รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ – ตอนที่ 53 : เอลฟ์ผู้พิทักษ์และดรูอิด

รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ ตอนที่ 53 : เอลฟ์ผู้พิทักษ์และดรูอิด

 

สามวันต่อมาลู่หมิงมาหยุดยืนอยู่ที่ชายปาฟอร์เรีย ของเขามองเข้าไปด้านในเล็กน้อยก่อนจะสูดหายใจลึกๆและก้าวเดินเข้าไปในปา

 

แม้แต่ผู้เล่นระดับสูงก็ยังต้องเตรียมใจหากคุณจะเข้าไปด้านในปาฟอร์เรีย เพราะพวกเอลฟ์นั้นไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่คุณจะสามารถล้อเล่นด้วยได้

 

พวกเขานั้นแม้ภายนอกจะดูอ่อนโยนและเป็นมิตร แต่พวกเขานั้นก็เคร่งครัดในกฏอยู่เสมอและพวกเอลฟ์นั้นไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่อ่อนแออย่างที่ใครคิด

 

เพราะนอกจากพวกเราจะรู้จักเหล่าเอลฟ์ในนามลูกรักแห่งปาแล้ว มีอีกฉายาหนึ่งที่พวกชาวเอเดนต่างเรียกขานเผ่าเอลฟ์นั้นก็คือผู้ถูกรักโดยเวทมนต์ คุณอาจจะคิดว่าคําพูดเหล่านี้อาจเกินจริงไปบ้างแต่คํากล่าวนี้ดูจะไม่เกินจริงเลยหากพวกคุณรู้ว่า

 

เหล่าเอลฟ์นั้นสามารถใช้เวทมนต์ได้ตั้งแต่เกิด แตกต่าง จากมนุษย์หรือเผ่าพันธุ์อื่นๆที่ต้องการการฝึกฝน

 

พวกเขาเกินมาพร้อมกับพลังเวทย์อันสูงส่งแต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าเอลฟ์ทุกคนจะเก่งกาจด้านเวทมนต์แม้พวกเขาจะใช้มันได้ตั้งแต่เกิดก็ตามถึงอย่างงั้นเอลฟ์กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นก็สามารถใช้เวทมนต์ระดับสองลงไปได้ แต่ก็มีส่วนน้อยที่จะสามารถเข้าถึงแก่นแท้ของเวทมนต์ได้และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

 

แต่สิ่งที่ทําให้เอลฟ์นั้นน่ากลัวหาใช่เวทมนต์ แต่เป็นทักษะด้านการยิงธนูและการใช้ดาบแถมเอลฟ์บางครอบครัวยังเก่งกาจด้านศิลปะการต่อสู้ระยะประชิดอีกด้วย นั่นยิ่งเสริมความน่ากลัวให้กับพวกเอลฟ์เข้าไปใหญ่

 

ส่วนตัวของลู่หมิงเองก็ไม่ได้รู้จักเหล่าเอลฟ์มากนักเคยพบกันเพียงสองสามครั้งและทุกครั้งก็จบลงด้วยการต่อสู้กันอยู่เสมอ

 

ในขณะที่ลู่หมิงกําลังเดินลึกเข้าไปในปาอยู่นั้นเขาก็สัมผัสได้ว่ามีสายตาหลายคู่กําลังจ้องมองเขาอยู่ห่างๆตั้งแต่เขาก้าวขาเข้ามาในปาแล้ว ลู่หมิงถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะตะโกนออกไปว่า

 

“ผมรู้ว่าพวกคุณเฝ้าดูผมอยู่ ผมมาอย่างสันติ พวกคุณออกมาเถอะ”

 

หลังจากลู่หมิงพูดจบไม่นานนักก็ได้มีเอลฟ์หนุ่มหน้าตาหล่อเหล่าสามคนออกมาจากมุมหนึ่งของปาและเดินตรงเข้ามาหาเขาจากนั้นหนึ่งในนั้นก็ได้พูดขึ้นว่า

 

“เจ้ามีธุระอะไรที่นี้ ? ไม่รู้หรือไงว่าปาแห่งนี้เป็นพื้นที่ต้องห้ามของมนุษย์ !”

 

ลู่หมิงพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับคิดอะไรบางอย่างอยู่สักพักก่อนจะกล่าวกับเอลฟ์ตรงหน้าอย่างนอบน้อมว่า

 

“ผมต้องการพบราชินีอาเวล

 

เหล่าเอลฟ์ได้ยินแบบนั้นก็มองหน้ากันเล็กน้อยก่อนที่จะถามลู่หมิงด้วยสีหน้าจริงจังว่า

 

“เจ้ามีธุระอะไรกับองค์ราชินี !?”

