ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนที่ 8

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 8

 

Author: 여님  (ยอนิม)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กมลเดินโอบเอวบางของคิมลงมาที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งตอนนี้ลูกน้องของกมลรวมไปถึงแม่บ้านทั้งหมด ได้มารออยู่ก่อนแล้ว

 

 

 

“มากันครบรึยังคม” กมลถามลูกน้องคนสนิทที่ยืนรออยู่ที่ประตูทางเข้าห้องโถงกลาง

 

 

 

“ครบแล้วครับ แต่คนที่อยู่ในสำนักงาน ผมไม่ได้ให้มานะครับ” คมบอกกลับไป

 

 

 

“อืม พวกนั้นเอาไว้ชั้นค่อยพาคิมไปแนะนำอีกที” กมลพูดบอก ก่อนจะหันมาหาคิม

 

“ยิ้มหน่อยไม่ได้รึไงกัน นี่ชั้นกำลังจะเปิดตัวนายเลยนะ” กมลพูดขึ้น เมื่อเห็นคิมเอาแต่ทำหน้านิ่งๆ

 

 

 

“ผมไม่ได้อยากให้เปิดตัวอะไรสักหน่อย” คิมบอกเสียงขุ่นๆ แต่กมลก็ยกยิ้มมุมปากนิดๆ ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับคมได้เดินไปยังห้องโถงกลางด้วยกัน ทันทีที่กมลเดินเข้ามา ลูกน้องของเขาก็พากันก้มหัวนิดๆ เป็นการทำความเคารพกมล บางคนมองคิมอย่างสงสัย บางคนก็รับรู้เรื่องของคิมแล้ว คิมมองคมที่เดินไปหยุดยืนข้างเด็กผู้ชายคนหนึ่ง

 

“อ๊ะ เด็กคนนี้” คิมทักขึ้น ทำให้กมลหันไปมองตามสายตาของคิม

 

 

 

“นั่นใบบุญ หลานของป้านี รู้จักกันเหรอ” กมลถามขึ้นมา ส่วนใบบุญก็ยืนหลบหลังคมไม่กล้าออกมาเผชิญหน้ากับกมลและคิมสักเท่าไร

 

 

 

“เปล่า ตอนที่ผมไปเดินเล่นในสวน เจอเด็กคนนี้แต่เรียกเอาไว้ไม่ทัน” คิมบอกกลับ พร้อมกับส่งยิ้มไปให้เด็กหนุ่มอย่างเป็นมิตร ก่อนจะถูกกมลรั้งเอวบางให้ไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้อง

 

//นี่ คุณกมล ไม่ต้องกอดก็ได้มั้ง นั่งเฉยๆบ้างเหอะ// คิมพูดกับร่างแกร่งข้างๆเบาๆ เมื่อกมลกอดเอวบางไม่ปล่อย

 

 

 

“ชั้นจะกอดเมียชั้น มันผิดตรงไหน” กมลถามกลับเสียงเรียบ ทำให้คิมส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอ

 

“เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนที่อยู่ที่นี่มากันครบแล้ว ชั้นก็มีเรื่องอยากจะบอกให้ทุกคนรับรู้” กมลพูดขึ้นเสียงดังกังวาน ซึ่งต่างจากน้ำเสียงที่ใช้พูดกับคิมลิบลับ ทำให้คิมอดที่จะแอบทึ่งในใจไม่ได้ คิมยอมรับว่ากมล มีความน่าเกรงขามในตัวไม่น้อย เมื่อได้ยินที่กมลพูด ทุกคนในห้องก็ต่างพากันนิ่งเงียบเพื่อฟังสิ่งที่กมลจะพูด

 

“บางคนอาจจะรู้แล้วว่า คนที่นั่งข้างๆชั้นคือใคร และบางคนก็ยังไม่รู้” กมลพูดพร้อมกับหันมามองคิมนิดๆ ทำให้คิมเริ่มทำตัวไม่ถูก

 

“คนๆนี้ชื่อ คิม เค้าจะเข้ามาอยู่ที่นี่และจะมาเป็นเจ้านายของพวกแกอีกคนหนึ่งในฐานะ เมียของชั้น” กมลพูดเสียงเรียบนิ่ง ก่อนที่เสียงพูดคุยของคนอื่นๆจะดังขึ้นแผ่วๆ ส่วนคิมตอนนี้รู้สึกร้อนหน้าวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าไม่ได้ปลื้มกับตำแหน่งที่กมลยัดเยียดให้ก็ตาม แต่ก็อดรู้สึกใจเต้นแรงไม่ได้

 

“ใครมีปัญหาอะไรมั้ย” กมลถามอีก

 

