ๆ พวกเขาก็จะสามารถมองเห็นดวงตาสีเขียวคู่นั้นได้ ซึ่งตาสีเขียวของถังหยินนั้นมันก็แตกต่างจากดวงตาสีเขียวของชาวเมืองเบสซ่า ด้วยผู้คนในเมืองเบสซ่าตาเป็นสีเขียวสว่าง ในขณะที่ตาของถังหยินเป็นสีเกือบดำสนิท

เขาหันหน้าไปมองนายทหารเปิงที่พิงไหล่ของตน และเมื่อพบว่าการหายใจของอีกฝ่ายยังคงสม่ำเสมอ มันก็ชัดเจนแล้วว่าอีกฝ่ายยังคงหลับสนิท ทำให้มุมปากของชายหนุ่มโค้งขึ้น ก่อนที่เขาจะใช้มือค่อย ๆ ดันหัวของทหารผู้นั้นออกไปอีกทาง

 

ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界]

ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界]

ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界]
Score 7.8
Status: Ongoing
อ่านนิยาย ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界]สุดยอดนักฆ่าผู้แสนเย็นชานามว่า ถังหยิน เขาได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับร่างที่เปลืองเปล่า ณ ต่างโลก ก่อนจะจับพลัดจับผลูเข้าร่วมกับสงครามแบบงง ๆ และนี่ก็คือก้าวแรกของราชันเทพสงครามผู้ที่กำลังขึ้นผงาดและเปลี่ยนโลกใบใหม่นี้ไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง !

Comment

Options

not work with dark mode
Reset