 

ลู่หมิงได้ยินแบบนั้นก็มองซ้ายมองขวาเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆกับเอลฟ์หนุ่มคนนั้น เมื่อเอลฟ์ได้เห็นท่าทีของลู่หมิงพวกเขาก็ถึงกับตั้งท่าเตรียมโจมตีทันที

 

“ใจเย็น เรื่องนี้จะพูดดังไม่ได้ เพราะมันสําคัญมาก”

 

ลู่หมิงเข้าไปกระซิบบางอย่างข้างๆหูของเอลฟ์หนุ่มเมื่อเอลฟ์หนุ่มได้ฟังก็ถึงกับแสดงสีหน้าตกตะลึงก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนของเขาและสั่งให้เอลฟ์หนุ่มคนหนึ่งรีบกลับไปที่หมู่บ้านทันที เอลฟ์หนุ่มคนนั้นเมื่อได้รับคําสั่งก็ไม่รอช้ากระโดดหายเข้าไปในปาทันที

 

จากนั้นเอลฟ์หนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าก็ได้เข้ามาพูดคุยกับลู่หมิง

 

“หากเรื่องที่เจ้าพูดเป็นหนึ่งจริง เช่นนั้นก็ตามพวกเราไปที่หมู่บ้านเถอะ”

 

ลู่หมิงพยักหน้าก่อนจะเดินตามเหล่าเอลฟ์เข้าไปในปา ระหว่างทางนั้นลู่หมิงก็ได้จ้องมองดูเอลฟ์ที่เดินนําหน้าเขาอยู่

 

จากลักษณะภายนอกและการแต่งตัวของเอลฟ์ทั้งสองคนแล้วดูเหมือนว่าเขาจะพบเข้ากับเหล่าผู้พิพักษ์

 

เหล่ามหารเอลฟ์นั้นแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆก็คือ เอลฟ์ผู้พิทักษ์ และเหล่าดรูอิด แม้ทั้งสองกลุ่มจะเป็นทหารเอลฟ์เหมือนกันแต่กลับทําหน้าที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เหล่าเอลฟ์ผู้พิทักษ์นั้นจะมีหน้าที่ปกป้องอาณาเขตของเผ่าเอลฟ์ทั้งหมดป้องกันไม่ให้ใครรุกรานผืนปาฟอร์เรีย หากจะพูดให้เข้าใจอย่างง่ายก็คือ พวกเขาคือทหารรักษาดินแดนนั่นแหละ

 

แต่ส่วนดรูอิดนั้นพวกเขามีหน้าที่แตกต่างกันไป พวกเขามีหน้าที่คอยช่วยเหลือเหล่าเอลฟ์ที่โชคร้ายที่ถูกมนุษย์จับไป

 

เอลฟ์นั้นขึ้นชื่อเรื่องความงดงามหาใดเปรียบดังนั้นเหล่ามนุษย์ที่มีความมักมากจึงได้พยายามจับตัวเหล่าเอลฟ์ไปด้วยเหตุผลต่างๆนา

 

และหน้าที่ในการช่วยเหลือเอลฟ์โชคร้ายเหล่านั้นก็เป็นหน้าที่ของเหล่าดรูอิด คุณอาจจะไม่ได้พบดูดรูอิดมากนักเนื่องจากพวกเขานั้นเก่งกาจในการปลอมตัวและแปลงร่างฉะนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะติดตามและพบเจอพวกเขา

 

มีคนเคยพูดว่าเหล่าดรูอิดนั้นแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าเอลฟ์ผู้พิทักษ์เสียอีก หากจะให้เทียบกันก็เหมือนกับนําเหล่าทหารทั่วไปมาเทียบกับหน่วยรบพิเศษ และจากบันทึกมากมายมีหลายคนบอกว่าเหล่าดรูอิดหลายคนสามารถใช้เวทมนต์โบราณได้ด้วย

 

และนั่นก็ยิ่งเพื่อความน่ากลัวเข้าไปใหญ่

 

ในขณะเดียวกันเอลฟ์หนุ่มสองคนก็ได้พาลู่หมิงมาถึงหมู่บ้านของพวกเขา แต่จะพูดว่าหมู่บ้านก็คงไม่ได้ ดูจากจํานวนประชากรที่เห็นด้วยตาเปล่าและจํานวนสิ่งปลูกสร้างแล้ว มันควรจะถูกเรียกว่าเมืองเสียมากกว่า

 

จังหวะเดียวกันกับที่เอลฟ์หนุ่มหันมาพูดกับลู่หมิงว่า

 

“ยินดีต้อนรับสู่ เอลดาร์”

รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ

รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ

บทนำ ลู่หมิง เด็กหนุ่มที่ย้อนเวลากลับมาโดยผลึกแห่งกาลเวลาและกลับมาสู่ช่วงเวลาที่เกมแห่งพระเจ้าพึ่งจะเริ่มต้น ด้วยความรู้จากชีวิตก่อนจะทำให้ลู่หมิงหยุดช่วงเวลาแห่งหายนะได้ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ช่วงต้นของศตวรรษที่ 21 โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เสียงปริศนาผู้อ้างตนว่าเป็นพระเจ้าได้เชิญเหล่ามนุษยชาติเข้าสู่เกมเอาชีวิตรอดของเขา โลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน แผนที่โลกถูกขยายออกกว่าสิบเท่า ภูมิประเทศทั่วโลกต่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่มีใครคาดคิด

Options

not work with dark mode
Reset