 

 

“ไม่มีครับ!!” เสียงตอบของลูกน้องของกมลดังขึ้นพร้อมกันอย่างแข็งขัน เหมือนกับทหารที่ตอบรับคำสั่งของผู้บังคับบัญชายังไงยังงั้น

 

 

 

“ดี พวกแกดูแลชั้นยังไง ก็ต้องดูแลเมียของชั้นให้เหมือนกับชั้นทุกอย่าง ไม่สิ ต้องดูแลให้มากกว่าชั้น เข้าใจมั้ย” กมลพูดสั่งออกมาอีก

 

 

 

“เข้าใจครับ” ทุกคนตอบรับเหมือนเคย

 

 

 

“ทำไมต้องดูแลผมด้วย ผมดูแลตัวเองได้ อย่าทำเหมือนผมเป็นเด็กได้มั้ยคุณกมล” คิมพูดออกมาเสียงขุ่นๆ ทำให้ทั้งห้องเงียบกริบ

 

 

 

“หยุดดื้อสักเรื่องสองเรื่องไม่ได้เหรอคิม” กมลถามขึ้นเสียงเรียบ

 

 

 

“ผมไม่ได้ดื้อ คุณนั่นแหละที่พูดไม่รู้เรื่อง” คิมเถียงออกมาอีก ลูกน้องของกมลหลายคนต่างหันมามองหน้ากันเลิ่กลั่ก

 

 

 

“โอเคๆ ชั้นพูดไม่รู้เรื่องเอง แต่ชั้นก็จะยังเป็นคนพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้แหละ เพราะยังไง ชั้นก็ต้องให้คนดูแลนายอยู่ดี” กมลเองก็ดื้อดึงไม่แพ้กัน ทำให้คิมขมวดคิ้วมุ่น

 

“ป้านี ดา ไหม ใบบุญมาใกล้ๆหน่อย” กมลเรียกคนดูแลบ้านทั้ง 3คน และเด็กหนุ่มใบบุญ ซึ่งคิมเคยเจอป้านีกับดาแล้ว ส่วนไหมพึ่งเจอหน้า ส่วนใบบุญก็พึ่งเห็นแวบเดียวเท่านั้น

 

“คิมเจอกับป้านีแล้วใช่มั้ย” กมลหันมาถามคิม คิมพยักหน้ารับ

 

 

 

“เจอป้านีกับดาแล้ว” คิมตอบกลับอย่างเสียไม่ได้

 

 

 

“ป้านีเป็นหัวหน้าแม่บ้านของที่นี่ ดากับไหม เป็นผู้ช่วยป้านี ถ้านายต้องการอะไร อยากจะกินอะไรเป็นพิเศษให้บอกกับป้านีได้เลยนะ” กมลพูดบอกกับคิมให้รับรู้

 

 

 

“อืม” คิมตอบรับในลำคอแต่ก็ส่งยิ้มให้กับป้านี ที่มองคิมอย่างอ่อนโยน

 

 

 

“ส่วนนี่ ใบบุญ หลานชายของป้านี” กมลแนะนำเด็กหนุ่มอีกคน

 

 

 

“สวัสดีฮะคุณคิม” ใบบุญรีบยกมือไหว้คิมอย่างรวดเร็ว

 

 

 

“ไม่ต้องเรียกคุณหรอกใบบุญ เรียกพี่ว่าพี่คิมดีกว่านะ” คิมพูดบอกออกมา รู้สึกถูกชะตากับใบบุญอย่างบอกไม่ถูก

 

 

 

“แต่..” ใบบุญลำบากใจ เพราะคิมเป็นเมียของกมล ซึ่งเป็นเจ้านายและผู้มีพระคุณของตนเองและยาย

 

 

 

“ไม่ต้องแต่ครับ และไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครว่าด้วย” ประโยคสุดท้ายของคิม ชายตามามองกมลอย่างกดดัน ทำให้กมลหัวเราะในลำคอ

 

 

 

“หึหึ ตามสบาย อยากจะให้เรียกว่ายังไงก็เรียกกันไป” กมลพูดบอกออกมา ทำให้ทุกคนมองคิมอย่างอึ้งๆ ที่ทำให้กมลหัวเราะและยอมทำตามที่คิมพูดได้อย่างง่ายดาย

 

 

 

“เอ่อ…ฮะ…พี่คิม” ใบบุญตอบกลับ ทำให้คิมยิ้มกว้างออกมา ก่อนที่กมลจะให้ทุกคนแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเองแต่ก็เหลือบางคนเพื่อคุยงานต่อ

 

 

 

