ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนพิเศษ 6

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่6  (คม x ใบบุญ)

Author: 여님  (ยอนิม)

 

 เมื่อเดินกลับมาถึงบ้านของตนเอง คมก็วางถุงใส่มือถือไว้บนโต๊ะกลางบ้าน ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อนเพราะตอนดึกๆ ต้องออกไปกับกมลอีกรอบ พออาบน้ำเสร็จคมก็ใช้ผ้าขนหนูพันช่วงล่างของตนเองเอาไว้

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูหน้าบ้านดังขึ้น ทำให้คมจำต้องเดินออกไปเปิดประตูก่อน เพราะรู้ว่าต้องเป็นใบบุญแน่นอน

“ไง เข้ามาก่อนสิ” คมพูดบอกกับเด็กหนุ่มที่ยืนอึ้งอยู่หน้าบ้าน ใบบุญร้อนหน้าวูบวาบเมื่อเห็นหุ่นของคมในระยะประชิดแบบนี้ อยู่ๆหัวใจก็เต้นตึกตักโดยไม่รู้สาเหตุ

“พะ..พี่คมเรียกใบบุญมามีอะไรเหรอฮะ” เด็กหนุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับถามขึ้นทันที

“นั่งรอก่อน พี่ขอแต่งตัวแป๊บหนึ่ง” คมบอกกลับ ใบบุญพยักหน้ารับ ก่อนที่คมจะเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อแต่งตัว ใบบุญจึงนั่งลงรอที่โซฟา เด็กหนุ่มยกขาทั้งสองขึ้นมาตั้งฉากวางบนโซฟาแล้วกอดเข่าตามความเคยชิน พร้อมกับมองโน่นมองนี่ในบ้านของคมไปด้วย สักพักคมก็แต่งตัวด้วยชุดอยู่บ้านปกติพร้อมกับผ้าขนหนูบนหัวเนื่องจากจะสอนการใช้โทรศัพท์กับใบบุญก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปข้างนอกกับกมลอีกครั้ง

“การบ้านเสร็จ……รึ…ยัง” เสียงของคมแผ่วไปตอนท้ายเมื่อเห็นเด็กหนุ่มนั่งอยู่บนโซฟาในท่านั่งกอดเข่า ทำให้ขากางเกงนอนที่สั้นและกว้างเนื่องจากเป็นกางเกงบ็อคเซอร์เก่าๆสีซีดๆ ที่ใบบุญชอบใส่นอนเป็นประจำมันร่นลงไปทำให้เห็นต้นขาขาวเนียนที่มีไรขนอ่อนๆขึ้นอยู่ ใบบุญเลิกคิ้วขึ้นมองคมที่ยืนนิ่งตาค้างมองตนเอง

“พี่คมว่าอะไรนะฮะ” ใบบุญถามเสียงซื่อ คมกลืนน้ำลายลงคอนิดๆ รู้สึกวูบวาบแปลกๆในใจ ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ

“นั่งกางเกงในจะออกแล้วมั้งนั่น” คมแกล้งแซวทำให้ใบบุญนึกขึ้นได้ว่าตนเองเผลอนั่งกอดเข่าจึงรีบเอาขาลงจากโซฟาแล้วขยับขากางเกงตนเองทันทีอย่างขัดเขิน คมถอนหายใจเบาๆ แล้วนั่งลงบนโซฟาข้างๆใบบุญ แต่ก็อดที่จะชำเลืองมองขาขาวๆของใบบุญไม่ได้อยู่ดี

“ปกติใส่ชุดแบบนี้นอนเหรอ” คมถามขึ้น ใบบุญพยักหน้ารับ

“ฮะ ใส่แล้วนอนสบายดีฮะ” ใบบุญตอบยิ้มๆ ด้วยท่าทางปกติ ลืมเรื่องท่าตนเองนั่งเมื่อกี้ไป

“อยากได้ชุดนอนแบบขายาวอะไรแบบนั้นบ้างมั้ย เผื่อพี่ไปเจอที่ไหนจะได้ซื้อมาฝาก” คมถามขึ้น ใบบุญส่ายหน้าไปมา

“ไม่เอาฮะ แค่เสื้อผ้าใส่นอน ไม่ได้ใส่ไปอวดใครสักหน่อย ใบบุญใส่แบบนี้ได้ฮะ ความจริงจะให้ใส่แค่กางเกงในนอนตัวเดียวก็ยังได้เลยฮะพี่คม” เด็กหนุ่มบอกออกมาด้วยท่าทีปกติยิ้มๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่ทำให้คมร้อนหน้าวูบเผลอจินตนาการตอนที่ใบบุญใส่กางเกงในตัวเดียวนอนซะงั้น ร่างแกร่งยกมือขึ้นมาลูบหน้าตนเอง

(คิดเ**้ยอะไรของมึงเนี่ยไอ้คม) คมด่าตัวเองในใจ ในขณะที่ใบบุญมองคมอย่างงงๆ

“พี่คมหัวยังเปียกอยู่เลย ไม่รีบเช็ดให้แห้งเดี๋ยวเป็นหวัดนะฮะ” ใบบุญพูดบอกด้วยความเป็นห่วง คมหันมามองใบบุญนิดๆ ก่อนที่มือจะไปก่อนความคิด

“งั้นเช็ดให้พี่หน่อยสิ” คมพูดบอก ใบบุญทำตาโต

“ดะ..ได้เหรอฮะ….พี่คมอายุมากกว่าใบบุญตั้งเยอะ ให้ใบบุญจับหัวได้เหรอฮะ” เด็กหนุ่มถามออกมาเสียงอึกอัก เพราะรู้สึกว่ามันไม่สมควรถ้าตนเองจะต้องจับต้องหัวของคนที่อายุมากกว่า คำพูดของใบบุญทำให้คมรู้สึกเสียความมั่นใจไปนิด

“จะบอกว่าพี่แก่มากว่างั้นเหอะ” คมถามกลับไป

“ป่ะ…เปล่าฮะ พี่คมไม่ได้แก่สักหน่อย แต่ใบบุญกลัวว่าใครเห็นแล้วเค้าจะว่าใบบุญได้ว่าเล่นหัวพี่คม” เด็กหนุ่มรีบพูดแก้ออกมาทันที เพราะไม่อยากให้คมเข้าใจผิด

“อยู่ในบ้านพี่ ใครจะมาเห็นล่ะหืม” คมถามกลับพร้อมกับยิ้มนิดๆ เมื่อคิดได้ว่า เด็กใสซื่ออย่างใบบุญมีแต่ความเกรงใจ ไม่เคยมีเจตนาแอบแฝงทั้งคำพูดและการกระทำ ใบบุญนิ่งคิด ก่อนจะยิ้มออกมา

“อ่า …นั่นสิฮะ งั้นถ้าพี่คมอนุญาต ใบบุญเช็ดให้พี่คมก็ได้” เด็กหนุ่มบอกกลับ เพราะอยากจะตอบแทนคมบ้างเล็กๆน้อยๆก็ยังดี คมส่งผ้าขนหนูไปให้เด็กหนุ่ม ใบบุญรับมาแล้วลุกไปยืนตรงหน้าคม

“พี่คมก้มหัวหน่อยนะฮะ” ใบบุญบอกกลับ คมที่นั่งอยู่บนโซฟา ขยับตัวมาข้างหน้านิดๆ แล้วก้มหัวเอาศอกทั้งสองข้างวางบนเข่า โดยมีใบบุญยืนอยู่ด้านหน้า เด็กหนุ่มค่อยๆเช็ดหัวให้คมไปเรื่อยๆ คมยิ้มนิดๆ เมื่อได้ยินเหมือนเสียงฮัมเพลงจากลำคอของใบบุญ คมเหลือบสายตาขึ้นมองร่างเล็กบอบบางตรงหน้าตนเอง พลางคิดว่าถ้าโดนอะไรหนักๆเข้า เอวบางนี้จะหักรึเปล่า

กึก…

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้คมก็ต้องด่าตัวเองในใจอีกครั้ง ที่เผลอคิดอะไรเพ้อเจ้อไปเรื่อย

“พี่คมฮะ…พี่คม” เสียงของใบบุญเรียกดังขึ้น ทำให้คมเงยหน้าขึ้นมอง

“หืม” คมขานรับในลำคอ

“แห้งแล้วฮะ ใบบุญนึกว่าพี่คมหลับซะอีก” เด็กหนุ่มพูดแล้วยิ้มขำ

“อ่า ไม่ได้หลับหรอก ขอบใจเรามากนะ อ่อ เกือบลืมเลย ไปหยิบถุงบนโต๊ะนั่นมาสิ” คมพูดบอก เพราะต้องรีบสอนใบบุญก่อน เนื่องจากไม่อยากให้ใบบุญนอนดึกไปมากกว่านี้ ใบบุญเดินไปหยิบถุงกระดาษเนื้อดีบนโต๊ะมาส่งให้คมอย่างงงๆ

“นั่งลง” คมใช้มือตบลงที่ว่างข้างๆ ใบบุญก็นั่งลงแต่โดยดี คมหยิบกล่องด้านในออกมาพร้อมกับแกะกล่อง ใบบุญมองตามอย่างสนใจ เพราะรู้แล้วว่าเป็นโทรศัพท์

“มา พี่จะสอนวิธีใช้ ส่วนเบอร์พี่ซื้อมาให้แล้วนะ” คมพูดขึ้น ทำให้ใบบุญตาโตขึ้นอีกครั้ง

“พะ…พี่คมว่าอะไรนะฮะ โทรศัพท์เครื่องนี้ของใคร” ใบบุญถามเสียงละล่ำละลัก

“ของเรานั่นแหละ พี่ซื้อมาให้ เวลามีอะไรฉุกเฉิน จะได้ติดต่อได้ เวลามีการบ้านอะไร จะได้โทรถามเพื่อนได้ไง” คมพูดบอก

“มะ..ไม่เอาฮะ…มันแพง พี่คมอ่า ฮึกก…ทำไมต้องซื้อให้ใบบุญด้วย” เด็กหนุ่มสะอื้นออกมาทันทีด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบในใจกับความใจดีความห่วงใยของคมที่มีให้กับตนเอง ไม่เคยคิดว่าตนเองจะต้องร้องไห้ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ

“อ่ะ..อ่าว ร้องไห้อีกแล้ว” คมพูดขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มน้ำตาไหลพราก ใบบุญไม่เคยรู้สึกเหมือนหัวใจตนเองจะพองโตได้ถึงขนาดนี้กับความใจดีของคนข้างๆ เป็นความใจดีที่ใบบุญไม่เคยได้รับจากใครแม้แต่จากแม่ของตนเอง ส่วนยายของใบบุญก็ให้ความรักในแบบผู้ใหญ่ที่มีแต่ความหวังดีและความเป็นห่วงคอยอบรมสั่งสอนใบบุญอยู่เสมอเวลาที่เจอกันจนได้มาอยู่ด้วยกันที่นี่

“ชู่ววว อย่าร้อง มานี่มา” คมรั้งหัวของใบบุญให้มาซบอกตนเอง เด็กหนุ่มกอดเอวแกร่งของคมเอาไว้ทันที

“อย่าร้องสิ พี่บอกแล้วไง ว่าถ้ามีความสุขให้เรายิ้ม อย่าร้องไห้ แล้วโทรศัพท์ชิ้นนี้พี่ให้เพราะมันจำเป็นจริงๆสำหรับเรา ถ้ามีอะไรฉุกเฉินมีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้ แล้วใบบุญไม่มีโทรศัพท์ ใบบุญจะทำยังไง สมมุติว่าเรานั่งรถจะกลับบ้านเองแต่ผิดสาย หลงทางไปที่อื่น เราจะติดต่อพี่ ติดต่อยายยังไง” คมถามขึ้นเสียงเรียบ

“ฮึกก…โทรตู้” เด็กหนุ่มบอกเสียงสะอื้น คมยิ้มขำนิดๆ

“สมัยนี้แล้ว ตู้โทรศัพท์สาธารณะที่เห็นตั้งๆเป็นเครื่องประดับอยู่ข้างถนนน่ะ มันจะใช้ได้จริงสักกี่ตู้กัน แล้วถ้าบังเอิญว่ามันไม่มีตู้โทรศัพท์อยู่แถวนั้นล่ะ” คมถามอีก

“ฮึกก   ใบบุญถามคนแถวนั้น..ฮึก..ก็ได้” เด็กหนุ่มตอบออกมาอย่างซื่อๆ ทำให้คมยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู

“แต่ถ้ามีโทรศัพท์มือถือติดตัวไว้ มันก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอ ไม่เอาน่า พี่อุตส่าห์ซื้อมานะ ใบบุญไม่ชอบเหรอ งั้นพี่เอาไปทิ้งดีกว่ามั้ง” คมแกล้งพูดบอก ทำให้ใบบุญเงยหน้าขึ้นมามองคมทันที

“อย่าทิ้งนะฮะ..ฮึกก…เสียดาย พี่คมซื้อมาตั้งแพง” ใบบุญบอกกลับมาเสียงสั่น

“ถ้าเสียดาย เราก็ต้องรับไปใช้ อย่าปฏิเสธเลย อีกอย่างนะพี่ทำงาน มีเงินเก็บมากพอที่จะซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้ให้ใบบุญ การที่พี่ซื้อมันไม่ได้ทำให้พี่ลำบากอะไร พี่ซื้อเพราะพี่มีกำลังพอที่จะซื้อได้ ไม่ต้องคิดว่าพี่ใช้เงินฟุ่มเฟือยเพื่อซื้อของพวกนี้ให้เรา และไม่ต้องไปคิดน้อยใจนะ ว่าทำไมตอนที่เราอยู่กับแม่ แม่ของเราเค้าถึงไม่ซื้อโทรศัพท์ให้เราบ้าง เพราะแม่ของใบบุญมีกำลังเงินน้อย ทำให้ไม่สามารถซื้อของฟุ่มเฟือยแบบนี้ได้ เงินที่แม่ของใบบุญได้มามันเพียงพอกับการใช้จ่ายกินอยู่ภายในบ้านเท่านั้น เพราะถ้าเอาเงินมาซื้อโทรศัพท์ให้ใบบุญ ทั้งบ้านก็อาจจะลำบาก ใบบุญเข้าใจที่พี่พูดมั้ย” คมพยายามอธิบายแบบง่ายๆให้เด็กหนุ่มได้รับรู้

“ฮะ ใบบุญไม่เคยน้อยใจแม่ที่ไม่ซื้อของพวกนี้ให้ เพราะใบบุญรู้ว่ามันไม่จำเป็นสำหรับใบบุญเลย ถ้าใบบุญจะน้อยใจ ใบบุญน้อยใจที่แม่ทิ้งใบบุญไปมากกว่า” พอพูดมาถึงเรื่องแม่ เด็กหนุ่มก็เสียงสั่นเครืออีกครั้ง ทำให้คมต้องลูบหัวของเด็กหนุ่มเบาๆอย่างปลอบใจ

“เลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า เอาเป็นว่าเราต้องรับโทรศัพท์ที่พี่ซื้อมาไปใช้ นี่คือการบังคับตกลงมั้ย” คมพูดเสียงเข้มนิดๆ เบี่ยงประเด็นเรื่องแม่ของเด็กหนุ่มไปทันที ใบบุญยื่นปากนิดๆ

“ทำไมพี่คมต้องบังคับใบบุญด้วยล่ะฮะ” เด็กหนุ่มที่คลายอาการสะอื้นลงได้บ้าง ถามขึ้นเสียงอ่อยๆ คมยกมือขึ้นมาบีบจมูกแดงๆของใบบุญเบาๆ

“ก็เราน่ะดื้อเงียบ ถ้าไม่บังคับ จะยอมดีๆมั้ยล่ะ” คมถามกลับไป ใบบุญทำหน้าหงอย

“พี่คมอ่ะ” ใบบุญว่าเสียงงอนๆ

“ตกลงเราต้องใช้โทรศัพท์เครื่องนี้นะ ห้ามเถียง ห้ามต่อรอง ห้ามขัดใจพี่ โอเค มานั่งดูวิธีใช้กัน” คมพูดบอกออกมาเป็นชุดแล้วมัดมือชกทันที ทำให้ใบบุญยิ้มขำออกมาได้  ก่อนจะโผเข้ากอดคมอีกครั้ง คมก็รับเด็กหนุ่มอย่างตกใจนิดๆ เพราะไม่ทันตั้งตัว

“ขอบคุณพี่คมมากนะฮะ ใบบุญรักพี่คมที่สุด พี่คมใจดีกับใบบุญมากที่สุดในโลกเลย” เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับผละออกมายิ้มๆ คมยิ้มรับ ก่อนจะเสียบที่ชาร์ตเข้ากับเครื่องแล้วเปิดนั่งสอนใบบุญ

“ความจริงมันต้องชาร์ตทิ้งไว้ก่อนนะ แต่พี่เปิดสอนเราเลยล่ะกัน” คมพูดบอกไปเรื่อยๆ ก่อนจะนั่งเปิดโทรศัพท์สอนใบบุญไปทีละฟังก์ชั่นการใช้งาน ใบบุญที่นั่งอยู่ข้างๆคม ก็ต้องเอียงตัวมาคอยดูมือถือในมือของคม

“พี่คม ใบบุญเมื่อยคออ่ะฮะ” เด็กหนุ่มบอกออกมาตรงๆ เพราะต้องยื่นหน้าคอยไปดู คมเลิกคิ้วนิดๆ หันซ้ายหันขวาเหมือนกับว่าจะหาทางยังไงให้ใบบุญนั่งดูแบบไม่เมื่อย ก่อนจะหันมามองใบบุญอีกครั้ง

“งั้นเอาแบบนี้ มานั่งตรงนี้มา จะได้ไม่เมื่อย” คมขยับตัวนั่งติดพนักโซฟา แล้วตบเบาะที่ว่างตรงระหว่างขาของตนเอง

“แล้วพี่คมไม่เมื่อยเหรอฮะ ถ้าใบบุญไปนั่งตรงนั้นอ่ะ” เด็กหนุ่มถามซื่อๆ

“ไม่เมื่อยหรอก มาๆ เดี๋ยวพี่ต้องออกไปข้างนอกกับนายอีก” คมพูดขึ้น ใบบุญจึงรีบไปนั่งระหว่างขาของคมทันที

“พิงพี่เลยก็ได้” คมพูดบอก ใบบุญจึงเอนตัวไปพิงอกแกร่งของคมเอาไว้ แผ่นหลังบางในเสื้อยืดเก่าๆ แนบไปกับอกแกร่งของคม ใบบุญรู้สึกอุ่นวาบในใจขึ้นมา รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้เข้ามาอยู่ในอ้อมอกของคนๆนี้ คมยกขาตนเองไปวางไว้ที่โต๊ะกลางตัวเล็กตรงด้านหน้า มือทั้งสองข้าง โอบลำตัวเด็กหนุ่มเอาไว้ทั้งสองข้างเช่นเดียวกัน ก่อนจะสไลด์หน้าจอมือถือเริ่มสอนใบบุญต่อ กลิ่นสบู่อ่อนๆจากตัวของเด็กหนุ่มโชยเข้ามาให้คมได้กลิ่น กลิ่นหอมเฉพาะตัวจางๆ ทำให้คมพูดไปก็มองเรือนผมนิ่มที่พิงอกตนเองอยู่ไปด้วย

“คึคึ” เสียงหัวเราะขอใบบุญดังขึ้น ทำให้คมเลิกคิ้วอย่างงงๆ

“หัวเราะอะไร” คมถามกลับไป ใบบุญเอี้ยวหน้ามามองคมนิดๆ

“หัวใจพี่คมเต้นแรงมากเลยฮะ ใบบุญรู้สึกได้เลย” เด็กหนุ่มบอกยิ้มๆ ทำให้คมรู้สึกว่าตัวเองร้อนหน้าวูบวาบ

“ช่างพี่เถอะน่า หันมาดูต่อ” คมจับหัวใบบุญให้หมุนกลับมาดูโทรศัพท์เหมือนเดิม พร้อมกับสะบัดหน้าไปมา ตลอดเวลาที่นั่งสอนใบบุญจะคอยถามในสิ่งที่ตนเองสงสัยหรือตามไม่ทันทุกครั้ง คมเองก็ให้เด็กหนุ่มลองเลื่อนเปิดลองเล่นดูด้วย

“พี่บันทึกเบอร์พี่ให้แล้วนะ มีอะไรให้โทรเข้าเบอร์พี่ ส่วนเบอร์ของเรา…ให้” คมพูดก่อนจะรับรู้ถึงความผิดปกติ เมื่อเด็กหนุ่มนิ่งเงียบไป และคมก็ได้ยินเสียงกรนเบาๆ

“หึหึ หลับซะแล้วเหรอเนี่ย เฮ้อ เป็นเด็กนี่ก็ดีจริงๆ กินง่ายหลับง่ายดี” คมพูดกับตัวเองพร้อมกับเอนหัวไปพิงพนักโซฟา ใบบุญหลับคาอกของคมนั่นเอง อาจจะเป็นเพราะร้องไห้ด้วยก็เลยหลับง่ายกว่าทุกที คมมองเรือนผมนุ่มที่พิงอกตนเอง ก่อนจะขยับโน้มใบหน้าลงไปจูบซับเบาๆที่เส้นผมนิ่มนั้น พลางคิดว่าตนเองจะทำยังไงกับใบบุญต่อดี คมค่อยๆขยับตัวให้ใบบุญเอนตัวนอนราบไปบนโซฟา แล้วคมก็ลุกมายืน เด็กหนุ่มพลิกตัวนอนขดนิดๆ

“สงสัยต้องอุ้มไปส่งอีกแล้วมั้งเนี่ย” คมพูดกับตัวเองเบาๆ

++++++++++++++++++++ 50% +++++++++++++++++

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้น ทำให้คมเดินไปเปิดก็พบว่าเป็นลูกน้องของตนเองอีกคน

“พี่คมได้เวลาต้องตามนายไปข้างนอกแล้วพี่” ชายหนุ่มพูดขึ้น เพราะคมสั่งเรื่องเวลาไว้ว่าถ้าถึงเวลาให้มาตามตนเองเผื่อคมจะเผลอหลับไป คมพยักหน้ารับ

“อืม เดี๋ยวตามไปที่รถ ขอบใจมาก” คมตอบกลับก่อนจะปิดประตูบ้าน แล้วหันมามองใบบุญอีกครั้ง

“ให้นอนที่นี่ไปก่อนล่ะกัน” คมพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเดินมาช้อนตัวใบบุญขึ้นมาอุ้ม แล้วพาตรงไปที่ห้องนอน ร่างสูงวางเด็กหนุ่มลงบนเตียงอย่างนุ่มนวลพร้อมกับห่มผ้าให้ ใบบุญมุดตัวอยู่ในผ้าห่มทันทีเมื่อได้รับความอุ่นจากผ้าห่ม คมยืนมองร่างเล็กแล้วยิ้มน้อยๆ ก่อนจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปทำงาน คมปิดประตูบ้านล็อคจากด้านในเรียบร้อย ก่อนจะมองหาเวรยามในคืนนั้น

“อ่า ไอ้ลพ ลพเว้ย” คมเรียกลพที่เดินอยู่ไม่ไกลนัก ลพเดินเข้ามาหา

“จะออกไปข้างนอกกับนายเหรอพี่คม” ลพถามขึ้น

“อืม กูวานอะไรหน่อยสิ เดินไปบอกป้านีที่บ้านหน่อย แกคงยังไม่หลับหรอก บอกว่าใบบุญหลับ กูเลยให้นอนอยู่ในบ้านกู บอกแกไม่ต้องห่วง ตอนเช้ากูจะปลุกให้” คมพูดบอกกับลูกน้องของตนเอง ลพมองคมอย่างล้อๆ

“มองเ**้ยอะไรอีกล่ะมึงน่ะ คิดอกุศลอยู่แหงๆ” คมพูดว่าออกมา

“พี่คมรู้ได้ไงว่าผมคิดอะไร ถ้าพี่ไม่คิดอยู่แล้ว” ลพแซวกลับ

“สัส เห็นหน้ามึงกูก็รู้แล้ว มีแต่เรื่องอกุศล” คมว่ากลับไปอีก ลพหัวเราะขำ ไม่ได้สะทกสะท้านกับคำด่ามากมายนัก

“แหม่ ทำเหมือนตัวเองไม่เคยคิด ผมว่าพี่คมก็ต้องมีสักวูบแหละ ที่คิดอกุศลน่ะ” พูดจบลพก็รีบวิ่งไปทางบ้านป้านีทันที ทำให้คมง้างเท้าเตะไม่ทัน ได้แต่ชี้หน้าลพอย่างคาดโทษ ก่อนจะส่ายหัวไปมาอย่างขำๆ กับคำพูดของลพ

//คิดอกุศลงั้นเหรอ จริงเหรอวะ เราคิดแบบนั้นรึเปล่าวะ// คมพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเดินสะบัดหัวไปรอกมลที่บ้านใหญ่ ปล่อยให้ใบบุญหลับอยู่ในบ้านของตัวเองไปก่อน

..

..

..

..

..

ตี  3 กว่า

คมบิดคอไปมาไล่ความเมื่อยขบ แล้วเดินตรงไปยังบ้านของตนเอง หลังจากที่กลับมาจากทำงานกับกมลข้างนอก คืนนี้กมลให้ลูกน้องที่ติดตาม ได้ไปปลดปล่อยตามประสาชายหนุ่มกันบ้าง ไม่เว้นแม้แต่คม ร่างสูงแค่หาที่ระบายความอึดอัดภายในออกไปบ้างก็เท่านั้น พอเสร็จกิจก็พากมลกลับมายังบ้าน ซึ่งคืนนี้เป็นคืนแรกที่กมลไม่เรียกเด็กมาหลับนอนด้วย แต่คมก็ไม่ได้แปลกใจแต่อย่างไร เพราะรู้ดีว่าเจ้านายตัวเอง มีตัวจริงนอนรออยู่ที่บ้านอยู่แล้ว กมลแค่นั่งดื่มในห้องพักของโรงแรม รอลูกน้องตนเองเท่านั้น คงหาได้ยากกับเจ้านายของคนอื่นๆ ที่จะมานั่งรอลูกน้องปลดปล่อยอารมณ์แบบนี้

“พึ่งกลับเหรอพี่” ลพเดินตรงเข้ามาถามก่อนที่คมจะเดินถึงบ้านพักตนเอง

“อืม แล้วตกลงแกบอกป้านีแล้วใช่มั้ย” คมถามกลับไป

“บอกแล้ว ป้านีแกก็เกรงใจพี่อยู่เหมือนกัน เห็นบอกว่าพี่น่าจะปลุกให้ใบบุญกลับมานอนบ้าน เพราะแกเห็นว่าพี่ไม่ชอบให้ใครเข้าไปยุ่มย่ามในบ้านของพี่ไม่ใช่เหรอ” ลพพูดถาม

“เห็นกำลังหลับสบายเลยไม่อยากปลุก ปลุกแล้วเดี๋ยวงอแง” คมพูดบอกพร้อมกับยิ้มออกมานิดๆ

“แต่ถ้าเป็นผม พี่คงถีบผมแล้วไล่ให้กลับไปนอนบ้านพักผมแหงๆ” ลพพูดบอกออกมาอีก คมส่ายหน้าไปมายิ้มๆ

“กูไปนอนล่ะ มึงเองถ้าเปลี่ยนเวรยามก็นอนพักบ้าง”คมพูดบอกทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปยังบ้านพักของตนเอง คมเปิดประตูเข้าไป ด้วยความเคยชินจึงเดินตรงไปยังห้องนอนโดยที่ไม่ได้เปิดไฟ คมเดินไปเปิดไฟดวงเล็กที่หน้าห้องน้ำ แสงไฟสลัวทำให้เห็นภายในห้องนอนชัดขึ้นบ้าง คมเดินต่อไปที่เตียงก่อนจะยิ้มอ่อนๆ เมื่อเห็นร่างเล็กของใบบุญยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงของตนเอง คมจึงเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะอาบน้ำจากโรงแรมมาเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงใส่กางเกงนอนตัวเดียวเปลือยแผงอกแกร่งเอาไว้ ขยับขึ้นมานอนบนเตียงกว้างข้างๆใบบุญ  คมขยับห่มผ้าให้เด็กหนุ่มอีกครั้ง คมท้าวแขนมองใบหน้าเนียนที่หลับสนิท อดไม่ได้ที่จะเอานิ้วยาวไปเกลี่ยที่พวงแก้มใส คมไม่เคยเจอใครที่ใสซื่อบริสุทธิ์แบบใบบุญมาก่อน จึงทำให้อดทึ่งกับชีวิตของใบบุญไม่ได้

//ถ้าพี่เปรียบเหมือนความมืดในตอนกลางคืน ใบบุญก็คงเป็นแสงสว่างในเวลากลางวันสินะ// คมพูดขึ้นเบาๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอน

กึก..

คมชะงักไปนิด เมื่ออยู่ๆเด็กหนุ่มก็พลิกตัวมาหาตนเอง พร้อมกับกอดก่ายคมเอาไว้ด้วยความที่ไม่รู้ตัว คมเหลือบมองใบบุญนิดๆ ก็เห็นว่าเด็กหนุ่มยังคงหลับสนิทอยู่

//หึหึ ติดหมอนข้างรึไงนะ// คมพึมพำอย่างขำๆ  ใบบุญขยับซุกตัวเข้าหาความอบอุ่นจากคมมากขึ้นอีกนิด คมขมวดคิ้วนิดๆ เมื่ออยู่ๆก็รู้สึกปั่นป่วนที่ท้องน้อย

//ห่าเอ๊ย เอาออกมาตั้งหลายรอบเสือกมาอยากอะไรตอนนี้อีกวะ// คมพึมพำด่าตัวเองเพราะดันรู้สึกหวาบหวามในอก จนอยากจะปลดปล่อยออกมาอีกสักครั้ง ยิ่งได้กลิ่นหอมจางๆจากคนนอนข้างๆ คมก็ยิ่งรู้สึกตื่นตัวมากขึ้น จนในที่สุดร่างสูงต้องลุกลงจากเตียงอีกครั้ง แล้วตรงไปยังห้องน้ำ เพื่อปลดปล่อยความต้องการของตนเอง คมกลับออกมาอีกทีพร้อมกับถอนหายใจหนักๆ

//ตีสี่กว่าแล้ว ตั้งสติแล้วนอนได้แล้วไอ้คม มึงต้องออกไปส่งใบบุญที่โรงเรียนแต่เช้านะเว้ย// คมพูดกับตัวเอง ก่อนจะเดินไปที่เตียงนอนอีกครั้ง คมเอาหมอนข้างมากั้นระหว่างตนเองกับใบบุญเอาไว้ เพื่อให้ใบบุญนอนกอดก่ายหมอนข้างตามความเคยชิน ก่อนที่คมจะค่อยๆหลับตาลงด้วยความเพลีย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ร่างเล็กบนเตียงกว้างค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกด้วยตัวเองว่า ได้เวลาตื่นเตรียมตัวไปเรียน ใบบุญนิ่วหน้านิดๆ เมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างพาดทับกลางลำตัวของตนเองอยู่ จากทางด้านหลัง เด็กหนุ่มจึงพลิกตัวหันไปมอง ก่อนจะชะงักกึกเมื่อเห็นใบหน้าคมคร้ามของคมอยู่ในระยะประชิด

“อ๊ะ” ใบบุญผุดลุกขึ้นมานั่งอย่างตกใจ ทำให้คมสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันทีเช่นกัน

“เป็นอะไรใบบุญ” คมถามด้วยท่าทีงุนงง ใบบุญรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นแรงอย่างไม่รู้สาเหตุ

“บะ..ใบบุญอยู่ที่ไหนฮะ” เด็กหนุ่มถามขึ้น ก่อนจะร้อนหน้าวูบวาบเมื่อคมขยับลุกมานั่งโดยที่ร่างสูงไม่ได้ใส่เสื้อนอน คมขยี้หัวตัวเองไปมา

“ห้องนอนพี่เอง เมื่อคืนเราหลับ พี่เลยไม่ได้ปลุก ให้นอนที่บ้านพี่เลย” คมบอกกลับ พร้อมกับขมวดคิ้วเมื่อเห็นหมอนข้างตกไปอยู่ข้างเตียง

“พี่คมน่าจะปลุกใบบุญ ดูสิ ใบบุญเลยมารบกวนพี่คมเลย” เด็กหนุ่มบอกเสียงอ่อยๆ พร้อมกับก้มหน้านิดๆ ไม่กล้ามองรูปร่างของคมสักเท่าไร

“กวนอะไรที่ไหนล่ะ ไหนๆก็ตื่นแล้ว เราก็กลับไปอาบน้ำเตรียมตัวไปเรียนได้แล้ว พี่เองก็จะเตรียมตัวไปส่งเราเหมือนกัน” คมบอกกลับแล้วลงจากเตียงบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบ เขารู้ตัวว่าตนเองนอนไปแค่ 2 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น แต่สำหรับคมแค่ได้งีบหลับนิดหน่อยก็ดีแล้ว

“ฮะ อ่อ พี่คมฮะ เช้านี้เราไปกินโจ๊กร้านเดิมได้มั้ย” ใบบุญถามเสียงอ่อยๆอย่างนึกได้ คมเลิกคิ้วนิดๆ

“ชอบเหรอ” คมถามกลับ เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ ซึ่งตอนนี้ใบบุญยังคงนั่งอยู่บนเตียง ส่วนคมก็ยืนอยู่ข้างเตียง คมมองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างเอ็นดู สภาพตอนตื่นนอนของใบบุญมองดูยังไงก็น่ารักอยู่ดีในสายตาของคม

“ตกลง เดี๋ยวพี่พาไปกิน” คมตอบกลับ ทำให้ใบบุญยิ้มกว้างออกมา แล้วขยับลงจากเตียงนอน

“งั้นใบบุญไปช่วยยายก่อนนะฮะ แล้วจะได้อาบน้ำเตรียมตัวไปเรียน” ใบบุญพูดขึ้น คมพยักหน้ารับ

“ออกจากบ้านพี่ ล็อคประตูให้ด้วยนะ” คมบอกกับใบบุญส่งท้าย

“ฮะ” ใบบุญตอบรับก่อนจะเดินออกจากห้องนอนของคมไป ส่วนคมก็เข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ ไม่ได้เดินออกไปส่งใบบุญที่ประตูหน้าบ้านพักแต่อย่างไร ใบบุญเปิดประตูบ้านของคมออกไปพร้อมกับล็อคประตูบ้านให้ แต่พอหันตัวจะเดินไปทางบ้านพักของยายกับตนเอง ใบบุญก็ต้องชะงักเมื่อเห็นหญิงสาวเดินปรี่เข้ามาหา

“มาทำอะไรที่นี่แต่เช้าห้ะใบบุญ” ไหมถามขึ้นเสียงเข้ม เมื่อเห็นว่าใบบุญพึ่งออกมาจากบ้านของคม

“เอ่อ…คือว่า เมื่อคืนใบบุญเผลอหลับที่นี่น่ะฮะ” ใบบุญตอบออกมาตรๆ ทำให้หญิงสาวตาเบิกกว้างขึ้นนิดๆ

“แล้วใครใช้ให้มานอนที่นี่ บ้านพักของตัวเองก็มีทำไมไม่ไปนอน” หญิงสาวถามอีก ใบบุญอึกอัก เพราะไม่รู้จะตอบคำถามหญิงสาวยังไง แต่ใบบุญก็ยังไม่ได้ตอบอะไร ประตูบ้านของคมก็เปิดออกมาอีกครั้ง พร้อมกับคมที่ใส่แค่กางเกงนอนตัวเดียวและมีผ้าขนหนูผืนเล็กคล้องคออยู่

“ใบบุญ เราลืมโทรศัพท์” คมพูดขึ้นเมื่อเห็นใบบุญยังคงยืนอยู่ตรงหน้าตนเอง เขานึกขึ้นได้ว่าใบบุญคงลืมโทรศัพท์แน่ๆ จึงรีบหยิบถุงใส่โทรศัพท์ออกมา เพราะคิดว่าใบบุญคงเดินไปไม่ไกล แต่ไม่คิดว่าจะยังคงยืนอยู่หน้าบ้านของตนเอง คมขมวดคิ้วนิดๆ เมื่อเห็นไหมยืนอยู่ด้วย

“อ่อ..ขอบคุณฮะ” ใบบุญตอบรับพร้อมกับรับถุงใส่โทรศัพท์ที่ชาร์ตเรียบร้อยแล้วจากคม โดยมีหญิงสาวยืนมองไม่วางตา

“เอาไปเก็บที่บ้านได้แล้ว” คมพูดบอกอีก ใบบุญจึงรีบเดินไปที่บ้านพักของตัวเองทันทีอย่างโล่งใจ ที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับหญิงสาวต่อ คมหันมามองหน้าไหมนิดๆ

“มีอะไรไหม” คมถามขึ้น

“รู้สึกว่าพี่คมจะใจดีกับเด็กนั่นมากเกินไปแล้วนะคะ” หญิงสาวถามออกมาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ คมเลิกคิ้วขึ้น

“แล้ว? ยังไง?” คมถามกลับอย่างไม่ใส่ใจ หญิงสาวเม้มปากเข้าหากันนิดๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

“ไปทำงานได้แล้ว เราน่ะ” คมบอกกลับก่อนจะกลับเข้าบ้านพร้อมกับปิดประตู โดยไม่สนใจสีหน้าของหญิงสาวเลยสักนิด

..

..

..

..

ใบบุญเอาโทรศัพท์ไปไว้ที่ห้องนอน ก่อนจะออกไปช่วยงานยายตัวเองที่บ้านใหญ่ ไหมเดินเข้ามาพร้อมกับมองใบบุญอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก แต่ก็ไม่ได้พูดว่าอะไรออกมา ต่างคนต่างทำงานของตนเอง จนเมื่อได้เวลา ป้านีก็ให้ใบบุญกลับไปอาบน้ำเตรียมตัวไปโรงเรียน ใบบุญก็เดินกลับมาอาบน้ำเตรียมตัวไปเรียนตามปกติ ใบบุญนึกขึ้นได้ว่าไผ่ให้เบอร์โทรมาด้วย จึงกดบันทึกเบอร์โทรของเพื่อนลงโทรศัพท์ตามที่คมสอนเอาไว้

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูหน้าบ้านดังขึ้น ใบบุญจึงวิ่งออกมาเปิดประตู

“เสร็จรึยัง” คมถามขึ้น

“เรียบร้อยแล้วฮะ เดี๋ยวใบบุญหยิบกระเป๋าก่อนนะฮะพี่คม” ใบบุญพูดบอกก่อนจะวิ่งไปหยิบกระเป๋าของตนเองในห้องนอนแล้วกลับออกมาหาคม ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม คมจึงพาใบบุญมาไหว้ป้านีก่อนไปโรงเรียน ใบบุญยกมือไหว้ทุกคนที่ตนเองเจอ

“ไปกันเถอะ นายกับคุณคิมยังไม่ลงมาหรอก” คมพูดบอกเมื่อเห็นใบบุญทำท่าชะเง้อมองขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน

“อ่อ ฮะ” ใบบุญตอบรับก่อนจะเดินไปขึ้นรถ คมพาใบบุญไปกินโจ๊กที่ร้านเดิม โดยที่คมก็ต้องกินพร้อมกับเด็กหนุ่มไปด้วย เมื่อกินอิ่มก็พาใบบุญไปส่งที่โรงเรียนเช่นเคย

“เอาโทรศัพท์มารึเปล่า” คมถามขึ้น

“เอามาฮะ” ใบบุญบอกพร้อมกับหยิบขึ้นมาให้คมดู

“เอ่อ..พี่คมฮะ ใบบุญบอกเบอร์เพื่อนได้รึเปล่าฮะ” เด็กหนุ่มพูดขอ คมนิ่งไปนิดก่อนจะพยักหน้ารับ

“ได้สิ แต่ไม่ต้องไปบอกเบอร์ใครมั่วซั่วล่ะ บอกแค่เพื่อนที่สนิทเอาไว้คุยสอบถามเรื่องการบ้านเรื่องงานเท่านั้นพอ รู้มั้ย” คมบอกเสียงเรียบ

“ฮะ” ใบบุญตอบรับแต่โดยดี

“พี่บันทึกเบอร์พี่ลงไปแล้วส่วนเบอร์ของเราพี่ก็บันทึกเอาไว้เผื่อจำไม่ได้” คมบอกอีก ใบบุญก็พยักหน้ารับเช่นเคย จนรถขับเข้าไปจอดเพื่อส่งเด็กหนุ่ม

“ขอบคุณฮะ เย็นนี้พี่คมจะมารับใบบุญใช่มั้ย” เด็กหนุ่มยกมือไหว้คมพร้อมกับถามขึ้น

“อยากให้คนอื่นมารับบ้างมั้ยล่ะ” คมแกล้งถาม ใบบุญส่ายหน้าไปมาทันที

“ใบบุญอยากให้พี่คมมารับมาส่งใบบุญ” เด็กหนุ่มบอกในสิ่งที่ตนเองคิด ทำให้คมยิ้มรับ

“ครับ พี่จะมารับนะ ตั้งใจเรียน มีปัญหาอะไรโทรหาพี่นะ รู้มั้ย” คมพูดสั่งอีกครั้ง

“ฮะ” ใบบุญตอบกลับก่อนจะเปิดประตูรถลงไป คมนั่งมองใบบุญเดินไปที่อาคารเรียน แต่เดินไปได้ไม่พ้นสายตา คมก็ขมวดคิ้วนิดๆ เมื่อเห็นเด็กหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักและคุยบางอย่างกับใบบุญ ก่อนที่จะเอากระเป๋าของใบบุญไปถือไว้ให้  แล้วทั้งสองก็เดินคุยกันไปเรื่อยๆ จนลับสายตาของคมไป คมนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นสักพัก

“สงสัยเย็นนี้ต้องให้ใบบุญแนะนำเพื่อนให้เรารู้จักบ้างแล้วล่ะ” คมพูดกับตัวเอง ก่อนจะขับรถกลับ

+++++++++++++++++++++++ 100% +++++++++++++++

2  Be  Con

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อัพครบ 100 แล้วจร้า

อัพเดตเรื่องการส่งหนังสือ

ยอนิมจะได้รับหนังสือวันที่ 3 ก.ค ถ้าได้หนังสือแล้ว ยอนิมจะรีบแพ็คส่งให้นะคะ

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset