รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ – ตอนที่ 15 : สถานีรถไฟใต้ดิน (3)

-อธิบายก่อนเริ่ม-

พอดีว่าในตอน 14 นั้นมีการเขียนผิดเล็กน้อยถึงสมาชิกในทีมตอนนี้นะครับ พอดีว่าผมลืมใส่ตัวละครจางอี้เฟยเข้าไปในบทเนื้อเรื่องซึ่งตอนนี้ก็กลับไปแก้ให้แล้วนะครับ

………………………………………………………………………………….

 

เรดวูฟสูงสองเมตรจ้องมองกลุ่มของลู่หมิงด้วยดวงตาสีเหลืองทองของมัน ทำเอาคนอื่นๆถึงกับสั่นด้วยความหวาดกลัวทันทีเพราะนอกจากก็อบแล้วพวกเขาไม่เคยเจอมอนสเตอร์ประเภทอื่นมาก่อน

 

ทางด้านลู่หมิงนั้นจ้องมองเรดวูฟตรงหน้าด้วยสีหน้ามืดมนนิดหนึ่ง ไม่ใช่เพราะเขากลัวมันแต่เป็นเพราะเขากังวลในความโชคร้ายของตัวเองเสียมากกว่า ในภายโซนเริ่มต้นนั้นมักจะมีมอนสเตอร์มากมายหลายประเภทปรากฏขึ้น และเรดวูฟนั้นก็เป็นหนึ่งในนั้น

 

และเรดวูฟนี้แหละที่มักจะโผล่มาให้คนดวงจู๋เจอ ในอดีตนั้นมีผู้เล่นเริ่มต้นนับไม่ถ้วนที่ตายเพราะเรดวูฟ หากก็อบลินคิงเป็นเหมือนฝันร้ายของพวกผู้เล่นใหม่ที่ดวงกุดแล้วละก็ เรดวูฟนั้นก็เหมือนกับนักล่าผู้เล่นที่มักจะคอยจัดการผู้เล่นที่ไร้ซึ่งการป้องกันและละเลยสิ่งต่างๆ

 

สิ่งที่น่ากลัวสำหรับเรดวูฟนั้นไม่ใช่พละกำลังที่มากมายมหาศาลเหมือนก็อบลินคิง แต่เป็นมันสมองอันชาญฉลาดของมันหากคุณไม่เคยพบเจอกับหมาป่าเจ้าเล่ห์แล้วละก็ มันนี่แหละเป็นตัวอย่างชั้นดี

 

ความน่ากลัวอีกอย่างของเรดวูฟก็คือการออกล่ากันเป็นกลุ่ม ผู้เล่นหลายคนเชื่อว่าหากเรดวูฟมีจำนวนมากพอ พวกมันสามารถล้มออร์ค หรือยักษ์ได้เลยทีเดียว

 

ดังนั้นสิ่งที่แนะนำสำหรับการเจอเรดวูฟแล้วละก็ ถ้าหากคุณไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งจนสามารถสู้กับพวกมันได้ทางที่ดีที่สุดก็คือการวิ่งหนี ถึงแม้จะมีโอกาสรอดน้อยก็ตามที

 

เมื่อลู่หมิงเห็นว่าเพื่อนของเขากำลังตื่นตระหนก ตัวของลู่หมิงก็อดไม่ได้ที่จะดึงสติของพวกเขากลับมา

 

“ใจเย็นก่อนทุกคน”

 

เมื่อทุกคนได้ยินเสียงของลู่หมิง พวกเขาก็ดึงสติของตัวเองกลับมาแม้พวกเขาจะยังคงกลัวอยู่แต่ก็ถือดีกว่าก่อนหน้านี้มากแล้ว ลู่หมิงจึงหันไปบอกกับทุกคนว่า

 

“ใจเย็นๆนะ ทุกคนหันหลังชนกันแล้วค่อยๆเดินถอยหลังออกไปอย่างช้าๆ อย่าวิ่งเป็นอันขาด”

 

ทุกคนรีบทำตามคำสั่งของลู่หมิงทันที และค่อยๆเดินย้อนกลับทางเดิม จากนั้นลู่หมิงก็เอากระบี่ออกมาจากแหวนและยื่นมันให้กับจางเหว่ย

 

จางเหว่ยตกใจมากที่เห็นจู่ๆก็มีกระบี่โผล่มาอยู่ที่มือของลู่หมิง แต่นี้ไม่ใช่เวลาที่จะถามเรื่องไร้สาระ เมื่อเห็นว่าลู่หมิงยื่นกระบี่มาให้เขาก็รับไว้ ลู่หมิงบอกกับจางเหว่ยว่า

 

“ส่งปืนของนายให้กับอันหยา นายจำเป็นจะต้องอยู่ด้านหน้าเพื่อนำคนอื่นถอยหลัง”

 

จางเหว่ยพยักหน้าก่อนจะค่อยๆเดินนำคนที่เหลือ ระหว่างทางนั้นภายในความมืดก็ค่อยๆมีดวงตาสีเหลืองปรากฏขึ้นมาทีละคู่ จางเหว่ยและคนอื่นเห็นแบบนั้นก็ถึงกับสะดุ้งทันทีและเริ่มจะทำตัวไม่ถูก

 

“ใจเย็นไว้ มันยังไม่โจมตีในตอนนี้อย่างแรกเลยคือต้องรีบออกจากที่นี้ รักษารูปขบวนเอาไว้”

 

จางเหว่ยและคนอื่นๆพยักหน้าก่อนจะเริ่มกลับมาตั้งสติใหม่อีกครั้งและค่อยๆเดินออกไป ทางด้านลู่หมิงนั้นสายตาของเขาก็จ้องมองไปที่เรดวูฟจ่าฝูงตาไม่กระพริบ

 

เรดวูฟนั้นเป็นมอนสเตอร์ที่เชื่อฟังคำสั่งของจ่าฝูงเป็นอย่างมาก หากจ่าฝูงไม่สั่งการพวกมันก็จะทำได้เพียงแค่ขู่และเดินตามเท่านั้น

 

สิ่งที่ลู่หมิงกังวลที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่เหล่าเรดวูฟทั่วไปที่ห้อมล้อมพวกเขาอยู่ เพราะเรดวูฟเหล่านี้ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ แต่ที่เขาเป็นกังวลที่สุดเลยก็คือเจ้าเรดวูฟตัวจ่าสูงตรงหน้าของเขา

 

ดูจากร่างกายที่สูงกว่าสองเมตร ขนสีแดงเลือดของมันและยังมีเขาสีแดงสดตรงหน้าผากอีกมันต้องเป็นบอสมอนสเตอร์ไม่ผิดอย่างแน่นอน และดูเหมือนมันจะแข็งแกร่งกว่าคิงก็อบลินมากโขเลยทีเดียว

 

ในขณะที่ทุกคนกำลังถอยอยู่นั้น ลู่หมิงก็ได้สังเกตุว่าพวกเขาหลุดออกมาจากสถานีใต้ดินแล้ว และกำลังเดินขึ้นสู่ด้านบน ทันทีที่จ่าฝูงเรดวูฟกำลังเห็นว่าพวกลู่หมิงกำลังจะใกล้ไปถึงทางออก มันก็รีบคำรามออกมาทันที

 

ลู่หมิงที่เห็นแบบนั้นเขาก็ไม่รอช้าที่จะตะโกนออกมา

 

“วิ่ง !! รีบขึ้นไปด้านบนเร็ว !!”

 

เมื่อได้ยินคำสั่งของลู่หมิง พวกเขาทั้งหมดก็รีบวิ่งตรงไปยังทางออกทันที ระหว่างทางพวกเขาก็ได้พบเจอการจู่โจมจากเรดวูฟไปด้วย

 

จางเหว่ยเมื่อเห็นว่ามีเรดวูฟกำลังพุ่งมาทางเขา เขาก็ไม่รอช้าที่จะใช้กระบี่ในมือแทงมันทันที ทางด้านอันหยา จางอี้เฟย และซูรั่วหลิน ก็ใช้ปืนและธนูของพวกเธอจัดการเรดวูฟไปด้วย

 

ลู่หมิงเห็นแบบนั้นก็พูดออกมาว่า

 

“ให้ฆ่าเพียงตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดเท่านั้น พวกมันมีเยอะเกินไปจำนวนกระสุนของพวกเราจะหมดซะก่อนออกไปด้านนอก”

 

ลู่หมิงนำทวนออกมาและเริ่มไล่ฆ่าเรดวูฟที่กำลังกระโจนใส่เขา โดยที่ดวงตาของเขาคอยจ้องมองเรดวูฟจ่าฝูงอยู่เป็นระยะๆ การต่อสู้พร้อมกับการรบหนีไปด้วยเป็นอะไรที่หนักหนาสำหรับสี่คนที่เหลือเป็นอย่างมากซึ่งไม่นานพวกเขาก็เริ่มที่จะแสดงอาการหอบออกมา แต่ถึงแม้พวกเขาจะทำเต็มที่แล้วจำนวนเรดวูฟที่เข้ามาก็ดูแทบจะไม่ลดลงเลย

 

ทันทีที่พวกมันเห็นว่าจางเหว่ยและคนอื่นๆแสดงท่าทีเหน็ดเหนื่อยออกมาแล้ว พวกเขาก็ได้ระดมจำนวนพุ่งเข้ามาอีก

 

ลู่หมิงกวัดแกว่งทวนของเขาไปรอบๆและสังหารเหล่าเรดวูฟ พร้อมกับคิดบางอย่างในใจ

 

‘มาซิ แกกำลังรออะไรอยู่กันล่ะ ?’

 

เมื่อใกล้ถึงทางออกเข้าไปเรื่อยๆจางเหว่ยและคนอื่นๆก็เริ่มที่จะยิ้มออกมา

 

“พวกเราใกล้ถึงทางออกแล้วไปเร็วเข้า”

 

จางเหว่ยกล่าวออกมา ในขณะนั้นเอง

 

อะวู้ ~

 

เสียงหอนอันก้องกังวาลก็ดังออกมาจากด้านในของสถานีรถไฟใต้ดิน เมื่อลู่หมิงได้ยินเสียงนั้นขนทั้วทั่งร่างของเขาก็อดไม่ได้ที่จะลุกชูชันขึ้น

 

แต่นั้นไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะความหวาดกลัว ลู่หมิงยิ้มออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่ความมืดที่มีดวงตาสีเหลืองทองคู่หนึ่งกำลังจ้องกลับมา ลู่หมิงยิ้มพร้อมกับกล่าวออกมาในใจ

 

‘แกรอจังหวะนี้อยู่สินะ !!!’

รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ

รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ

บทนำ ลู่หมิง เด็กหนุ่มที่ย้อนเวลากลับมาโดยผลึกแห่งกาลเวลาและกลับมาสู่ช่วงเวลาที่เกมแห่งพระเจ้าพึ่งจะเริ่มต้น ด้วยความรู้จากชีวิตก่อนจะทำให้ลู่หมิงหยุดช่วงเวลาแห่งหายนะได้ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ช่วงต้นของศตวรรษที่ 21 โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เสียงปริศนาผู้อ้างตนว่าเป็นพระเจ้าได้เชิญเหล่ามนุษยชาติเข้าสู่เกมเอาชีวิตรอดของเขา โลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน แผนที่โลกถูกขยายออกกว่าสิบเท่า ภูมิประเทศทั่วโลกต่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่มีใครคาดคิด

Options

not work with dark mode
Reset