“คิม นายไปคุยกับใบบุญก่อนก็ได้ ชั้นต้องคุยเรื่องงานกับพวกนี้นิดหน่อย” กมลหันมาบอกคิม

 

 

 

“แน่สิครับ ผมคงไม่อยู่นั่งฟังด้วยหรอก” คิมบอกออกมาอย่างเชิดๆ ก่อนจะลุกตามกลุ่มของป้านีที่เดินเข้าไปในครัวโดยมีคนเดินติดตามไป 1 คน เมื่อเห็นคิมเดินออกไปแล้ว กมลก็ปรับโหมดนิ่งหันมามองลูกน้องตนเอง

 

 

 

“เรื่องสินค้าที่จะส่งทางฝั่งชายแดนว่าไงบ้าง” กมถามเรื่องงานขึ้นมาทันที

 

 

 

“ทางลูกค้านัดวันเวลามาแล้วครับ แต่รู้สึกว่าทางฝั่งของไอ้ดนัย มันไม่พอใจเรื่องลูกค้าของเราพอสมควร” ลูกน้องของกมลพูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

 

 

“หึ สงสัยมันอยากได้พื้นที่ค้าขายของชั้นจนตัวสั่น ถึงได้ออกอาการไม่พอใจ” กมลพูดขึ้นมาอย่างเยาะๆ เมื่อนึกถึงอริทางการค้าของตนเอง

 

 

 

“นายครับ ผมว่า ตอนที่เรานัดรับส่งสินค้า เราต้องตรวจตราเข้มหน่อยจะดีกว่านะครับ เผื่อทางไอ้ดนัย มันหาเรื่องมาเล่นงานพวกเรา เพื่อยึดพื้นที่ของเราไปเป็นของมัน” คมพูดบอกออกมาอย่างเป็นห่วง

 

 

 

“ชั้นก็คิดเอาไว้เหมือนกัน ยังไงก็ให้คนของเราจับตาดูการเคลื่อนไหวทางฝั่งนั้นเอาไว้ด้วยล่ะกัน ถ้ามีอะไรผิดสังเกต ให้รายงานชั้นทันที” กมลบอกอีก ก่อนจะคุยเรื่องงานเรื่องอื่นๆต่อไป

 

 

 

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

 

“นั่งด้วยได้มั้ย” คิมพูดบอกกับเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวยาวหลังบ้าน

 

 

 

“เอ่อ ฮะ ได้ฮะ” ใบบุญตอบรับพร้อมกับขยับให้คิมนั่งด้วย คิมนั่งลงก่อนจะหันไปมองลูกน้องของกมลที่คอยเดินตามตนเอง

 

 

 

“นี่ นายน่ะ จะไปไหนก็ไปเหอะ ไม่ต้องเดินตามชั้นไปทุกที่ก็ได้ เพราะชั้นก็อยู่ในบ้านของเจ้านายพวกนายนี่แหละ” คิมพูดบอกออกมาอย่างเซ็งๆ

 

 

 

“แต่นายสั่งไว้นะครับ” ลูกน้องของกมลตอบกลับอย่างลังเล เพราะอีกใจก็ไม่กล้าขัดใจเจ้านาย อีกใจก็ไม่กล้าขัดใจเมียเจ้านายเหมือนกัน

 

 

 

“ช่างเค้าสิ ถ้ามีปัญหาอะไร ชั้นจัดการเอง นายมีอะไรทำก็ไปทำเถอะ” คิมสั่งอีก ความจริงก็ไม่อยากจะออกคำสั่งกับใครที่นี่เลยสักนิด แต่ก็ไม่อยากให้ใครมาลำบากเพราะตนเองเหมือนกัน

 

 

 

“เอาแบบนั้นเหรอครับ งั้นผมขอไปบอกนายก่อนนะครับ” ลูกน้องของกมลตอบกลับ ก่อนจะเดินย้อนกลับไปด้านในบ้านอีกครั้ง คิมถอนหายใจออกมาเบาๆ

 

 

 

“คุณ..เอ่อ…พี่คิมเป็นเมียของคุณกมลจริงๆเหรอฮะ” เด็กหนุ่มถามขึ้นมาอย่างข้องใจ คิมชะงักไปนิดเพราะไม่รู้จะตอบคำถามนี้ยังไง

 

 

 

“เอ่อ ก็แบบว่า จะพูดยังไงดีล่ะ” คิมนึกคำพูดไม่ออกในขณะที่ใบบุญมองคิมตาแป๋วเพราะรอคำตอบจากคิมอยู่

 

 

 

“แล้วผู้ชาย เป็นเมียของผู้ชายด้วยกันได้ด้วยเหรอฮะ” ใบบุญถามออกมาอีก ยิ่งทำให้คิมพูดไม่ออกหนักไปกว่าเดิมเสียอีก

 

 

 

“ถามว่าได้มั้ย เอ่อ มันก็ได้อ่ะนะ” คิมพูดตอบด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม ถ้าเป็นพวกเพื่อนๆของเขามาถามคำถามนี้คิมจะตอบได้ง่ายกว่าที่จะตอบใบบุญเสียอีก คิมไม่อยากให้คำตอบของตนเองเป็นการชี้นำเด็กหนุ่มที่ไร้เดียงสาคนนี้

 

“คือเรื่องพวกนี้มันเป็นรสนิยมส่วนตัวน่ะ อ๊า นี่พี่จะบอกยังไงดีล่ะ” คิมขยี้หัวตัวเองไปมา ทำให้ใบบุญยิ้มกับอาการของคิม

 

“คือ แบบนี้นะใบบุญ คนเราไม่ว่าจะเป็นเพศไหน แต่ถ้าใจตรงกัน รักกัน เราก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบผัวเมียได้น่ะ” คิมอธิบายออกมาแบบห้วนๆ เพราะคิดอะไรไม่ออกแล้วตอนนี้

 

 

 

“อ๋อ ใบบุญเข้าใจแล้วฮะ” เด็กหนุ่มตอบกลับ ทำเอาคิมเลิกคิ้วขึ้นอย่างงงๆ ที่อยู่ๆ ใบบุญก็เข้าใจง่ายๆขึ้นมาซะงั้น

 

 

 

“เข้าใจว่า…” คิมถามกลับด้วยความอยากรู้

 

 

 

“เข้าใจว่า พี่คิมกับคุณกมลรักกัน ก็เลยมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบผัวเมีย เหมือนตอนที่พ่อกับแม่ของใบบุญใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันใช่มั้ยฮะ” เด็กหนุ่มบอกออกมาตามที่ตนเองเข้าใจ ทำให้คิมชะงักกึก

 

 

 

รัก….

 

 

(รักงั้นเหรอ เรามาอยู่ที่นี่เพราะถูกบังคับตะหาก ไม่ได้อยู่เพราะความรัก) คิมแอบคิดในใจ

 

 

 

“พี่คิม พี่คิมฮะ” ใบบุญเรียกคิมเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไป

 

 

 

“หะ   หืม” คิมขานรับเมื่อได้ยินเสียงใบบุญเรียกชื่อตนเอง

 

 

 

“ใบบุญพูดอะไรผิดไปรึเปล่าฮะ” เด็กหนุ่มรีบถามด้วยความหวั่นใจนึกว่าตนเองพูดอะไรให้คิมไม่พอใจ

 

 

 

“เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก พอดีพี่นึกเรื่องบางอย่างได้ขึ้นมาน่ะ” คิมบอกกลับ ทำให้ใบบุญถอนใจออกมาอย่างโล่งใจ

 

 

 

“คิม!” เสียงเรียกคิมดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของทั้งสองหนุ่ม ทำให้คิมหันไปมองก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น

 

“ชั้นบอกแล้วไง ว่าต้องมีคนคอยดูแลนายอยู่ด้วยน่ะ” กมลบอกกลับ หลังจากที่ลูกน้องตนเองเข้าไปบอกความประสงค์ของคิมให้รับรู้ กมลถึงได้เดินออกมาหาคิม ใบบุญรีบลุกเดินออกไปหาคม ที่พยักหน้าเรียก เพื่อให้กมลกับคิมได้คุยกัน

 

 

 

“คุณกมล! นี่ผมอยู่ในบ้านคุณนะ แล้วจะให้มีคนคอยติดตามทำไม” คิมเถียงออกมาทันที

 

 

 

“ก็เผื่อนายอยากจะได้อะไร จะได้สั่งลูกน้องชั้นได้เลยไงล่ะ หรือถ้ามีเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบตอนที่กรงเสือ นายจะได้มีคนมาช่วยได้ทันที” กมลบอกออกมาอีก คิมถอนหายใจหนักๆ

 

 

 

“คุณกมล ผมบอกคุณเอาไว้ตรงนี้เลยนะ ถ้าคุณยังอยากให้ผมอยู่ที่นี่ดีๆแล้วล่ะก็ ไม่ต้องให้คนมาติดตามผม เพราะผมอึดอัด รู้ไว้ซะด้วย” คิมพูดว่าออกมา

 

 

 

“แต่ชั้นเป็นห่วงนาย” กมลบอกกลับมา กมลไม่เคยรู้สึกห่วงหรือหวงใครได้มากมายเท่าคิมมาก่อน คิมมองกมลตาขวาง

 

 

 

“คุณมันเป็นคนพูดไม่รู้เรื่องจริงๆเลยนะ!! เป็นห่วงงั้นเหรอ จะเอาอย่างนั้นก็ได้” คิมพูดก่อนจะเดินกระแทกเท้าเข้าไปในบ้านใหญ่ โดยมีกมลมองตามไปอย่างเครียดๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมคิมต้องโกรธตนเองกับเรื่องแค่นี้ด้วย แต่ก็กมลก็รีบเดินตามคิมไปติดๆ

 

 

 

“คิม!! รอชั้นก่อน คิม อย่ามาเดินหนีชั้นแบบนี้นะคิม!!” กมลเรียกคิมเสียงดังลั่น แต่คิมก็ไม่สนใจ ร่างบางก้าวเท้ายาวๆกึ่งวิ่ง ไปที่บันไดขึ้นชั้นสอง คนดูแลบ้านและลูกน้องของกมลที่อยู่ในบ้าน ต่างแอบลอบมองเจ้านายตนเองอย่างตกใจและสนใจ

 

 

 

ปึง!!!

 

 

เสียงปิดประตูห้องนอนดังลั่นบ้านสะเทือนไปเกือบทั้งหลัง บ่งบอกถึงอารมณ์ของคนที่ปิดได้ดี กมลหายใจเข้าออกลึกๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของตนเอง แล้วพบว่าคิมไปเปิดทีวีแล้วนอนบนดูบนเตียงกว้าง ทำให้กมลไม่เข้าใจกับสิ่งที่คิมกำลังทำสักเท่าไร

 

 

 

“คิม เราจะพูดคุยกันดีๆได้มั้ย” กมลถามอีก คิมชายตามามองกมลนิดๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร

 

“นายเป็นเมียชั้น ชั้นเป็นห่วงนายไม่ได้เลยรึไง” กมลถามออกมาอีก ถ้าเป็นคนอื่นๆ กมลคงไล่ออกจากบ้านไปแล้ว ที่มาทำท่าทีแบบนี้ใส่กมล แต่สำหรับคิม กมลกลับมีความรู้สึกว่าต้องยอมและต้องง้อคนๆนี้เอาไว้ ในบางเรื่อง

 

 

 

“ก็นี่ไง ผมกำลังทำตัวไม่ให้คุณต้องเป็นห่วงอยู่นี่ไง” คิมพูดออกมาเสียงแข็ง

 

 

 

“ทำอะไร” กมลถามอย่างไม่เข้าใจ

 

 

 

“คุณบอกว่าเป็นห่วง กลัวผมจะเป็นโน่นเป็นนี่ งั้นผมก็อยู่แต่ในห้องล่ะกัน ไม่ต้องออกไปไหนให้ใครต้องมาคอยเดินตาม คอยดูแล อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมห้องนี้ล่ะกัน อ่อ ทางที่ดี ผมว่าคุณเอาโซ่มาล่ามผมไว้ด้วยก็ดีนะ เอากล้องวงจรปิดมาติดในห้องนี้เพิ่มด้วย จะได้ไม่ต้องกลัวว่าผมจะเพ่นพ่านไปไหนคนเดียวอีก” คิมพูดว่าออกมาเป็นชุด

 

“ผมว่านะ คุณไปบอกลูกน้องของคุณใหม่ดีกว่า ว่าผมมาอยู่ที่นี่ในฐานะนักโทษ ไม่ใช่ในฐานะเมียของคุณ เพราะแม้แต่ในอาณาเขตบ้านของคุณเอง ผมยังไปไหนมาไหนคนเดียวไม่ได้เลยนี่” คิมว่าออกมาอย่างเยาะๆ แล้วเบือนหน้าหนีกมลด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ อึดอัดจนอยากจะร้องไห้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น กมลเดินไปนั่งที่เตียงข้างๆคิม แล้วรั้งเอวบางของคิมให้ขยับมาใกล้ตนเอง ตอนแรกคิมก็ขัดขืน แต่สู้แรงกมลไม่ไหว จึงปล่อยให้กมลกอดเอวบางของตนเองเอาไว้อย่างนั้น

 

 

 

“โอเคๆ ชั้นขอโทษที่ทำให้นายอึดอัดใจ ชั้นไม่เคยจริงจังกับใคร ไม่เคยมีเมียเป็นตัวเป็นตน พึ่งจะมีนายเป็นคนแรกที่ชั้นอยากจะจริงจังด้วย เลยทำให้ชั้นเป็นห่วงจนโอเว่อร์ไปหน่อย” แค่กมลพูดประโยคนี้ออกมา ก็ทำให้คิมใจเต้นแรงซะงั้น ทั้งๆที่ตอนแรกอยากจะร้องไห้เพราะความอึดอัดใจอยู่เลย

 

“คิม หันมามองหน้าชั้นหน่อย อย่าหันหนีแบบนี้สิ” กมลพูดเสียงอ่อนลง เมื่อคิมเอาแต่เบือนหน้าไปอีกทาง

 

 

 

“คุณบังคับให้ผมมาอยู่กับคุณไม่พอ คุณจะยังบังคับผมเรื่องอื่นอีกเหรอคุณกมล ผมไม่ใช่คุณนะที่จะต้องชินกับการที่มีคนคอยติดตามตลอดเวลา ไม่งั้น เวลาผมอาบน้ำเข้าห้องน้ำ ก็ต้องมีคนติดตามเข้าไปด้วยงั้นสิ” คิมว่าแดกดันออกมาอีก

 

 

 

“เรื่องอะไร ถ้าจะมีคนติดตามนายเข้าห้องน้ำ ก็คงเป็นชั้นคนเดียวเนี่ยแหละ เรื่องอะไรจะให้คนอื่นมาเห็นร่างกายเมียตัวเองล่ะ” กมลพูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ทำให้คิมร้อนหน้าวูบวาบแต่ก็ไม่หันมามองกมลอยู่ดี

 

“คิม หันมาหน่อย ชั้นไม่อยากบังคับให้นายหันมานะ เพราะตอนนี้ชั้นกำลังขอร้องนายอยู่” กมลบอกออกมาอีก ทำให้คิมเม้มปากนิดๆ ก่อนจะหันหน้ามามองกมล โดยตีหน้าขรึมเอาไว้ก่อน

 

 

 

“เป็นคำขอร้องที่ใช้น้ำเสียงแข็งมากคุณกมล” คิมพูดแขวะ ก่อนจะจ้องหน้ากมลนิ่งๆ

 

“คุณกมล ถ้าคุณอยากให้ผมอยู่ที่นี่จริงๆ ผมขอได้มั้ย ให้ฟังคำขอของผมบ้าง เพราะสิ่งที่ผมขอมันไม่ได้ยากอะไรเลย” คิมพูดบอกเสียงจริงจัง

 

 

 

“ชั้นรับฟังคำขอของนายนะคิม แต่ต้องเป็นบางเรื่องเท่านั้น” กมลยืนยัน คิมถอนหายใจออกมาหนักๆ แต่ก็คิดว่ายังดีที่กมลยังคิดจะรับฟังบ้าง

 

 

 

“แล้วเรื่องที่ผมไม่อยากให้คนมาติดตามผมตอนอยู่ที่นี่ล่ะ” คิมถามกลับ กมลนิ่งไปนิดก่อนจะยอมพยักหน้า

 

 

 

“ก็ได้ ไม่ให้ใครคอยติดตามนายตอนอยู่ในบ้านก็ได้” กมลยินยอมแต่โดยดี ทำให้คิมยกยิ้มขึ้นมาได้นิดๆ

 

“แต่เวลาออกไปข้างนอก ต้องมีคนคอยติดตามอย่างน้อย 2 คน ห้ามค้านเด็ดขาด” กมลพูดดักขึ้นมาอีก คิมนิ่งไปนิด ก่อนจะยอมพยักหน้า

 

“แล้วมีเรื่องอะไรอยากจะขออีกมั้ย” กมลถามขึ้นมาอย่างเอาใจ

 

 

 

“ยังคิดไม่ออก เอาไว้คิดออกเมื่อไร ผมจะบอกอีกทีล่ะกัน” คิมบอกกลับไป

 

 

 

“แล้วตกลงหายโกรธชั้นรึยัง” กมลถามขึ้นมาอีก คิมนิ่งเงียบ

 

 

 

ฟอด…

 

 

กมลกดจมูกลงไปหอมที่แก้มใสหนักๆ คิมรีบผลักอกกมลทันทีด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

 

 

 

“ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย” คิมโวยกลบเกลื่อนความเขิน พร้อมกับยกมือมาถูแก้มของตนเองไปมา

 

 

 

“ก็นายไม่ยอมตอบว่าหายโกรธชั้นแล้วรึยัง” กมลถามอีก กมลพึ่งรู้สึกว่าตนเองทำตัวเหมือนเด็กก็ตอนนี้

 

 

 

“ถ้าผมบอกว่ายังไม่หายโกรธล่ะ” คิมถามกลับมา เพราะอยากรู้ว่ากมลจะทำยังไง

 

 

 

“ชั้นก็จะหอมแก้มนายอยู่อย่างนี้จนกว่านายจะหายโกรธดีมั้ย” กมลบอกกลับไป พร้อมกับทำท่าจะหอมแก้มของคิมอีก ร่างบางรีบลุกลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว

 

 

 

“หยุดหื่นใส่ผมสักวันสองวัน คงไม่มีใครเค้าว่าหมดสมรรถภาพหรอกนะ” คิมพูดว่าออกไป กมลยกยิ้มมุมปาก

 

 

 

“หึหึ กับคนอื่น ชั้นอาจจะหมดสมรรถภาพไปแล้ว แต่กลับนายชั้นยังมีอยู่เต็มเปี่ยม อยากพิสูจน์มั้ยล่ะ” กมลบอกพร้อมกับมองคิมด้วยสายตาพราวระยับ จนคนถูกมองรู้สึกร้อนไปทั้งร่างกาย คิมไม่อยากจะบอกเลยว่า ตนเองแพ้สายตาร้อนแรงของกมลแค่ไหน

 

 

 

พรึ่บ!

 

“อ๊ะ” คิมร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อถูกกมลดึงไปนั่งทับบนตักแกร่งของกมลเอง

 

“คุณกมล ปล่อย” คิมพูดว่าออกมา ก่อนจะตัวสั่นระริก เมื่อมือแกร่งของกมลเอื้อมไปบีบท้ายทอยของคิมไม่แรงมากนัก แต่กลับทำให้รู้สึกหวาบหวามในอก แรงจิกที่เส้นผมทางท้ายทอย เพื่อให้หน้าของคิมหงายเริ่ดขึ้นนิดๆ ทำให้คิมใจเต้นระรัว

 

“ยะ..อย่าทำแบบนี้” คิมร้องห้ามออกมาเสียงแผ่ว กมลยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ เพรารู้ดีว่าคิมรู้สึกยังไง เพียงแค่ทำรุนแรงเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้คิมอ่อนระทวยได้โดยง่าย กมลซุกจมูกไปที่ซอกคอขาวอย่างแผ่วเบา

 

 

 

“อย่าให้ใครมาทำรุนแรงกับนาย นอกจากชั้นคนเดียว รู้มั้ยคิม” กมลพูดสั่งออกมาพร้อมกับกัดไปที่ซอกคอขาวจนเกิดรอย

 

 

 

“อึ่ก…” คิมสะดุ้งนิดๆ

 

 

 

“ตอบสิที่รัก” กมลพูดบอก

 

 

 

“อื้อออ จะ..เจ็บ” คิมบอกกลับไปเสียงแผ่ว

 

 

 

ก๊อกๆๆ

 

 

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ทำให้กมลชะงักไปนิด

 

 

 

“นายครับ อาหารเย็นพร้อมแล้วครับ” เสียงลูกน้องของกมลคนหนึ่งดังขึ้นอยู่หน้าประตูห้องนอน

 

 

 

//ถ้าชั้นสั่งเก็บลูกน้องสักคน จะเป็นอะไรมั้ย// กมลถามคิมขึ้นมาลอยๆ หลังจากที่ปล่อยมือออกจากเส้นผมนุ่มของคิมทางด้านหลังแล้วโอบกอดคิมเอาไว้

 

 

 

“คุณจะบ้ารึไง ปล่อยผมเลยนะ ผมหิวข้าว” คิมรีบหาข้ออ้างอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมแบบนี้ต่อ เนื่องจากกลัวใจตัวเองไม่น้อย

 

 

 

“หึหึ งั้นเราไปกินข้าวกันก่อนล่ะกันนะ แล้วคืนนี้ค่อยกลับมากินกันเองต่อ” กมลพูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

 

 

 

“ชิส์ สมองคิดแต่เรื่องนี้รึไง” คิมพูดว่าออกมาไม่จริงจังนัก ก่อนจะดิ้นลงจากตักของกมล ซึ่งกมลก็ยอมปล่อยแต่โดยดี คิมรีบเดินไปเปิดประตูห้องนอน โดยมีกมลลุกเดินตามออกมาติดๆ

 

 

 

ผั่วะ!!

 

 

กมลตบหัวลูกน้องตนเองไม่แรงมากนัก แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายเซนิดๆ

 

 

 

“ขัดจังหวะชั้นฉิบหาย” กมลพูดว่าออกมา ในขณะที่ลูกน้องทำหน้างง

 

 

 

“คุณกมล!! คุณไปตบหัวเค้าทำไม” คิมโวยขึ้นเพราะหันมาเห็นพอดี

 

 

 

“ก็ตบโทษฐานที่มาขัดจังหวะชั้นกับนายไง” กมลตอบเสียงเรียบ

 

 

 

“บ้าบอ ไร้เหตุผลที่สุด” คิมพูดว่าก่อนจะเดินลงไปโดยไม่รอกมลแม้แต่นิด กมลหันไปมองลูกน้องของตนเองอีกครั้ง

 

 

 

“เป็นไง เจ้านายคนใหม่ของแก” กมลแกล้งถามลูกน้องตนเอง

 

 

 

“ดุกว่านายอีกครับ” ลูกน้องของกมลตอบกลับ ทำให้กมลหัวเราะขำในลำคอแล้วเดินตามคิมลงไปโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ

 

..

 

..

 

..

 

..

 

“อ่าว ใบบุญ มาช่วยยายจัดโต๊ะงั้นเหรอ” กมลถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องอาหาร พบว่าใบบุญกำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่

 

 

 

“ฮะ” เด็กหนุ่มตอบกลับ

 

 

 

“ใบบุญ เดี๋ยวนั่งกินข้าวกับพี่นะ” คิมพูดชวน

 

 

 

“เอ่อ ไม่ดีกว่าฮะ ใบบุญไปทานกับยายในครัวดีกว่า” เด็กหนุ่มตอบออกมาอย่างเกรงใจ

 

 

 

“นั่งกินด้วยกันนี่แหละ อ่อ เจ้าคมด้วย ชั้นจะถามเรื่องไปเรียนของใบบุญสักหน่อย” กมลพูดบอกออกมา ทำให้คมที่ยืนอยู่ก้มหัวรับ แล้วหันไปพยักหน้ากับใบบุญ

 

 

 

“ฮะ” เด็กหนุ่มตอบรับ ก่อนที่คนทั้งสี่จะนั่งทานอาหารเย็นด้วยกัน โดยที่กมลนั่งอยู่หัวโต๊ะ มีคิมนั่งอยู่ทางด้านขวา ถัดจากคิมก็เป็นใบบุญ ที่คิมลากให้นั่งข้างกัน ส่วนคมก็นั่งอยู่ทางฝั่งซ้ายของกมล

 

 

 

“พรุ่งนี้จะไปโรงเรียนแล้วใช่มั้ยใบบุญ” กมลถามขึ้นเสียงเรียบ

 

 

 

“ฮะ” ใบบุญตอบกลับเสียงแผ่ว เพราะรู้สึกเกร็งๆนิดหน่อยที่ต้องมานั่งทานอาหารร่วมกับกมลและคิม

 

 

 

“งั้นพรุ่งนี้ ชั้นจะให้เจ้าคมไปส่งล่ะกัน” กมลตอบกลับ

 

 

 

“บะ..ใบบุญไปเองก็ได้ฮะ ใบบุญถามยายแล้วว่าจากบ้านนี้ไปโรงเรียนต้องขึ้นรถอะไรไป” เด็กหนุ่มรีบพูดบอก

 

 

 

“ให้คมไปส่ง” กมลย้ำอีกครั้ง ทำให้ใบบุญเงียบทันทีพร้อมกับก้มหน้ารับ

 

 

 

“นี่ คุณกมล พูดดีๆหน่อยสิ ใบบุญยังเด็กนะ ไม่ใช่ลูกน้องคุณด้วย ใช้น้ำเสียงให้มันดีหน่อย” คิมพูดว่าออกมา

 

 

 

“ชั้นก็ใช้น้ำเสียงปกตินี่” กมลบอกกลับ

 

 

 

“ปกติมากเลยล่ะครับ” คิมว่าประชดใส่ ก่อนจะตักอาหารใส่จานให้ใบบุญบ้าง ส่วนคมได้แต่มองใบบุญ คิม และกมล สลับไปมา

 

 

 

(ทำไมรู้สึกเหมือนพ่อแม่ลูกเลยวะ) คมได้แต่แอบคิดในใจ

 

 

 

 

 

 

 

2   Be   Con

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

อัพแล้วคร่า

 

ยอนิมหายอีกแล้ว เหอเหอ

 

พอดีที่บ้านเกิดพายุ ฝนตกลมแรงต้นไม้ล้มทับสายไฟ ไฟดับทั้งหมู่บ้าน

 

พอไฟมา เนตก็ยังใช้การไม่ได้ = =

 

 

ตอนนี้รู้สึกว่ามันมั่วๆเนอะ  ยังไม่มีอะไรฟินๆเล้ยยย

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset