ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนที่ 17

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 17

Author: 여님  (ยอนิม)

 

กมลพาคิม อิฐ แซลมอน และคม มากินอาหารเช้าที่โรงแรม ส่วนลูกน้องคนอื่นๆก็สั่งอาหารไปกินที่ห้องพักเรียบร้อยแล้ว เพราะต้องอยู่เฝ้าลูกน้องของดนัยด้วย

“ตามสบายนะ กินรองท้องช่วงเช้าไปก่อนล่ะกัน ตอนเที่ยงก็รอเดย์มันตื่นแล้วค่อยออกไปหาอะไรอร่อยๆ กินข้างนอก” กมลพูดบอกออกมา อิฐยิ้มรับ ก่อนจะสั่งอาหารให้ตนเองและแซลมอน ส่วนกมลก็ให้คิมเป็นคนสั่งเพิ่มเติมอีก

“แซลมอนกินเยอะๆนะครับ จะได้โตเร็วๆ” คิมพูดบอกกับแซลมอนที่นั่งตรงกันข้ามกับตนเอง

“ฮะ” แซลมอนตอบรับพร้อมกับยิ้มกว้าง คิมมองเด็กน้อยยิ้มๆ แล้วนึกถึงใบบุญขึ้นมาทันที

“อยากพาใบบุญมาเที่ยวแบบนี้บ้างจัง” คิมพูดขึ้นมาลอยๆ

“ก็เอาไว้วันไหนชั้นว่าง จะพามาเที่ยวอีกล่ะกัน” กมลพูดบอก คิมหันไปมองค้อนคนข้างกายนิดๆ

“รอคุณว่าง คงชาติหน้าล่ะมั้ง คุณกมล” คิมพูดว่ากลับไป ในขณะที่อิฐแอบอมยิ้มขำ

“เกินไปน่า ถ้านายอยากจะมาเมื่อไรก็แค่บอกชั้นล่วงหน้า เดี๋ยวชั้นเคลียงานอื่นๆให้เรียบร้อย แล้วพานายกับใบบุญมาก็ได้นี่”กมลบอกกลับ คิมย่นจมูกนิดๆ

“ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน” คิมว่าเสียงอุบอิบ กมลยิ้มขำนิดๆ

“จริงสิ คมมาที่นี่ แล้วใครเป็นคนขับรถส่งใบบุญไปโรงเรียนล่ะ” คิมถามขึ้นเมื่อนึกได้

“เจ้าลพน่ะครับ” คมตอบกลับ คิมพยักหน้ารับ

“ห่วงจังเลยนะ ทำไมไม่ขอใบบุญจากป้านีมาเป็นลูกซะเลยล่ะ หืม” กมลแกล้งถาม คิมชะงักไปนิด ก่อนจะหันมามองหน้ากมล

“จริงด้วย แล้วแบบนี้ ป้านีจะยอมมั้ยครับ” คิมถามขึ้นมาทันที

“เอาจริงเหรอ ชั้นพูดเล่นนะ” กมลถามกลับไปอย่างขำๆ

“ใบบุญคือใครอ่ะครับ” อิฐถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้

“เป็นหลานป้านี คนดูแลบ้านของคุณกมลน่ะ ใบบุญน่ารักมากเลยนะอิฐ ตอนแรกพี่เห็นนึกว่าเด็กผู้หญิงล่ะ เห็นว่าถูกแม่ทิ้งก็เลยมาอยู่กับป้านีที่เป็นยายของใบบุญน่ะ คุณกมลเค้าเลยส่งให้เรียน” คิมพูดบอกออกมายิ้มๆ เมื่อนึกถึงเด็กหนุ่มใบบุญ

“นี่ถ้าใบบุญมันโตเป็นหนุ่มสัก 18-19 ชั้นคงหึงนายแน่เลยคิม” กมลพูดบอกออกมาตรงๆ คิมหันไปมองหน้ากมลพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น

“หึงเรื่องอะไร” คิมถามกลับ

“ก็นายอะไรๆก็เรียกหาแต่ใบบุญ พูดถึง คิดถึงแต่ใบบุญ ไม่เห็นจะพูดถึงหรือคิดถึงชั้นบ้างเลย” กมลแกล้งพูดตัดพ้อ

“คุณจะบ้ารึไง นั่งอยู่ด้วยกันตรงนี้ จะให้คิดถึงอะไรหะ ประสาท มาเฟียติ๊งต๊อง” คิมพูดว่าออกมา ทำเอาคมกับอิฐแอบก้มหน้าอมยิ้มแต่ไม่กล้าหัวเราะออกมา

“ติ๊งต๊องคืออะไรฮะ น้าอิฐ” แซลมอนหันมาถามอิฐ

“นั่นไง นายอธิบายให้แซลมอนฟังเลยคิม สงสัยแล้วนั่น” กมลบอกออกมายิ้มๆ ไม่ได้โกรธหรือเคืองอะไรที่คิมพูดว่าตนเองแบบนั้นเลยสักนิด คิมมองหน้าแซลมอนแล้วยิ้มเจื่อนๆ

“ก็แบบว่า เพี้ยนๆ พูดไม่รู้เรื่องอะไรแบบนั้นน่ะครับ” คิมอธิบายคร่าวๆ แซลมอนยิ้มกว้างออกมา

“งั้นน้าอิฐก็ติ๊งต๊องน่ะสิฮะ” แซลมอนพูดขึ้น ทำเอาอิฐแทบสำลักน้ำที่กำลังยกดื่ม ส่วนคนอื่นๆหัวเราะขำ

“ทำไมว่าน้าแบบนั้นล่ะ” อิฐถามกลับไป

“ก็น้าเดย์ชอบว่าน้าอิฐพูดไม่รู้เรื่องนี่ฮะ ก็แปลว่าติ๊งต๊องไม่ใช่เหรอฮะ” แซลมอนถามอีก ก่อนที่เสียงหัวเราะจะดังลั่นโต๊ะเพราะคำพูดของเด็กน้อย ส่วนอิฐก็นั่งเขินนิดๆ ก่อนที่จะนั่งกินข้าวต่อจนอิ่ม แล้วพากันกลับมาที่ห้องพัก คมพาแซลมอนไปซื้อของเล่นที่ร้านใกล้ๆโรงแรมเพราะเด็กน้อยร้องจะเอาแต่อิฐไม่ยอมซื้อให้เพราะกลัวเดย์บ่น คมเลยซื้อให้เองซะเลย คิมกับกมลก็เข้าไปพักในห้องพักของคิม

“คิม เดี๋ยวเก็บของเตรียมไว้เลยนะ” กมลพูดบอกขณะนั่งพิงหัวเตียงดูทีวี ส่วนคิมที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำก็เลิกคิ้วขึ้นนิดๆ

“เก็บทำไม” คิมถามกลับ

“ก็ชั้นจะพานายกลับบ้านวันนี้น่ะสิ” กมลบอกพร้อมกับมองหน้าคิมนิ่งๆ

“ไม่เอา ผมจะกลับพร้อมไอ้เดย์กับอิฐ” คิมโวยขึ้นเล็กๆ

“แต่ชั้นมีธุระต้องจัดการให้เรียบร้อยเร็วๆ” กมลบอกอีก

“คุณก็กลับไปก่อนสิ ผมตามกลับไปทีหลังก็ได้” คิมยังคงไม่ยอม

“ชั้นอุตส่าห์มารับถึงที่แล้วนะ อย่าดื้อสิ” กมลพูดว่าเสียงนิ่ง คิมนั่งลงที่ปลายเตียงหันหลังให้กมลอย่างเคืองๆ

“คุณมาเพราะมีเหตุจำเป็น ลองไม่มีคนมาก่อกวนแบบเมื่อคืน คุณก็คงไม่คิดจะมารับผมด้วยตัวเองหรอก คนอะไร คิดจะไล่ให้ไปไกลๆก็ไล่ คิดจะมารับกลับก็มา” คิมพูดว่าออกมาเสียงงอนๆ กมลขยับมาหาคิมที่นั่งอยู่ปลายเตียง ก่อนจะนั่งคร่อมจากทางด้านหลังพร้อมกับโอบกอดเอวบางเอาไว้อย่างเอาใจ

“ชั้นไม่ได้ไล่นายนะ อย่าเข้าใจผิดสิ ชั้นเป็นห่วงนายมากตะหาก อย่าดื้อกับชั้นนักเลย กลับบ้านพร้อมกันนะคิม  นายไม่คิดถึงใบบุญรึไง” กมลอ้างใบบุญขึ้นมา ทำให้คิมนิ่งไปนิด

“จริงสิคุณกมล เมื่อคืนคุณบอกว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟัง แต่คุณยังไม่ได้เล่าเลยนะ” คิมพูดบอกออกมาเมื่อนึกได้

“เอาไว้เล่าตอนที่กลับบ้านได้มั้ย” กมลถามพร้อมกับหอมแก้มใสไปด้วย

“คุณก็เป็นแบบนี้ตลอดแหละคุณกมล ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า” คิมโวยขึ้นทันที กมลถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ถ้าชั้นเล่า มันจะทำให้นายเกลียดชั้นมากกว่านี้รึเปล่า” กมลพูดบอกออกมาเสียงจริงจัง ความจริงเขาเองก็ไม่อยากให้คิมมารับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับงานที่ผิดกฎหมายของตนเองมากนัก เพราะไม่อยากให้คิมรู้สึกไม่ดี แค่ให้รับรู้เรื่องธุรกิจเกี่ยวกับผับบาร์ก็พอแล้วในความคิดของกมล เมื่อได้ยินคำถามของกมล คิมก็นิ่งไปนิด

“ก็เล่ามาก่อนสิ แล้วผมจะบอกอีกที” คิมพูดหยั่งเชิงกลับไป กมลยกยิ้มนิดๆ ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องที่มีปัญหากับเฉิน และปัญหาเก่ากับดนัยให้คิมฟังอย่างคร่าวๆ กมลบอกเรื่องที่ตนเองทำธุรกิจค้าอาวุธเถื่อนด้วย คิมก็นั่งฟังเงียบๆ แต่คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน

“คุณกมล ถามจริงเถอะ ตอนนี้คุณทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรบ้าง บอกมาให้หมด” คิมถามขึ้นเสียงจริงจังเช่นกัน

“ก็เปิดผับเปิดบาร์ 5 ที่ มี 2 ที่ที่เปิดบ่อนด้านในด้วย แล้วก็รับซื้อ ขายอาวุธเถื่อน” กมลตอบกลับไป

“แล้วพวกยาเสพติดล่ะ คุณข้องเกี่ยวกับพวกนี้ด้วยมั้ย” คิมถามอีก

“ไม่ล่ะ ชั้นไม่ชอบพวกยาเสพติดสักเท่าไร” กมลตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ

“แล้วพวกค้ามนุษย์ล่ะ” คิมถามเท่าที่จะนึกได้ว่า คนด้านมืดทำอะไรบ้าง

“เรื่องนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ชั้นเกลียดมาก” กมลตอบออกมาตามจริง คิมถอนหายใจออกมาเบาๆ

“พูดง่ายๆว่าสิ่งผิดกฎหมายที่คุณทำอยู่ตอนนี้คือเปิดบ่อนการพนัน และค้าอาวุธ” คิมถามซ้ำอีกครั้ง

“ก็ประมาณนั้น อ่อ มีปล่อยเงินกู้ในบ่อนด้วยนะ” กมลบอกเพิ่มอีกอย่าง ใบหน้าก็ซุกอยู่ที่ไหล่บางของคิม

“แล้วเคยคิดจะเลิกทำธุรกิจผิดกฎหมายพวกนี้บ้างมั้ย” คิมถามในสิ่งที่ตนเองคิด กมลนิ่งไปนิด

“บอกตามตรง ว่ายังไม่เคยคิด” กมลตอบตรงๆเสียงเรียบ คิมนั่งเงียบ กมลก็เงียบ

“คิม เป็นอะไรรึเปล่า” กมลถามขึ้นเมื่อเห็นคิมเงียบไปสักพัก

“คุณพาผมเข้ามาอยู่กับคุณในฐานะอะไร” คิมถามขึ้นลอยๆ

“เมียชั้นไง” กมลตอบกลับ คิมหันหน้าไปมองหน้าของกมลด้วยสายตาเป็นกังวล

“ถ้างั้น ผมขอใช้สิทธิของผม ขอให้คุณเริ่มคิดเรื่องที่เราคุยกันเมื่อกี้ซะ” คิมบอกออกมาเสียงจริงจัง ทำเอากมลนิ่งอึ้ง ไม่คิดว่าคิมจะขอให้ตนเองเริ่มคิดเรื่องเลิกทำธุรกิจผิดกฎหมาย

“ขอคิดดูก่อนนะ” กมลบอกออกมาตรงๆ ไม่ได้คิดจะเอาใจคิมแต่อย่างไร เพราะการจะเลิกและถอยออกจากวงการนี้มันค่อนข้างยากพอสมควร

“ตัดสินใจได้แล้วก็บอกผมด้วยล่ะกัน” คิมบอกพร้อมกับแกะมือของกมลที่กอดตนเองออก แล้วขึ้นไปนอนบนเตียงเพื่อดูทีวี กมลถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ตกลงว่าวันนี้กลับบ้านพร้อมกันนะ” กมลถามเรื่องปัจจุบันก่อน คิมพยักหน้ารับแต่ไม่ได้พูดอะไร พอเที่ยงกมลก็ชวนคิมออกไปนอกห้อง เพื่อดูว่าเดย์ตื่นรึยัง

“ตื่นแล้วเหรอไอ้เสือ ไปกินข้าวกัน” กมลพูดชวน เมื่อเห็นเดย์นั่งอยู่กับอิฐและคม ก่อนที่จะพากันออกมาจากบ้านพัก และพากันไปกินข้าว ตอนที่กินข้าว คิมได้บอกกับเดย์และอิฐไปแล้วว่าตนเองจะกลับพร้อมกับกมลในวันนี้ พอกินข้าวเรียบร้อยทั้งหมดก็พากันกลับมาที่โรงแรมที่พัก

“เอาไว้ว่างๆก็แวะเข้าไปเที่ยวที่บ้านนะเดย์” กมลพูดบอก

“ครับ” เดย์ตอบรับ ก่อนที่กมล คิม และลูกน้องของกมลจะเดินทางกลับ ส่วนลูกน้องของดนัยที่ถูกจับเอาไว้ ถูกพาขึ้นรถตู้สีดำของกมลอีกคันด้วยเช่นกัน ซึ่งบังเอิญว่าคิมเห็นตอนที่คนทั้งสามถูกพาขึ้นรถด้วย

“คุณจะพา 3 คนนั่นไปไหน” คิมถามขณะนั่งอยู่ในรถที่อยู่บนเรือข้ามฟาก เพราะกมลไม่ให้ลงจากรถ ส่วนลูกน้องคนอื่นๆ บางคนก็ออกไปยืนนอกรถบ้าง

“พาไปส่งเจ้านายพวกมันไง” กมลตอบกลับ คิมขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ

“ไปส่ง??” คิมทวนคำพูดของกมล

“ใช่…ไปส่ง เดี๋ยวพอถึงกรุงเทพชั้นจะให้คนไปส่งนายที่บ้านก่อน ส่วนชั้นจะไปส่งเจ้าพวกนั้นที่บ้านของไอ้ดนัย” กมลบอกกลับไป คิมหันมามองหน้ากมลทันที

“ผมไปด้วย!!” คิมร้องตามอย่างรวดเร็ว

“จะไปทำไม” กมลถามกลับเสียงเครียด

“ผมจะไปดูหน้าไอ้คนที่มันคิดจะจับผม แล้วทำให้อิฐกับแซลมอนต้องเจ็บตัว คุณอย่ามาห้ามผมเด็ดขาดคุณกมล” คิมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคืองๆ กมลยิ้มขำกับท่าทีของคิม ใครจะไปคิดว่าคิมก็บ้าบิ่นได้เหมือนกัน

+++++++++++++++++++ 50% ++++++++++++++++

กว่าจะกลับมาถึงกรุงเทพฯ ฟ้าก็มืดลงแล้ว แต่กมลก็ยังตรงไปยังบ้านของดนัยตามที่ตั้งใจเอาไว้ในตอนแรก ไม่นานนักรถของฝ่ายกมลก็มาจอดนิ่งอยู่หน้าบ้านของดนัย โดยที่ประตูรั้วทางเข้าบ้านของดนัยมีคนคุ้มกันอย่างแน่นหนา  และเมื่อทางฝั่งของดนัยรู้ว่ากมลกับลูกน้องมาถึงถิ่นก็รีบเข้าไปแจ้งเจ้านายตนเองอย่างรวดเร็ว คมรับหน้าที่ลงจากรถ แล้วเดินตรงเข้าไปหากลุ่มลูกน้องของดนัยที่ยืนขวางอยู่หน้าประตูรั้ว พร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นให้เห็นว่าไม่ได้คิดจะมาทำอะไร ในขณะที่ลูกน้องของดนัยได้แต่มองคมอย่างลังเล กล้าๆกลัวๆ เนื่องจากไม่รู้ว่าคมจะมาไม้ไหน คมลงไปบอกกับลูกน้องของดนัยว่า กมลอยากจะพบกับดนัยตามที่เคยคุยกันไว้ในโทรศัพท์ สักพัก ดนัยก็เดินออกมาพร้อมกับบอดี้การ์ดนับสิบคน

“นั่งรออยู่ในรถนะคิม” กมลพูดบอกกับคิมเสียงเรียบ

“ทำไมไม่ให้ผมลงไปด้วยล่ะ” คิมถามกลับ สายตาก็มองไปที่ดนัยที่เดินออกมา

“นายบอกว่าอยากจะมาดูหน้าดนัยไม่ใช่รึไง นายก็นั่งดูอยู่ในรถนี่แหละ อีกอย่างชั้นไม่รู้ว่าสถานการณ์ข้างนอกจะเป็นยังไง ป้องกันเอาไว้ก่อน ชั้นไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับนาย” กมลบอกเสียงจริงจัง คิมส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอ ก่อนที่กมลจะรั้งหัวของคิมมาจูบเบาๆที่ขมับ

“เป็นเด็กดีรอชั้นอยู่ในรถนะ” กมลพูดบอก

“นี่พวกแกมากันจริงๆสินะ” ดนัยพูดขึ้นกับคมเมื่อเดินออกมาที่ประตูรั้วบ้าน ซึ่งเปิดกว้างออก และเมื่อเห็นว่าดนัยออกมาแล้ว กมลก็เปิดประตูรถลงไป ดนัยหลบสายตากมลนิดๆ

“คุณมีอะไรถึงมาหาผมถึงบ้านเลยคุณกมล” ดนัยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง กมลยกยิ้มมุมปากนิดๆ ตอนนี้ลูกน้องของกมลบางส่วนลงมายืนคุ้มกันกมลอยู่ข้างๆเช่นกัน

“ชั้นพึ่งรู้นะ ว่านายต้อนรับแขกโดยการให้ยืนคุยกันหน้าประตูรั้วบ้านแบบนี้ ไม่คิดจะเชิญเข้าไปดื่มน้ำดื่มท่าหน่อยรึไง” กมลถามกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ดวงตาคมปลาบเหลือบมองไปที่ใคร คนนั้นก็เหมือนจะตัวทะลุจากสายตาคมนั่น

“ผมรู้ว่าคุณคงมาไม่นานหรอก จริงมั้ย พูดธุระของคุณมาดีกว่า” ดนัยยอมเสียมารยาทและพูดเป็นเชิงไล่กมลทางอ้อม ซึ่งกมลก็รู้ดี

“หึ ไม่ต้องรีบร้อนหรอก เรามีเวลาคุยกันอีกเยอะ ชั้นเอาของมาคืนนายจำได้ใช่มั้ย ที่ชั้นบอกในโทรศัพท์น่ะ” กมลทบทวนความจำ ดนัยนิ่งเงียบไปนิด เพราะรู้ดีว่ากมลพาลูกน้องของตนเองมาส่งคืน

“รุจ ให้คนพาเจ้าพวกนั้นลงมา” กมลหันไปสั่งลูกน้องตนเอง รุจเดินไปที่รถตู้สีดำ แล้วให้คนพาลูกน้องของดนัย มาเหวี่ยงลงที่พื้นระหว่างดนัยกับกมล ดนัยมองลูกน้องตนเองพร้อมกับกัดฟันกรอด สภาพที่เห็นก็รู้ดีว่าลูกน้องตนเองโดนหนักแค่ไหน ยังดีที่ไม่ถึงตาย แล้วก็อดจะโมโหลูกน้องตนเองไม่ได้ ที่ทำให้เสียแผน

“ชั้นสั่งสอนพวกมันไปนิดหน่อย หวังว่านายคงไม่ว่าอะไร” กมลบอกอีก ดนัยมองหน้ากมลอย่างไม่พอใจ

“แล้วไง” ดนัยถามกลับ คมมองหน้าดนัยอย่างหมั่นไส้นึกอยากจะตรงเข้าไปกระทืบเสียให้คว่ำ ที่อีกฝ่ายชักสีหน้าใส่เจ้านายตนเอง

“ก็ไม่แล้วไง ก็แค่อยากจะมาบอกนายว่า วิธีสกปรกๆโบราณๆแบบนี้ เลิกใช้เหอะ มันไม่เหมาะกับคนสมัยใหม่อย่างนาย ถ้าอยากได้อะไร ทำใจให้กล้าเข้ามาพูดมาบอกกับชั้นตรงๆ ชั้นอาจจะใจดียอมรับฟังนายก็ได้” กมลพูดบอกออกมา สื่อให้ทุกคนรู้ทั่วว่า กมลตั้งใจเหน็บดนัยที่ขี้ขลาดไม่กล้าเข้าหาเขาตรงๆ เหมือนอย่างที่กมลทำอยู่ตอนนี้

“คุณอย่าปฏิเสธออกมานะคุณดนัย ว่าคุณไม่ได้สั่งให้ลูกน้องของคุณไปจับตัวคุณคิม” คมพูดแทรกขึ้นมาก่อน เมื่อเห็นว่าดนัยจะพูดอะไรบางอย่างออกมาซึ่งคมเองก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธ ทำให้ดนัยชะงักปากไปนิด

“ที่ชั้นมา ไม่ได้ต้องการจะมาหาเรื่อง แต่จะมาเตือน คราวนี้ชั้นจะไม่เอาเรื่องอะไรนาย แต่อย่าให้ชั้นรู้ว่านายคิดจะทำอะไรแบบนี้อีก เพราะถ้ามีครั้งต่อไป นายเตรียมพร้อมก้าวลงสนามรบอย่างเต็มตัวได้เลยดนัย” กมลพูดพร้อมกับจ้องมองดนัยด้วยสายตาเย็นเฉียบ

“นี่คุณขู่ผมเหรอคุณกมล” ดนัยกัดฟันถามออกมาด้วยความรู้สึกเสียหน้าที่ถูกขู่ต่อหน้าลูกน้องของตนเองและของกมลด้วย กมลยกยิ้มมุมปาก

“หึ คนอย่างชั้นเคยขู่ใครด้วยเหรอดนัย” กมลถามกลับเสียงเยาะๆ ก่อนจะจ้องหน้าดนัยเขม็ง

“ชั้นแค่หวังว่า นายจะไม่ทำให้ตระกูลของนายจบสิ้นลงตรงที่นายเป็นคนสุดท้ายหรอกนะ” กมลบอกออกมาอีก ท่ามกลางบรรยากาศอันน่าอึดอัด

“เอาล่ะ ชั้นมาแค่นี้ล่ะ พาลูกน้องของนายมาส่ง แต่บางส่วนอาจจะไม่ครบนะ ชั้นแค่สั่งสอนโทษฐานที่แตะต้องคนของชั้นเท่านั้น” กมลบอกออกมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ ดนัยกัดฟันกรอดถ้าจะให้คนของตนเองเล่นงานกมลตอนนี้ก็ทำได้ แต่ดนัยเองก็เสี่ยงไม่น้อย อีกอย่างดนัยไม่รู้ว่ากมลมีลูกน้องติดตามมาด้วยมากน้อยแค่ไหน เพราะกมลอาจจะให้บางส่วนหลบซ่อนอยู่ก็เป็นได้ การที่จะเล่นกับกมล ดนัยต้องคิดให้มากกว่าทุกครั้ง เพราะอุตส่าห์อาศัยจังหวะที่เฉินเล่นงานกมลในช่วงนี้ ตลบหลังกมลอีกที แต่ก็ยังพลาด

“ไม่มีอะไรแล้ว ชั้นคงต้องขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อน นายเองก็พักผ่อนเยอะๆนะดนัย พักให้พอ” กมลพูดย้ำคำ

“เดี๋ยว!!” แต่ยังไม่ทันที่กมลจะเดินกลับมาที่รถหรือดนัยจะได้พูดต่ออะไร คิมก็เปิดประตูลงมาจากรถ ดนัยขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่คิดว่าคนของกมลจะมาด้วย กมลเองก็มองคิมหน้าเครียด เพราะเขาสั่งให้ร่างบางรออยู่ในรถแต่คิมก็ยังคงดื้อดึงลงมาจนได้

“คิม กลับขึ้นรถไป” กมลบอกเสียงดุ คิมตวัดสายตามองกมลอย่างเหวี่ยงๆ

“ขึ้นแน่ แต่ขอผมทำธุระของผมบ้าง” คิมบอกออกมาเสียงเข้ม ลูกน้องของกมลและของดนัย ต่างมองคิมอย่างงงๆ ว่าคิมจะมีธุระอะไร คิมเดินตรงเข้าไปหาดนัย ลูกน้องของดนัยก็เตรียมพร้อม แต่ดนัยยกมือห้ามเอาไว้ เพราะรู้ว่าคิมไม่มีอาวุธอะไรที่จะทำร้ายเขาได้ และเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ธุระที่คิมบอกคืออะไร คมเองก็ขยับเตรียมพร้อมเผื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉิน

..

..

ผั่วะ!!

“เจ้านาย!!”เสียงลูกน้องของดนัยเรียกเจ้านายตนเองดังลั่น  ส่วนดนัยหน้าหงายเลือดกบปากทันที เมื่อถูกคิมตรงเข้ามาต่อยที่แก้มสากตรงมุมปากเข้าอย่างจัง ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน ลูกน้องของกมลกรูเข้ามายืนขวางคิมเอาไว้ กมลเองก็คว้าข้อมือของคิมเอาไว้เช่นเดียวกัน

“ปล่อย!” คิมโวยใส่กมลพร้อมกับสะบัดมือออก  ก่อนจะแหวกลูกน้องของกมลมายืนตรงหน้าดนัยอีกครั้ง

“หมัดเมื่อกี้ ชั้นตอบแทนที่นายบังอาจให้คนมาจับตัวชั้น ส่วนนี่!” คิมพูดพร้อมกับยกเท้าขึ้น

พลั่ก!!

“เฮ้ยยย” ลูกน้องของดนัยร้องอีกครั้ง เมื่อคิมถีบเข้ากลางท้องของดนัยอีกที จนเจ้าตัวทรุดนิดๆ แต่ได้ลูกน้องประคองเอาไว้

“ยะ..อย่า” ดนัยร้องบอกลูกน้องที่ทำท่าจะตรงเข้าไปจัดการคิม ส่วนกมลตอนนี้ไม่ห้ามแล้ว ได้แต่ยืนยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ

“ถีบเมื่อกี้ ชั้นตอบแทนที่ลูกน้องของนาย ทำให้น้องชายกับหลานชายชั้นต้องเจ็บตัวไปด้วย” คิมพูดถึงอิฐกับแซลมอน ที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะเรื่องนี้ด้วย เมื่อพูดจบคิมก็เดินมายืนข้างกมลด้วยตัวเอง

“หึหึ โทษทีนะดนัย ชั้นห้ามคนของชั้นไม่ทันจริงๆ แต่ช่วยไม่ได้ นายทำให้คิมโกรธเองนะ” กมลพูดเยาะเย้ย มากกว่าจะพูดขอโทษจริงๆ

“กล้ามากนะคนสวยที่ทำกับชั้นแบบนี้” ดนัยพูดว่าออกมาเสียงขุ่น ทั้งเจ็บและจุกยังไม่หาย

“ปากเหรอนั่น อยากโดนอีกสักหมัดมั้ย” คิมโวยออกมาทันทีเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกตนเองว่าคนสวย

“ชู่วว ใจเย็นๆ” กมลลูบหลังคิมเบาๆ

“กลับกันเถอะครับ ผมอยากอาบน้ำนอนพักจะแย่อยู่แล้ว” คิมหันมาพูดกับกมลเสียงขุ่นๆ

“โอเค กลับก็กลับ ชั้นกลับล่ะนะดนัย หวังว่าคงจำที่ชั้นพูดก่อนหน้านี้ได้นะ” กมลบอกกลับ ก่อนจะพาคิมไปที่รถ คมที่กำลังจะเดินกลับรถ ก็นึกอะไรบางอย่างได้ หันมามองดนัยพร้อมกับยกยิ้มสะใจล่วงหน้า

“อ่อ ผมลืมบอกอะไรบางอย่างไป น้องชายกับหลานชายที่คุณคิมพูดถึงเมื่อกี้ เป็นคนรักและหลานชายสุดที่รักของไอ้เดย์มันนะครับ..คุณดนัย” คมพูดบอกก่อนจะเดินกลับไปที่รถของกมล ส่วนดนัยยืนอึ้งหน้าเสียไปเรียบร้อยแล้ว

.

..

..

..

..

“นั่งยิ้มอะไรกัน” คิมถามขึ้นทันที ขณะที่นั่งรถออกมาจากหน้าบ้านของดนัยละกำลังจะตรงกลับบ้านของกมล แต่คิมก็สังเกตเห็นว่าทั้งกมล คม และคนขับรถต่างนั่งอมยิ้มกันนิดๆ แต่พอได้ยินที่คิมถาม ต่างก็ปรับสีหน้าเป็นปกติ

“เปล่านี่” กมลตอบกลับ

“แล้วแกยิ้มอะไรของแกเจ้าคม” กมลโยนไปให้คมทันที คมหันมามองหน้าเจ้านายตนเองนิดๆ ก่อนจะยิ้มอ่อนๆส่งให้คิมที่กำลังมองมาที่คมอย่างต้องการคำตอบ

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมกำลังคิดว่า คุณคิม สมกับเป็นเมียของนายจริงๆ” คมพูดบอกออกมาตรงๆ

“แกนี่คิดเหมือนชั้นเลยนะเจ้าคม” กมลพูดบอกออกมาบ้าง ทำให้คิมหันมามองหน้ากมลขวับ

“ไหนเมื่อกี้บอกไม่มีอะไร พอคมพูด ก็เห็นดีเห็นงามด้วยทันทีเลยนะคุณกมล” คิมโวยใส่กมล กมลยิ้มอย่างเอาใจ พร้อมกับกอดเอวบางเอาไว้แน่น

“ดุจังเลยนะ” กมลพูดบอกพร้อมกับหอมแก้มใสเบาๆ ทำให้คิมใบหน้าขึ้นสีทันที เพราะคมหันมามองอยู่ คมเมื่อเห็นภาพเจ้านายตนเองหอมแก้มคิมแล้ว ก็หันกลับไปมองด้านหน้าเหมือนเดิม เพราะไม่อยากให้คิมเขินไปมากกว่านี้ แล้วคนที่จะเดือดร้อนก็คือเจ้านายของเขานั่นแหละ

“คุณกมล!” คิมส่งเสียงฮึดฮัด ร้อนหน้าวูบวาบ กมลหัวเราะในลำคอเบาๆ แค่นี้ก็ทำให้คิมเลิกโวยวายเรื่องเดิมได้แล้ว ไม่นานนักก็มาถึงบ้านของกมล คิมกับกมลเดินตรงเข้าไปในบ้าน คิมเดินขึ้นไปบนห้องนอน ส่วนกมลแยกตัวไปที่ห้องทำงานก่อน เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว คิมก็เดินลงมาหากมลที่ห้องทำงาน ร่างบางเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไป พบว่ามีลูกน้องของกมลนั่งหน้าเครียดอยู่ 3-4 คน

“มีอะไรเหรอคิม” กมลถามขึ้น หยุดคุยเรื่องงานทันที

“ผมหิวข้าว ผมขอไปทำอะไรในครัวกินได้มั้ย” คิมเดินมาขอก่อน

“ให้คนไปเรียกป้านีมาทำให้สิ” กมลบอกกลับ คิมขมวดคิ้วมุ่น

“นี่มันดึกแล้วนะคุณกมล ให้ป้านีเค้าพักบ้างเถอะ อีกอย่างผมทำเองได้” คิมบอกกลับไป กมลยิ้มนิดๆ

“โอเค ตามใจนาย ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกลูกน้องของชั้นนะ” กมลพูดบอกออกมา คิมพยักหน้ารับ แต่พอทำท่าจะหันเดินออกไป ร่างบางก็ชะงักกึก เมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ คิมหันมามองกมล ที่นั่งมองคิมอยู่อย่างแปลกใจ ว่าร่างบางหยุดทำไม

“คุณ จะกินด้วยกันมั้ย ผมจะได้ทำเผื่อ” คิมถามออกมาเสียงอ้อมแอ้ม ทำให้กมลยิ้มรับ

“ถ้านายตั้งใจจะทำเผื่อชั้น ชั้นก็กินนะ” กมลบอกกลับ คิมเม้มปากนิดๆ ไม่กล้าสบตากมลตรงๆ

“ก็…ถ้าเสร็จแล้ว ผมจะมาเรียกล่ะกัน” คิมบอกก่อนจะรีบเดินออกไปจากห้องทำงานของกมลทันที กมลยิ้มตามหลังร่างบางไปด้วยความรู้สึกพอใจและดีใจที่คิมเริ่มปรับตัวเข้าหากมลบ้างแล้ว ไม่มีท่าทีต่อต้านเหมือนแรกๆ

++++++++++++++++++ 100% +++++++++++++++++

2  Be  Con

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อัพแล้วนะคะ

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset